เดือนสิงหาที่ผ่านมา
ผมไปเยี่ยมพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ Sacramento ซึ่งเป็นเหมือน อำเภอเมือง (capital) ของ california
อยู่ที่นั่นและไปเที่ยว LA กับ Vegas จนปลายเดือน ต้องเดินทางกลับมาทำงาน พี่ชายกับพี่สะใภ้ก็มาส่งที่สนามบิน ซานฟราน ใช้เวลาจาก Sacramento ประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
ผมกลับปลายเดือน วันที่ 25 สิงหา
พี่สะใภ้บอกว่า ปีใหม่ให้กลับไปใหม่ เดี๋ยวจะทำ turkey ให้กิน
ผมกลับมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ คือวันที่ 2 กันยา
ก็ได้ยินข่าวร้าย แบบช๊อค คือ พี่ชายกับพี่สะใภ้ ขับรถหลุดไหล่ทาง ชนกับต้นไม้
โชคดีที่ตำรวจขี่มอไซต์มาเจอพอดี ทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้สลบหมดติดอยู่ในรถ
ตำรวจช่วยพี่ชายออกมาได้ และขณะจะไปช่วยพี่สะใภ้ ไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
จนไม่สามารถช่วยเหลือได้ ตอนไฟกำลังจะไหม้ พี่ชายก็ได้สติพอดี และจะเข้าไปช่วยแต่ตำรวจกันไว้
ไม่ให้เข้าไปช่วย
พี่ชายต้องมองพี่สาวอยู่ในรถที่ไฟกำลังไหม้ จนสลบไป และไปตื่นที่โรงพยาบาล
ลิงค์ข่าวครับ
http://www.krcrtv.com/news/local/shasta/single-vehicle-crash-into-a-tree-leaves-one-dead/615856784
หลังจากทราบเรื่อง ผมทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เพราะพี่มีลูก 5 คน คนเล็กสุด พึ่งจะครบ 6 เดือน
ผมจึงปรึกษาพี่ชาย เพราะได้สติแล้ว ว่า จะให้พ่อกับแม่ไปหา
และทราบจากพี่ชายว่าพี่สะใภ้เสียแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ดู
ณ ตอนนั้น พาสปอร์ตของพ่อกับแม่ก็ไม่มี จึงรีบโทรให้ไปทำ พอทำปั๊บ จะได้เลขพาสปอร์ตทันที ได้เลขติดกันเลย
เลขพาสปอร์ตจะอยู่ในใบเสร็จรับเงินครับ ผมให้พ่อกับแม่ไปทำที่เชียงรายครับ บ้านอยู่น่าน
เลขพาสปอร์ตจะต้องใช้สมัคร DS-160
หลังจากนั้น ผมจึงหารายละเอียดว่า มีการขอวีซ่าแบบฉุกเฉินไหม ปรากฎว่า มี ครับ
และงานศพคือ 1 ในนั้น
และต้องมี
1. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ว่าเป็นญาติใกล้ชิด
2. จดหมายจากโบทถ์ที่ทำพิธีครับ (คนม้งจะทำพิธีที่โบทถ์และฝังครับ)
ผมจึงให้พ่อไปขอเอกสารของพี่ชายที่อำเภอ พี่ขายมีบัตรเขียว (แล้วก็ไปเมกา ในฐานะ refugee) ไม่มีบัตรประชาชน ลุ้นว่าจะมีข้อมูลไม๊ ปรากฎว่ามี อยู่ทะเบียนกลาง มีระบุชื่อพ่อชื่อแม่ จึงคัดสำเนามา 10 บาท
ส่วนเอกสารที่ผมขอให้พี่ชายดำเนินการ คือ
1. ใบสำเนาสัญชาติของพี่ชายและพี่สะใภ้
2. ใบเกิดของหลาน ๆ
2. จดหมายเชิญจากโบทถ์ที่จะจัดพิธี ระบุวันจัดพิธี คือ 16-18 กันยา
เนื่องจากที่เมกา การจัดงานศพต้องรอคิวครับ และได้คิววันที่ 16-18 กันยา!
