Jiroj Tony Suwanpanich a partagé la vidéo de openbooks.
6 septembre, 20:23
"แรกเริ่มเข้าตลาดแอฟริกา สินค้าจีนราคาถูกตีสินค้าไทยกระจุย
ต่อมาคนรู้ไส้ใน สินค้าไทยจึงผงาดขึ้นอีกครั้ง"
ปัญหาตัดราคาล่ามนักแปล และทางแก้ไข
1 พวกเราคนกันเองเสนองานราคาต่ำ คุณภาพแย่ ลูกค้าไม่เชื่อถือ ต่อไปราคาจะต่ำลงติดดิน ตายกันทุกคน คนที่มีที่ทางก็ย้ายออกจากวงการ ส่วนคนที่ทั้งชีวิตทำแต่งานล่ามงานแปลก็ทนรับราคาต่ำๆต่อไป ยกเว้นคนทำงานคุณภาพดี ลูกค้าเชื่อใจ ถึงไปหาคนทำงานราคาถูก แต่ถ้าผลงานไม่ดีก็กลับมาเอง
คำถามก็คือ ทำไมล่ามนักแปลซึ่งเติบโตมาในวงการนี้ ใช้อาชีพนี้หากิน เลี้ยงดูครอบครัว ต้องมายอมให้ตัวเอง ให้คนอื่นทำลายวงการ ทำลายอาชีพ เลิกรับได้ไม๊งานราคาถูกน่ะ กดโพสรายงานแอดมินกลุ่มเวลามีคนเสนองานราคาถูก แบนคนเสนองานราคาและคนรับงานราคาถูกออกจากกลุ่มได้ไม๊ เลิกเป็นวัวเป็นควายให้เค้าแล่เนื้อเถือหนังสักที
2 ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ มีเนทติดต่อกันง่ายขึ้น ลูกค้าประหยัดอยากได้ของถูก เด็กจบใหม่อยากได้ค่าขนม คนตกงานไม่รู้จะทำอะไรแต่พอมีพื้นภาษาอังกฤษบ้าง เลยมารับงานล่ามงานแปล ซึ่งก็ไม่ผิดนะ ถ้าไม่มาตัดราคากันเอง และที่สำคัญรับงานที่พอเหมาะกับความสามารถตัวเอง บางทีรับงานยากๆ ด้วยราคาต่ำๆ เพื่อกันคนอื่นสุดท้ายทำงานแย่ ลูกค้าไม่เชื่อถือล่าม ต่อไปกดราคาลงกว่าเดิมอีก (เหียก) เกลียดนักเชียวพวกโง่ๆอ้างกลไกตลาด มือที่มองไม่เห็น นั่นมันทฤษฏีเศรษฐศาตร์ตกยุคอดัม สมิธ ที่ประเทศรวยๆอ้างเพื่อไปเอาทรัพยากรประเทศจนกว่าต่างหาก ที่จริงๆแล้วโอเปคมันก็ฮั้วกันพยุงราคาน้ำมัน ญี่ปุ่นก็ปกป้องดูแลชาวนาเค้า เลิกโง่ เลิกอ้างได้แล้ว แหกตาดูบ้างว่าตัดราคาต่ำรับงาน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับวงการ
สรุปง่ายๆ งานน้อย คนทำเยอะ คำตอบก็ง่ายๆ แทนที่รับงานจับฉ่ายไปหมด รับเฉพาะงานที่มั่นใจ ทำได้แน่นอน งานที่ถนัด ที่ชอบได้ไม๊ ยกตัวอย่าง ผมทำล่ามอุตสาหกรรม เทคนิค วิศวกรรม หรือล่ามศาลก็พอได้ แต่ให้ไปล่ามกฏหมาย หรือด้านแพทย์ลึกๆ ก็ทำไม่ได้หรอกนะ ปวดหัว ต้องเตรียมตัวนาน (แต่ครูบาอาจารย์ล่ามนักแปลหลายๆท่านทำได้นะ จบรัฐศาสตร์มาแต่ไปล่ามผ่าตัดหัวใจ สนธิสัญญานิวเคลียร์ ท่านสะสมกำลังภายในทักษะวิชาชีพมาเยอะ ต่อยอด เรียนรู้ได้ไว) เลยทำแค่ล่ามอุตสาหกรรม ล่ามวิศวะแทน ขณะเดียวกันในฟิลด์ล่ามวิศวะ ก็มีทั้ง วิศวะคอม โยธา โรงงาน เยอะแยะตาแป๊ะไก่ กว่า 19 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาก็มีศาสตร์ลงลึกของตัวเอง ซึ่งผมก็ไม่ถนัดทั้งหมดหรอกนะ .... สรุปง่ายๆ(อีกที) ความหลากหลายคือคำตอบ ใครชอบงานล่ามด้านไหน งานแปลด้านไหน (ธุรกิจ บันเทิงคดี บัญชี ท่องเที่ยว ภาษี แพทย์ วิทยานิพนธ์ เทคนิค อื่นๆ) ก็ไปทำในสิ่งที่ชอบๆเถอะ สะสมฝีมือความชำนาญ รับรองถ้าเด่นในฟิลด์ของตัวเองจริงๆ ลูกค้าไม่ไปไหนแน่ ติดใจเรา เกาะเราแน่นเลย อีกอย่างทำงานที่เราชอบ ยิ่งทำก็ยิ่งสนุก อยากให้ผลงานออกมาดี ตรวจแล้วตรวจอีก แก้แล้วแก้อีก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึก “แหมมม๋ ใครมาแปลนะ แปลได้เก่ง ใช้ภาษาได้เพริศแพร้วพรรณราย เภตราภาวดีเหลือเกิน” เมื่อนั้นแหละ ลูกค้าได้ผลงานที่ดี ล่ามรับงานราคาดี กำไรทุกฝ่าย (ยกเว้น ล่ามเหียกๆรับมันทุกงาน ผลงานรับประกัน(ห่วย)ทุกงานเช่นกัน)
3. เคยไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว หลงทาง เจอคนท้องถิ่นอยากเข้าไปถาม แต่เค้าไม่พูดภาษาเราไม๊ แล้ว ณ จุดนั้นมันมีล่ามหรือนักแปลคนไหนให้ถามได้ง่ายๆบ้าง .... ถ้ามีเครื่องมือที่เราพูดภาษาไทย แต่เค้าได้ยินเป็นภาษาเค้าเองล่ะ ... แล้วเวลาเค้าพูดตอบกลับมาเป็นภาษาเค้าเอง แต่เรากลับได้ยินเป็นภาษาไทย อืมมมมม เครื่องมือแบบนี้มีแล้วนะ เพียงแต่ตัวแผงวงจรชิบสมองกลยังไม่สามารถเข้าใจโครงสร้างทางภาษาที่ซับซ้อนได้ แต่ในอนาคตอันไม่นาน 10-20 ปีนี้ ถ้า AI สมองกลถูกพัฒนาขึ้น ใช้แพร่หลายจนเกร่อ เหมือนที่โทรศัพท์มือถือมาแทนโทรศัพท์บ้านล่ะ ไอ้เครื่องแบบนี้มันออกมาแน่ เพราะอะไร เพราะอย่างแรก คนชอบ

