อย่าให้สายเกินไป (เธอจะเห็นไหม)

ผมมีเรื่องที่เจอมากับตัวอยากให้เป็นข้อคิดนะครับ
ตัวผมเมื่อ 8 เดือนที่แล้วได้รู้จักกับน้องคนนึงที่ทำงาน ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะเราก็ไม่ค่อยสนเรื่องแบบนี้ จนรู้ว่าน้องเค้าชอบอ่านมังงะก็เลยอยากแนะนำเรื่องที่สนุกๆให้ จนได้แลกเฟสกัน ตอนแรกผมก็ส่งลิ้งค์ไปให้แต่ก็เห็นน้องเค้าไม่สนใจ ก็เลยเลิกสนไป.
ผ่านไปได้สักพัก ผมก็นั่งเล่นเกมอยู่ตามปกติ(ประมาณตี2กว่า)จู่ๆน้องเค้าก็ทักมา ... ไอผมก็ก็งงว่าทักมามีอะไร สุดท้ายก็คือน้องเค้าทักมาระบายว่า เจอผู้ชายไม่ดีนิสัยเหี้*ๆ ก็เลยมาถามผมว่าผู้ชายทุกคนเป็นแบบนั้นหรอ (ไอเราก็ผู้ชายนะ) ผมก็เลยบอกว่าก็มีบ้างแหละ แต่ผู้ชายดีๆก็มีเยอะนะแค่ยังไม่เจอ
พอคุยไปได้ซักพักเหมือนน้องเค้าจะอารมย์ดีขึ้นก็เลยมาถามผมว่าทำอะไร ผมก็ว่าเล่นเกม จู่ๆน้องก็บอกว่าเล่นแต่เกมเสียสุขภาพหมด ก็เลยชวนผมไปวิ่งที่สวนออกกำลัง ...ไอเราก็ว่าง คิดว่าน้องเค้าคงอยากระบายต่อ ก็เลยตอบตกลงไป
วันต่อมาก็เลยได้ไปวิ่งกับน้องเค้า น้องนัดไว้เย็น เราก็เลยไปตั้งแต่ 5 โมงได้ สุดท้ายน้องเล่นมา6โมงซะงั้น อมยิ้ม24
เราก็วิ่งไปได้ซักพักน้องก็เริ่มพูดระบายอีกและ(ดราม่าจัดเลย) แต่ผมเห็นตอนที่น้องทำหน้าเศร้าก็เลยพยายามหาเรื่องคุยให้ขำ พอได้เห็นน้องเค้ายิ้มเท่านั้นแหละ (น่ารักมากกก) ระหว่างนั้นพอใกล้กลับ เราก็เลยไปเต้นแอโรบิคกัน (คนน้อยมากมี 5-6คน อายมาก 555+) พอใกล้ค่ำผมก็เลยเสนอพาน้องไปส่งบ้านเค้า เค้าก็เลยกลับด้วยกัน ...
วันรุ่งขึ้น พอถึงที่ทำงานเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น เริ่มที่จะคุยกันในหลายๆเรื่อง จนเหมือนว่าจะสนิทกันมากขึ้น เป็นอย่างนี้ไปได้ซักพัก จนมันกลายเป็นว่าผมมีความสุข ผมยิ้ม เวลาที่อยู่กับน้องเค้า สุดท้ายตอนเลิกงานวันนึง ผมก็ได้ไปคุยกับน้องเค้าตรงๆ ผมพูดไม่ออกจนโดนน้องเค้าขู่ให้พูด(เขิลมากยืนใบ้กินเกือบ10นาที) ว่าชอบน้องเค้า น้องเค้าก็รับไว้แล้วก็บอกว่า ดูๆกันไปก่อนนะ...
