ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เห็นพี่ส้มเปิดห้องเรียนชวนคุยเรื่อง "พล นิกร กิมหงวน" แล้วสนุกดี ไปตามอ่านแล้วก็ได้ความรู้เยอะแยะ
ก็มานึกถึงเรื่องที่ชอบอ่านอีกเรื่องคือ 3 ก๊ก เรื่องนี้สอดแทรกข้อคิดและกลยุทธ์ต่างๆ ที่มีประโยชน์มาก
สนุกหลายตอน มีตอนหนึ่งที่ประทับใจ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงชอบ นั่นคือ "สงครามลิ้น"
ตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่าขงเบ้งอ่านคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
และสามารถเอาชนะได้ด้วยความจริง ความรอบรู้ และชั้นเชิงตรรกะที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม
สามก๊ก ตอน สงครามลิ้น
คร่าวๆ เพื่อให้เห็นภาพคือ 3 ก๊กนั้นประกอบด้วย
"วุยก๊ก" ของ โจโฉ (สีเหลือง)
"จ๊กก๊ก" ของ เล่าปี่ (สีส้ม)
"ง่อก๊ก" ของ ซุนกวน (สีเขียว)
เหตุการณ์ "สงครามลิ้น" เป็นตอนที่ขงเบ้งไปหาซุนกวนเพื่อเจรจาให้ง่อก๊ก (ซุนกวน) ร่วมมือกับจ๊กก๊ก (เล่าปี่)
เพื่อรบกับวุยก๊ก (โจโฉ)
แน่นอนขุนนางง่อก๊กก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย
- ฝ่ายที่เห็นว่าควรให้ความร่วมมือ เพราะถ้าโจโฉตีเล่าปี่ได้ จะยิ่งใหญ่เกรียงไกร
และก๊กซุนกวนก็จะเป็นเป้าต่อไป จึงควรช่วยกันคานอำนาจไว้ก่อน
- ฝ่ายที่เห็นว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่า เพราะชัยภูมิง่อก๊กได้เปรียบอยู่แล้ว ปล่อยให้ทั้งคู่รบกันไปจนเหนื่อยแรง
ไม่ควรเข้าไปเสี่ยง
บรรดากุนซือชื่อดังของง่อก๊กฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรร่วมมือกับขงเบ้ง ก็พากันออกมาปะทะโวหาร
แต่ก็เจอขงเบ้งสวนหงายกลับไปทุกราย
จะขอยกตัวอย่างประโยคที่เฉียบคมของขงเบ้งมาบางส่วนค่ะ เช่น
เตียวเจียว โดนขงเบ้งสั่งสอนว่า
...
เรื่องชาติบ้านเมือง เรื่องราชวงศ์ ล้วนจำเป็นต้องอาศัยผู้ปราชญ์เปรื่อง
จะมามัวอาศัย พวกที่คุยโวโอ้อวด พวกเล่นลิ้นโต้คารม หรือพวกสรรเสริญตัวเอง เหยียดหยามผู้อื่น
พวกดีแต่นั่งโม้คุยโตว่าไม่มีใครเทียบ แต่ต่อเรื่องคับขัน กลับไร้แผนจะแก้ไข
ถ้าหากว่า ใช้พวกนี้ โลกคงเยาะเย้ย
ซีหอง ถูกตอกกลับ
... คนเราเกิดมาชาติหนึ่ง ต้องจงรักภักดีกตัญญู ตระกูลโจโฉเป็นอำมาตย์ กินเบี้ยหวัดหลวง
แต่ลูกหลานไม่จงรัก กลับคิดคดเป็นกบฏ คิดเป็นโจรชิงราชสมบัติต่อทรราชย์
คนทั่วหล้า ควรร่วมกันปราบ ร่วมกันกำจัดมัน