อยากรู้โน่นรู้นี่ไปหมด แสวงหาสิ่งต่างๆ ของกินใส่เข้าปากยิ่งชอบ สอง มูลค่าธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลก ย้ำ ทั่วโลก มันสูงมากน่ะสิ สูงจนยั่วยวนใจให้พวกสตาร์ตอัพทั้งหลายเอา AI ที่พัฒนาขึ้นมาทำแอปเอิ๊ป แก้ปัญหาการสื่อสาร ชิงส่วนแบ่งทางการตลาดใหญ่ก้อนนี้ เงินมันจ้างผีโม่แป้งได้ทั้งนั้นแหละ เด็กๆเค้าไฟแรงด้วยแหละ ลองคิดดูโลกที่ไร้พรมแดนทางภาษาสิ แล้วในที่สุดไอ้เครื่องมืออันนี้มันก็จะถูกพัฒนาให้ฉลาดขึ้น ลึกซึ้งขึ้น เรียนรู้ได้ไวขึ้น และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเล็กๆอย่างล่ามและนักแปลในที่สุด ถึงตอนนั้นก็ปิดฝาโรง แยกย้ายตัวใครตัวมัน เอาไงดีล่ะ
คำตอบเดิม ความหลากหลายคือคำตอบ ทำอะไรที่เราชอบ สร้างเป็นจุดแข็ง นำเสนอสู่ผู้คน ยุคนี้ ปัจจุบันนี้ ยุคที่ความหลากหลายสามารถเข้าถึงได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ การที่ล่ามและนักแปลรู้ภาษาอังกฤษแค่นี้ก็ได้เปรียบคนทั่วไปแล้ว เพียงแต่อย่าจำกัดตัวเองแค่อาชีพล่ามและนักแปล ออกไปดูโลก เริ่มจากสิ่งที่ชอบ ค้นลึก ค้นคิดติดตาม ทำอะไรที่เราชอบ เราสนใจ อะไรที่เป็นตัวตนของเราจริงๆ ... นั่นแหละ ที่ทางใหม่ หนทางใหม่ อาชีพใหม่ของเรา
4. สรุป ปัญหาในวันนี้มาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ที่เราต่างก็ใช้ประโยชน์และรับความซวยจากมันไปพร้อมๆกัน และที่สำคัญยิ่งกว่า คือมาจากการไม่รู้จักตัวเราดีพอ การวางตัวเอง การมีที่ทางของตัวเองในยุคที่เปลี่ยนไป .... ถ้าเราไม่แก้ปัญหาในวันนี้ แล้วเตรียมรับปัญหาในอนาคต .... ตายหยังเขียด ... มาช่วยกันแก้ไข ทั้งในส่วนตัว (ไม่รับงานราคาถูก) และส่วนรวม (กดรายงานโพสเสนองานราคาถูก แบนทั้งคนเสนอคนรับออกจากกลุ่ม) ระยะสั้น (เป็นล่ามนักแปลเฉพาะทาง) และระยะยาว (หาอาชีพที่ทางใหม่จากสิ่งที่ชอบผ่านการเชื่อมต่อของโลก) เพื่อวงการเพื่ออาชีพล่ามนักแปลเราเถิด
ผมเริ่มทำแล้ว งานแปลงานล่ามค่าจ้างราคาถั่วต้มผมไม่รับอยู่แล้ว ทำแล้วไม่คุ้มค่าเหนื่อย ทำอะไรชุ่ยๆเหียกๆก็ทำไม่เป็นด้วย พองานน้อยมีเวลาว่าง ตอนเช้าๆผมหัดนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฝรั่ง ลองแปลเป็นไทยดูซิ อืมมม จากที่ผมรับแต่งานล่ามหนีงานแปลนั่งโต๊ะมาตลอด พอลองแปลหัวข่าวก็สนุกดี เป็นภาษาที่ใช้คำสั้นๆ แต่มีสีสรรดี ใช้ปฏิธานไหวพริบในการแปล เช่น คำว่า edge เฉือน(เอาชนะ) mull พิจารณา launch เริ่ม, เปิดตัว, เดินหน้า potemkin จัดฉาก spoonerism คำผวน ใหม่ๆก็ฝืนฝืด พอทำไปชักคล่อง หนุกดี ตื่นเช้ามาต้องแปลหัวข่าวก่อนเลย แต่ก็ไม่รับงานแปลราคาถั่วต้มหรอกนะ คือรู้ไง งานแปลดีๆนี่เหมือนเจียรนัยเพชรเลย มิน่าครูอาจารย์ล่ามนักแปลเลยคิดค่าแปลคำละ 3-4 บาทได้ ซึ่งคิดดูแล้วถูกไปด้วยซ้ำ
