สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ขอสรุปความเข้าใจนะคะ
-คอนโดที่คุณอยู่เป็นชื่อแฟน และคุณช่วยผ่อน
-แฟนมีรายได้มากกว่า
-แฟนไปซื้อบ้านอีกหลังเป็นชื่อแม่ตัวเอง หลังแต่งงาน (อาจจะเพราะมีคุณมาช่วยผ่อนคอนโด และค่าใช้จ่ายในคอนโดจึงมีเงินเหลือ)
เรามองว่าแม่คุณเป็นห่วงคุณมากค่ะ และเป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง
ข้าราชการเกษียณมีหนี้นิดหน่อยก็สามารถใช้เงินบำนาญผ่อนต่อได้ ที่สำคัญมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลทำให้ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องกวนลูกๆ
เรามองว่าถ้าคอนโดแฟน คุณช่วยผ่อน ขอมีชื่อร่วมและกู้ร่วมไป ไม่งั้นก็ให้แฟนผ่อนเองและคุณก็ออกแต่ค่าใช้จ่ายในบ้าน คุณเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อคอนโดค่ะ เราแนะนำให้เชื่อแม่คุณค่ะ ตอนนี้คอนโดมีโปรผ่อนตอนแรกต่ำๆ หลายที่นะคะ หลังฮันนีมูนคุณคงมีกระแสการเงินที่ดีขึ้น
แม่คุณคงเห็นอะไรแล้วไม่ได้พูดตรงๆ แต่เตือนคุณทางอ้อม ให้เก็บไว้บ้าง ถ้าแต่งงานแล้วคุณต้องผ่อน คชจ เช่นค่าแหวน กับค่าแต่งงาน ทำให้เราคิดว่าเงินอาจจะหมดไปกับค่าสินสอด(ที่ทางผู้หญิงไม่คืน) หรือแต่งงานจัดเกินตัว (ซึ่งอาจจะไม่ใช่แบบที่คุณว่าเหมาะสม แต่ยอมตามใจ) งานแต่งงานส่วนใหญ่ขาดทุนอยู่แล้ว แต่หลายคู่ ผู้ใหญ่ก็ช่วยโดยการคืนสินสอดให้
แม่คุณเค้าห่วงว่าคุณไปทุ่มให้แฟนหมดน่ะค่ะ เราเห็นผู้หญิงหลายคนแต่งงานแล้วชื่อบ้านคอนโด เป็นของผู้หญิง ผ่อนเอง ผู้ชายไม่ต้องมาช่วยผ่อน แต่ออก คชจ ต่างๆ ในบ้านด้วยเหตุผลว่า เลิกกันก็ให้ผู้ชายถือกระเป๋าออกจากบ้านได้เลย แต่กรณีคุณ คอนโดชื่อแฟนแต่คุณผ่อน คุณซื้อของเข้าคอนโด และแฟนไปซื้อบ้านให้แม่ตัวเอง นี่คือเหตุผลที่แม่คุณห่วงคุณ
เราไม่อยากให้คุณมองแม่คุณในด้านลบนะคะ เค้ากลัวคุณเลิกกันแล้วคุณจะไม่เหลืออะไร (อันนี้ไม่ได้แช่งนะคะ แต่แม่คุณคงมอง worst case) คนเรารักกันจริงค่ะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าความรักจะเปลี่ยนไปหรือไม่ แม่คุณเห็นคนมาเยอะนะคะ เราสนับสนุนความคิดแม่คุณ และคุณควรลองปรึกษาแฟนเรื่องนี้คะ ว่าแฟนคุณจะช่วยคุณหาทางออกอย่างไร คุณอาจจะเห็นว่าแฟนคุณแฟร์กับคุณแค่ไหนด้วยค่ะ
-คอนโดที่คุณอยู่เป็นชื่อแฟน และคุณช่วยผ่อน
-แฟนมีรายได้มากกว่า
-แฟนไปซื้อบ้านอีกหลังเป็นชื่อแม่ตัวเอง หลังแต่งงาน (อาจจะเพราะมีคุณมาช่วยผ่อนคอนโด และค่าใช้จ่ายในคอนโดจึงมีเงินเหลือ)
เรามองว่าแม่คุณเป็นห่วงคุณมากค่ะ และเป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง
ข้าราชการเกษียณมีหนี้นิดหน่อยก็สามารถใช้เงินบำนาญผ่อนต่อได้ ที่สำคัญมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลทำให้ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องกวนลูกๆ