แต่พวกท่าน ซึ่งเป็นอำมาตย์ กลับเป็นกระบอกเสียงให้โจรชั่ว
ทำตัวเหมือน เป็นคนไร้พ่อไร้เจ้า คนอย่างนี้ไม่คู่ควร อย่ามาพูดเลย
เหยียมจุ้น จนด้วยเหตุผล
..ข้าไม่ใช่หนอนตำรา นักวิชาการ ที่ท่องคัมภีร์เอามาพูด
พวกลอกตำรา จำแต่คำพูดจากคัมภีร์ จะมาสร้างบ้านสร้างเมืองไม่ได้หรอก
นับแต่โบราณ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนคัมภีร์
อิอิ๋นเสิงเซียงแห่งราชวงศ์ซาง ตอนแรก ก็เป็นเพียงทาสติดที่นาเท่านั้น
เจียงไท่กง ผู้บุกเบิกราชวงศ์จิว เป็นเพียงคนตกปลา
ส่วนปราชญ์รุ่นหลังเช่น เตียวเหลียง ตันเป๋งนั้น เก่งกล้าสามารถมากขนาดไหน
ก็ไม่เห็นว่าท่านต้องเขียนคัมภีร์อะไรเลย
น่าเสียดายที่พวกบัณฑิต อ้าปากปิดปาก อ้างแต่คัมภีร์ ทั้งวันวุ่นวายกับหมึกพู่กัน
ข้าเห็นว่าพวกนี้ น่ากลัวทำได้เพียงเล่นขายของ อยู่กับกระดาษเท่านั้น
ปะทะ
เทียตก
... เมื่อท่านอ้างถึงปราชญ์หยู คงรู้ว่า มีหยูของผู้ดี และหยูของคนถ่อย
หยูของผู้ดี จงรักภักดี ยุติธรรม เกลียดความเลว จึงยิ่งใหญ่อยู่ในโลกได้ และยืนยงคงอยู่นิรันดร์
ส่วน
หยูคนถ่อยนั้น ต่างออกไป คือมัวแต่หมึกพู่กัน ประดิษฐ์ประดอยเรื่องเล็ก
ตอนหนุ่มเขียนกวี ตอนแก่ก็เขียนคัมภีร์ เขียนได้ทุกอย่างแต่ในอกกลับว่าง ไร้ยุทธศาสตร์
... ขอให้ท่านเป็นหยูผู้ดี จงรักภักดี อย่าเอาแบบอย่างหยางสง ใช้หยูของคนถ่อยต้องถูกก่นด่าไปชั่วนิจนิรันดร
ขอบคุณภาพประกอบ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/01/K6224745/K6224745.html
https://www.facebook.com/samkokview/posts/647584575281975
..................................................
ใครโดนขงเบ้งด่านี่ กลับไปดื่มน้ำใบบัวบกได้ทุกราย
ไม่ใช่เพราะขงเบ้งปากจัด แต่เพราะขงเบ้งรอบรู้ มีฐานข้อมูล ใช้ความจริง รู้จักวิเคราะห์จนผู้อื่นปราศจากข้อโต้แย้ง
และในวงการกุนซือหรือนักปราชญ์ จะไม่มีหลับตามั่ว สีข้างเข้าถู เมื่อแพ้ เขาก็จะยอมรับว่าแพ้
เราคงไม่สามารถจะตัดสินได้ว่าใครถูกหรือผิดชัดเจน ขึ้นอยู่กับเหตุผลและวิจารณญาณของแต่ละคน
แต่อย่างน้อย สิ่งที่ขงเบ้งกล่าว หลายประโยคล้วนแต่เป็นเรื่องจริง เป็นข้อคิดที่ดีในเรื่องการเมือง การปกครอง
"
คำพูดที่มีค่า คือ คำพูดที่อยู่บนพื้นฐานความจริง และเป็นประโยชน์"
คำคน - สุเทพ วงศ์กำแหง
https://www.youtube.com/watch?v=Qc1baDAp1QY