สายๆ ว่างๆ ผมก็นั่งดูชาวโลกเค้าทำอะไรกันบ้าง startup youtuber มันคืออะไร ทำไปทำไม ไอ้หมาก สากกะเบือ มันคิดอะไรอยู่ อะไรที่อยากรู้ ที่ผมชอบ(ซูชิ) ผมค้นกูเกิ้ล ยูทูปให้เปรอะไปหมด ลองทำคลิปแบบที่เด็กๆเค้าทำ แล้วโพสบนเพจดูมาเล่า เพจส่วนตัว หรือที่มาโพสในกลุ่มล่ามนักแปลแหละ ก็ยังไม่รู้ชัดหรอกนะจะหาเงินจากสิ่งนี้ได้ยังไง รู้แต่ เออ ไม่มีงาน แต่ไม่เหงาเลย มีอะไรทำเยอะแยะไปหมด มันส์ๆ ฮาๆ สนุกกว่าไปรับงานล่ามวันละหมื่นแต่ไม่ต้องทำอะไรได้แต่นั่งล้วงแคะแกะเกาะไปวันๆด้วย เหมือนเด็กๆน่ะ เด็กน้อยเข้าโรงเรียนอีกครั้งมั้ง นี่ว่าจะเรียนคอร์สล่ามนักแปลออนไลน์ของครูเอ๋ด้วย ไม่แพงเลย ความรู้ต่างๆมันหาง่ายกว่าเมื่อก่อน ลองออกจากไข่(ไม่ใช่กะลานะ) เหมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆเจาะไข่มาดูโลกสนุกบ้างๆ ยังมีเวลาอีก 5-10 ปีเตรียมตัวรอรับอนาคตนะ แถมท้ายคลิปปัญหาอนาคตสั้นๆ 5 นาที ฟังแล้วเจ็บแปล๊บเลย ลองกดฟังดูครับ
https://www.facebook.com/englishthaitranslator/posts/854558941373227 ---
ที่จริงมีต่อด้วยคลิปของคุณ ภิญโญ ไตรสุริยะธรรมา บก ประจำ สนพ โอเพ็นบุ๊คส์ ด้วย
ลองคลิกจาก เฟศบุ๊ค ชมกันนะครับ
ไปเจอบทความเกี่ยวกับรายได้ของการทำงานแปลและล่ามที่น่าสนใจ เลยอนุญาตเอามาฝากครับ
6 septembre, 20:23
"แรกเริ่มเข้าตลาดแอฟริกา สินค้าจีนราคาถูกตีสินค้าไทยกระจุย
ต่อมาคนรู้ไส้ใน สินค้าไทยจึงผงาดขึ้นอีกครั้ง"
ปัญหาตัดราคาล่ามนักแปล และทางแก้ไข
1 พวกเราคนกันเองเสนองานราคาต่ำ คุณภาพแย่ ลูกค้าไม่เชื่อถือ ต่อไปราคาจะต่ำลงติดดิน ตายกันทุกคน คนที่มีที่ทางก็ย้ายออกจากวงการ ส่วนคนที่ทั้งชีวิตทำแต่งานล่ามงานแปลก็ทนรับราคาต่ำๆต่อไป ยกเว้นคนทำงานคุณภาพดี ลูกค้าเชื่อใจ ถึงไปหาคนทำงานราคาถูก แต่ถ้าผลงานไม่ดีก็กลับมาเอง
