สวัสดีค่ะ เราเองจากกระทู้ที่เคยเล่าประสบการณ์การเรียน MBA ที่ Oxford นะคะ (
https://pantip.com/topic/36538764) วันนี้อยากจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของเราที่เคยเรียนม.ปลายและปริญญาตรีที่ประเทศสิงคโปร์ เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ รวมทั้งน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ และผู้ปกครองด้วยค่ะ ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าเป็นการเล่าจากความทรงจำ เราไปสิงคโปร์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วนะคะ (แฮ่ รู้อายุเลย ^^’) ดังนั้นเรื่องข้อมูลหรือหลักสูตรอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และหากมีข้อผิดพลาดประการใดหรือข้อมูลที่คาดเคลื่อนประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ กระทู้นี้อาจจะไม่มีรูปเยอะเหมือนในกระทู้ที่แล้วนะคะ เพราะเราหารูปเก่าๆไม่เจอค่ะ (และตึกเรียนมันไม่ได้สวยขนาดนั้น 555) และเราพยายามเรียบเรียงเนื้อหาตามหัวข้อ หากท่านใดไม่ได้สนใจหัวข้อไหนก็จะได้สามารถอ่านข้ามๆได้ค่ะ
ส่วนที่อยากจะมาเล่านี่ก็เพราะในกระทู้ที่แล้วของเรา มีเพื่อนสมาชิกพันทิปท่านนึงได้มาถามเกี่ยวกับประวัติการเรียนของเราก่อนไป Oxford ซึ่งเราได้ตอบไปคร่าวๆเลยได้โอกาสระลึกถึงความหลัง ส่วนตัวเราต้องขอบคุณประเทศสิงคโปร์เลยที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ (ถึงจะเสียน้ำตากับมันไปหลายปี๊บก็เถอะ) และระบบการศึกษาของประเทศสิงคโปร์มีหลายอย่างที่เราเห็นว่าดีมากๆอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ฟัง นอกจากนี้ครอบครัวก็สนับสนุนให้มาถ่ายทอดด้วยค่ะ เค้าบอกว่ามันน่าสนใจดี ไม่ได้น่าเบื่อ ก็ไม่รู้ว่าเราโดนหลอกรึเปล่า เอาเป็นว่าให้คนอ่านตัดสินใจแล้วกันนะคะ 555 หากท่านใดต้องการจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือสอบถาม ก็คอมเม้นท์หรือหลังไมค์มาได้เลยนะคะ 😊
ก่อนไปเรียนที่สิงคโปร์
เราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เกิดและโตที่ต่างจังหวัด เรียนที่โรงเรียนไทยมาตลอด แต่โชคดีมากที่ครอบครัวเห็นการสำคัญของการศึกษา คุณแม่เลือกโรงเรียนอนุบาลและประถมที่มาตรฐานวิชาการที่ดีมากให้ มีคุณครูหลายๆท่านที่สอนดีเป็นที่เลื่องลือ และเรารู้สึกขอบพระคุณจนมาถึงทุกวันนี้ค่ะ พอจบประถมเราก็ไปเข้าโรงเรียนเครือสาธิตในจังหวัดที่เราอยู่ ซึ่งเราคิดว่าเป็นโรงเรียนที่ดีมาก มีสอนวิชาเลือกสนุกๆหลายอย่าง เราได้เรียนทำเครื่องหนัง ทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ (เล่าให้คนต่างชาติฟังนี่ตื่นเต้นกันมาก 55) แล้วก็เน้นความคิดสร้างสรรค์ การทำกิจกรรม ความกล้าแสดงออก เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง (ยุคนั้นน่าจะกำลังฮิต) แสดงละครหน้าห้องนี่บ่อยมาก ซึ่งเราว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากในการทำให้เป็นคนกล้าคิดกล้าทำ มีมนุษยสัมพันธ์ ทำงานกับคนอื่นเป็น ส่วนเพื่อนๆก็น่ารักมาก อาจารย์ใจดี ทำให้ไม่เครียดเรื่องเรียนเลยค่ะ และไม่เคยเรียนพิเศษเลยจนจบม.ต้น ระหว่างเรียนเราก็ทำกิจกรรม สมัครพวกโครงการต่างๆ และพวกค่ายวิชาการกับค่ายกิจกรรมช่วงปิดเทอมค่ะ
