[My Penang #2] cafe hopping ที่ Penang


เริ่มวันด้วยการตื่นสายไป 1 ชั่วโมงถ้วนจ้า แล้วก็ออกเดินไปกินติ่มซำที่ร้าน Tai Tong กันก่อน เดินไปไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ แต่ไปถึงนี่คนแน่นร้านมากเว่อร์ มากินกันทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ตอนแรกคิดว่าจะต้องอดซะละ แต่พอสอดส่ายตาหาที่นั่งได้ก็รีบพุ่งไปนั่งเลย

สั่งมากันแบบบ้าๆบอๆขนมจีบหมูกับฮะเก๋าอย่างละ 2 เข่ง ละก็น้ำชาร้อน ค่าเสียหาย 19.60 rm น้ำจิ้มที่นี่จะออกเค็มๆ ไม่เป็นซอสเปรี้ยวเหมือนในไทย ซึ่งเราชอบรสแบบนี้มากกว่านะ

ที่ชอบร้านนี้อีกอย่างคือเขามีไอ้ตัวแบบในรูปห้อยบนเพดานเต็มเลย ขายตัวละ 10-15 rm ประมาณนั้น นี่ก็นั่งบอกเพื่อนว่าอยากได้ๆ จนฮีไล่ให้ไปซื้อที่สำเพ็งตอนกลับไทย ฮ่าๆๆ สีมันสวยสดดี เราชอบนั่งมอง เพลินตามาก

นั่งกินกันแปบเดียวก็หูอื้อตาลาย เสียงดังมากเกิ๊น เลยออกจากร้านเพื่อเริ่ม cafe hopping กันต่อ นี่ตั้งใจกับแผนการนี้มากๆว่าจะต้องจัด cafe hopping และ street art อย่างเต็มที่ เพราะเรากับเพื่อนชอบร้านกาแฟและของอะไรเก๋ๆ แต่ไม่ค่อยกินกาแฟกันทั้งคู่ด้วยอะ ตลกดี ซึ่งระหว่างทางเดินเราก็จะเจอกับงาน art เหล็กดัดและตึกเก๋ๆเต็มเลย ถ่ายรูปกันไปเยอะมาก

เราเดินวนจากร้านติ่มซำมาแถวๆย่านที่พัก เพราะมันอยู่ไม่ไกลจากมัสยิด Kapitan Keling เท่าไหร่ แวะถ่ายรูปด้านนอกนิดนึง แล้วจะข้ามฝั่งไปหาร้านกาแฟจุดแรพ แถวๆนี้ถนนใหญ่ดี ข้ามไม่ยาก มีคนเดินไปมาเยอะพอสมควรแต่เงียบจนแปลกใจ ไม่รู้เพราะยังเช้าเกินไปหรือเปล่า

ร้านแรกที่เราแวะคือ BEAN Sprout Cafe ร้านนี้ตกแต่งดีมาก ราคาก็ไม่แรง เสียดายว่าคนเยอะเลยแทรกตัวตามไปถ่ายรูปให้ครบทุกๆมุมลำบาก จริงๆเขามีชั้นสองด้วยไง แต่ร้านค่อนข้างแคบ เราก็เกรงใจที่จะเบียดนั่นนี่

แต่บรรยากาศเค้าดีงามจริงๆนะ เหมือนเอาโกดังเก่ามาใช้ ตกแต่งทำเก่าแค่ผนังครึ่งล่างของชั้น ส่วนครึ่งบนปล่อยเก่าจริงๆงี้ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็มีทั้งหวาย โต๊ะไม้ที่มีเหล็กดำๆ เข้ากันดี

เราสั่ง mocha มาแก้วนึง (13 rm) ใจจริงอยากกินแบบ decaf นะแต่ถามละไม่มี ก็เลยต้องเลือกเอาที่มันไม่กาแฟล้วนมาก กลัวจะไม่ไหวเพราะยังต้องไปต่อกันอีกหลายที่ นั่งที่นี่ราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่งได้เลย คุยเล่นกันนานมาก จากนั้นถึงลุกไปเดินดูเมืองในอีกส่วน และพอดีเราได้ของฝากมาด้วย เป็นผ้าฮิญาบสวยๆหลายผืน

