สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ขอตอบจากประสบการณ์ตรงนะครับ
ไม่รอด!!!! ยิ่งมีลูกยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ไม่ต้องไปลองทำให้เสียเวลา ผมลองให้แล้ว ทำเกษตรแบบเชิงธุระกิจด้วย
ทั้งไปอบรม ทั้งอ่าน ทั้งหาตลาด สรูปเศรษฐกิจดิ่งเหว ภาคเกษตรตายถ้วนหน้า
ยอดขายเคยได้ 5-6 หมื่น/เดือน หายเกลี้ยง ตอนนี้กลับมาทำงานได้เกือบสองปีแหละ
ส่วนภรรยายังต้องอยู่บ้านดูแลสวนต่อไป เพราะเพิ่งมีลูกคนที่ 2
ลำพังตัวเราเอง ยอมลำบากยอมอดได้ครับ แต่จะให้ลูกอดอยาก ผมยอมไม่ได้.
เรื่องนี้คุยกันยาวมากๆ ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมหลังไมมาครับ ยินดีตอบทุกข้อเลย
ไม่รอด!!!! ยิ่งมีลูกยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ไม่ต้องไปลองทำให้เสียเวลา ผมลองให้แล้ว ทำเกษตรแบบเชิงธุระกิจด้วย
ทั้งไปอบรม ทั้งอ่าน ทั้งหาตลาด สรูปเศรษฐกิจดิ่งเหว ภาคเกษตรตายถ้วนหน้า
ยอดขายเคยได้ 5-6 หมื่น/เดือน หายเกลี้ยง ตอนนี้กลับมาทำงานได้เกือบสองปีแหละ
ส่วนภรรยายังต้องอยู่บ้านดูแลสวนต่อไป เพราะเพิ่งมีลูกคนที่ 2
ลำพังตัวเราเอง ยอมลำบากยอมอดได้ครับ แต่จะให้ลูกอดอยาก ผมยอมไม่ได้.
เรื่องนี้คุยกันยาวมากๆ ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมหลังไมมาครับ ยินดีตอบทุกข้อเลย
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่เคยทำเองนะ แต่เคยไปถามคนที่เขาทำ เขามีอาชีพเพาะเห็ดขาย รายได้วันละประมาณ 1000-2000 บาท ยังไม่หักต้นทุน ที่บ้านเขาก็ไม่ค่อยได้ใช้เงินมากนัก เพราะปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกข้าว ค่าอาหารนี้แทบไม่ต้องซื้อ แต่เขาบอกไม่พอ เป็นหนี้อีกด้วย เพราะต้องส่งลูกเรียน นี้คือรายจ่ายซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเขา
เรารู้จักกับปราญช์ท่านหนึ่ง เขาทำแบบนี้ละ เลี้ยงปลา ปลูกผัก ทำอะไรไว้ใช้เอง มีคนไปดูงานที่บ้านเขาเยอะแยะ แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ทำให้เขาอยู่ได้จริงๆ คือ คนที่เข้าไปดูงาน เขาจะขายสิ่งที่เขาผลิตได้ หลายๆอย่าง หัวเชื้อโน้นนี้นั้น ค่าอาหารต่อหัวที่มีคนเข้าไปดูงาน นี้คือรายได้จริงๆของเขา
