[SR] เมื่อชะนีหนีเวรไปหลวงพระบางคนเดียว

สบายดีหลวงงพระบาง จากคนไม่สบายที่พึ่งผ่าใส้ติ่งไป 555
                                                                 เราเดินทางวันที่ 19-21 September 2017
ครั้งนี้เป็นการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวของเรา ซึ่งตอนจองตั๋วเป็นอารมณ์แบบอยากเที่ยวโว้ยยย ตอนนั้นชวนใครก็ไม่มีใครว่าง เราเลยตัดสินใจไปคนเดียว คิดว่าไม่น่ามีอะไรยาก เลยจัดการจองตั๋วเรียบร้อย ได้ตั๋วของแอร์เอเชียมาในราคา 2,300 บาท จ้าา ไปกลับ จองล่วงหน้า 2 เดือน แต่พอเดือนที่จะไปเราใส้ติ่งอักเสบต้องทำการผ่าตัดด่วน ตอนนั้นเครียดมาก เครียดว่าจะหายไม่ทันไปเที่ยว แต่แล้ววว เราก็หายทันจ้าา ไปจ้าาาาา คนเดียวก็ไปจ้าาาาวันแรกเราเดินทางมากจาก พิษณุโลก มาถึงดอนเมือง 10.10 น. และเราต้องรอต่อเครื่องไปหลวงพระบางตอน 14.30 น. ตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นนะ แต่ก็มาละอ่ะ เอาเว้ยๆในระหว่างที่รอเวลาก็หาไรใส่ท้อง แล้วก็มานั่งดูเครื่องบินบ้างไรบ้าง 55 จะได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วสู้เว้ยยยย
เราเช็คอินในแอพของแอร์เอเชีย ไม่ต้องไปต่อแถวนาน ก็สะดวกดี ที่ไม่สะดวกก็หน้าจอเรานี่แหละ 5555555555 และนี่ก็เป็นเครื่องที่จะพาเราไปหลวงพระบางนะจ้ะ
พอใกล้จะถึงแอร์ก็จะมาแจกใบ ตม.ให้เขียนเพื่อความรวดเร็วเวลาตรวจคนเข้าเมืองนะจ้ะ เราโชคดีหน่อยได้นั่งติดหน้าต่าง จึงได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้ ถ้าเห็นแม่น้ำโขงก็น่าจะใกล้ถึงแล้วมั้งงง 15.50 น.ถึงหลวงพระบางแล้วจ้าาา สบายดีหลวงพระบางงงง เราใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชม. 20 นาที พอลงเครื่องก็มาต่อแถวรอตรวจคนเข้าเมืองนะจ้ะ ตม.ที่นี่มีแต่ 3 ช่องเองง่ะ รอนานนิดนึงนะ พอเราผ่านตม.มาได้ ก็รีบมาหาร้านขายซิมอินเตอร์เน็ตเลยจ้า ก็ได้มาในราคา 250/3 วัน ซึ่งเราว่าเน็ตพอใช้ ไม่ดีมากอ่ะ ช้าอยู่ แต่ก็เอามาละ ดีกว่าไม่มีใช้เนาะพอได้อินเตอร์เน็ตละ ต่อไปก็ต้องมาแลกเงิน จ้า เราแลกที่ธนาคารในสนามบินเลยนะ ได้มาในเรต 1 = 256 กีบ โดยทริปนี้เราแลกเงินลาวแค่ 2,500 บาท ได้มา 630,000 กีบ ประมาณนี้ จากนั้นเราก็จะต้องไปหารถเข้าเมืองจ้า โดยรถแท๊กซี่คนละ 50,000 กีบ ตอนแรกเราเข้าใจว่าแท๊กซี่คือไปคนเดียว เราเลยเดินไปถามว่ารถตู้มีไหมค่ะที่ไปกันหลายๆคน เค้าบอกว่าไม่มี เราเลยกลับมาซื้อแท๊กซี่ สรุปอิแท๊กซี่เค้ามันก็คือรถตู้เรานี่แหละจ้าา และแท๊กซี่ก็ทำให้เราได้เจอพี่คนไทยที่มาเที่ยว มากัน 5 คน เราเลยมีเพื่อนใหม่ไปด้วยเลย
^^เข้าเมืองกันจ้าารถแท๊กซี่ก็จะไปส่งเราถึงที่พักเลยนะจ้ะ หลังจากส่งพี่เค้าเสร็จ เราก็เปิดชื่อที่พักที่เราจองผ่าน booking ให้พี่คนขับดูว่าเราพักที่นี่จ้า จิตรลัดดา  พี่เค้าก็พาเรามาส่งจ้าหลังจากถึงที่พัก ความหายนะก็บังเกิดค่าาา เข้าใจผิดทั้งหมดว่าตัวเองจองมาในราคา 170 บาท และเป็นโฮสเทล สรุปว่าที่นี่ไม่ใช่โฮสเทล แต่อิโฮสเทลที่เข้าใจนั้นได้ยกเลิกไปแล้วจ้า เป็นความไม่รอบครอบของเราเอง ที่ไม่เช็คเมลล์ อะไรใดๆ คือเราจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วว่าไม่รอบครอบแล้วคือตอนนี้กุมาคนเดียวไงจ้ะ ตอนนั้นที่คุยกะที่พักเค้าก็บอกว่าไม่มีจองมานะ แต่มีห้องว่างนะเอาไหม เราก็เลยถามว่าเท่าไหร่ คืนละ 330,000 กีบจ้าาา คือดิชั้นแลกเงินมาแค่ 630,000 จ้า ตังไม่พอจ้าาา ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ตกคืนละ 1,300 บาทอ่ะ ส่วนตัวก็คิดว่ามันแพงไป เลยเซย์โนว ค่ะ ได้แต่เดินปาดน้ำตาออกมาแล้วเดินหาที่พักใหม่ แล้วคือตอนนั้นเริ่มลนว่าเอาไงดีว่ะ จะมีที่นอนไหมว่ะ ติดต่อใครก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจเดินหาเอง กระเป๋าก็หนัก เดินอยู่สักพักก็เจอ ที่นึงชื่อว่าเชียงม่วน Guesthouse ก็ตัดสินใจเข้าไปถาม ราคา 160,000 กีบ ประมาณ 700 บาท ในใจก็ยังคิดว่าแพงอยู่อ่ะ แล้วมันก็อยู่ในซอยลึกหน่อย แล้วไม่มีใครพักเลย เลยยังไม่ตกลง แล้วเราก็เดินต่อจ้าจนถึงตลาดมืด ซึ่งตอนนั้น 5 โมงกว่าแล้ว และเราก็เหนื่อยมากๆแล้ว พอดีเห็นที่พักนึงอยู่ติดตลาดมืดเลย มีอาม่านั่งอยู่ อาม่าก็ถามเราว่าพักไหมจ้ะ ตอนนั้นคือแบบราคาเท่าไหร่ก็พักอ่ะ เหนื่อยแล้ว จะมืดแล้วด้วย ที่พักที่เราจะพักในทริปนี้ก็มาจบที่ ฮิมวัง Guesthouse จ้า และโชคชะตาก็เข้าข้างผู้หญิงตัวเล็กอย่างเรา เราได้ที่พักในราคาคืนละ 100,000 กีบเท่านั้นจ้าา ตกคืนละ 400 บาท ถูกและดี และติดตลาดมืด ติดวัง หลังจากตกลงจ่ายเงินเรียบร้อย เราก็ขึ้นมาดูห้องกันนะ คะ ที่พักเป็นบ้านแถวสองชั้น เป็นบ้านไม้ แต่ไม่เก่านะคะ ห้องน้ำก็ดีเลยทีเดียว เตียงใหญ่ นอนสบายอยู่นะ แต่แอร์จะเก่าไปนิดนึง 555 ในห้องก็จะมีแอร์ พัดลม แค่นี้ ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ซึ่งเราโอเคนะ แค่นี้ก็คุ้มแล้วอ่ะ หลังจากเก็บของที่ห้องเสร็จ เวลาก็ประมาณ 5.40 น. เราก็คิดไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุพูสีจ้า ซึ่งทางขึ้นเดินไม่ไกลจากที่พักเลย แค่ 200 ม. เพราะเราขึ้นทางตลาดมืดจ้า เห็นแค่ทางขึ้นก็เหนื่อยแล้วใช่ม่ะ ก็ขึ้นไปถึงยอดต้องมีเสียค่าขึ้น 20,000 กีบ นะคะ พอซื้อตั๋วเสร็จตอนนั้นเริ่มมืด และคนเริ่มเดินลงกันเยอะ และเราก็เหนื่อยมากกๆๆ บวกไม่มีน้ำ เลยตัดสินใจลงจ้า 5555 เหงื่อแตกพลัก คล้ายจะเป็นลม เพราะเดินหาที่พักก็เหนื่อยแล้ว มาเดินขึ้นอีก ไม่ไหวแล้วจ้า ภารกิจล้มเหลวจ้า 5555ไม่เป็นไร เรามานั่งพักถ่ายรูปกันก่อนดีกว่า วิวตลาดมืดยามเย็นจ้า ตลาดมืดนี่มีทุกวันนะคะ เค้าจะเริ่มตั้งร้านกันตั้งแต่ 5 โมงเย็น ปิดประมาณ 4 ทุ่ม คล้ายๆถนนคนเดินบ้านเราเลย มีของน่ารักๆขายเต็ม ส่วนใหญ่ก็จะซ้ำๆกัน แบบมีหลายร้าน เราว่าไม้บ้านเค้าเยอะนะ ป่าไม้ยังสมบูรณ์มากๆอ่ะ หลังจากที่เดินตลาดจนเหนื่อย เราก็โหยหาน้ำเย็นๆ เลยเดินหาร้านกินข้าว ร้านนี้ขายอาหารไทย อาหารลาว มีไอติมโฮมเมด แต่เราสั่งน้ำแตงโมปั่นจ้ะ ชื่นใจจจข้าวหมูกระเทียม เราว่าข้าวมันเหนียวๆแข็งไไปหน่อยอ่ะ แต่บรรยากาศดี มื้อนี้จ่ายไป 43,000 กีบ หลังจากกินอิ่มก็กลับที่พักไปพักผ่อนค่า
ชื่อสินค้า:   หลวงพระบาง 2017
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่