สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว พันทิป อยากมาแชร์ประสบการณ์มีแฟนต่างชาติครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เคยโพสว่าคุยกับหนุ่มอังกฤษไว้แต่ด้วยระยะห่างไกล จึงยุติการคุยไป จนมาถึงตอนนี้ ได้เจอหนุ่มแคชเมียร์ ที่ทำงานอยู่ในไทย ก็คบกันแบบงงๆ ว่าได้เป็นแฟนกันแล้วหรอเนี้ย
เรื่องมีอยู่ว่า กำลังเฮิร์ทๆกับหนุ่มอังกฤษอยู่ แล้วไปเดินเล่นแถว แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหญ่ย่านนั้น ทัวร์ต่างชาติมาลงเยอะมาก จังหวะที่เราไปก็ดึกพอสมควรแล้ว ไปเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย จนเขาเดินเข้ามาทัก (สงสัยเห็นอยู่คนเดียว) แอบกลัวเหมือนกันค่ะ หน้าโหด ตาโตๆ ขนตางอนๆ ออกขาวนิดๆ รวมๆดูดี
หน้าตาก็อารมณ์แขกตะวันออกกลางกึ่งๆอินเดีย เขาก็ประมาณว่า มาเที่ยวหรอ คนไทยหรือเปล่า มาคนเดียวหรอ เราก็ยิ้มๆ แล้วตอบว่าใช่ คุยกันไปมาเขาบอกว่าทำงานอยู่ที่นี่ มาเที่ยวๆบ่อยๆสิ เราก็ตอบว่าอ๋อ เราก็พักอยู่แถวนี้แหละใกล้ๆ เขาถามว่าทำไมดูเศร้าๆจัง เราก็เอ่อ ไหนๆก็มีเพื่อนคุยแระ เลยเล่าให้เขาฟัง คุยไปๆมาๆ เลยแลกเบอร์โทรกัน แลกแชทกัน เขาเลยชวนเราเล่นเกมส์ โยนฝาน้ำแล้วทาย ใครผิดโดนลงโทษ เลยพากันไปเล่นที่ลานจอดรถ (เราขับรถมา) หลังจากพากันเดินไปเซเว่นหาไรกิน จนคิดว่าดึกมากแล้วเราเลยขอตัวกลับ เขาก็พูดว่าขับรถช้าๆนะ เขาเป็นห่วง ถึงบ้านแชทมาบอกด้วยว่าถึงแล้ว เราเลยโอเค
พอถึงคอนโดเราก็ทักไปปกติ เขาก็บอกว่าขับรถช้าใช้ไหม ผมคิดถึงคุณอยู่ เขาบอกว่าทำไมลืมเสียงหัวเราะกับรอยยิ้มเราไม่ได้เลย (เอิ่มมมเราก็แบบผู้ชายมามุกนี้ตลอดเลย) เราก็คุยกันสักพักนึงจนดึกมากๆ เลยส่งวิดีโอเล่นเกมส์คอนโดไม้ให้เขาดูแล้วบอกว่า มันสนุกมาก เขาเลยอยากรู้ว่าเล่นยังไง เราเลยบอกว่าเล่นหลายๆคนสนุกดี เขาเลยบอกว่าไว้ว่างๆมาเล่นกัน (เพราะในวิดีโอเราเล่นแบบใครแพ้ดวลเหล้าเป็นชอต)
เขาก็ถามความเป็นอยู่เรา ทำงาน การใช้ชีวิต แล้วอยู่ๆก็บอกว่า ตอนนี้ผมรู้สึกโง่มากๆเลย นอนไม่หลับ ทำไมคิดถึงแต่คุณ อยากเจออีก ขับรถมาหาผมเจอกันอีกได้ไหม
บอกตามตรงตอนนั้นง่วงมากเลยปฏิเสธเขาไป เลยบอกว่าถ้าอยากเจอมาหาแทนได้ไหมขับรถหลับในแน่ๆ เขาเลยนั่งแท็กซี่มาหา เล่นเกมส์กันแล้วเขาก็กลับ (ถามว่ามีอะไรกันไหม เราตอบไม่อายก็มีนะ)
