สวัสดีครับ ขอใช้พื้นที่แต่งเรื่องสั้นซักเรื่องนะครับ
-------------------------------------------------------------------------
เราเป็นลูกสาวคนสุดท้องในครอบครัวเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตตามคติของคนจีนที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว โดยมีพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ตั้งแต่เด็กเวลาที่เรามีปัญหาอะไรก็ตาม พ่อจะไม่เคยฟังเสียงเราเลย แต่กับพวกพี่ที่เป็นผู้ชายพ่อยังพอรับฟังบ้าง ชีวิตของเรา 365 วันไม่เคยได้รู้จักคำว่าวันหยุด อิสระเดียวที่เราได้สัมผัสคือตอนที่เราได้เรียนมหาวิทยาลัยและต้องมาอยู่หอพักนั่นเป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกโล่งที่สุด แต่หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับไปบ้านไปช่วยที่บ้านต่อเพราะหน้าที่ของลูกสาวคือการดูแลบ้านไม่มีสิทธิ์ออกมาทำงาน ต้องอยู่กับบ้านช่วยกิจการครอบครัวและทำงานบ้านให้พี่ๆ และอยู่กับพ่อแม่ไปจนแก่ พอพี่เราแต่งงานมีครอบครัวมีพี่สะไภ้เข้าบ้านเราก็ยังต้องเป็นคนเดียวที่คอยดูแลบ้านทำงานบ้านช่วยกิจการทุกอย่างไปจนถึงช่วยเลี้ยงลูกของพวกเค้าเพราะนี่คือหน้าที่ของลูกสาว มันทำให้เราเกลียดความเป็นผู้หญิงในตัวของเราเองมาก เราตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดว่า เกิดเป็นผู้หญิงต้องมีหน้าที่อยู่แค่นี้เองเหรอ ทำไมเราถึงไม่เกิดมาเป็นผู้ชาย
ปัจจุบันแม่ของเราป่วยติดเตียงต้องมีคนดูแล เราเป็นคนรับหน้าที่นี้ ส่วนพี่ๆ ของเราพ่อบอกว่าไม่จำเป็น เพราะ"ไม่ใช่หน้าที่ของลูกชาย" คนดูแลแม่ต้องเป็นลูกสาวเท่านั้น เราอยากพาแม่ย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่ที่เตรียมไว้สำหรับคนป่วย มีความสะดวกกว่า สะอาดกว่า ปลอดโปร่งมากกว่า แต่พ่อเราไม่ยอม เราเคยขอให้พี่สะไภ้ช่วยดูแลแทนตอนที่เราพัก ตอนที่เราเพลียมากๆ แต่เค้าก็ไม่ยอม เค้าอ้างว่าต้องเลี้ยงลูกทั้งที่หลานเราก็โตเข้าโรงเรียนแล้ว 1 วันของเราหมดไปกับการดูแลแม่กับทำงานบ้านที่ไม่มีใครช่วย แม้แต่พ่อของเราก็ไม่ลงมาช่วยอะไรเรื่องดูแลแม่เพราะเขาถือว่า "นี่ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชาย" เวลาพักของเรามีแค่ตอนกินข้าวกับตอนนอนเท่านั้น แต่เราไม่เคยได้นอนหลับเพราะต้องตื่นมาดูแม่ตลอด เราผ่านช่วงเวลานี้มาได้ในตอนแรกๆ เพราะกำลังใจจากเพื่อนๆ ญาติสนิท และพี่ที่คบหาดูใจกับเราอยู่
