จั่วหัวกระทู้แบบนี้ คงไม่ต้องอธิบายเนื้อหาอะไรมากมายนะครับ
เนื่องจาก จขกท. เองเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเช่นกัน และทาง จขกท. เองก็เล็งเห็นว่าในสมัยนี้ ทำไมการเรียนของนักเรียน, นักศึกษา ถึงได้เรียนกันเอาเป็นเอาตายแบบนี้สังเกตได้จากสถาบันติว, ที่เรียนพิเศษ ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย แถมรายได้ดีเสียด้วย เนื่องจากพ่อแม่, ผู้ปกครองเด็กในสมัยนี้ต้องการให้เด็กเก่งล้ำหน้าเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกัน
สมัยนี้เวลาไปไหนมาไหน ถ้าเจอเพื่อน ๆ หรือคนรู้จัก ถ้าเราไปกับลูกของเรา คำถามที่จะต้องมีการถามกันก็คือ
"วันนี้ไปเรียนพิเศษที่ไหนบ้าง"
ในความคิดของทาง จขกท. เอง มองว่าสมัยนี้ พ่อแม่ มีการตั้งความหวังไว้กับลูกของตนเองสูงมาก อยากให้ลูกเก่งล้ำหน้าคนอื่น อยากให้ลูกได้เรียนที่ดี ๆ อยากให้ลูกมีชื่อเสียง เพื่ออนาคตของลูก แต่ผมมองว่า ลึก ๆ พ่อแม่ อยากให้เป็นอย่างนี้เพราะจะได้ไปคุยกับเพือน ๆ ได้ว่า "เฮ้ย ลูกฉันเก่งนะ ได้เรียนที่ดี ๆ สอบได้ที่ 1 นะ" ทั้งนี้เพราะสังคมไทยจะมองว่า
"เด็กที่ดี เด็กที่เก่ง คือเด็กเรียนเก่ง" ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาให้เด็ก ๆ เรียน เรียน และก็เรียน ไม่ต้องทำอย่างอื่น เรียนอย่างเดียวเพื่อที่จะได้นำหน้าคนอื่น เด็กบางคนมัธยมแล้วยังช่วยงานบ้านพ่อแม่ไม่ได้เลย
ส่วนสาเหตุ จขกท. มองว่าในการแข่งขันในการหางานทำในสมัยนี้มันมีการแข่งขันกันสูง ยิ่งถ้าเป็นที่ทำงานที่มีเงินเดือนสูง สวัสดิการดี ยิ่งมีการแข่งกันสูงขึ้นไปอีก ขนาดก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งหนึ่งยังมีการประกาศรับเฉพาะนักศึกษาที่จบจากสถาบันที่กำหนดไว้เท่านั้น เพราะฉะนั้นทางพ่อแม่จึงเห็นว่าลูกต้องจบจากสถาบันดัง ๆ จึงมีโอกาสได้เข้าทำงาน สำหรับผมนี่แหละคือการเริ่มต้นความคิดที่ว่าลูกต้องจบจากสถาบันดัง ๆ เพราะมันไล่มาจากการรับคนเข้าทำงานของบริษัทต่าง ๆ กันเลยทีเดียว
คราวนี้ก็ไล่กันมาสิครับ อยากให้ลูกเข้าสถาบันดัง ๆ ระดับปริญญา ต้องเรียนมัธยมจากที่ไหนถึงจะเข้าได้ ไล่ต่อไปจะเข้ามัธยมที่ว่านี่จะต้องจบประถมที่ไหน จะเข้าประถมที่ดัง ๆ จะต้องมาจากอนุบาลที่ไหน เห็นหรือไม่ครับว่า อยากให้ลูกทำงานที่ดี ๆ พ่อแม่ถึงขั้นต้องวางแผนการศึกษาของลูกตั้งแต่อนุบาลกันเลยทีเดียว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องตลกนะครับ อันนี้เรื่องจริงเลย แล้วประเด็นอีกอยางคือการที่จะสอบเข้าโรงเรียนดัง ๆ นี่ข้อสอบที่ออกมามันออกเนื้อหาล้ำกว่าเรียนมาในหลักสูตรปกตินะครับ เช่นถ้าจะเข้ามัธยมต้นโรงเรียนดัง คุณจบประถมถ้าคิดจะเอาเนื้อหาแค่ ป.6 ไปสอบ คุณไม่มีทางติดแน่ ๆ เพราะเนื้อหา
ที่ออกข้อสอบอย่างน้อย ม.1 ขึ้นไป ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย เด็กต้องการเข้าไปเรียน ม.1 - ม.3 แต่ทางโรงเรียนนำข้อสอบในเนื้อหาของเด็ก ม.1 - ม.3 มาออกข้อสอบเพื่อคัดเด็กเข้าไปเรียนต้องแต่แรกแล้ว
เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ เด็ก ๆ ตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย ต้องเรียนพิเศษกันหมด เป็นเรื่องธรรมดากันไปเสียแล้ว ใครไม่เรียนพิเศษถือว่าแปลกและโอกาสที่จะสอบแข่งขันไปเรียนต่อหรือทำงานที่ดี ๆ ก็ยากขึ้นเช่นกัน เด็กบางคนเรียนพิเศษกันทุกวันเลิก 3-4 ทุ่มก็มี ทั้งที่ในสมัยก่อนสมัย จขกท. ยังเป็นนักเรียน คนที่เรียนพิเศษคือคนที่เรียนไม่ทันเพื่อน ใครไปเรียนพิเศษนี่น่าอายครับ เพราะแปลว่าไม่เก่ง เราเรียนพิเศษกันเพราะเราไม่เข้าใจเนื้อหาในห้องเรียนที่เรียนมา ไม่ใช่ในสมัยนี้ที่เรียนเพื่อให้ล้ำหน้าจากหลักสูตรปกติ
ที่มาเล่าให้ฟังนี่ ประเด็นคือระบบการศึกษาของไทยมันเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว พ่อแม่ที่ไม่อยากให้ลูกเรียนแบบบ้าคลั่งแบบนี้ก็มี แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะเราอยู่ในระบบนี้ สังคมแบบนี้ ถ้าเราสวนกระแสไม่ให้ลูกเราเรียนพิเศษ ลูกเราก็จะเสียโอกาสไปด้วย อยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องเข้าสู่ระบบนี้ แม้ว่าจะไม่ชอบก็ตาม เสาร์-อาทิตย์ พ่อแม่ต้องทำอะไรแล้ว คอยรับ-ส่งลูกเรียนพิเศษก็หมดแล้ว 1 วัน
ที่มาตั้งกระทู้เพื่ออยากทราบว่ามีพ่อแม่ที่มีแนวความคิดคล้าย ๆ กับทาง จขกท. หรือไม่ ที่มองว่าระบบการศึกษาไทยมันแย่ แต่ก็ต้องก็ทนเพื่ออนาคตของลูกเรา
ขอบคุณครับ
### คุณว่าเด็กไทย เรียนหนักเกินไปหรือไม่ ในปัจจุบันนี้ ###
เนื่องจาก จขกท. เองเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเช่นกัน และทาง จขกท. เองก็เล็งเห็นว่าในสมัยนี้ ทำไมการเรียนของนักเรียน, นักศึกษา ถึงได้เรียนกันเอาเป็นเอาตายแบบนี้สังเกตได้จากสถาบันติว, ที่เรียนพิเศษ ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย แถมรายได้ดีเสียด้วย เนื่องจากพ่อแม่, ผู้ปกครองเด็กในสมัยนี้ต้องการให้เด็กเก่งล้ำหน้าเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกัน
สมัยนี้เวลาไปไหนมาไหน ถ้าเจอเพื่อน ๆ หรือคนรู้จัก ถ้าเราไปกับลูกของเรา คำถามที่จะต้องมีการถามกันก็คือ "วันนี้ไปเรียนพิเศษที่ไหนบ้าง"
ในความคิดของทาง จขกท. เอง มองว่าสมัยนี้ พ่อแม่ มีการตั้งความหวังไว้กับลูกของตนเองสูงมาก อยากให้ลูกเก่งล้ำหน้าคนอื่น อยากให้ลูกได้เรียนที่ดี ๆ อยากให้ลูกมีชื่อเสียง เพื่ออนาคตของลูก แต่ผมมองว่า ลึก ๆ พ่อแม่ อยากให้เป็นอย่างนี้เพราะจะได้ไปคุยกับเพือน ๆ ได้ว่า "เฮ้ย ลูกฉันเก่งนะ ได้เรียนที่ดี ๆ สอบได้ที่ 1 นะ" ทั้งนี้เพราะสังคมไทยจะมองว่า "เด็กที่ดี เด็กที่เก่ง คือเด็กเรียนเก่ง" ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาให้เด็ก ๆ เรียน เรียน และก็เรียน ไม่ต้องทำอย่างอื่น เรียนอย่างเดียวเพื่อที่จะได้นำหน้าคนอื่น เด็กบางคนมัธยมแล้วยังช่วยงานบ้านพ่อแม่ไม่ได้เลย