ตอนนั้นสบถในใจ 'เชรี้ยยยแล้ววว' จะทันไม๊นี่
พี่ชายใช้ระยะเวลาในการสำเนาเอกสารส่วนตัว และจดหมายจากโบทถ์ 3 วัน ซึ่งเป็นวันเสาร์ที่ 9 กันยา จึงส่งไม่ทันเพราะ FedEx ปิดเร็วในวันเสาร์ (ที่เลือก FedEx เพราะเร็วสุด) เขาการันตี 4 วันถึงมือผู้รับ ต้องรอ 2 วัน พี่ชายจึงไปส่งวันจันทร์เช้า(ที่เมกา)เขาบอกว่า น่าจะได้ศุกร์(ที่ไทย) อุทานอีกครั้ง เวรกรรม ไม่ทันแน่นอน
หลังสมัคร DS-160 เสร็จ วันที่ 9 กันยา ผมให้พี่ชาย สแกนเอกสารมาให้ และให้พ่อสแกนเอกสารมาให้ด้วย (สำเนาจากอำเภอ)
พอสมัครเสร็จ ก็ไปสร้างโปรไฟล์ เพื่อจ่ายตังค์และนัดสัมภาษณ์ พอจ่ายตังเสร็จ วันจันทร์ที่ 11 ต้องรออีกวันถึงจะนัดสัมภาษณ์ได้
พออีกวันอังคาร 12 กันยา ตอน 9 โมงเช้าก็สามารถนัดได้ และช่วงเวลาที่ว่างคือ วันที่ 25!!!! คุณพระ
**** กระบวนการของการนัดฉุกเฉินคือ เราต้องนัดวันไปก่อน หลังจากนั้นก็ทำการนัดฉุกเฉิน พร้อมกับส่งเอกสารประกอบคำพิจารณา ในระบบจะให้อัพโหลดได้ไม่เกิน 5 ไฟล์ครับ
ผมอัพโหลด ใบสัญชาติของพี่ชายและพี่สะใภ้ 2 ฉบับ ใบแสดงความสัมพันธ์ของพ่อกับพี่ชายที่คัดสำเนาจากกอำเภอ 1 ฉบับ จดหมายจากโบทถ์ 1 ฉบับ และ ใบเกิดหลาน 1 ฉบับ(ในนั้นจะบอกว่า พ่อกับแม่เด็กคือใคร เห็นพี่ชายบอกว่าที่นั่นไม่มีใบสมรส)
จากนั้นก็รอ รอ รอ รออยู่สองวัน รีเฟรสอีเมล์ทุกชั่วโมง อยู่อย่างนั้น
จนวันพุธ ตอนบ่าย 4 ได้รับอีเมล์ว่า กรณีของผม Approved ให้ทำการนัดสัมภาษณ์ใหม่ได้
พอเข้าไปดู จะพบว่า เวลานัดสัมภาษณ์ ระหว่างวันที่ 14-25 จะมีตารางว่างขึ้นมา และวันที่ว่างเร็วสุดคือ 18 กันยา ผมจึงกดนัดสัมภาษณ์ใหม่ทันที
พอดีผมเห็นปุ่ม ยกเลิกสัมภาษณ์ จึงกดเข้าไปดู ปรากฎว่า วันที่ 25 ยังไม่ถูกยกเลิก กรรม ผมจึงกดยกเลิกวันที่ 25 และกดยืนยัน
ตึงงงงงง ออกมา อ้าววววววววววว เห้ยยยยยยยยยย มันยกเลิกทั้งสองครั้งคือ 25 กับ 18 เวรรรรรรรรา
ตาย ๆ ๆ แต่ก่อนผมจะกดยกเลิก ผมกดให้ส่งใบคอนเฟิร์มนัดสัมภาษณ์ ไปที่อีเมล์แล้ว
ผมจึงรีบโทรไปหาเจ้าหน้าที่
ได้ความว่า "ผมต้องกดยกเลิกนัดเก่าก่อน แล้วค่อยนัดใหม่ เขาช่วยอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นที่ระบบ และการจะใช้สิทธิ์ กรณีฉุกเฉิน จะใช้ได้แค่ 1 ครั้งและผมได้ใช้ไปแล้ว" ผมคุยกับ supervisor ที่เป็นคนอเมริกันครับ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก
สักพักผมจึงรีบนัดสัมภาษณ์ใหม่ โชคดีหน่อยได้วันที่ 20 กันยา
