นักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดังเผย 'รางวัลซีไรต์' สู่ยุควิกฤต เหตุสปอนเซอร์หด ถูกตัดงบ เจ้าภาพไม่อยากรับภาระ
เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา
จรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดัง และหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณารางวัลซีไรต์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
เปิดเผยปัญหาวิฤตรางวัลซีไรต์ ที่เผชิญกับปัญหาสปอนเซอร์ลดลง ส่งผลให้งบประมาณลดลง กระทบกับการแจกรางวัล เงินรางวัล รวมถึงความสำคัญของงานถูกลดคุณค่าลง โดยปัญหาดังกล่าวสะท้อนยุคที่วงการหนังสือกำลังอ่อนแอลง โดยข้อความระบุว่า
วิกฤตซีไรต์ 2560
คิดจะเขียนเรื่องนี้นานแล้ว แต่ลังเลอยู่นานว่าควรจะเขียนไหม แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เอาเถอะ คนในนี้ก็เป็นคนรักหนังสือด้วยกันแทบทั้งนั้น
1. ซีไรต์เป็นรางวัลที่เกิดจากสองสมาคม คือสมาคมนักเขียนฯ กับ สมาคมภาษาและหนังสือฯ
2. โรงแรมโอเรียนเต็ล เป็นเจ้าภาพสำคัญ ทั้งดำเนินการในส่วนต่างๆ อำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่ เชิญแขก แจกเงิน และอื่นๆ
3. โอเรียนเต็ล ไม่ได้เป็นผู้ลงเงินทั้งหมด แต่ได้มีการขอสปอนเซอร์จากองค์กรต่างๆ เช่น การบินไทย ธนาคารกรุงเทพฯ เป็นต้น
4. ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เนื่องจากสปอนเซอร์ลดลง เงินที่เข้ามาไม่เท่าเดิม หลายปีที่ผ่านมาโอเรียนเต็ลเห็นว่า ซีไรต์เป็นภารกิจที่ต้องแบกภาระ ทั้งๆ ที่โรงแรมก็ไม่ได้อะไรจากงานนี้มากนัก โดยเฉพาะในมุมมองของผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มาแทนคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งเข้าใจความสำคัญของรางวัลนี้
5. ผลที่ตามมาคือ การลดระดับความสำคัญของงานนี้ พร้อมเสียงแว่วติดต่อกันมาหลายปี ว่าโอเรียนเต็ลไม่อยากแบกรางวัลนี้ไว้อีกต่อไปแล้ว
6. ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่เคยเป็นความลับ คือการตัดงบค่ากรรมการ น้อยจนน่าตกใจสำหรับรางวัลระดับนี้
7. เงินรางวัลที่เคยเพิ่มขึ้น ปีนี้ปรับลดลงด้วยเหตุผลที่น่าพิจารณาอย่างยิ่ง คือการไม่มีพิธีมอบรางวัลในปีที่ผ่านมา (นครคนนอก) ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินจากสปอนเซอร์ได้ แล้วก็ไม่สามารถเก็บย้อนหลังได้ด้วย เนื่องจากเป็นงบประมาณของปีที่แล้ว
8. การจัดงานมอบรางวัลแบบ 2 ปีควบ จึงเท่ากับเป็นการใช้เงินก้อนเดียวของปีเดียวคือปีนี้ มาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรางวัล 2 ปี
9. เมื่อเงินมีน้อย ก็ลำบากจนเล่นเอามึน ว่าจะเอายังไงกันดี เพราะสปอนเซอร์ก็คงไม่เบิ้ลเงินให้ ส่วนโอเรียนเต็ลก็ไม่อยากควักเนื้อ (แต่คงไม่มีทางเลือก)
10. ท่าทีของโอเรียลเต็ลและปัญหาที่สะสมมานาน สร้างแรงกระทบให้สมาคมที่เกี่ยวข้องต้องคิดทบทวน ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับซีไรต์ แว่วๆ อีกครั้งว่าปีหน้าเราอาจได้ยินความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กันแบบเต็มๆ
ผ่านมากว่าสามสิบปี ถ้าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรก็คงไม่แปลก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในยุคอ่อนโรยของหนังสือ
คงต้องจับตาดูกันต่อไปครับ
