ก่อนอื่นขอฝากเพจรีวิวเก่าๆก่อนครับ
เพจ :
https://www.facebook.com/myhubbyandi/
Ep.1 Bromo & Ijen งบ 12,xxx บาท :
https://pantip.com/topic/36635529
Ep.2 Maldives งบ 16,xxx บาท :
https://pantip.com/topic/36693015
Ep.3 Singapore งบ 7,xxx :
https://pantip.com/profile/3933477
Ep. พิเศษ King Power Lounge @ Donmueang Int’l Airport :
https://pantip.com/topic/36773157

Kawaguchiko ไม่ได้มีดีแค่ฟูจิ
ผมเขียนหัวข้อเว่อร์ไปงั้นแหล่ะครับ เพราะที่จริงผมไม่รู้จะปลอบใจตัวเองยังไงที่ไปถึงที่แล้วไม่เห็นฟูจิ
วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกัน ทริปนี้ด้วยเวลาที่มีจำกัดมากๆเลยจัดทริปได้แค่ 3วัน รวมเดินทางเป็น 4 แต่รับรองว่าสามสี่วันนี้เที่ยวครบแลนด์มาร์ค โตเกียว-ฟูจิ แบบคุ้มค่าตั๋วรถไฟแน่นอน
สำหรับคนที่ตามเพจ ตาม ผัว เที่ยว จะทราบดีว่าจะเป็นแฟนผมที่เขียนบรรยายการท่องเที่ยวของพวกเรา แต่ทริปนี้นางไม่ได้มาด้วยไง(แล้วก็งอนผมไปเรียบร้อยที่ไม่รอนางว่างมาด้วย) เลยอยากจะขอเรียก ep. นี้ว่า หนี เมีย เที่ยวละกันครับ 555+ โดยจะยังคงคอนเซปเที่ยวแบบ backpack กินง่าย นอนง่ายเหมือนเดิมครับ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มาได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อเลย ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย วัตนธรรมน่าสนใจ แถมเดี๋ยวนี้มาง่ายมากๆไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ครั้งนี้เป็นทริปที่สิบแล้วที่ผมมาเยือนญี่ปุ่น แล้วก็เป็นครั้งที่ 5แล้วมั้งที่ตั้งจะมาดูภูเขาฟูจิแบบสวยๆอลังๆ เพราะทุกครั้งที่มาก็จะเห็นอย่างเงี้ย มีเมฆลอยบังยอดเขาจนมิด มันเป็นอย่างเงี้ย จะหาว่าผมดวงซวย ไม่สมพงกับฟูจิก็ได้นะครับ เพราะจาก 5 ครั้งที่มา ผมเห็นฟูจิแบบฟินๆแค่ครั้งเดียวที่ ฮาโกเนะ
ผมขอเริ่มการเดินทางครั้งนี้จากที่สนามบินดอนเมืองครับ ไฟ้ทผมจะเป็นไฟลท์ดอนเมือง-นาริตะ ออกจากดอนเมืองตอนเที่ยงคืนพื่อที่ว่าถึงโตเกียวตอนเช้าแล้วจะได้เดินทางเที่ยวได้เลย
สิ่งที่ขาดไม่ได้กันทุกครั้งที่มาเที่ยวญี่ปุ่นคืออินเตอเน็ตครับ ถึงไม่ได้เป็นพวกถ่ายปุ๊ปอัพลงทันที แต่มีเน็ตไว้ก็อุ่นใจกว่าแน่ๆครับ ทริปนี้ผมเลือกใช้ pocket wifi จาก samurai wifi ครับ สมัครบริการล่วงหน้าสองสามวันก็ทันครับแล้วก็มารับที่บูธดีแทค ตรงประตูทางออกหมายเลข 6 สำหรับคนที่เดินทางจากสนามบินดอนเมืองนะครับ ยิ่งช่วงนี้เค้ามีโปรพิเศษ ผมได้มาตกวันละ 100นิดๆเอง ส่วนเรื่องสัญญานเป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วครับว่าแรงดีไม่มีตก

รับ pocket wifi กันแล้วก็ไปกันเลย

Day 2 Narita-Tokyo-Kawaguchiko
ถึงสนามบินนาริตะแปดโมงเช้าพอดิบพอดีไม่ดีเล ออกจาก ตม รับกระเป๋านู่นนี่นั่นก็ 9โมง ก็ตรงไปซื้อ Tokyo wide pass กันที่ JR East Travel service center ก่อนเลยเพื่อเป็นการจำกัดงบการเดินทางไปด้วยในตัว โดย service center นี้จะตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของนาริตะครับ รับกระเป๋าผ่าน ตม มาแล้วก็หาบันไดเลื่อนลงไปถึงก็เจอเลย หาไม่ยากครับ