เรามองว่าถ้าคอนโดแฟน คุณช่วยผ่อน ขอมีชื่อร่วมและกู้ร่วมไป ไม่งั้นก็ให้แฟนผ่อนเองและคุณก็ออกแต่ค่าใช้จ่ายในบ้าน คุณเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อคอนโดค่ะ เราแนะนำให้เชื่อแม่คุณค่ะ ตอนนี้คอนโดมีโปรผ่อนตอนแรกต่ำๆ หลายที่นะคะ หลังฮันนีมูนคุณคงมีกระแสการเงินที่ดีขึ้น
แม่คุณคงเห็นอะไรแล้วไม่ได้พูดตรงๆ แต่เตือนคุณทางอ้อม ให้เก็บไว้บ้าง ถ้าแต่งงานแล้วคุณต้องผ่อน คชจ เช่นค่าแหวน กับค่าแต่งงาน ทำให้เราคิดว่าเงินอาจจะหมดไปกับค่าสินสอด(ที่ทางผู้หญิงไม่คืน) หรือแต่งงานจัดเกินตัว (ซึ่งอาจจะไม่ใช่แบบที่คุณว่าเหมาะสม แต่ยอมตามใจ) งานแต่งงานส่วนใหญ่ขาดทุนอยู่แล้ว แต่หลายคู่ ผู้ใหญ่ก็ช่วยโดยการคืนสินสอดให้
แม่คุณเค้าห่วงว่าคุณไปทุ่มให้แฟนหมดน่ะค่ะ เราเห็นผู้หญิงหลายคนแต่งงานแล้วชื่อบ้านคอนโด เป็นของผู้หญิง ผ่อนเอง ผู้ชายไม่ต้องมาช่วยผ่อน แต่ออก คชจ ต่างๆ ในบ้านด้วยเหตุผลว่า เลิกกันก็ให้ผู้ชายถือกระเป๋าออกจากบ้านได้เลย แต่กรณีคุณ คอนโดชื่อแฟนแต่คุณผ่อน คุณซื้อของเข้าคอนโด และแฟนไปซื้อบ้านให้แม่ตัวเอง นี่คือเหตุผลที่แม่คุณห่วงคุณ
เราไม่อยากให้คุณมองแม่คุณในด้านลบนะคะ เค้ากลัวคุณเลิกกันแล้วคุณจะไม่เหลืออะไร (อันนี้ไม่ได้แช่งนะคะ แต่แม่คุณคงมอง worst case) คนเรารักกันจริงค่ะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าความรักจะเปลี่ยนไปหรือไม่ แม่คุณเห็นคนมาเยอะนะคะ เราสนับสนุนความคิดแม่คุณ และคุณควรลองปรึกษาแฟนเรื่องนี้คะ ว่าแฟนคุณจะช่วยคุณหาทางออกอย่างไร คุณอาจจะเห็นว่าแฟนคุณแฟร์กับคุณแค่ไหนด้วยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 55
เชื่อมั้ยคะ ไอ้คำที่บอกว่าอีกหน่อยจะหาซื้อของราคานี้ไม่ได้อีกแล้วเป็นอะไรที่ไม่มีอยู่จริงคะ พี่อยู่สาทรมาตั้งแต่เกิดตึกด้านหน้าบ้านพี่ ขายอยู่11-14ล้าน วันดีคืนดีแม่พี่อยากได้ตึกตรงหน้าบ้านแม่พี่ไปถามจะซื้อให้ราคาเค้า11ล้านเค้าบอกไม่ได้เค้าขาย14ล้าน แม่พี่ไม่พร้อมที่14ล้านแม่พี่เลยไม่ซื้อเวลาผ่านไปสองสามปี เจ้าของตึกเดินมากดกริ่งหน้าบ้านพี่มาถามแม่พี่ว่าจะขายตึกนั้น7ล้านแม่พี่ยังจะซื้ออยู่มั้ย55555 รอไรคะซื้ออย่างไว ต่ำกว่าที่เคยตั้งงบไว้อีกคะ คือแทนที่จะราคาขึ้นตามเวลาที่มากขึ้นแต่กลับราคาลดลง เพราะแต่ละเจ้าของเก่าร้อนเงินในแต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกันไม่ได้เกี่ยวกับราคาตลาดแต่อย่างใด เราจะได้ของถูกและดีเราต้องมีเงินอยู่บนหน้าตักเสมอคะเพื่อรอเวลาเข้าช้อนซื้อคะ ไม่ต้องรีบเป็นหนี้นะคะน้องไว้มีเงินพร้อมจะดีกว่า บ้านพี่สอนมาตลอดว่าเงินในกระเป๋าที่มีมากมันจะดูดเงินจากข้างนอกเข้ามามากเช่นกันเงินต่อเงินคะ โดยที่เราไม่ต้องไปบีบกดราคาจากเจ้าของเดิมเลยคะ เอาจริงๆตามหลักเนี่ยเราจะผ่อนรถผ่อนบ้านรวมกันอย่าเกิน30%ของรายได้คะ ถ้าจะเกษียณอายุได้ดีมั่นคงก็ต้องออม20-30%ของรายได้เช่นกันคะ เท่าที่พี่ไปฟังสัมมนาวางแผนการเงินเตรียมเกษียณเค้าสอนมาในที่สัมมนาคะ เอาจริงๆวัยที่อายุเยอะเลข5เลข6นำหน้า ไม่ควรจะมีหนี้สินอะไรแล้วนะคะในแง่ที่ไม่ใช้หนี้สินจากการประกอบธุรกิจคะแล้วควรจะเป็นหนี้ที่สามารถปิดยอดได้ทันทีถ้าจำเป็นคือเราต้องมีเงินก้อนอยู่แล้วแต่เราบริหารเงินก้อนนั้นได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินเราถึงจะใช้วงเงินธนาคารคะ ในกรณีที่เราอายุ50-60คะ ดังนั้นคุณแม่ คุณ จขกท.