คำถามก็คือ ทำไมล่ามนักแปลซึ่งเติบโตมาในวงการนี้ ใช้อาชีพนี้หากิน เลี้ยงดูครอบครัว ต้องมายอมให้ตัวเอง ให้คนอื่นทำลายวงการ ทำลายอาชีพ เลิกรับได้ไม๊งานราคาถูกน่ะ กดโพสรายงานแอดมินกลุ่มเวลามีคนเสนองานราคาถูก แบนคนเสนองานราคาและคนรับงานราคาถูกออกจากกลุ่มได้ไม๊ เลิกเป็นวัวเป็นควายให้เค้าแล่เนื้อเถือหนังสักที
2 ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ มีเนทติดต่อกันง่ายขึ้น ลูกค้าประหยัดอยากได้ของถูก เด็กจบใหม่อยากได้ค่าขนม คนตกงานไม่รู้จะทำอะไรแต่พอมีพื้นภาษาอังกฤษบ้าง เลยมารับงานล่ามงานแปล ซึ่งก็ไม่ผิดนะ ถ้าไม่มาตัดราคากันเอง และที่สำคัญรับงานที่พอเหมาะกับความสามารถตัวเอง บางทีรับงานยากๆ ด้วยราคาต่ำๆ เพื่อกันคนอื่นสุดท้ายทำงานแย่ ลูกค้าไม่เชื่อถือล่าม ต่อไปกดราคาลงกว่าเดิมอีก (เหียก) เกลียดนักเชียวพวกโง่ๆอ้างกลไกตลาด มือที่มองไม่เห็น นั่นมันทฤษฏีเศรษฐศาตร์ตกยุคอดัม สมิธ ที่ประเทศรวยๆอ้างเพื่อไปเอาทรัพยากรประเทศจนกว่าต่างหาก ที่จริงๆแล้วโอเปคมันก็ฮั้วกันพยุงราคาน้ำมัน ญี่ปุ่นก็ปกป้องดูแลชาวนาเค้า เลิกโง่ เลิกอ้างได้แล้ว แหกตาดูบ้างว่าตัดราคาต่ำรับงาน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับวงการ
สรุปง่ายๆ งานน้อย คนทำเยอะ คำตอบก็ง่ายๆ แทนที่รับงานจับฉ่ายไปหมด รับเฉพาะงานที่มั่นใจ ทำได้แน่นอน งานที่ถนัด ที่ชอบได้ไม๊ ยกตัวอย่าง ผมทำล่ามอุตสาหกรรม เทคนิค วิศวกรรม หรือล่ามศาลก็พอได้ แต่ให้ไปล่ามกฏหมาย หรือด้านแพทย์ลึกๆ ก็ทำไม่ได้หรอกนะ ปวดหัว ต้องเตรียมตัวนาน (แต่ครูบาอาจารย์ล่ามนักแปลหลายๆท่านทำได้นะ จบรัฐศาสตร์มาแต่ไปล่ามผ่าตัดหัวใจ สนธิสัญญานิวเคลียร์ ท่านสะสมกำลังภายในทักษะวิชาชีพมาเยอะ ต่อยอด เรียนรู้ได้ไว) เลยทำแค่ล่ามอุตสาหกรรม ล่ามวิศวะแทน ขณะเดียวกันในฟิลด์ล่ามวิศวะ ก็มีทั้ง วิศวะคอม โยธา โรงงาน เยอะแยะตาแป๊ะไก่ กว่า 19 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาก็มีศาสตร์ลงลึกของตัวเอง ซึ่งผมก็ไม่ถนัดทั้งหมดหรอกนะ .... สรุปง่ายๆ(อีกที) ความหลากหลายคือคำตอบ ใครชอบงานล่ามด้านไหน งานแปลด้านไหน (ธุรกิจ บันเทิงคดี บัญชี ท่องเที่ยว ภาษี แพทย์ วิทยานิพนธ์ เทคนิค อื่นๆ) ก็ไปทำในสิ่งที่ชอบๆเถอะ สะสมฝีมือความชำนาญ รับรองถ้าเด่นในฟิลด์ของตัวเองจริงๆ ลูกค้าไม่ไปไหนแน่ ติดใจเรา เกาะเราแน่นเลย