จากนั้นผมก็เฝ้ารอเอกสารจากพี่ชาย และบอกว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ชายก็บอกว่า ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็จองแล้วลองไปดูว่าจะได้ไหม มาทีหลังก็ได้ จนวันพฤหัสเช้า FedEx โทรมาว่าจะมาส่งของ คือเร็วกว่าที่คาด ส่งวันจันทร์ที่เมกา( คืออังคารที่ไทย) ของมาถึง พฤหัส ก็ สามวัน
ที่ผมต้องรอเอกสารเพราะคิดว่า ต้องเอาตัวจริงจากโบทถ์ไปให้เขาครับในวันสัมภาษณ์ น่าจะโอเคกว่าครับ
ผมได้เอกสารครบหมดในวันพฤหัสฯ และบอกพ่อกับแม่ว่า จะไปสัมภาษณ์กัน 20 กันยา นะ เขาก็กลัวว่าคงไม่ได้วีซ่าแล้วเพราะเลยเวลาแล้ว ผมได้แต่บอกว่าลองไปดูเผื่อได้
จยวันที่ 20 ที่ผ่านมา ผมพาพ่อกับแม่ไปเชียงใหม่ นั่งเมล์เขียวครับ จากนั้นผมบินไปน่าน วันจันทร์เย็นครับ นั่งเมล์เขียวไป เชียงใหม่ตอน 4 ทุ่ม ถึง อาเขต ตี 4 ครับ นั่งวนอยู่แถวนั้นจยตี 5
จากนั้นผมก็เรียก Grab มา จากอาเขตไปสถานกงสุล 54 บาทครับ ถึงหน้ากงสุลยังเช้ามาก ๆ เลยพาพ่อกับแม่เดินตลาด ด้านหน้าตอนเช้า ๆ จะมีตลาดผลไม้ ใหญ่มาก ไ เลยพาพ่อกับแม่เดิน ๆ ๆ ๆ เดินวนกันอยู่เกือบชั่วโมง
จึงหาที่นั่ง ในซอยหนึ่งจะมีร้านขาย ไข่ลวก โอเลี้ยง กาแฟ โอวัลติน มีลุงกับป้าใส่แว่นน่ารัก ๆ สำเนียงเจียงใหม่แท้ ๆ นั่งอยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงหาร้านโจ๊กนั่งกินโจ๊ก 1 ชั่วโมงเลยครับ
แล้วก็มารอหน้าสถานทูต ตอนนั้นประมาณ แปดโมงเช้าละ คนเริ่มมากัน จะออกันอยู่ถนนอีกฝั่งของทางเข้าไปสัมภาษณ์ เพราะ รปภ ไม่ให้ออกันหน้าสถานกงสุล
จน 9 โมงครึ่ง ใกล้ถึงเวลานัด คือ 10:20 ผมเอาเอกสารออกมาเช็คอีกทีครับ
พาสปอร์ต
ใบคอนเฟิร์มนัดสัมภาษณ์ Priority: Emergency
ใบ DS-160
ใบสัญชาติของพี่และพี่สะใภ้
ใบเกิดหลาน สามคน
ใบคัดสำเนาจากอำเภอ (แสดงความเป็นพ่อแม่ลูกของพี่ชายและพ่อแม่)
รูปถ่ายคนละ 1 รูป
ใบรับรองการทำงานของผม
ใบเสียภาษี(เงินเดือน 28,000) ผมสปอนเซอร์พ่อแม่เองครับ
ใบปลูกสตรอเบอร์รี่มาตรฐาน GAP ชื่อผม
และโน๊ตสั้น ๆ ว่า ผมขอเป็นล่ามเพราะพ่อแม่พูดไทยและอังกฤษไม่ได้
ปล. พ่อผมเคยสัมภาษณ์ สามรอบ ไม่ผ่านครับ แม่ไม่เคย
จากนั้นก็ให้พ่อกับแม่เดินเข้าไปในกงสุลครับ
รอสักครู่ จนท ด้านในจะให้พ่อออกมาบอกเจ้าหน้าที่ว่า ให้พาล่ามเข้าไป จนท ด้านในต้องโทรหา จนท ด้านนอก เขาถึงจะให้เราเข้าไปครับ
ผมเข้าไป เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง บทสนทนาคร่าว ๆ ครับ
Me: good morning, how are you?