พวกเราเดินไปต่อแบบยาวมากเลย แวะดูนั่นนี่สะเปะสะปะสุด เข้าไปดูร้านที่สภาพคล้ายศึกษาภัณฑ์บ้านเราด้วย ระหว่างทางตรงนี้ค่อนข้างร้อนพอสมควร แต่ก็ถือว่าเดินได้เรื่อยๆ เพราะบ้านเมืองเขาสวยอยู่ มี street art และตึกงามๆให้ได้ชักภาพกันตลอด

ที่ปีนังนี่ street art เยอะมากกกกก ขนาดไม่ได้ไปตรงดงหลักของมันก็จะเจอหลบซ่อนอยู่ตามซอกเล็กซอกน้อยของตึกตลอด แต่ street art ของแท้ต้องตามในภาพนี้เลย อยู่บนถนนจริงๆไม่ใช่ข้างกำแพง ฮ่าๆๆ

จนเดินไปถึง New World Park เป็นเหมือน community mall แบบบ้านเราแหละ กะว่าจะแวะร้านกาแฟที่นึงตรงนี้ แต่มองแล้วสภาพไม่น่าตื่นตาตื่นใจ ทันใดนั้นเพื่อนเราเหลือบไปเห็นร้านนึงขายลอดช่อง เลยลากเราเข้าไปนั่งละสั่งมากินชามนึง รู้สึกมันชื่อ cendul หรืออะไรราวๆนี้ละ 6 rm แน่ะ เป็นลอดช่องเขียวๆที่รสไม่แรงน้ำปูนใสแบบบ้านเรา ละก็มีถั่วแดงกวนราดมาด้วย รสก็แปลกๆลิ้นดีแต่พอกินได้ ซึ่งคงไม่คิดจะกินอีกแน่นวล ฮ่าๆ ละก็สั่งโค้กกับน้ำแข็งมากินด้วยกันอีกคนละแก้ว (3 rm)

แล้วก็ไปต่อกันที่ร้าน Coffee Addicted ที่อยู่ไม่ไกลจากนั้นเท่าไหร่ คราวนี้เราสั่ง chai latte มาลอง (12 rm) รสชาติดีงามในสามโลกามากกกก ขั้นสุดอะ มีขนมปังปีบรูปปลาแถมมาในจานให้ด้วยพอได้เคี้ยวกรึบๆ

บรรยากาศร้านก็โอเค ตกแต่งร้านสวยดี ห้องน้ำสะอาดด้วย ที่นี่นั่งไม่ได้นานเท่าไหร่ เพราะวันนี้เดินไกลและแดดแรง นั่งสัก 30 นาทีก็ดูทรงเริ่มอยากกลับไปนอนเอนกันละ เลยตัดสินใจกลับกัน เดินยาวมากเพื่อกลับที่พัก กลับไปแล้วก็นอนเล่นนั่นโน่นนี่ รอจนเย็น 6 โมงกว่าๆค่อยออกมากินข้าวเย็นกันต่อ

คราวนี้มากินข้าวมันไก่ที่ร้าน Air Itam อร่อยดี เดินไม่ไกลจากที่พักมากเท่าไหร่ จะอยู่ก่อนถึงถนนไป Komtar เส้นนึง พวกเราสั่งไก่มาคนละอกแบบไม่เอาหนัง (4 rm) ข้าวมันคนละจาน แล้วเขาก็แถมซุปให้ถ้วย รสชาติซุปเหมือนบ้านเราเด๊ะยังกะต้มด้วยซุปผงฟ้าไทย ฮ่าๆๆ มีโค้กของเพื่อนเรากับน้ำมะนาวของเรา ราคาเท่ากันที่ 2.50 rm จากนั้นเราเดินข้ามฝั่งไปต่อกันที่ร้านเด็ดของการ cafe hopping อีกแห่ง