อีกอย่างทำงานที่เราชอบ ยิ่งทำก็ยิ่งสนุก อยากให้ผลงานออกมาดี ตรวจแล้วตรวจอีก แก้แล้วแก้อีก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึก “แหมมม๋ ใครมาแปลนะ แปลได้เก่ง ใช้ภาษาได้เพริศแพร้วพรรณราย เภตราภาวดีเหลือเกิน” เมื่อนั้นแหละ ลูกค้าได้ผลงานที่ดี ล่ามรับงานราคาดี กำไรทุกฝ่าย (ยกเว้น ล่ามเหียกๆรับมันทุกงาน ผลงานรับประกัน(ห่วย)ทุกงานเช่นกัน)
3. เคยไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว หลงทาง เจอคนท้องถิ่นอยากเข้าไปถาม แต่เค้าไม่พูดภาษาเราไม๊ แล้ว ณ จุดนั้นมันมีล่ามหรือนักแปลคนไหนให้ถามได้ง่ายๆบ้าง .... ถ้ามีเครื่องมือที่เราพูดภาษาไทย แต่เค้าได้ยินเป็นภาษาเค้าเองล่ะ ... แล้วเวลาเค้าพูดตอบกลับมาเป็นภาษาเค้าเอง แต่เรากลับได้ยินเป็นภาษาไทย อืมมมมม เครื่องมือแบบนี้มีแล้วนะ เพียงแต่ตัวแผงวงจรชิบสมองกลยังไม่สามารถเข้าใจโครงสร้างทางภาษาที่ซับซ้อนได้ แต่ในอนาคตอันไม่นาน 10-20 ปีนี้ ถ้า AI สมองกลถูกพัฒนาขึ้น ใช้แพร่หลายจนเกร่อ เหมือนที่โทรศัพท์มือถือมาแทนโทรศัพท์บ้านล่ะ ไอ้เครื่องแบบนี้มันออกมาแน่ เพราะอะไร เพราะอย่างแรก คนชอบ
คำตอบเดิม ความหลากหลายคือคำตอบ ทำอะไรที่เราชอบ สร้างเป็นจุดแข็ง นำเสนอสู่ผู้คน ยุคนี้ ปัจจุบันนี้ ยุคที่ความหลากหลายสามารถเข้าถึงได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ การที่ล่ามและนักแปลรู้ภาษาอังกฤษแค่นี้ก็ได้เปรียบคนทั่วไปแล้ว เพียงแต่อย่าจำกัดตัวเองแค่อาชีพล่ามและนักแปล ออกไปดูโลก เริ่มจากสิ่งที่ชอบ ค้นลึก ค้นคิดติดตาม ทำอะไรที่เราชอบ เราสนใจ อะไรที่เป็นตัวตนของเราจริงๆ ... นั่นแหละ ที่ทางใหม่ หนทางใหม่ อาชีพใหม่ของเรา
4. สรุป ปัญหาในวันนี้มาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ที่เราต่างก็ใช้ประโยชน์และรับความซวยจากมันไปพร้อมๆกัน และที่สำคัญยิ่งกว่า คือมาจากการไม่รู้จักตัวเราดีพอ การวางตัวเอง การมีที่ทางของตัวเองในยุคที่เปลี่ยนไป .... ถ้าเราไม่แก้ปัญหาในวันนี้ แล้วเตรียมรับปัญหาในอนาคต .... ตายหยังเขียด ... มาช่วยกันแก้ไข ทั้งในส่วนตัว (ไม่รับงานราคาถูก) และส่วนรวม (กดรายงานโพสเสนองานราคาถูก แบนทั้งคนเสนอคนรับออกจากกลุ่ม) ระยะสั้น (เป็นล่ามนักแปลเฉพาะทาง) และระยะยาว (หาอาชีพที่ทางใหม่จากสิ่งที่ชอบผ่านการเชื่อมต่อของโลก) เพื่อวงการเพื่ออาชีพล่ามนักแปลเราเถิด