A: good morning, i am good, and you?
Me: i am very well
A: are you....
Me: i am their son, the youngest one.
A: why do they want to go to the U.S.?
Me: I just cam

last June, and you approved my visa. I also invited you to come visit my strawberry farm
A: ah, i got it
Me: i just came back from the US, (พร้อมยื่นพาสปอร์ตที่มีวีซ่าแบะปั๊มให้อยู่ถึง มกรา ปีหน้าให้) my brother and my sister drove me to San Francisco airport. Sadly September the second, they had a car crash into a tree. It injured my brother and left my sister deceased. (พร้อมยื่นใบเกิดของหลาน ๆ จดหมายจากโบทถ์). My brother need my parents to take care of him and his family till he is recoveried. Here is the evedence of my brother and my parents(แล้วก็ยื่นใบคัดสำเนาจากอำเภอ)
A:i am sorry to hear that. how long will they go there?
Me: probably 5 months
A: are you going with them?
Me: no, i need to teach my students and i just came back from the US. Plus i need to take care of my cousins coz my brother who lived with us here in Thailand just passed away two years ago and he left four kids with my parents.(พร้อมยื่นทะเบียนบ้านให้) actually when i teach, my parents will take care of them so while they are going to the US, I will take care of them.
A: who will sponsor them?
Me: me (ยื่นใบเสียภาษีรายปี เอกสารการปลูกสตรอเบอร์รี่)
A: thank you, your parents' visas will be approved and please tell them do not stay over 6 months
Me: okay, i have already let them know. Thank you very much.
รับเอกสารคืนและกลับครับ พ่อกับแม่ดีใจมากครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
รีวิวการขอวีซ่าอเมริกา กรณีฉุกเฉิน (งานศพ) ครับ พ่อกับแม่พูดไทยและอังกฤษไม่ได้
ผมไปเยี่ยมพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ Sacramento ซึ่งเป็นเหมือน อำเภอเมือง (capital) ของ california
อยู่ที่นั่นและไปเที่ยว LA กับ Vegas จนปลายเดือน ต้องเดินทางกลับมาทำงาน พี่ชายกับพี่สะใภ้ก็มาส่งที่สนามบิน ซานฟราน ใช้เวลาจาก Sacramento ประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
ผมกลับปลายเดือน วันที่ 25 สิงหา
พี่สะใภ้บอกว่า ปีใหม่ให้กลับไปใหม่ เดี๋ยวจะทำ turkey ให้กิน
ผมกลับมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ คือวันที่ 2 กันยา
ก็ได้ยินข่าวร้าย แบบช๊อค คือ พี่ชายกับพี่สะใภ้ ขับรถหลุดไหล่ทาง ชนกับต้นไม้
โชคดีที่ตำรวจขี่มอไซต์มาเจอพอดี ทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้สลบหมดติดอยู่ในรถ