สำหรับตั๋ว Tokyo wide pass นั้นใช้ได้ 3วันทำการ ราคา 10,000เยน ตั๋วนี้ถือว่าคุ้มมากๆครับเพราะผมมีเวลาน้อยเที่ยว ศ ส อ สามวันพอดีวันจันทร์กลับไปทำงาน TT TT อันที่จริงค่ารถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะไปโตเกียวไปกลับอย่างเดียวก็ตก 6000กว่าเยนแล้ว อีกทั้งยังสามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟทุกเที่ยวรอบเขตคันโตที่ขึ้นกับ JR ได้ด้วย ถือว่าบัตรนี้คุ้มมากๆ

ด้านหลังจะระบุวัน ที่เริ่มใช้และใช้ได้จนถึงครับ โดยเวลาที่ผ่านประตูกั้นเข้าสถานนีรถไฟก็จะโชว์ด้านนี้ให้ จนท ดู

ได้ตั๋วมาแล้วก็เริ่มเดินทางเข้าโตเกียว เพื่อไปต่อรถไฟไปคามวากุชิโกะกันเลย โดยการไปคาวากุชิโกะจากสนามบินนาริตะนั้นต้องเดินทางเข้าไปเปลี่ยนขบวนในสถานี Shinjuku ก่อนครับจากนั้นก็หาสาย Chuo เพื่อนั่งต่อไปที่สถานี Otsuki แล้วจึงต่อสาย Fujikyu ไปที่คาวาฟุจิโกะ โดยใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณสองชั่วโมงนิดๆครับ

ตอนมานี่ก็ดูพยากรณ์อากาศแล้วครับ เค้าบอกเมฆเยอะ มีฝนตกตอนเย็น แล้วก็เป็นอย่างว่าจริง ดูเมฆบังยอดฟูจิมิดเลย

แต่ยังดีนะที่มีวิวข้างทางให้เห็นเป็นระยะๆบ้าง

พอเดินลงรถไฟมาท้องก็ร้องโครกๆ เลยเข้ามาที่สถานี หาไรลงท้องเบาๆก่อน
อาหารที่นี่รสชาติแค่พอได้ทำให้หายหิวครับ ผมสั่งข้าวแกงกะหรี่หมูทอด ราคา 900กว่าเยนเบาๆ

ทานเสร็จก็ตรงไปซื้อ ตั๋วรถเมล์ Saiko sightseeing pass กันครับ ตั๋วนี้จะทำให้ขึ้นรถเมย์ในเมืองคาวาฟุจิโกะแบบเหมารวมสองวันโดยไม่เสียอะไรเพิ่มแล้วว ราคาจะอยู่ที่ 1300 เยน

ได้ตั๋วมาแล้วก็ขึ้นคถไปเชคอินที่โรงแรม เอาของไปเก็บ นั่งเล่นให้หายเหนื่อย แล้วค่อยออกมาเที่ยวต่อกัน
โดยครั้งนี้ผมพักที่ Royal Fuji Kawaguchiko Hotel ซึ่งถึงแม้ภายนอกจะดูเก่าไปสักนิด แต่ภายใน ก็ดูเก่าเหมือนกันแหล่ะครับ 555 แต่ที่เลือกที่นี่เพราะจะได้นอนฟูตอง แช่ออนเซน สไตลเรียวกังแบบญี่ปุ่นจริงๆในราคาที่ไม่แพงมากครับ

วิวจากห้องยังมองเห็นทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วยนะ แต่ฟูจิผมโดนเมฆบังไปเต็มๆ

หลังจากนั่งพักให้หายเหนื่อยแล้ว ก็ออกมาขึ้นรถเมย์ชมวิวรอบทะเลสาบโดยจุดหมายของเราก็คือป้ายสุดท้าย Kawaguchiko Natural living center ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่สวยมากๆ ยิ่งถ้าเป็นฦดูใบไม้ผลิจะอลังมาก อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ดูภูเขาไฟฟูจิได้สวยที่สุด ไม่มีอะไรมากั้นบังเลยด้วย

ถึงแม้ตอนที่ผมไปนั้นจะเป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มจะแห้งแล้ว แต่ก็ยังคงไว้ในบรรยากาศธรรมชาติและแลนด์สเกปที่สวยมากๆ
อ้อ ใครที่มาที่นี่อย่าลืมแวะกิน soft cream นะครับ อร่อยมากๆๆ

