คุณพ่อเสียไปเกือบเดือนแล้วแต่ยังทำใจไม่ได้เลย

**ยืม login คุณแม่มาโพสครับ**

คุณพ่อผมเสียไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาที่ผ่านมา จนปัจจุบันเกือบเดือนนึงแล้วยังรู้สึกทำใจไม่ได้เลยครับ
พอนึกถึงคุณพ่อทีไรก็ร้องไห้ออกมาตลอดพยายามทำตัวร่าเริงยังไงก็ตาม เดือดร้อนไปจนทำงานแทบไม่ได้

ผมกับคุณพ่อค่อนข้างสนิทกับมากแต่เนื่องจากคุณแม่กับคุณพ่อหย่าร้างกันทั้งสองเลยต้องแยกกันอยู่ +ผมมาหางานทำที่ กทม
เพราะงานที่เชียงใหม่หายากพวกเราเลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน ชีวิตต้องเริ่มต้นจาก 0 เงินเดือน 8 พันแบ่งช่วยแม่ 3 พันค่าที่พัก+ค่ากินน้องชายอายุยังไม่ถึงสิบขวบ)

พอการงานเริ่มดีขึ้นก็พาพ่อมาเที่ยว กทม บ้างปีละครั้งแต่ครั้งหลังนี้คุณแม่ผมล้มป่วยหนักจนผมต้องเอาเงินเก็บทั้งหมดออกมารักษา
จนปีที่ผ่านมาไม่ได้ให้คุณพ่อมาเที่ยว ทั้งๆที่ผมตั้งใจไว้ว่าอยากให้แกมาเห็นบ้านที่ผมซื้อ

หลังสงกรานต์ผ่านไปคุณพ่อเริ่มป่วยกระเซาะกระแซะแต่เท่าที่ทราบก็ยังไม่เป็นอะไรมาก ยังคุยกันอยู่ว่าจะหางานให้พ่อทำที่ กทม
ให้พ่อขายบ้านซะจะได้มาอยู่ด้วยกัน จะได้มีคนดูแลเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย

พฤษพา พ่อเริ่มป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลคาดว่าน่าจะเป็นมะเร็ง(แต่ไม่ได้มีการตรวจชิ้นเนื้อ) ผมและน้องชายรีบไปหาคุณพ่อทันที เพราะคุณหมอแจ้งว่าอาจจะไม่พ้นคืนนี้ แต่คุณพ่อก็รอดวิกฤติคราวนั้นไปได้ แต่ร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะพามาอยู่ กทม ได้

จากนั้นการรักษาการดูแลจึงต้องรบกวนญาติพี่น้องที่เชียงใหม่เป็นผู้ดูแล โดยพวกผมได้แต่สอบถามอาการอยู่ห่างๆ
แม้จะมีเรื่องกระทบกระทั่งกับญาติพี่น้องฝั่งเชียงใหม่บ้าง แต่เค้าก็ช่วยดูแลพ่อผมในขณะที่ผมทำอะไรไม่ได้ เพราะมีงานต้องทำ+แม่ก็ป่วย
(แม่ผมป่วยเป็นโรคพุ่มพวงมานานกว่า5 ปีต้องไปหาหมอทุกเดือน+เป็นโรคซึมเศร้า)

จนเมื่อ 20 สิงหาที่ผ่านมาทราบข่าวว่าแกป่วยกลับไปนอน รพ อยู่ห้องฉุกเฉินตั้งแต่เช้า ผมจึงรีบโทรสอบถามทางโรงพยาบาล
จนได้ทราบว่า อาการแกไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่อ๊อกซิเจนต่ำเพราะปอดมีปัญหา แต่ต่อท่อให้แล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้ว
ความดัน/หัวใจ/น้ำตาล ดีหมด คนไข้รู้ตัวดี ผมค่อยอุ่นใจขึ้นมาระดับนึง

พอตกบ่ายผมโทรไปอีกครั้งจึงทราบว่าแกย้ายออกจากห้องฉุกเฉินแล้วไปอยู่ห้องอายุรกรรม แต่พยาบาล+หมอไม่ว่างเลยยังไม่ได้สอบถามอาการ

ราวๆ หกโทงผมโทรไปอีกครั้งคราวนี้ได้คุยกับคุณหมอ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่า "หลังจากการเจาะเอาน้ำในปอดออกมาคนไข้หัวใจหยุดเต้น มาเกือบชั่วโมงแล้ว"
ผมถึงกับอึ้ง + ช๊อคมาก เพราะเมื่อเช้าคุยยังบอกอาการไม่น่าห่วง
คุณหมอยังถามต่อไปอีกว่า คนไข้เซ็นยินยอมไม่ปั้มหัวใจไปแล้ว แต่ในเมื่อญาติไม่ทราบ เลยถามว่าจะให้ปั้มไหมรึจะปล่อยแกไป

ผมทราบดีว่าหัวใจหยุดเต้นมาชั่วโมงกว่า ต่อให้ยื้อกลับมาได้แกก็เป็นเจ้าชายนิทราอยู่ดี แต่ในเวลานั้นผมเริ่มร้องไห้แล้วอยากเจอหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
เลยขอให้คุณหมอปั้มกลับมา แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่ายังไงแกก็ไปแล้ว

ผ่านไปชั่วโมงนึงทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า หัวใจหยุดเต้นมาชั่วโมงนึงแล้ว ปั้มไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยไม่ได้ปั้ม โทรมาแจ้งเวลาเสียชีวิต
ผมก็รับทราบตามนั้น

จนวันรุ่งขึ้นผมไปรับศพพ่อ + เห็นในใบมรณะบัตรเขียนถึงสาเหตุการเสียชีวิตไว้ว่าเป็น ติดเชื้อในกระแสเลือด ผมรู้สึกทำใจไม่ได้เลยจนบัดนี้
ถ้าสามารถพาแกมารักษาที่ กทม ได้ตั้งแต่เริ่มแกคงมีอายุยืนกว่านี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่