ตำรวจช่วยพี่ชายออกมาได้ และขณะจะไปช่วยพี่สะใภ้ ไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
จนไม่สามารถช่วยเหลือได้ ตอนไฟกำลังจะไหม้ พี่ชายก็ได้สติพอดี และจะเข้าไปช่วยแต่ตำรวจกันไว้
ไม่ให้เข้าไปช่วย
พี่ชายต้องมองพี่สาวอยู่ในรถที่ไฟกำลังไหม้ จนสลบไป และไปตื่นที่โรงพยาบาล
ลิงค์ข่าวครับ
http://www.krcrtv.com/news/local/shasta/single-vehicle-crash-into-a-tree-leaves-one-dead/615856784
หลังจากทราบเรื่อง ผมทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เพราะพี่มีลูก 5 คน คนเล็กสุด พึ่งจะครบ 6 เดือน
ผมจึงปรึกษาพี่ชาย เพราะได้สติแล้ว ว่า จะให้พ่อกับแม่ไปหา
และทราบจากพี่ชายว่าพี่สะใภ้เสียแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ดู
ณ ตอนนั้น พาสปอร์ตของพ่อกับแม่ก็ไม่มี จึงรีบโทรให้ไปทำ พอทำปั๊บ จะได้เลขพาสปอร์ตทันที ได้เลขติดกันเลย
เลขพาสปอร์ตจะอยู่ในใบเสร็จรับเงินครับ ผมให้พ่อกับแม่ไปทำที่เชียงรายครับ บ้านอยู่น่าน
เลขพาสปอร์ตจะต้องใช้สมัคร DS-160
หลังจากนั้น ผมจึงหารายละเอียดว่า มีการขอวีซ่าแบบฉุกเฉินไหม ปรากฎว่า มี ครับ
และงานศพคือ 1 ในนั้น
และต้องมี
1. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ว่าเป็นญาติใกล้ชิด
2. จดหมายจากโบทถ์ที่ทำพิธีครับ (คนม้งจะทำพิธีที่โบทถ์และฝังครับ)
ผมจึงให้พ่อไปขอเอกสารของพี่ชายที่อำเภอ พี่ขายมีบัตรเขียว (แล้วก็ไปเมกา ในฐานะ refugee) ไม่มีบัตรประชาชน ลุ้นว่าจะมีข้อมูลไม๊ ปรากฎว่ามี อยู่ทะเบียนกลาง มีระบุชื่อพ่อชื่อแม่ จึงคัดสำเนามา 10 บาท
ส่วนเอกสารที่ผมขอให้พี่ชายดำเนินการ คือ
1. ใบสำเนาสัญชาติของพี่ชายและพี่สะใภ้
2. ใบเกิดของหลาน ๆ
2. จดหมายเชิญจากโบทถ์ที่จะจัดพิธี ระบุวันจัดพิธี คือ 16-18 กันยา
เนื่องจากที่เมกา การจัดงานศพต้องรอคิวครับ และได้คิววันที่ 16-18 กันยา!
ตอนนั้นสบถในใจ 'เชรี้ยยยแล้ววว' จะทันไม๊นี่
พี่ชายใช้ระยะเวลาในการสำเนาเอกสารส่วนตัว และจดหมายจากโบทถ์ 3 วัน ซึ่งเป็นวันเสาร์ที่ 9 กันยา จึงส่งไม่ทันเพราะ FedEx ปิดเร็วในวันเสาร์ (ที่เลือก FedEx เพราะเร็วสุด) เขาการันตี 4 วันถึงมือผู้รับ ต้องรอ 2 วัน พี่ชายจึงไปส่งวันจันทร์เช้า(ที่เมกา)เขาบอกว่า น่าจะได้ศุกร์(ที่ไทย) อุทานอีกครั้ง เวรกรรม ไม่ทันแน่นอน
หลังสมัคร DS-160 เสร็จ วันที่ 9 กันยา ผมให้พี่ชาย สแกนเอกสารมาให้ และให้พ่อสแกนเอกสารมาให้ด้วย (สำเนาจากอำเภอ)
พอสมัครเสร็จ ก็ไปสร้างโปรไฟล์ เพื่อจ่ายตังค์และนัดสัมภาษณ์ พอจ่ายตังเสร็จ วันจันทร์ที่ 11 ต้องรออีกวันถึงจะนัดสัมภาษณ์ได้
พออีกวันอังคาร 12 กันยา ตอน 9 โมงเช้าก็สามารถนัดได้ และช่วงเวลาที่ว่างคือ วันที่ 25!!!! คุณพระ