เรารู้จักกับปราญช์ท่านหนึ่ง เขาทำแบบนี้ละ เลี้ยงปลา ปลูกผัก ทำอะไรไว้ใช้เอง มีคนไปดูงานที่บ้านเขาเยอะแยะ แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ทำให้เขาอยู่ได้จริงๆ คือ คนที่เข้าไปดูงาน เขาจะขายสิ่งที่เขาผลิตได้ หลายๆอย่าง หัวเชื้อโน้นนี้นั้น ค่าอาหารต่อหัวที่มีคนเข้าไปดูงาน นี้คือรายได้จริงๆของเขา
ความคิดเห็นที่ 27
ผมนี้แหละเกษตรกรตัวจริง(ทำมาตั้งแต่เด็กจนถึงอายุ 21 ปี) เป็นครอบครัวที่คุณพ่อผมมักจะพูดบ่อยๆว่า "เราเป็นกระดูกสันหลังของชาติ" คุณพ่อผมไปอบรมบ่อยๆและบางครั้งก็ให้ผมไปแทน คนในหน่วยงานราชการเขามักจะส่งเสริมให้ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมก็ไปฝึกอบรมหลายๆอย่าง แต่นึกอีกทีมากล่อมให้เราทำเกษตร พอกินพอใช้ที่ไหน แค่ปลูกบ้านหลังไม่ใหญ่มาก ก็ต้องทำใช้หนี้ไปหลายปี (ผมไม่เสียค่าเช่าที่) และการทำเกษตรถ้าไม่จ้างเขา โดยคิดว่าจะทำเองทั้งหมด ผมจะเล่าให้ฟัง
>>>ช่วงอดีตที่ผ่านมา ตระกูลผมยังไม่ได้แบ่งสมบัติกันมีที่ดินก็ให้ทำมาหากินกันไปก่อน คุณย่าให้คุณพ่อผมทำไปก่อนโดยให้ที่ดินไปดูแลก่อน 70 ไร่ โดยคุณพ่อผมท่าน แบ่งทำสวน 10 ไร่ เลี้ยงปลา 10 ไร่ ทำนา 50 ไร่ โดยมีผมเป็นพี่คนโตและน้องชายคนสุดท้อง จบแค่ประถมต้องออกจากโรงเรียนทั้งสองคน ด้วยพ่อแม่คิดว่าจะให้เราสองคนพี่น้องมาช่วย คิดว่าทำเกษตรน่าจะไปไหว (ตอนหลังคุณแม่ผมร้องไห้บ่อยมาก ท่านพูดว่าเสียใจจริงๆที่ให้ลูกออกมาช่วยทำนาทำสวน)
>ความลำบากเวลาทำเกษตร >ผมต้องตื่นก่อนสว่างเพื่อไปหาปลาในคลองมากิน ผมไถนาเอง คราดนาเอง ทุบนา หว่านข้าว ฉีดยาข้าว จนไปถึงขั้นตอนเก็บเกี่ยว >ลำบากมาก เวลาลงไปในท้องนาดินจะอัดเข้าไปในเล็บเท้า ปวดเล็บเท้ามาก เวลาลงไปไถนาน้ำในท้องนาร้อนมากค่อนข้างจะทรมานทีเดียว เวลาสะพายถังฉีดยา(ถังสแตนเลส)สายสะพายรัดบ่าจนเจ็บทรมานมาก และเวลาเก็บเกี่ยวข้าวหลายครั้งข้าวโดนฝนจนข้าวเน่าขายไม่ได้ราคา และมีอยู่ปีหนึ่งเรากู้เงินมาลงทุนเต็มที่ ทั้งนา สวน เลี้ยงปลา อยู่ๆน้ำมา ทั้งนา สวน บ่อปลาเสียหายหมด ต้องทำใช้หนี้ไปอีกหลายปี