ทุกวันนี้เราเริ่มเครียดมากขึ้น หงุดหงิดแปรปรวนง่าย เรารู้สึกอึดอัด อยากอาละวาด อยากทำอะไรก็ได้ที่จะหลุดพ้นไปจากจุดนี้ เราทะเลาะกับคนในบ้านบ่อยขึ้น ร้องไห้คนเดียว บางครั้งก็ระบายให้พี่คนนั้นของเราฟัง เราไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พบจิตแพทย์ตามที่พี่เค้าแนะนำเลย พี่เค้าย้ำกับเราตลอดว่าเราต้องดูแลตัวเองไม่ให้ตัวเองป่วย ถ้ารู้สึกไม่ดีต้องรีบไปเจอหมอ แต่เราทำไม่ได้ เพราะพ่อเราไม่ยอม เค้าไม่ให้เราไปไหน ไม่แม้แต่จะให้เราแต่งงานออกไปเพราะเรามีหน้าที่ที่จะต้องดูแลแม่และเฝ้าบ้านไปจนตาย
วันนี้เราตื่นมาพร้อมความคิดบางอย่าง เราอยากตัดมดลูกของเราทิ้ง ตัดภาระความเป็นผู้หญิงออกไปจากตัวเราและอยู่ที่นี่ไปจนตาย เราอยากให้คนในบ้านรู้ว่าเพื่อความกตัญญูเราทำได้ทุกอย่างแม้แต่จะต้องตัดมดลูกทิ้งจะได้เป็นโสดไปตลอดชีวิตไม่ต้องแต่งงานไม่ต้องมีลูกอยู่เฝ้าบ้านหลังนี้ไปจนตาย ยังไงพ่อเราก็ไม่มีทางยอมยกเราให้ใคร เพราะลูกสาวที่จะดูแลแม่และทำงานทุกอย่างในบ้านได้มีแค่เราคนเดียว เราเล่าความคิดนี้ให้พี่เค้าฟังแล้วแต่เค้าไม่ยอมให้เราทำ จริงๆ เราก็พอเข้าใจนะว่าทำไมเค้าถึงห้ามและไม่ยอมให้เราทำแบบที่เราคิด แต่ตอนนี้เราคิดทางออกได้แค่นี้จริงๆ พี่บอกให้เรารักตัวเองเลือกตัวเองและชีวิตตัวเราเอง เราก็กำลังจะเลือกนี่ไง หรือว่าชีวิตเรายังมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ?...
--------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ไม่ได้เขียนเรื่องสั้นแบบนี้มานานมาก ผิดพลาดตรงไหนยังไงก็ขออภัยด้วยครับ
ว่าแต่..ถ้าเป็นคุณ จะมีทางออกจากปัญหานี้ยังไงครับ?
ในวันที่ฉัน อยากตัดมดลูกทิ้ง
-------------------------------------------------------------------------
เราเป็นลูกสาวคนสุดท้องในครอบครัวเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตตามคติของคนจีนที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว โดยมีพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ตั้งแต่เด็กเวลาที่เรามีปัญหาอะไรก็ตาม พ่อจะไม่เคยฟังเสียงเราเลย แต่กับพวกพี่ที่เป็นผู้ชายพ่อยังพอรับฟังบ้าง ชีวิตของเรา 365 วันไม่เคยได้รู้จักคำว่าวันหยุด อิสระเดียวที่เราได้สัมผัสคือตอนที่เราได้เรียนมหาวิทยาลัยและต้องมาอยู่หอพักนั่นเป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกโล่งที่สุด แต่หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับไปบ้านไปช่วยที่บ้านต่อเพราะหน้าที่ของลูกสาวคือการดูแลบ้านไม่มีสิทธิ์ออกมาทำงาน ต้องอยู่กับบ้านช่วยกิจการครอบครัวและทำงานบ้านให้พี่ๆ และอยู่กับพ่อแม่ไปจนแก่ พอพี่เราแต่งงานมีครอบครัวมีพี่สะไภ้เข้าบ้านเราก็ยังต้องเป็นคนเดียวที่คอยดูแลบ้านทำงานบ้านช่วยกิจการทุกอย่างไปจนถึงช่วยเลี้ยงลูกของพวกเค้าเพราะนี่คือหน้าที่ของลูกสาว มันทำให้เราเกลียดความเป็นผู้หญิงในตัวของเราเองมาก เราตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดว่า เกิดเป็นผู้หญิงต้องมีหน้าที่อยู่แค่นี้เองเหรอ ทำไมเราถึงไม่เกิดมาเป็นผู้ชาย