**** กระบวนการของการนัดฉุกเฉินคือ เราต้องนัดวันไปก่อน หลังจากนั้นก็ทำการนัดฉุกเฉิน พร้อมกับส่งเอกสารประกอบคำพิจารณา ในระบบจะให้อัพโหลดได้ไม่เกิน 5 ไฟล์ครับ
ผมอัพโหลด ใบสัญชาติของพี่ชายและพี่สะใภ้ 2 ฉบับ ใบแสดงความสัมพันธ์ของพ่อกับพี่ชายที่คัดสำเนาจากกอำเภอ 1 ฉบับ จดหมายจากโบทถ์ 1 ฉบับ และ ใบเกิดหลาน 1 ฉบับ(ในนั้นจะบอกว่า พ่อกับแม่เด็กคือใคร เห็นพี่ชายบอกว่าที่นั่นไม่มีใบสมรส)
จากนั้นก็รอ รอ รอ รออยู่สองวัน รีเฟรสอีเมล์ทุกชั่วโมง อยู่อย่างนั้น
จนวันพุธ ตอนบ่าย 4 ได้รับอีเมล์ว่า กรณีของผม Approved ให้ทำการนัดสัมภาษณ์ใหม่ได้
พอเข้าไปดู จะพบว่า เวลานัดสัมภาษณ์ ระหว่างวันที่ 14-25 จะมีตารางว่างขึ้นมา และวันที่ว่างเร็วสุดคือ 18 กันยา ผมจึงกดนัดสัมภาษณ์ใหม่ทันที
พอดีผมเห็นปุ่ม ยกเลิกสัมภาษณ์ จึงกดเข้าไปดู ปรากฎว่า วันที่ 25 ยังไม่ถูกยกเลิก กรรม ผมจึงกดยกเลิกวันที่ 25 และกดยืนยัน
ตึงงงงงง ออกมา อ้าววววววววววว เห้ยยยยยยยยยย มันยกเลิกทั้งสองครั้งคือ 25 กับ 18 เวรรรรรรรรา
ตาย ๆ ๆ แต่ก่อนผมจะกดยกเลิก ผมกดให้ส่งใบคอนเฟิร์มนัดสัมภาษณ์ ไปที่อีเมล์แล้ว
ผมจึงรีบโทรไปหาเจ้าหน้าที่
ได้ความว่า "ผมต้องกดยกเลิกนัดเก่าก่อน แล้วค่อยนัดใหม่ เขาช่วยอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นที่ระบบ และการจะใช้สิทธิ์ กรณีฉุกเฉิน จะใช้ได้แค่ 1 ครั้งและผมได้ใช้ไปแล้ว" ผมคุยกับ supervisor ที่เป็นคนอเมริกันครับ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก
สักพักผมจึงรีบนัดสัมภาษณ์ใหม่ โชคดีหน่อยได้วันที่ 20 กันยา
จากนั้นผมก็เฝ้ารอเอกสารจากพี่ชาย และบอกว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ชายก็บอกว่า ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็จองแล้วลองไปดูว่าจะได้ไหม มาทีหลังก็ได้ จนวันพฤหัสเช้า FedEx โทรมาว่าจะมาส่งของ คือเร็วกว่าที่คาด ส่งวันจันทร์ที่เมกา( คืออังคารที่ไทย) ของมาถึง พฤหัส ก็ สามวัน
ที่ผมต้องรอเอกสารเพราะคิดว่า ต้องเอาตัวจริงจากโบทถ์ไปให้เขาครับในวันสัมภาษณ์ น่าจะโอเคกว่าครับ
ผมได้เอกสารครบหมดในวันพฤหัสฯ และบอกพ่อกับแม่ว่า จะไปสัมภาษณ์กัน 20 กันยา นะ เขาก็กลัวว่าคงไม่ได้วีซ่าแล้วเพราะเลยเวลาแล้ว ผมได้แต่บอกว่าลองไปดูเผื่อได้
จยวันที่ 20 ที่ผ่านมา ผมพาพ่อกับแม่ไปเชียงใหม่ นั่งเมล์เขียวครับ จากนั้นผมบินไปน่าน วันจันทร์เย็นครับ นั่งเมล์เขียวไป เชียงใหม่ตอน 4 ทุ่ม ถึง อาเขต ตี 4 ครับ นั่งวนอยู่แถวนั้นจยตี 5
จากนั้นผมก็เรียก Grab มา จากอาเขตไปสถานกงสุล 54 บาทครับ ถึงหน้ากงสุลยังเช้ามาก ๆ เลยพาพ่อกับแม่เดินตลาด ด้านหน้าตอนเช้า ๆ จะมีตลาดผลไม้ ใหญ่มาก ไ เลยพาพ่อกับแม่เดิน ๆ ๆ ๆ เดินวนกันอยู่เกือบชั่วโมง
จึงหาที่นั่ง ในซอยหนึ่งจะมีร้านขาย ไข่ลวก โอเลี้ยง กาแฟ โอวัลติน มีลุงกับป้าใส่แว่นน่ารัก ๆ สำเนียงเจียงใหม่แท้ ๆ นั่งอยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงหาร้านโจ๊กนั่งกินโจ๊ก 1 ชั่วโมงเลยครับ