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 19/9/2017 (สงครามลิ้น)
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เห็นพี่ส้มเปิดห้องเรียนชวนคุยเรื่อง "พล นิกร กิมหงวน" แล้วสนุกดี ไปตามอ่านแล้วก็ได้ความรู้เยอะแยะ
ก็มานึกถึงเรื่องที่ชอบอ่านอีกเรื่องคือ 3 ก๊ก เรื่องนี้สอดแทรกข้อคิดและกลยุทธ์ต่างๆ ที่มีประโยชน์มาก
สนุกหลายตอน มีตอนหนึ่งที่ประทับใจ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงชอบ นั่นคือ "สงครามลิ้น"
ตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่าขงเบ้งอ่านคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
และสามารถเอาชนะได้ด้วยความจริง ความรอบรู้ และชั้นเชิงตรรกะที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม
สามก๊ก ตอน สงครามลิ้น
คร่าวๆ เพื่อให้เห็นภาพคือ 3 ก๊กนั้นประกอบด้วย
"วุยก๊ก" ของ โจโฉ (สีเหลือง)
"จ๊กก๊ก" ของ เล่าปี่ (สีส้ม)
"ง่อก๊ก" ของ ซุนกวน (สีเขียว)
เหตุการณ์ "สงครามลิ้น" เป็นตอนที่ขงเบ้งไปหาซุนกวนเพื่อเจรจาให้ง่อก๊ก (ซุนกวน) ร่วมมือกับจ๊กก๊ก (เล่าปี่)
เพื่อรบกับวุยก๊ก (โจโฉ)
แน่นอนขุนนางง่อก๊กก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย
- ฝ่ายที่เห็นว่าควรให้ความร่วมมือ เพราะถ้าโจโฉตีเล่าปี่ได้ จะยิ่งใหญ่เกรียงไกร
และก๊กซุนกวนก็จะเป็นเป้าต่อไป จึงควรช่วยกันคานอำนาจไว้ก่อน
- ฝ่ายที่เห็นว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่า เพราะชัยภูมิง่อก๊กได้เปรียบอยู่แล้ว ปล่อยให้ทั้งคู่รบกันไปจนเหนื่อยแรง
ไม่ควรเข้าไปเสี่ยง
บรรดากุนซือชื่อดังของง่อก๊กฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรร่วมมือกับขงเบ้ง ก็พากันออกมาปะทะโวหาร
แต่ก็เจอขงเบ้งสวนหงายกลับไปทุกราย
จะขอยกตัวอย่างประโยคที่เฉียบคมของขงเบ้งมาบางส่วนค่ะ เช่น
เตียวเจียว โดนขงเบ้งสั่งสอนว่า
...เรื่องชาติบ้านเมือง เรื่องราชวงศ์ ล้วนจำเป็นต้องอาศัยผู้ปราชญ์เปรื่อง
จะมามัวอาศัย พวกที่คุยโวโอ้อวด พวกเล่นลิ้นโต้คารม หรือพวกสรรเสริญตัวเอง เหยียดหยามผู้อื่น
พวกดีแต่นั่งโม้คุยโตว่าไม่มีใครเทียบ แต่ต่อเรื่องคับขัน กลับไร้แผนจะแก้ไข
ถ้าหากว่า ใช้พวกนี้ โลกคงเยาะเย้ย
ซีหอง ถูกตอกกลับ
... คนเราเกิดมาชาติหนึ่ง ต้องจงรักภักดีกตัญญู ตระกูลโจโฉเป็นอำมาตย์ กินเบี้ยหวัดหลวง
แต่ลูกหลานไม่จงรัก กลับคิดคดเป็นกบฏ คิดเป็นโจรชิงราชสมบัติต่อทรราชย์