ผมเริ่มทำแล้ว งานแปลงานล่ามค่าจ้างราคาถั่วต้มผมไม่รับอยู่แล้ว ทำแล้วไม่คุ้มค่าเหนื่อย ทำอะไรชุ่ยๆเหียกๆก็ทำไม่เป็นด้วย พองานน้อยมีเวลาว่าง ตอนเช้าๆผมหัดนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฝรั่ง ลองแปลเป็นไทยดูซิ อืมมม จากที่ผมรับแต่งานล่ามหนีงานแปลนั่งโต๊ะมาตลอด พอลองแปลหัวข่าวก็สนุกดี เป็นภาษาที่ใช้คำสั้นๆ แต่มีสีสรรดี ใช้ปฏิธานไหวพริบในการแปล เช่น คำว่า edge เฉือน(เอาชนะ) mull พิจารณา launch เริ่ม, เปิดตัว, เดินหน้า potemkin จัดฉาก spoonerism คำผวน ใหม่ๆก็ฝืนฝืด พอทำไปชักคล่อง หนุกดี ตื่นเช้ามาต้องแปลหัวข่าวก่อนเลย แต่ก็ไม่รับงานแปลราคาถั่วต้มหรอกนะ คือรู้ไง งานแปลดีๆนี่เหมือนเจียรนัยเพชรเลย มิน่าครูอาจารย์ล่ามนักแปลเลยคิดค่าแปลคำละ 3-4 บาทได้ ซึ่งคิดดูแล้วถูกไปด้วยซ้ำ
สายๆ ว่างๆ ผมก็นั่งดูชาวโลกเค้าทำอะไรกันบ้าง startup youtuber มันคืออะไร ทำไปทำไม ไอ้หมาก สากกะเบือ มันคิดอะไรอยู่ อะไรที่อยากรู้ ที่ผมชอบ(ซูชิ) ผมค้นกูเกิ้ล ยูทูปให้เปรอะไปหมด ลองทำคลิปแบบที่เด็กๆเค้าทำ แล้วโพสบนเพจดูมาเล่า เพจส่วนตัว หรือที่มาโพสในกลุ่มล่ามนักแปลแหละ ก็ยังไม่รู้ชัดหรอกนะจะหาเงินจากสิ่งนี้ได้ยังไง รู้แต่ เออ ไม่มีงาน แต่ไม่เหงาเลย มีอะไรทำเยอะแยะไปหมด มันส์ๆ ฮาๆ สนุกกว่าไปรับงานล่ามวันละหมื่นแต่ไม่ต้องทำอะไรได้แต่นั่งล้วงแคะแกะเกาะไปวันๆด้วย เหมือนเด็กๆน่ะ เด็กน้อยเข้าโรงเรียนอีกครั้งมั้ง นี่ว่าจะเรียนคอร์สล่ามนักแปลออนไลน์ของครูเอ๋ด้วย ไม่แพงเลย ความรู้ต่างๆมันหาง่ายกว่าเมื่อก่อน ลองออกจากไข่(ไม่ใช่กะลานะ) เหมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆเจาะไข่มาดูโลกสนุกบ้างๆ ยังมีเวลาอีก 5-10 ปีเตรียมตัวรอรับอนาคตนะ แถมท้ายคลิปปัญหาอนาคตสั้นๆ 5 นาที ฟังแล้วเจ็บแปล๊บเลย ลองกดฟังดูครับ
https://www.facebook.com/englishthaitranslator/posts/854558941373227 ---
ที่จริงมีต่อด้วยคลิปของคุณ ภิญโญ ไตรสุริยะธรรมา บก ประจำ สนพ โอเพ็นบุ๊คส์ ด้วย
ลองคลิกจาก เฟศบุ๊ค ชมกันนะครับ