กิน soft cream เสร็จฝนก็ตกพอดี ทำอะไรไม่ได้นอกจากจำใจนั่งรถกลับโรงแรมครับ พอลงจากรถเมย์ก็วิ่งเข้าไป 7-11 ซื้อของกินตุนเอาไว้คืนนี้ ซึ่งผมจะทำการรีวิวของกินใน 7-11 ญี่ปุ่นด้วยในเพจนะครับ ติดตามกันได้
[CR] Tokyo-Kawaguchiko ไม่ได้มีดีแค่ฟูจิ (ฉบับคนวันหยุดน้อย)
เพจ : https://www.facebook.com/myhubbyandi/
Ep.1 Bromo & Ijen งบ 12,xxx บาท : https://pantip.com/topic/36635529
Ep.2 Maldives งบ 16,xxx บาท : https://pantip.com/topic/36693015
Ep.3 Singapore งบ 7,xxx : https://pantip.com/profile/3933477
Ep. พิเศษ King Power Lounge @ Donmueang Int’l Airport : https://pantip.com/topic/36773157
Kawaguchiko ไม่ได้มีดีแค่ฟูจิ
ผมเขียนหัวข้อเว่อร์ไปงั้นแหล่ะครับ เพราะที่จริงผมไม่รู้จะปลอบใจตัวเองยังไงที่ไปถึงที่แล้วไม่เห็นฟูจิ
วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกัน ทริปนี้ด้วยเวลาที่มีจำกัดมากๆเลยจัดทริปได้แค่ 3วัน รวมเดินทางเป็น 4 แต่รับรองว่าสามสี่วันนี้เที่ยวครบแลนด์มาร์ค โตเกียว-ฟูจิ แบบคุ้มค่าตั๋วรถไฟแน่นอน
สำหรับคนที่ตามเพจ ตาม ผัว เที่ยว จะทราบดีว่าจะเป็นแฟนผมที่เขียนบรรยายการท่องเที่ยวของพวกเรา แต่ทริปนี้นางไม่ได้มาด้วยไง(แล้วก็งอนผมไปเรียบร้อยที่ไม่รอนางว่างมาด้วย) เลยอยากจะขอเรียก ep. นี้ว่า หนี เมีย เที่ยวละกันครับ 555+ โดยจะยังคงคอนเซปเที่ยวแบบ backpack กินง่าย นอนง่ายเหมือนเดิมครับ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มาได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อเลย ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย วัตนธรรมน่าสนใจ แถมเดี๋ยวนี้มาง่ายมากๆไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ครั้งนี้เป็นทริปที่สิบแล้วที่ผมมาเยือนญี่ปุ่น แล้วก็เป็นครั้งที่ 5แล้วมั้งที่ตั้งจะมาดูภูเขาฟูจิแบบสวยๆอลังๆ เพราะทุกครั้งที่มาก็จะเห็นอย่างเงี้ย มีเมฆลอยบังยอดเขาจนมิด มันเป็นอย่างเงี้ย จะหาว่าผมดวงซวย ไม่สมพงกับฟูจิก็ได้นะครับ เพราะจาก 5 ครั้งที่มา ผมเห็นฟูจิแบบฟินๆแค่ครั้งเดียวที่ ฮาโกเนะ
ผมขอเริ่มการเดินทางครั้งนี้จากที่สนามบินดอนเมืองครับ ไฟ้ทผมจะเป็นไฟลท์ดอนเมือง-นาริตะ ออกจากดอนเมืองตอนเที่ยงคืนพื่อที่ว่าถึงโตเกียวตอนเช้าแล้วจะได้เดินทางเที่ยวได้เลย
สิ่งที่ขาดไม่ได้กันทุกครั้งที่มาเที่ยวญี่ปุ่นคืออินเตอเน็ตครับ ถึงไม่ได้เป็นพวกถ่ายปุ๊ปอัพลงทันที แต่มีเน็ตไว้ก็อุ่นใจกว่าแน่ๆครับ ทริปนี้ผมเลือกใช้ pocket wifi จาก samurai wifi ครับ สมัครบริการล่วงหน้าสองสามวันก็ทันครับแล้วก็มารับที่บูธดีแทค ตรงประตูทางออกหมายเลข 6 สำหรับคนที่เดินทางจากสนามบินดอนเมืองนะครับ ยิ่งช่วงนี้เค้ามีโปรพิเศษ ผมได้มาตกวันละ 100นิดๆเอง ส่วนเรื่องสัญญานเป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วครับว่าแรงดีไม่มีตก
รับ pocket wifi กันแล้วก็ไปกันเลย
Day 2 Narita-Tokyo-Kawaguchiko
ถึงสนามบินนาริตะแปดโมงเช้าพอดิบพอดีไม่ดีเล ออกจาก ตม รับกระเป๋านู่นนี่นั่นก็ 9โมง ก็ตรงไปซื้อ Tokyo wide pass กันที่ JR East Travel service center ก่อนเลยเพื่อเป็นการจำกัดงบการเดินทางไปด้วยในตัว โดย service center นี้จะตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของนาริตะครับ รับกระเป๋าผ่าน ตม มาแล้วก็หาบันไดเลื่อนลงไปถึงก็เจอเลย หาไม่ยากครับ