เวลาทำสวน เอาง่ายๆเลยผมถือจอบไปฟื้นดิน รู้ไหมว่ากว่าจะได้พื้นที่เพาะปลูกได้ ต้องฟื้นดินจนมือระบมไปหมด ร้อนก็ร้อน กลางคืนผมก็ยังคัดเลือกต้นกล้าต่างๆที่ปลูกกันจนดึก(เช่น พริก จากแปลงเพาะชำ) ผมเคยปลูกผักมาสารพัดชนิด เช่น ฟักทอง แตง ถั่ว พริก ข้าวโพด และผักอื่นๆอีกหลายชนิด แม้แต่ไม้ยืนต้น ก็เคยปลูกมาหลายชนิดแล้ว จริงๆแล้ว คุณพ่อผม ตัวผมเอง น้องชาย พวกเราจัดว่าเป็นคนแข็งแรงมาก ชนิดที่เรียกว่า อึดแบบ 24 ชั่วโมงเลยครับ แต่สรุปแล้ว พวกเราก็ต้องพากันเลิกอาชีพเกษตรทั้งหมด ลำบากสุดๆเลย
>ผมจะบอกให้ ถ้าใครพาภรรยามาทำด้วย ระวังคุณเธอจะขอเลิกกับคุณแน่ๆ น้องชายผมก็โดนมา พอแต่งงานเสร็จผู้หญิงมาช่วยทำเกษตรแค่ปีเดียว คุณเธอยื่นคำขาดเลย "จะขอเลิก" น้องผมจึงต้องให้ภรรยาไปทำงานที่โรงงานแทน และทุกวันนี้ผมก็ยังอยู่ในพื้นที่เกษตร แต่ผมเปลี่ยนตัวเองเป็นพ่อค้าขายของครับ ทุกคนในครอบครัวรวมทั้งญาติๆต่างพากันค้าขายทั้งหมดแล้วครับ โดยเฉพาะกลุ่มญาติใกล้ๆกัน
>หมายเหตุ ลืมไปครับ ในพื้นที่เขตอำเภอที่ผมอาศัยอยู่ ครอบครัวที่ทำเกษตร ภรรยาทิ้งสามีและลูกไปหลายครอบครัวแล้วครับ
>>>ช่วงอดีตที่ผ่านมา ตระกูลผมยังไม่ได้แบ่งสมบัติกันมีที่ดินก็ให้ทำมาหากินกันไปก่อน คุณย่าให้คุณพ่อผมทำไปก่อนโดยให้ที่ดินไปดูแลก่อน 70 ไร่ โดยคุณพ่อผมท่าน แบ่งทำสวน 10 ไร่ เลี้ยงปลา 10 ไร่ ทำนา 50 ไร่ โดยมีผมเป็นพี่คนโตและน้องชายคนสุดท้อง จบแค่ประถมต้องออกจากโรงเรียนทั้งสองคน ด้วยพ่อแม่คิดว่าจะให้เราสองคนพี่น้องมาช่วย คิดว่าทำเกษตรน่าจะไปไหว (ตอนหลังคุณแม่ผมร้องไห้บ่อยมาก ท่านพูดว่าเสียใจจริงๆที่ให้ลูกออกมาช่วยทำนาทำสวน)
>ความลำบากเวลาทำเกษตร >ผมต้องตื่นก่อนสว่างเพื่อไปหาปลาในคลองมากิน ผมไถนาเอง คราดนาเอง ทุบนา หว่านข้าว ฉีดยาข้าว จนไปถึงขั้นตอนเก็บเกี่ยว >ลำบากมาก เวลาลงไปในท้องนาดินจะอัดเข้าไปในเล็บเท้า ปวดเล็บเท้ามาก เวลาลงไปไถนาน้ำในท้องนาร้อนมากค่อนข้างจะทรมานทีเดียว เวลาสะพายถังฉีดยา(ถังสแตนเลส)สายสะพายรัดบ่าจนเจ็บทรมานมาก และเวลาเก็บเกี่ยวข้าวหลายครั้งข้าวโดนฝนจนข้าวเน่าขายไม่ได้ราคา และมีอยู่ปีหนึ่งเรากู้เงินมาลงทุนเต็มที่ ทั้งนา สวน เลี้ยงปลา อยู่ๆน้ำมา ทั้งนา สวน บ่อปลาเสียหายหมด ต้องทำใช้หนี้ไปอีกหลายปี