แล้วก็มารอหน้าสถานทูต ตอนนั้นประมาณ แปดโมงเช้าละ คนเริ่มมากัน จะออกันอยู่ถนนอีกฝั่งของทางเข้าไปสัมภาษณ์ เพราะ รปภ ไม่ให้ออกันหน้าสถานกงสุล
จน 9 โมงครึ่ง ใกล้ถึงเวลานัด คือ 10:20 ผมเอาเอกสารออกมาเช็คอีกทีครับ
พาสปอร์ต
ใบคอนเฟิร์มนัดสัมภาษณ์ Priority: Emergency
ใบ DS-160
ใบสัญชาติของพี่และพี่สะใภ้
ใบเกิดหลาน สามคน
ใบคัดสำเนาจากอำเภอ (แสดงความเป็นพ่อแม่ลูกของพี่ชายและพ่อแม่)
รูปถ่ายคนละ 1 รูป
ใบรับรองการทำงานของผม
ใบเสียภาษี(เงินเดือน 28,000) ผมสปอนเซอร์พ่อแม่เองครับ
ใบปลูกสตรอเบอร์รี่มาตรฐาน GAP ชื่อผม
และโน๊ตสั้น ๆ ว่า ผมขอเป็นล่ามเพราะพ่อแม่พูดไทยและอังกฤษไม่ได้
ปล. พ่อผมเคยสัมภาษณ์ สามรอบ ไม่ผ่านครับ แม่ไม่เคย
จากนั้นก็ให้พ่อกับแม่เดินเข้าไปในกงสุลครับ
รอสักครู่ จนท ด้านในจะให้พ่อออกมาบอกเจ้าหน้าที่ว่า ให้พาล่ามเข้าไป จนท ด้านในต้องโทรหา จนท ด้านนอก เขาถึงจะให้เราเข้าไปครับ
ผมเข้าไป เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง บทสนทนาคร่าว ๆ ครับ
Me: good morning, how are you?
A: good morning, i am good, and you?
Me: i am very well
A: are you....
Me: i am their son, the youngest one.
A: why do they want to go to the U.S.?
Me: I just cam
A: ah, i got it
Me: i just came back from the US, (พร้อมยื่นพาสปอร์ตที่มีวีซ่าแบะปั๊มให้อยู่ถึง มกรา ปีหน้าให้) my brother and my sister drove me to San Francisco airport. Sadly September the second, they had a car crash into a tree. It injured my brother and left my sister deceased. (พร้อมยื่นใบเกิดของหลาน ๆ จดหมายจากโบทถ์). My brother need my parents to take care of him and his family till he is recoveried. Here is the evedence of my brother and my parents(แล้วก็ยื่นใบคัดสำเนาจากอำเภอ)
A:i am sorry to hear that. how long will they go there?
Me: probably 5 months
A: are you going with them?
Me: no, i need to teach my students and i just came back from the US. Plus i need to take care of my cousins coz my brother who lived with us here in Thailand just passed away two years ago and he left four kids with my parents.(พร้อมยื่นทะเบียนบ้านให้) actually when i teach, my parents will take care of them so while they are going to the US, I will take care of them.
A: who will sponsor them?
Me: me (ยื่นใบเสียภาษีรายปี เอกสารการปลูกสตรอเบอร์รี่)
A: thank you, your parents' visas will be approved and please tell them do not stay over 6 months
Me: okay, i have already let them know. Thank you very much.
รับเอกสารคืนและกลับครับ พ่อกับแม่ดีใจมากครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