สำหรับตั๋ว Tokyo wide pass นั้นใช้ได้ 3วันทำการ ราคา 10,000เยน ตั๋วนี้ถือว่าคุ้มมากๆครับเพราะผมมีเวลาน้อยเที่ยว ศ ส อ สามวันพอดีวันจันทร์กลับไปทำงาน TT TT อันที่จริงค่ารถไฟ Narita Express จากสนามบินนาริตะไปโตเกียวไปกลับอย่างเดียวก็ตก 6000กว่าเยนแล้ว อีกทั้งยังสามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟทุกเที่ยวรอบเขตคันโตที่ขึ้นกับ JR ได้ด้วย ถือว่าบัตรนี้คุ้มมากๆ
ด้านหลังจะระบุวัน ที่เริ่มใช้และใช้ได้จนถึงครับ โดยเวลาที่ผ่านประตูกั้นเข้าสถานนีรถไฟก็จะโชว์ด้านนี้ให้ จนท ดู
ได้ตั๋วมาแล้วก็เริ่มเดินทางเข้าโตเกียว เพื่อไปต่อรถไฟไปคามวากุชิโกะกันเลย โดยการไปคาวากุชิโกะจากสนามบินนาริตะนั้นต้องเดินทางเข้าไปเปลี่ยนขบวนในสถานี Shinjuku ก่อนครับจากนั้นก็หาสาย Chuo เพื่อนั่งต่อไปที่สถานี Otsuki แล้วจึงต่อสาย Fujikyu ไปที่คาวาฟุจิโกะ โดยใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณสองชั่วโมงนิดๆครับ
ตอนมานี่ก็ดูพยากรณ์อากาศแล้วครับ เค้าบอกเมฆเยอะ มีฝนตกตอนเย็น แล้วก็เป็นอย่างว่าจริง ดูเมฆบังยอดฟูจิมิดเลย
แต่ยังดีนะที่มีวิวข้างทางให้เห็นเป็นระยะๆบ้าง
พอเดินลงรถไฟมาท้องก็ร้องโครกๆ เลยเข้ามาที่สถานี หาไรลงท้องเบาๆก่อน
อาหารที่นี่รสชาติแค่พอได้ทำให้หายหิวครับ ผมสั่งข้าวแกงกะหรี่หมูทอด ราคา 900กว่าเยนเบาๆ
ทานเสร็จก็ตรงไปซื้อ ตั๋วรถเมล์ Saiko sightseeing pass กันครับ ตั๋วนี้จะทำให้ขึ้นรถเมย์ในเมืองคาวาฟุจิโกะแบบเหมารวมสองวันโดยไม่เสียอะไรเพิ่มแล้วว ราคาจะอยู่ที่ 1300 เยน
ได้ตั๋วมาแล้วก็ขึ้นคถไปเชคอินที่โรงแรม เอาของไปเก็บ นั่งเล่นให้หายเหนื่อย แล้วค่อยออกมาเที่ยวต่อกัน
โดยครั้งนี้ผมพักที่ Royal Fuji Kawaguchiko Hotel ซึ่งถึงแม้ภายนอกจะดูเก่าไปสักนิด แต่ภายใน ก็ดูเก่าเหมือนกันแหล่ะครับ 555 แต่ที่เลือกที่นี่เพราะจะได้นอนฟูตอง แช่ออนเซน สไตลเรียวกังแบบญี่ปุ่นจริงๆในราคาที่ไม่แพงมากครับ
วิวจากห้องยังมองเห็นทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วยนะ แต่ฟูจิผมโดนเมฆบังไปเต็มๆ
หลังจากนั่งพักให้หายเหนื่อยแล้ว ก็ออกมาขึ้นรถเมย์ชมวิวรอบทะเลสาบโดยจุดหมายของเราก็คือป้ายสุดท้าย Kawaguchiko Natural living center ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่สวยมากๆ ยิ่งถ้าเป็นฦดูใบไม้ผลิจะอลังมาก อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ดูภูเขาไฟฟูจิได้สวยที่สุด ไม่มีอะไรมากั้นบังเลยด้วย
ถึงแม้ตอนที่ผมไปนั้นจะเป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มจะแห้งแล้ว แต่ก็ยังคงไว้ในบรรยากาศธรรมชาติและแลนด์สเกปที่สวยมากๆ
อ้อ ใครที่มาที่นี่อย่าลืมแวะกิน soft cream นะครับ อร่อยมากๆๆ
กิน soft cream เสร็จฝนก็ตกพอดี ทำอะไรไม่ได้นอกจากจำใจนั่งรถกลับโรงแรมครับ พอลงจากรถเมย์ก็วิ่งเข้าไป 7-11 ซื้อของกินตุนเอาไว้คืนนี้ ซึ่งผมจะทำการรีวิวของกินใน 7-11 ญี่ปุ่นด้วยในเพจนะครับ ติดตามกันได้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น