คนทั่วหล้า ควรร่วมกันปราบ ร่วมกันกำจัดมัน
แต่พวกท่าน ซึ่งเป็นอำมาตย์ กลับเป็นกระบอกเสียงให้โจรชั่ว
ทำตัวเหมือน เป็นคนไร้พ่อไร้เจ้า คนอย่างนี้ไม่คู่ควร อย่ามาพูดเลย
เหยียมจุ้น จนด้วยเหตุผล
..ข้าไม่ใช่หนอนตำรา นักวิชาการ ที่ท่องคัมภีร์เอามาพูด
พวกลอกตำรา จำแต่คำพูดจากคัมภีร์ จะมาสร้างบ้านสร้างเมืองไม่ได้หรอก
นับแต่โบราณ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนคัมภีร์
อิอิ๋นเสิงเซียงแห่งราชวงศ์ซาง ตอนแรก ก็เป็นเพียงทาสติดที่นาเท่านั้น
เจียงไท่กง ผู้บุกเบิกราชวงศ์จิว เป็นเพียงคนตกปลา
ส่วนปราชญ์รุ่นหลังเช่น เตียวเหลียง ตันเป๋งนั้น เก่งกล้าสามารถมากขนาดไหน
ก็ไม่เห็นว่าท่านต้องเขียนคัมภีร์อะไรเลย
น่าเสียดายที่พวกบัณฑิต อ้าปากปิดปาก อ้างแต่คัมภีร์ ทั้งวันวุ่นวายกับหมึกพู่กัน
ข้าเห็นว่าพวกนี้ น่ากลัวทำได้เพียงเล่นขายของ อยู่กับกระดาษเท่านั้น
ปะทะ เทียตก
... เมื่อท่านอ้างถึงปราชญ์หยู คงรู้ว่า มีหยูของผู้ดี และหยูของคนถ่อย
หยูของผู้ดี จงรักภักดี ยุติธรรม เกลียดความเลว จึงยิ่งใหญ่อยู่ในโลกได้ และยืนยงคงอยู่นิรันดร์
ส่วนหยูคนถ่อยนั้น ต่างออกไป คือมัวแต่หมึกพู่กัน ประดิษฐ์ประดอยเรื่องเล็ก
ตอนหนุ่มเขียนกวี ตอนแก่ก็เขียนคัมภีร์ เขียนได้ทุกอย่างแต่ในอกกลับว่าง ไร้ยุทธศาสตร์
... ขอให้ท่านเป็นหยูผู้ดี จงรักภักดี อย่าเอาแบบอย่างหยางสง ใช้หยูของคนถ่อยต้องถูกก่นด่าไปชั่วนิจนิรันดร
ขอบคุณภาพประกอบ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/01/K6224745/K6224745.html
https://www.facebook.com/samkokview/posts/647584575281975
..................................................
ใครโดนขงเบ้งด่านี่ กลับไปดื่มน้ำใบบัวบกได้ทุกราย
ไม่ใช่เพราะขงเบ้งปากจัด แต่เพราะขงเบ้งรอบรู้ มีฐานข้อมูล ใช้ความจริง รู้จักวิเคราะห์จนผู้อื่นปราศจากข้อโต้แย้ง
และในวงการกุนซือหรือนักปราชญ์ จะไม่มีหลับตามั่ว สีข้างเข้าถู เมื่อแพ้ เขาก็จะยอมรับว่าแพ้
เราคงไม่สามารถจะตัดสินได้ว่าใครถูกหรือผิดชัดเจน ขึ้นอยู่กับเหตุผลและวิจารณญาณของแต่ละคน
แต่อย่างน้อย สิ่งที่ขงเบ้งกล่าว หลายประโยคล้วนแต่เป็นเรื่องจริง เป็นข้อคิดที่ดีในเรื่องการเมือง การปกครอง
"คำพูดที่มีค่า คือ คำพูดที่อยู่บนพื้นฐานความจริง และเป็นประโยชน์"
คำคน - สุเทพ วงศ์กำแหง
https://www.youtube.com/watch?v=Qc1baDAp1QY