ปัจจุบันแม่ของเราป่วยติดเตียงต้องมีคนดูแล เราเป็นคนรับหน้าที่นี้ ส่วนพี่ๆ ของเราพ่อบอกว่าไม่จำเป็น เพราะ"ไม่ใช่หน้าที่ของลูกชาย" คนดูแลแม่ต้องเป็นลูกสาวเท่านั้น เราอยากพาแม่ย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่ที่เตรียมไว้สำหรับคนป่วย มีความสะดวกกว่า สะอาดกว่า ปลอดโปร่งมากกว่า แต่พ่อเราไม่ยอม เราเคยขอให้พี่สะไภ้ช่วยดูแลแทนตอนที่เราพัก ตอนที่เราเพลียมากๆ แต่เค้าก็ไม่ยอม เค้าอ้างว่าต้องเลี้ยงลูกทั้งที่หลานเราก็โตเข้าโรงเรียนแล้ว 1 วันของเราหมดไปกับการดูแลแม่กับทำงานบ้านที่ไม่มีใครช่วย แม้แต่พ่อของเราก็ไม่ลงมาช่วยอะไรเรื่องดูแลแม่เพราะเขาถือว่า "นี่ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชาย" เวลาพักของเรามีแค่ตอนกินข้าวกับตอนนอนเท่านั้น แต่เราไม่เคยได้นอนหลับเพราะต้องตื่นมาดูแม่ตลอด เราผ่านช่วงเวลานี้มาได้ในตอนแรกๆ เพราะกำลังใจจากเพื่อนๆ ญาติสนิท และพี่ที่คบหาดูใจกับเราอยู่
ทุกวันนี้เราเริ่มเครียดมากขึ้น หงุดหงิดแปรปรวนง่าย เรารู้สึกอึดอัด อยากอาละวาด อยากทำอะไรก็ได้ที่จะหลุดพ้นไปจากจุดนี้ เราทะเลาะกับคนในบ้านบ่อยขึ้น ร้องไห้คนเดียว บางครั้งก็ระบายให้พี่คนนั้นของเราฟัง เราไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พบจิตแพทย์ตามที่พี่เค้าแนะนำเลย พี่เค้าย้ำกับเราตลอดว่าเราต้องดูแลตัวเองไม่ให้ตัวเองป่วย ถ้ารู้สึกไม่ดีต้องรีบไปเจอหมอ แต่เราทำไม่ได้ เพราะพ่อเราไม่ยอม เค้าไม่ให้เราไปไหน ไม่แม้แต่จะให้เราแต่งงานออกไปเพราะเรามีหน้าที่ที่จะต้องดูแลแม่และเฝ้าบ้านไปจนตาย
วันนี้เราตื่นมาพร้อมความคิดบางอย่าง เราอยากตัดมดลูกของเราทิ้ง ตัดภาระความเป็นผู้หญิงออกไปจากตัวเราและอยู่ที่นี่ไปจนตาย เราอยากให้คนในบ้านรู้ว่าเพื่อความกตัญญูเราทำได้ทุกอย่างแม้แต่จะต้องตัดมดลูกทิ้งจะได้เป็นโสดไปตลอดชีวิตไม่ต้องแต่งงานไม่ต้องมีลูกอยู่เฝ้าบ้านหลังนี้ไปจนตาย ยังไงพ่อเราก็ไม่มีทางยอมยกเราให้ใคร เพราะลูกสาวที่จะดูแลแม่และทำงานทุกอย่างในบ้านได้มีแค่เราคนเดียว เราเล่าความคิดนี้ให้พี่เค้าฟังแล้วแต่เค้าไม่ยอมให้เราทำ จริงๆ เราก็พอเข้าใจนะว่าทำไมเค้าถึงห้ามและไม่ยอมให้เราทำแบบที่เราคิด แต่ตอนนี้เราคิดทางออกได้แค่นี้จริงๆ พี่บอกให้เรารักตัวเองเลือกตัวเองและชีวิตตัวเราเอง เราก็กำลังจะเลือกนี่ไง หรือว่าชีวิตเรายังมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ?...
--------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ไม่ได้เขียนเรื่องสั้นแบบนี้มานานมาก ผิดพลาดตรงไหนยังไงก็ขออภัยด้วยครับ
ว่าแต่..ถ้าเป็นคุณ จะมีทางออกจากปัญหานี้ยังไงครับ?