เวลาทำสวน เอาง่ายๆเลยผมถือจอบไปฟื้นดิน รู้ไหมว่ากว่าจะได้พื้นที่เพาะปลูกได้ ต้องฟื้นดินจนมือระบมไปหมด ร้อนก็ร้อน กลางคืนผมก็ยังคัดเลือกต้นกล้าต่างๆที่ปลูกกันจนดึก(เช่น พริก จากแปลงเพาะชำ) ผมเคยปลูกผักมาสารพัดชนิด เช่น ฟักทอง แตง ถั่ว พริก ข้าวโพด และผักอื่นๆอีกหลายชนิด แม้แต่ไม้ยืนต้น ก็เคยปลูกมาหลายชนิดแล้ว จริงๆแล้ว คุณพ่อผม ตัวผมเอง น้องชาย พวกเราจัดว่าเป็นคนแข็งแรงมาก ชนิดที่เรียกว่า อึดแบบ 24 ชั่วโมงเลยครับ แต่สรุปแล้ว พวกเราก็ต้องพากันเลิกอาชีพเกษตรทั้งหมด ลำบากสุดๆเลย
>ผมจะบอกให้ ถ้าใครพาภรรยามาทำด้วย ระวังคุณเธอจะขอเลิกกับคุณแน่ๆ น้องชายผมก็โดนมา พอแต่งงานเสร็จผู้หญิงมาช่วยทำเกษตรแค่ปีเดียว คุณเธอยื่นคำขาดเลย "จะขอเลิก" น้องผมจึงต้องให้ภรรยาไปทำงานที่โรงงานแทน และทุกวันนี้ผมก็ยังอยู่ในพื้นที่เกษตร แต่ผมเปลี่ยนตัวเองเป็นพ่อค้าขายของครับ ทุกคนในครอบครัวรวมทั้งญาติๆต่างพากันค้าขายทั้งหมดแล้วครับ โดยเฉพาะกลุ่มญาติใกล้ๆกัน
>หมายเหตุ ลืมไปครับ ในพื้นที่เขตอำเภอที่ผมอาศัยอยู่ ครอบครัวที่ทำเกษตร ภรรยาทิ้งสามีและลูกไปหลายครอบครัวแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ที่ต่างจังหวัด ยุคนี้อยู่รอดไหมครับ
เพื่อนมีที่ไร่ ที่สวน อยู่บ้าง แต่ไม่เยอะ กะจะไปปลูกผัก เลี้ยงไก่ ตามที่เคยเห็นในโลกอินเตอร์เน็ตเขาลงข่าวกัน
เพื่อนมีลูก 2 คน ผมก็ลองคิดดูเล่นๆ ว่าเด็กสมัยนี้ใช้เงินมากรึป่าว
ถ้าจะไม่ให้ลูกเล่นเกมส์ เล่นเน็ต หรืออื่นๆ ตามที่เด็กสมัยนี้ทำกัน จะได้หรือไม่
แล้วค่าใช้จ่าย ตอนเข้าโรงเรียน หรือเข้ามหาลัยในอนาคตอีก เดี๋ยวนี้ถึงจะเป็นมหาลัยรัฐ ค่าเทอมก็ไม่ใช่จะถูกๆ
ค่าอยู่ ค่ากิน ใช้จ่ายอื่นๆ อีกเยอะแยะ
เพราะเกษตรที่ทำถ้าไม่ได้ทำเยอะ ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจแบบเอาไว้ขาย ทำเอาไว้แค่กิน แค่อยู่
จะอยู่ได้หรือไม่ครับ?? ผมกำลังคิดว่าถ้ามีตัวคนเดียว ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้ามีลูก นี่ผมมองไม่ออกว่าอยู่ได้หรือไม่ เพราะคนมีลูกก็น่าจะอยากให้ลูกได้เข้าศึกษาในสถานศึกษาและสถานที่ที่ดี
เห็นหลายคนย้ายไปทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ อยู่ที่บ้าน แบบพอเพียง ตามที่แชร์ในโลกโชเชียล ดูมีความสุขกัน
มีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้กันไหมครับ ??