ที่นี่คือ Awesome Canteen เรียกว่าถ้าค้นหาใน IG จากแท็ก #cafehoppingpenang ก็จะต้องเจอร้านนี้มาเป็นอันดับต้นๆเลยแหละ ตอนเราเข้าไปนี่คนยังไม่เยอะมากเท่าไหร่ ร้านตกแต่งดี ออกแนว industrial ตามสมัยนิยมนั่นแหละ พนักงานเป็นหนุ่มสาวดูสดชื่นกันดีมากเลย คนวัยสามสิบกลางๆที่สภาพโทรมลงทุกวันสองคนตรงนี้เห็นแล้วได้แต่ถอนใจและอดชื่นชมในความสดใสของน้องๆพนักงานไม่ได้

เอาละ อย่ามาดราม่าหดหู่ในความแก่กันไปเลย มาดูสิ่งที่สั่งมาดีกว่า ก็จะมี key lime pie และ Belgian iced chocolate ที่แบ่งกันกิน ช็อกโกแลตอร่อยดีมากไม่มีปัญหา แต่ key lime pie นี่ดิ เรากับเพื่อนลงความเห็นกันว่ารสเหมือนน้ำสลัดในเมนูไก่กรอบครีมมะนาวหรือกุ้งกรอบสลัดครีมอะ แค่เราตัดรสชาติคาวของเนื้อสัตว์ออกไป นี่ละ key lime pie ฮ่าๆๆๆ จำไม่ได้ว่านั่งนานมากมั้ยนะ แต่ไม่น่าเกินชั่วโมงอะ ละก็เดินกลับกัน

กลับเข้ามาก็ผลัดกันอาบน้ำอาบท่า ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเพื่อนเลยเฝ้าของให้แล้วเราอาบก่อน พอเราเสร็จออกมาเพื่อนก็ไปอาบน้ำ เรานอนเลยแต่นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่เพราะปวดหัวชอบกล จนเดินออกไปส่องๆดูจากหน้าที่พัก (พวกเราพักชั้นล่างห้องริมนอกสุดติดประตูทางออกเลย) เห็นว่าร้านชำอิลุงที่เดินไปสัก 2 นาทียังเปิด ก็เลยว่าจะออกไปเองนี่ละ หาพารามากินสักแผง เรากลับเข้าห้องมาแค่จะบอกเพื่อนว่าเดี๋ยวจะวิ่งไปซื้อยาสัก 2-3 นาทีนะ เผื่อมองลงมาแล้วเห็นเราหายไปจะได้ไม่ห่วง เท่านั้นละ ฮีสปริงตัวผึงขึ้นเลยละบอกว่าเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน อือ ก็เดินออกไปกัน ปรากฎร้านอิลุงไม่มียา เลยเดินต่อไปที่มินิมาร์ที่ถัดไปอีกบล็อก โชคดีว่ามี เราสั่งยาเสร็จ อ้าว เพื่อนบอกหิวแล้ว หาของหวานไปกินดีกว่า ก็ได้ Kit Kat มาแท่งนึง Snicker ละก็ Loacker ห่อแดงอันเล็กมากิน มีการแบ่งให้เรากินด้วยแบบว่ากินรองท้องเพราะกินยา เรากิน Kit Kat ไปซีกนึง หวานเลวร้ายมาก หวานกะหลั่วแบบช็อกโกแลตเหรียญทองบ้านเราเลยอะ ฮือออ เราชอบขนมหวานมากนะแต่นี้ไม่ไหวจริง พอกินเสร็จก็พากันไปแปรงฟันแล้วเข้านอน

สำหรับวันเสาร์ที่เป็นวันที่สองของทริปเราขอจบไว้ตรงนี้ วันต่อไปจะมีรูปเยอะแยะหนำใจและสนุกมากจริงๆ ติดตามกันต่อนะ

สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
- ค่าอาหาร 71.20 RM
Total 71.20 RM

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่