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ นักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดังเผย 'รางวัลซีไรต์' สู่ยุควิกฤต เหตุสปอนเซอร์หด ถูกตัดงบ ฯ
เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา จรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดัง และหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณารางวัลซีไรต์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยปัญหาวิฤตรางวัลซีไรต์ ที่เผชิญกับปัญหาสปอนเซอร์ลดลง ส่งผลให้งบประมาณลดลง กระทบกับการแจกรางวัล เงินรางวัล รวมถึงความสำคัญของงานถูกลดคุณค่าลง โดยปัญหาดังกล่าวสะท้อนยุคที่วงการหนังสือกำลังอ่อนแอลง โดยข้อความระบุว่า
คิดจะเขียนเรื่องนี้นานแล้ว แต่ลังเลอยู่นานว่าควรจะเขียนไหม แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เอาเถอะ คนในนี้ก็เป็นคนรักหนังสือด้วยกันแทบทั้งนั้น
1. ซีไรต์เป็นรางวัลที่เกิดจากสองสมาคม คือสมาคมนักเขียนฯ กับ สมาคมภาษาและหนังสือฯ
2. โรงแรมโอเรียนเต็ล เป็นเจ้าภาพสำคัญ ทั้งดำเนินการในส่วนต่างๆ อำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่ เชิญแขก แจกเงิน และอื่นๆ
3. โอเรียนเต็ล ไม่ได้เป็นผู้ลงเงินทั้งหมด แต่ได้มีการขอสปอนเซอร์จากองค์กรต่างๆ เช่น การบินไทย ธนาคารกรุงเทพฯ เป็นต้น
4. ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เนื่องจากสปอนเซอร์ลดลง เงินที่เข้ามาไม่เท่าเดิม หลายปีที่ผ่านมาโอเรียนเต็ลเห็นว่า ซีไรต์เป็นภารกิจที่ต้องแบกภาระ ทั้งๆ ที่โรงแรมก็ไม่ได้อะไรจากงานนี้มากนัก โดยเฉพาะในมุมมองของผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มาแทนคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งเข้าใจความสำคัญของรางวัลนี้
5. ผลที่ตามมาคือ การลดระดับความสำคัญของงานนี้ พร้อมเสียงแว่วติดต่อกันมาหลายปี ว่าโอเรียนเต็ลไม่อยากแบกรางวัลนี้ไว้อีกต่อไปแล้ว
6. ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่เคยเป็นความลับ คือการตัดงบค่ากรรมการ น้อยจนน่าตกใจสำหรับรางวัลระดับนี้
7. เงินรางวัลที่เคยเพิ่มขึ้น ปีนี้ปรับลดลงด้วยเหตุผลที่น่าพิจารณาอย่างยิ่ง คือการไม่มีพิธีมอบรางวัลในปีที่ผ่านมา (นครคนนอก) ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินจากสปอนเซอร์ได้ แล้วก็ไม่สามารถเก็บย้อนหลังได้ด้วย เนื่องจากเป็นงบประมาณของปีที่แล้ว
8. การจัดงานมอบรางวัลแบบ 2 ปีควบ จึงเท่ากับเป็นการใช้เงินก้อนเดียวของปีเดียวคือปีนี้ มาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรางวัล 2 ปี
9. เมื่อเงินมีน้อย ก็ลำบากจนเล่นเอามึน ว่าจะเอายังไงกันดี เพราะสปอนเซอร์ก็คงไม่เบิ้ลเงินให้ ส่วนโอเรียนเต็ลก็ไม่อยากควักเนื้อ (แต่คงไม่มีทางเลือก)
10. ท่าทีของโอเรียลเต็ลและปัญหาที่สะสมมานาน สร้างแรงกระทบให้สมาคมที่เกี่ยวข้องต้องคิดทบทวน ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับซีไรต์ แว่วๆ อีกครั้งว่าปีหน้าเราอาจได้ยินความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กันแบบเต็มๆ
ผ่านมากว่าสามสิบปี ถ้าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรก็คงไม่แปลก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในยุคอ่อนโรยของหนังสือ
คงต้องจับตาดูกันต่อไปครับ