แล้วเราก็เริ่มที่จะติดต่อกันมากขึ้น เวลาอยู่ที่ร้านก็จะคุยกันผ่านแชทเฟส กับไลนเท่านั้น (ประมาณว่านั่งตรงข้ามกันแต่ไม่พูดแล้วตอบในแชทอ่ะ)
เราเริ่มคุยกันได้ซักพักแล้วก็ได้ไปเที่ยวกัน
ที่แรกที่ได้ไปคือตลาดคนเดิน(ก็ตลาดแบบวางของขายไปเรื่อยอ่ะ)ตอนเดินคนมันก็เยอะอ่ะ ไอเราก็เดินตามไม่ค่อยทัน จนน้องเค้าพูดขึ้นว่า จับมือไว้ก็ได้นะ (ยิ้มเลยอ่ะ55+) ปล.ไม่ใช่ไม่แมนนะแต่กลัวน้องเค้ารู้สึกไม่ดีเลยไม่อยากจับตัวน้องเค้า แล้วเราก็เดินเที่ยงงานจนหมดได้พวงกุญแจมา 2 อันอมยิ้ม02 ชื่อ ไอบ้า กับไอสวย 55...
หลังจากนั้นเราก็เริ่มไปที่ต่างๆด้วยกัน เริ่มไปกินข้าวด้วยกันบ่อย จนกลายเป็นว่า....เราเริ่มมีช่วงเวลาด้วยกันมากมาย จนถึงช่วงนึงน้องเค้าบอกผมว่าตอนนี้ยังให้ผมเป็นแฟนไม่ได้ เพราะใจน้องเค้ายังติดอยู่กับแฟนเก่า จึงบอกว่าชอบหรือรักผมไม่ได้ ผมก็บอกไม่เป็นไร ผมเชื่อว่าช่วงเวลาที่มีด้วยกันมันจะข้ามอดีตไปได้  จนถึงช่วงที่น้องเค้าต้องไปสอบเรียนต่อมหาลัย (น้องเค้าอยากเป็นหมอ) ผมก็ตั้งใจจะช่วยเค้าเต็มที่ สุดท้ายก็ได้ไปกรุงเทพกับน้องเค้า 2 คน(ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกด้วยย) เป็นครั้งที่ผมออกจากจังหวัดที่อยู่ แต่มีความสุขมากที่ได้ไปกับน้องเค้า ตอนแรกหลังจากลงเคื่อง หลงทางครับ 55+ งงมากกรุงเทพหาโรงแรมไม่เจอ แถมไปถึงฝนตกด้วย ลงรถเมย์ผิดป้ายต้องวิ่งหลบฝนไปโรงแรมกัน ฮามาก 555+ พอไปถึงโรงแรม จอง2เตียงไว้กลายเป็นเตียงเดียวซะงั้น (ไม่น้าาาา) ระหว่างที่พักด้วยกัน อย่างที่เคยบอกน้องเค้าออกจะเกลียดผู้ชายที่คิดแต่เรื่องจะฟัน แถมน้องเค้าเคยเมาแล้วให้ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะแต่งงานด้วย 0..0 เราก็เลยนอนเล่นกันเฉยๆในห้อง(สาบานเลยครับ) ตลอดช่วงที่อยู่กรุงเทพน้องเค้าส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่กับเพื่อน เอาตรงๆก็น้อยใจนิดๆแต่เห็นว่าไม่ได้เจอเพื่อนมานานก็เลยไม่พูดอะไร จนถึงวันกลับ กลายเป็นว่าน้องเค้าไม่ได้จองไฟท์กลับไว้(ขามาผมจอง ส่วนขากลับน้องเค้าจะจองเอง) ช็อค ไปถึงเลยต้องรออยู๋สนามบินตั้งแต่2ทุ่ม ระหว่างน้องเค้าก็ปวดไมเกรนขึ้นมา บอกตรงๆตอนนั้นผมโกรทตัวเองที่ทำอะไรได้ไม่มาก เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นน้องเค้าร้องให้แบบจะๆ น้องเค้าร้องไห้ขอโทษที่ทำให้ผมมาติดอยู่สนามบินกับเค้า ผมบอกได้เลยตอนนั้นผมตัดสินใจเลยว่าไม่อยากเห็นหน้าตาแบบนั้นอีก สุดท้ายเราก็ได้กลับกันตอนไฟท์8โมงเช้า ....