ส่วนสาเหตุ จขกท. มองว่าในการแข่งขันในการหางานทำในสมัยนี้มันมีการแข่งขันกันสูง ยิ่งถ้าเป็นที่ทำงานที่มีเงินเดือนสูง สวัสดิการดี ยิ่งมีการแข่งกันสูงขึ้นไปอีก ขนาดก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งหนึ่งยังมีการประกาศรับเฉพาะนักศึกษาที่จบจากสถาบันที่กำหนดไว้เท่านั้น เพราะฉะนั้นทางพ่อแม่จึงเห็นว่าลูกต้องจบจากสถาบันดัง ๆ จึงมีโอกาสได้เข้าทำงาน สำหรับผมนี่แหละคือการเริ่มต้นความคิดที่ว่าลูกต้องจบจากสถาบันดัง ๆ เพราะมันไล่มาจากการรับคนเข้าทำงานของบริษัทต่าง ๆ กันเลยทีเดียว
คราวนี้ก็ไล่กันมาสิครับ อยากให้ลูกเข้าสถาบันดัง ๆ ระดับปริญญา ต้องเรียนมัธยมจากที่ไหนถึงจะเข้าได้ ไล่ต่อไปจะเข้ามัธยมที่ว่านี่จะต้องจบประถมที่ไหน จะเข้าประถมที่ดัง ๆ จะต้องมาจากอนุบาลที่ไหน เห็นหรือไม่ครับว่า อยากให้ลูกทำงานที่ดี ๆ พ่อแม่ถึงขั้นต้องวางแผนการศึกษาของลูกตั้งแต่อนุบาลกันเลยทีเดียว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องตลกนะครับ อันนี้เรื่องจริงเลย แล้วประเด็นอีกอยางคือการที่จะสอบเข้าโรงเรียนดัง ๆ นี่ข้อสอบที่ออกมามันออกเนื้อหาล้ำกว่าเรียนมาในหลักสูตรปกตินะครับ เช่นถ้าจะเข้ามัธยมต้นโรงเรียนดัง คุณจบประถมถ้าคิดจะเอาเนื้อหาแค่ ป.6 ไปสอบ คุณไม่มีทางติดแน่ ๆ เพราะเนื้อหา
ที่ออกข้อสอบอย่างน้อย ม.1 ขึ้นไป ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย เด็กต้องการเข้าไปเรียน ม.1 - ม.3 แต่ทางโรงเรียนนำข้อสอบในเนื้อหาของเด็ก ม.1 - ม.3 มาออกข้อสอบเพื่อคัดเด็กเข้าไปเรียนต้องแต่แรกแล้ว
เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ เด็ก ๆ ตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย ต้องเรียนพิเศษกันหมด เป็นเรื่องธรรมดากันไปเสียแล้ว ใครไม่เรียนพิเศษถือว่าแปลกและโอกาสที่จะสอบแข่งขันไปเรียนต่อหรือทำงานที่ดี ๆ ก็ยากขึ้นเช่นกัน เด็กบางคนเรียนพิเศษกันทุกวันเลิก 3-4 ทุ่มก็มี ทั้งที่ในสมัยก่อนสมัย จขกท. ยังเป็นนักเรียน คนที่เรียนพิเศษคือคนที่เรียนไม่ทันเพื่อน ใครไปเรียนพิเศษนี่น่าอายครับ เพราะแปลว่าไม่เก่ง เราเรียนพิเศษกันเพราะเราไม่เข้าใจเนื้อหาในห้องเรียนที่เรียนมา ไม่ใช่ในสมัยนี้ที่เรียนเพื่อให้ล้ำหน้าจากหลักสูตรปกติ
ที่มาเล่าให้ฟังนี่ ประเด็นคือระบบการศึกษาของไทยมันเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว พ่อแม่ที่ไม่อยากให้ลูกเรียนแบบบ้าคลั่งแบบนี้ก็มี แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะเราอยู่ในระบบนี้ สังคมแบบนี้ ถ้าเราสวนกระแสไม่ให้ลูกเราเรียนพิเศษ ลูกเราก็จะเสียโอกาสไปด้วย อยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องเข้าสู่ระบบนี้ แม้ว่าจะไม่ชอบก็ตาม เสาร์-อาทิตย์ พ่อแม่ต้องทำอะไรแล้ว คอยรับ-ส่งลูกเรียนพิเศษก็หมดแล้ว 1 วัน
ที่มาตั้งกระทู้เพื่ออยากทราบว่ามีพ่อแม่ที่มีแนวความคิดคล้าย ๆ กับทาง จขกท. หรือไม่ ที่มองว่าระบบการศึกษาไทยมันแย่ แต่ก็ต้องก็ทนเพื่ออนาคตของลูกเรา
ขอบคุณครับ