ขอแชร์ประสบการณ์โดนทวงหนี้ครั้งแรกในชีวิต และ ครั้งสุดท้ายที่จะใช้บริการ ลีซซิ่งนี้ครับ

ก่อนอื่น กราบสวัสดีๆ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกท่านนะครับ กระผมพึ่งเรียนจบมา และรับใช้ชาติทหาร มา 1 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัท (มนุษย์เงินเดือน) ธรรมดาๆคนนึง แต่งานที่ผมทำ เกี่ยวกับเรื่องการติดตามหนี้สินนี่ล่ะครับ วันนี้อยากจะมาขอแชร์ประสบการณ์ กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ในวันนี้ เลยครับ (25/09/2560) หากมีข้อผิดพลาดประการใด กระผมกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ

ปัจจุบันผมทำงานที่ออฟฟิศนี้มา จะ 2ปีแล้วครับ ใช้ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนมากๆคนนึง ปัจจุบันยังไม่เคยเป็นหนี้บัตรเครดิตครับ แต่ ผมมีความจำเป็นต้องใช้ยานพาหนะ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงตัดสินใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์ คันนึง เริ่มแรก ผม เข้าลิซซิ่ง กรุงศรี ปัจจุบัน น้องผ่อนอยู่ ไม่มีปัญหาครับ แต่เนื่องด้วยความจำเป็น ผม ต้องมีของตัวเอง จึงขอ เช่าซื้อของ ฐิ.... ขออนุญาตไม่เอ่ยนามนะครับ คาดว่าหลายคนน่าจะรู้จัก ปัจจุบัน ผม ผ่อนงวดตรงมาตลอด 10 เดือนเต็มๆ แต่บังเอิญ ผมติดปัญหาเรื่องเงิน เมื่อเดือนที่แล้ว มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินบางส่วน ให้ทางญาติที่บ้านนอก ผมจึงคำนวนแล้วว่า มันจำเป็นจริงๆที่ต้องค้าง ยอมรับครับว่า คิดสั้นมากๆ ว่ามันไม่น่าจะมีอะไร เพราะ 1 เดือน และ เดือนหน้า (สิ้นเดือนกันยา) จะจ่ายทบให้ 2 งวด แต่ในระหว่างนั้นเองครับ ไม่ได้มีบริษัทติดต่อมาแต่อย่างใด และ ผมเอง ก็ สะเพร่า ที่ไม่ได้โทรแจ้งบริษัทให้ทราบ ว่าติดปัญหาด้วย และระหว่างปีที่ผ่านมา ผม ก็เปลี่ยนเบอร์ใหม่ด้วยแต่ไม่ได้แจ้งให้กับบริษัททราบ จนกระทั่งครับเหตุการณ์แรก เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ 24/09/60 ที่ผ่านมา ประมาณ บ่าย 3 ผมนอนพักผ่อนวันหยุดอยู่ที่ห้อง ก็มีเสียงคนมาเคาะประตู เปิดออกไป เป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนามของบริษัทแห่งนี้ ซึ่งสภาพผมตอนนี้ คือผมใส่แค่กางเกงขาสั้น (บ็อกเซอร์) ตัวเดียวเสื้อไม่ใส่ (ก็วันหยุดอะ เนอะๆ 555) เค้าไม่ได้แจ้งว่ามาจากไหน ไม่แนะนำตัว แต่เสื้อระบุชัดเจนว่า ของ ฐิ.... ซึ่งตอนนั้นยอมรับครับ ตกใจมากๆ และเข้าใจมากๆว่าหน้าที่เขาติดตามค่างวดรถ แต่สิ่งที่ทำให้ผม ตกใจกว่านั้นคือ เขาบอกว่า ผมเปลี่ยนเบอร์เหมือนพยายามหลีกเลี่ยงๆทั้งๆที่ผม เอง ระบุช่องทางสำรองไว้ในสัญญา หากติดต่อไม่ได้ให้โทรไปออฟฟิศได้ หรือ บุคคลที่ติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน ผมระบุเป็นน้าผม ที่ขายอาหารอยู่แถวนี้ (คลองสาน) ซึ่งผมเองตกใจมากที่เขาบอกว่า ผม พยายามหลบหนี แต่เข้าใจว่าหน้าที่เขาต้องเก็บให้ได้ ผม ก็บอกปัญหาเขาไปแต่ก็อย่างว่า เขาไม่ฟังหรอกครับ ถูกมั้ย และยืนยันภายในวันที่ 25/9 (วันนี้) จะให้ผมหาให้ได้ 1 งวด ผมก็บอกว่าจะลองดูก่อนนะครับ เพราะผมเองแจ้งตามตรงว่า ผม เสียพ่อแม่ไปนานแล้ว มีแต่ญาติก็อยู่บ้านนอก แต่ไม่ได้จะเอามาเป็นข้ออ้าง ผม ก็บอกไปแล้วว่า วันที่ 29/09/60 นี้ ผมจะจ่าย 2 งวดนะ เขาบอกไม่ได้ยังไงต้องจ่าย 1 งวด พรุ่งนี้จะมาที่ออฟฟิศตอนเที่ยง แล้วเขาก็สอบถามต่อว่าแล้ว รถ มอเตอร์ไซค์อีกคันนึง(ของคนอื่นซึ่งผมไม่รู้จัก) ที่จอดอยู่ด้านล่างรู้มั้ยใครเป็นเจ้าของ เขาค้างมา 5-6 เดือนแล้ว และเขา มาหาผมที่ห้อง 6-7 ครั้งแล้ว ก็ไม่เจอผม และรถ ผมได้แต่ตอบไม่ทราบและยืนยันว่าผมไม่ได้เปลี่ยนที่ทำงาน เขาจึงขอเบอร์ผมไปและผมก็ขอเบอร์โทร ชื่อนามสกุล เขาเอาไว้ทุกอย่าง เพราะผมทำงานด้านนี้ คือเหมือนว่าเราก็รู้ๆกันว่าเขาต้องการเก็บให้ได้เพื่อค่าคอมเค้า และเค้าก็กลับไป ////  และเหตุการณ์ล่าสุดครับวันนี้ ผม ก็พักเที่ยงตามปกติ เหมือนว่าเขาจะไม่มา แต่ปรากฏว่า บ่ายโมง กว่าๆครับมีสายเข้ามาที่เบอร์ที่ทำงาน เจ้าหน้าที่โอเปอเรเตอร์บริษัท แจ้งว่ามีผู้ชายมาหา แต่ไม่บอกอะไรแจ้งจะขอพบ ผม ผมก็ทราบได้ทันทีว่าต้องใช่แน่ๆ แต่ผมไม่ได้ลงไปนะครับ ถามว่ากลัวมั้ย มีบ้างครับแต่ความรู้สึกผม สารภาพแบบไม่อายเลย ลงไปให้เขาด่า ว่า ผมก็ไม่มีให้อยู่ดี จะเอาที่ไหนให้ เพราะผมบอกแล้วว่าต้องรอก่อน ผมจึงตัดสินใจโทรไปหาเขา เขาก็รับสาย และบอกว่าให้ผมลงไปพบ ผมก็ยืนยันว่า ลงไปผมก็ไม่มีให้หรอกครับ จะให้ผมหาที่ไหนให้พี่ เขาก็เสียงเปลี่ยนทันที ว่าแล้วนัดทำไมครับ ด้วยน้ำเสียงเชิงข่มขู่ ผมก็ยืนยันว่า ผมบอกแล้วผมจะจ่ายให้ หมด ไม่กี่วันนี้ ผมขอโทษจริงๆที่สะเพร่าไม่ระวังการใช้จ่ายจนต้องลำบากคุณพี่มาทวง เขาก็ยังย้ำอยู่ว่างั้นภายในวันนี้ 5 โมง จะกลับมาอีกให้หาให้ได้ ผมก็ยืนยันคำเดิมว่า ผมไม่มีจริงๆ จนสุดท้ายเถียงประโยคเดิมๆอยู่นานผมก็เริ่มมีอารมณ์บ้างว่าผมไม่มีให้หรอกครับและมันพึ่งเข้างวดที่ 2 ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ เขาก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของเขา ซึ่งผมก็เข้าใจดีมากๆตรงจุดนี้ แต่ในเมื่อผมไม่มีให้จะให้ผมทำยังไงครับ พี่จะยึดรถผมเลยมั้ยครับ เขาก็ตอบกลับว่าไม่ได้จะยึดครับ แต่จะพักรถไว้ก่อน ผมก็ย้อนกลับไปว่า ถ้าจะเอารถคืนผมจะเอากุญแจลงไปให้ เขาก็บอกให้ผมลงมา แต่ผมยืนยันยังไงก็ไม่มีให้หรอกครับ สุดท้ายเถียงอยู่นาน เขาก็ยอมครับ บอกว่าศุกร์นี้ จะให้ผมจ่าย 3 งวด พร้อมล่วงหน้าด้วย ซึ่งความจริง มันเข้า 2 งวด ผมก็รับปาก จะจ่ายให้ครับ และผมต้องตัดสายก่อนไม่งั้นจะเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้

ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ผมไม่ได้อยากให้ใครมาปลอบหรือช่วยเหลือหรืออะไรนะครับ แต่แค่อยากระบายมากๆว่าเสียความรู้สึกมากๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมีประวัติให้โทรตาม เงินออกจ่ายตลอดๆ แล้วที่ผ่านมา คือผมพยายามรักษาประวัติเพื่ออะไรครับ แล้วอีกอย่าง อยากถามกลับครับถ้าเกิด เป็นเพื่อนๆพี่ๆ จะคิดเหมือนผมไหม ว่าคนอื่นค้างเยอะกว่าทำไมเขาไม่ตามแบบนี้ ทั้งๆที่ผม พึ่งเคยค้าง งวดเดียวเลยจริงๆ เสียความรู้สึกมากครับกับบริษัทนี้ และอีกอย่างเขาบอกว่ารู้จักหัวหน้าผม ยังโทรไปบอกหัวหน้าผมด้วยว่าผม หัวหมอ รู้มาก นัดไว้ยิ้มไม่จ่าย คือคำพูด อย่างนี้ถือว่า หมิ่นประมาทมั้ยครับ และเป็นการเปิดเผยความเป็นหนี้ไหมครับ ตาม กฏหมายการติดตามทวงถามหนี้ 2 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ผมเองทำงานด้านเดียวกันครับผมทราบดีว่าเขาอยากได้อะไรแต่เขาไม่คำนึงถึงความรู้สึกลูกค้าบ้างหรือครับ ว่าจะรู้สึกยังไง แล้วต้องทำขนาดนี้เลยหรือกับลูกค้าที่พึ่งเคยค้างครั้งแรกอย่างผม กับลูกค้าค้าง 3-4 เดือนเขาเคยทำขนาดนี้มั้ย ผมก็อดสงสัยไม่ได้ แต่อย่างว่าครับ ผมเป็นหนี้เขา ก็ต้องจ่าย หลังจากจ่ายวันศุกร์นี้แล้ว ผมจะโทรเข้าไปร้องเรียน ด้วย ว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ ข่มขู่กันขนาดนี้เชียวหรือ

ทั้งหมดที่เล่ามาต้องการแชร์หรือระบายเท่านั้นนะครับ หากทางบริษัทดังกล่าวได้อ่านกระทู้นี้ ผมอยากฝากถึงคณะท่านๆด้วย นะครับว่าบางทีควรแยกประเภทลูกค้าบ้าง ผมไม่เถียงครับว่าผมค้างคุณจริง แต่สิ่งที่ทำกับผม มันจำเป็นต้องทำกันขนาดนี้เลยหรือครับ ฝากนำไปพิจารณาด้วยนะครับ

สุดท้าย สาบานตรงนี้เลยครับ ครั้งนี้ ครั้งเดียว ที่ผมจะ ใช้บริการของบริษัท ลีซซิ่ง นี้ คิดว่าหลายคนคงทราบนะครับ
ขอบพระคุณที่ทนอ่านจนจบนะครับ เดี๋ยวถ้าวันศุกร์ผมเคลียร์เรื่องหนี้จบ จะอัพเดทอีกครั้งว่าเขาจะว่ายังไงบ้าง ผมไม่ได้หวังให้คุณผ่อนผันงวดให้ หรือ ให้ผมเลื่อนค่างวดได้หรืออะไรทั้งนั้นสิ่งที่เสียไปคือความรู้สึกครับ ยังไงเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ประสพเหตุการณ์เดียวกันนะครับ สู้ๆ (การไม่มีหนี้ และไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ในยุคนี้จริงๆ ครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่