พอขึ้นม.ปลายนี่เริ่มเครียดแล้วเพราะเราเรียนสายวิทย์ และทำกิจกรรมเยอะไปหน่อย 555 เริ่มคะแนนตก และรู้สึกกดดันว่าต้องเรียนพิเศษเพราะใครๆเค้าก็เรียนกัน ถ้าไม่เรียนก็ตามไม่ทันเพื่อน แต่ก็เกรงใจคุณแม่ที่ต้องคอยไปรับไปส่งดึกๆ ประกอบกับคุณพ่อคุณแม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องทุนสิงคโปร์มา ก็เลยแนะนำให้เราสมัครค่ะ จำได้ว่ามีใครซักคนบอกเราด้วยว่าที่สิงคโปร์ไม่มีเรียนพิเศษ อันนี้ผิดนะคะ ที่สิงคโปร์ก็เรียนพิเศษกันเป็นล่ำเป็นสันมากค่ะ แต่ถ้าไม่เรียนก็ได้ เพราะคุณครูที่โรงเรียนก็ยินดีสอนเพิ่มเติมให้ตลอดถ้าเรามีปัญหาค่ะ
เล่าประสบการณ์การเรียนม.ปลายและปริญญาตรีที่สิงคโปร์
ส่วนที่อยากจะมาเล่านี่ก็เพราะในกระทู้ที่แล้วของเรา มีเพื่อนสมาชิกพันทิปท่านนึงได้มาถามเกี่ยวกับประวัติการเรียนของเราก่อนไป Oxford ซึ่งเราได้ตอบไปคร่าวๆเลยได้โอกาสระลึกถึงความหลัง ส่วนตัวเราต้องขอบคุณประเทศสิงคโปร์เลยที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ (ถึงจะเสียน้ำตากับมันไปหลายปี๊บก็เถอะ) และระบบการศึกษาของประเทศสิงคโปร์มีหลายอย่างที่เราเห็นว่าดีมากๆอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ฟัง นอกจากนี้ครอบครัวก็สนับสนุนให้มาถ่ายทอดด้วยค่ะ เค้าบอกว่ามันน่าสนใจดี ไม่ได้น่าเบื่อ ก็ไม่รู้ว่าเราโดนหลอกรึเปล่า เอาเป็นว่าให้คนอ่านตัดสินใจแล้วกันนะคะ 555 หากท่านใดต้องการจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือสอบถาม ก็คอมเม้นท์หรือหลังไมค์มาได้เลยนะคะ 😊
ก่อนไปเรียนที่สิงคโปร์
เราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เกิดและโตที่ต่างจังหวัด เรียนที่โรงเรียนไทยมาตลอด แต่โชคดีมากที่ครอบครัวเห็นการสำคัญของการศึกษา คุณแม่เลือกโรงเรียนอนุบาลและประถมที่มาตรฐานวิชาการที่ดีมากให้ มีคุณครูหลายๆท่านที่สอนดีเป็นที่เลื่องลือ และเรารู้สึกขอบพระคุณจนมาถึงทุกวันนี้ค่ะ พอจบประถมเราก็ไปเข้าโรงเรียนเครือสาธิตในจังหวัดที่เราอยู่ ซึ่งเราคิดว่าเป็นโรงเรียนที่ดีมาก มีสอนวิชาเลือกสนุกๆหลายอย่าง เราได้เรียนทำเครื่องหนัง ทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ (เล่าให้คนต่างชาติฟังนี่ตื่นเต้นกันมาก 55) แล้วก็เน้นความคิดสร้างสรรค์ การทำกิจกรรม ความกล้าแสดงออก เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง (ยุคนั้นน่าจะกำลังฮิต) แสดงละครหน้าห้องนี่บ่อยมาก ซึ่งเราว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากในการทำให้เป็นคนกล้าคิดกล้าทำ มีมนุษยสัมพันธ์ ทำงานกับคนอื่นเป็น ส่วนเพื่อนๆก็น่ารักมาก อาจารย์ใจดี ทำให้ไม่เครียดเรื่องเรียนเลยค่ะ และไม่เคยเรียนพิเศษเลยจนจบม.ต้น ระหว่างเรียนเราก็ทำกิจกรรม สมัครพวกโครงการต่างๆ และพวกค่ายวิชาการกับค่ายกิจกรรมช่วงปิดเทอมค่ะ
พอขึ้นม.ปลายนี่เริ่มเครียดแล้วเพราะเราเรียนสายวิทย์ และทำกิจกรรมเยอะไปหน่อย 555 เริ่มคะแนนตก และรู้สึกกดดันว่าต้องเรียนพิเศษเพราะใครๆเค้าก็เรียนกัน ถ้าไม่เรียนก็ตามไม่ทันเพื่อน แต่ก็เกรงใจคุณแม่ที่ต้องคอยไปรับไปส่งดึกๆ ประกอบกับคุณพ่อคุณแม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องทุนสิงคโปร์มา ก็เลยแนะนำให้เราสมัครค่ะ จำได้ว่ามีใครซักคนบอกเราด้วยว่าที่สิงคโปร์ไม่มีเรียนพิเศษ อันนี้ผิดนะคะ ที่สิงคโปร์ก็เรียนพิเศษกันเป็นล่ำเป็นสันมากค่ะ แต่ถ้าไม่เรียนก็ได้ เพราะคุณครูที่โรงเรียนก็ยินดีสอนเพิ่มเติมให้ตลอดถ้าเรามีปัญหาค่ะ