ควรโฟกัสไปที่การบริหารหนี้เดิมมากกว่าการเพิ่มยอดหนี้ใหม่ถึงแม้จะใช้ชื่อคุณ จขกท.กู้เงินก็เถอะคะเพราะถ้าวันนึงที่คุณ จขกท ติดขัดเรื่องเงินแล้วคุณแม่คุณจขกท.ก็ติดขัดเรื่องเงินในเวลาเดียวกันจะนำเงินที่ไหนไปจ่ายค่างวดคะ ติดเครดิตบูโรอีกไม่มีขอดีอะไรเลยคะ พี่เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีคะ
แสดงความคิดเห็น
แม่บังคับให้ซื้อคอนโดก่อนจดทะเบียนสมรส แต่สภาพการเงินตอนนี้แย่มากครับ
เรื่องมีอยู่ว่าแม่ผมอยากให้ซื้อคอนโดราคาประมาณ 2M ก่อนจดทะเบียน เพราะอยากให้มีทรัพย์สินเป็นของตัวเองก่อน ค่อยจด โดยไม่ให้ปรึกษาแฟนเลย เพราะแฟนผมคงไม่ยอมให้ก่อหนี้ล่วงหน้าตั้ง 20 ปีโดยยังไม่รู้ว่าจะผ่อนได้ตลอดไหม
แม่ผมอยากให้ซื้อเพื่อปล่อยเช่า โดยแม่บอกว่าเดือนไม่ไหวแม่จะช่วย แต่แม่เองก็มีหนี้สินเต็มไปหมด ทำให้ผมไม่เคยอยากไปรบกวน ตั้งแต่เรียนจบ จนมาแต่งงานผมไม่เคยขออะไรแกเลยเพราะรู้ว่าเค้าลำบาก แม่เพิ่งจะมาเบาลงบ้างปลดหนี้ได้ช่วงเกษียณบางส่วน
ผมทำงานสถาบันการเงิน คิดยังไงก็นึกไม่ออกว่าจะผ่อนคอนโดหลังนี้ยังไงถ้าไม่มีคนเช่า แล้วอนาคตถ้าผมต้องใช้เงินลงทุนเพื่อแลกกับโอกาส ผมก็ไม่มีอะไรไปคว้าโอกาสนั้นแล้ว แต่แม่ก็บอกว่าควรซื้อถ้าวันไหนผมกับแฟนไปรอดผมจะไม่เหลืออะไร แถมน้อยใจอีกว่าเค้าพูดแล้วไม่เชื่อ
ขอถาม 3 คำถามนะครับ
1. ผมควรทำไงดีครับ ซื้อหรือไม่ซื้อ เพราะอะไร
2. โอกาสอีก 20 ปีข้างหน้า worst case ทางการเงินจะเลวร้ายขนาดไหน ในกรณีที่ผม ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ
3. ผมควรบอกแฟนก่อนซื้อไหมครับ
********
Update หลังคุยกับเมียและแม่ครับ
จุดนี้ขอเกริ่นนิดนึงว่าก่อนแต่งงานผมให้เงินแม่อยู่แล้วเดือนละ 10,000 ตั้งแต่เรียนจบโท (5 ปีแล้วและตอนจบตรีก็ให้ทุกเดือนแต่ไม่ถึงหมื่น) พร้อมเก็บเงินแต่งงานไปด้วย และก่อนแต่งก็บอกแฟนแล้วว่าหลังจากนี้จะให้เงินแม่อีกเดือนละ 10,000 ไปตลอด แต่ช่วงนี้ขอแม่ผ่อนผันเนื่องจากสถานะการเงินฝืดจริง และกลับมาให้อีกครั้งหลังปีใหม่
ข้อสรุปจากการคุยกับแม่และเมียมีตามนี้ครับ
1. กรณีไม่มีคนเช่าผมจ่ายค่างวดหมื่นนึง ส่วนต่างแม่จะช่วย
2. กรณีมีคนเช่าผมจ่ายส่วนต่างค่างวด จากค่าเช่าส่วนที่เหลือเป็นเงินเก็บไว้มีลูก
ขอบคุณหลายๆความเห็นที่สละเวลามาแชร์ประสบการณ์ อีกครั้งนะครับ หลายๆอันมีประโยชน์ และผมได้นำไปปรับใช้ได้จริงๆ
จากเหตุการณ์นี้ถ้าผมเห็นกระทู้ไหนที่ต้องการความเห็นคนอื่นผมก็จะสละเวลาตอบเหมือนกัน เพราะผมเข้าใจแล้วว่าเวลาที่ต้องการความเห็นของคนอื่นจริงๆเป็นไง ขอบคุณครับ