หลังจากนั้นความสัมพันธ์เราเหมือนจะกำลังเดินไปได้ด้วยดี เราเริ่มคุยกันเรื่องอนาคต คุยเรื่องต่อไป จนมันมาถึงช่วงที่น้องเค้าต้องเตรียมสอบอีก(ที่ไปกรุงเทพสอบได้แต่ไม่ใช่เอกที่ต้องการ) เราก็เริ่มห่างกันเพราะน้องเค้าลาออกจากงาน เราเริ่มไม่มีเวลาให้กัน โดยส่วนตัวผมก็เข้าใจแล้วยอมรับว่าน้องเค้ากำลังพยายาม ผมก็เลยหันมาทุ่มเทกับงานมากขึ้น เพราะอยากเลื่อนต่ำแหน่งอยากให้ตัวเองดีพอกับน้องเค้า(ผมเป็นกุ๊กครับ)...
จนผ่านไปได้ประมาณ2เดือน น้องเค้าเริ่มแปลกไป การตอบแชทที่ปกติจะตอบ คำตอบเริ่มเปลี่ยน เริ่มไม่ตอบ จนผมเริ่มรู้สึกกังวล ....จนมาถึงที่สุดผมได้พูดคำที่อาจจะไม่ควรพูด... ว่า "น้องยังอยากให้พี่อยู่ด้วยไหม" เมื่อที่ถามคำถามนี้ เธอจะตอบเสมอว่าแล้วอยากอยู๋ด้วยกันไหมล่ะ หรือก็ที่อยู่เพราะว่าอยากไง... แต่มันกับกลายเป็นว่า "ขอคิดดูก่อน" ผมเริ่มร็สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างเลยไปหาน้องเค้าที่บ้าน ...
น้องเค้าออกมาเจอแล้วก็พูดกับผมว่า น้องขอโทษ น้องข้ามมันไม่ได้ น้องยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ น้องพยายามแล้ว แต่มันไม่ได้จริงๆ มันมีกำแพงที่กั้นใจน้องไว้ เราเลิกคบกันเถอะ ผมบอกได้เลยครับวินาทีนั้น ทุกอย่างมันเหมือนไม่มีอะไรเหลือ... ผมยอมรับไม่ได้กับเหตุผมแบบนั้น
จนวันต่อมาผมได้ไปหาเธออีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าเหตุผมอย่างนั้นหรอที่จบความสัมพันธ์ของเรา แต่คราวนี้ น้องเค้ากลับบอกว่า ตอนนี้มันมีอีกคนที่พยายามอยู่ แล้วเค้าพยายามได้ดีกว่าผม เค้าพยายามก้าวไปกับเธอ เธอบอกว่าผมไม่เคยทำให้เธอเห็นอนาคต ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกพึ่งพาได้...
จนสุดท้ายผมก็หายออกมา...แต่ผมก็มีเรื่องอยากจะบอกเธอ ผมไม่เคยบอกเธอบางเรื่อง ผมซื้อของขวัญวันเกิดไว้ให้แล้วเป็นเสื้อฮู้ดรูปไข่ขี้เกียจ กับกระดาษใบนึง กระดาษที่เป็นใบประวัตินักศึกษา ผมตั้งใจว่าจะบอกกับเธอในวันเกิดว่าจะกลับไปเรียนต่อเพื่อเธอ ผมติดต่อกับเพื่อนที่กรุงเทพไว้ ตั้งใจว่าปีหน้าจะย้ายไปทำงาน เพราะอยากไปอยู่กับเธอ ผมเตรียมทุกอย่างไว้แต่ไม่พูดไม่แสดงออก แต่มันก็สายไปแล้ว
.
.
.
ผมอยากบอกกับทุกคนนะครับ ว่าเวลาที่จะทำอะไรหรืออยากบอกอะไรอย่าเอาแต่มัวรีรอหรือหาเวลาที่เหมาะสม เพราะเวลานั้นเค้าอาจไม่ได้อยู๋เพื่อให้เราบอกแล้วก็ได้ เวลามีอะไรให้พูดกัน อย่าเอาแต่เก็บไว้นะครับ ผมเชื่อว่าคนที่รักกันเค้าจะพยายามปรับตัวเข้าหากัน เพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน....
.
.
.
ส่วนนี้เพราะน้องเค้าชอบอ่านกะท็บนพันทิปซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้นะครับว่าจะยังอ่านอยู๋ไหม แต่ถ้าเธอได้เห็นมันผมอยากบอกว่า...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่