คือคิดไว้เอออ คงไม่จริงจังอะไรหรอกขำๆไป เขาคงคิดกับเราแค่ One night stand
ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ 2 เดือนแล้วค่ะ ที่คบกัน กลายเป็นว่าเขา เข้ามาในชีวิตเรา เทคแคร์เรามาก หลังจากได้มีไรกันสักพัก เขาก็แวะมาหาเราบ่อยๆ แต่ที่เซอร์ไพร์มากคือ เขามาแต่ละครั้งก็มาทำความสะอาดห้องให้ ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน บางครั้งเราซักผ้าทิ้งไว้ก็มาช่วยตากให้ ทำกับข้าวให้กิน ปลื้มค่ะ ทำตัวไม่ถูก และที่สำคัญเขาขี้หึงมาก เขาเป็นคนดุระดับนึงเลยล่ะ ส่วนใหญ่ก็จะสอนชีวิตให้ฟัง ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง
เราไม่เคยบอกชอบ หรือบอกรักกันเลย บอกแต่ว่าคิดถึง เขาจะเรียกเราว่า Baby เราก็เลยเรียกเขาว่า Daddy (เหมือนได้พ่อมาเพิ่มจริงๆค่ะ)
จนถึงวันนึงเขาได้นั่งเราเรื่องแฟนเก่าเขาที่เคยคบกันมา เขาเล่าว่าเขาเชื่อใจในตัวแฟนเก่ามาก เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างบ้างาน ไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน(ตอนนั้นเราคุยกันได้ประมาณครึ่งเดือน) จนแฟนเขาไปมีคนอื่น เขาก็เสียใจนิดๆนะ แต่ที่เขามาทำงานก็มาทำเพื่อครอบครัวมากกว่าเขาเลยเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายจากเชียงใหม่มาอยู่ กรุงเทพฯแทน เขาก็มีแฟนอีกคนแต่เธอเป็นคนจีน ต้องใช้คำว่าแฟนในแชทมากกว่า คบกันได้สักพักด้วยระยะทางที่ห่างไกล แฟนเขาก็กลับไปคบกับแฟนเก่า แล้วก็ทิ้งเขา เราก็เลยถามต่อว่า อ้าวตอนนี้ไม่มีแฟนหรอ เขาก็ยิ้มแล้วตอบว่ามี มีแล้ว(ถามเราสิตอนนั้นหน้าเจื่อนแค่ไหน) เราเลยยิ้มๆ ถามกลับว่า แล้วมาหาเราแบบนี้จะไม่มีปัญหากับแฟนหรอ แล้วแฟนอยู่ที่ไหน
เขาวางช้อนกินข้าวลง มองหน้าเราแล้วก็หัวเราะเบาๆ (สีหน้าเราคงบ่งว่าไม่สู้ดีนัก) เขาว่าเธอพักอยู่ในกรุงเทพฯ แถวนี้แหละ ชื่อคอนโด...... ห้องเลขที่...... แล้วก็นั่งตรงหน้าเขา กำลังถามอะไรวุ่นวายอยู่เนี้ย....เท่านั้นแหละค่ะ เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพราะเราพูดว่า เดี๋ยวๆ หมายถึงฉันหรอ ฉันไปเป็นแฟนกับคุณตอนไหน คุณไม่เคยบอกว่าขอเป็นแฟนฉันนะ เขาตอบว่าที่ทำให้ทุกอย่างนี้ยังไม่เรียกว่าแฟนอีกหรอ คุณไม่มีความรู้สึกเลยหรอ ผมตามใจคุณทุกอย่าง ซื้อของที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับคุณ จำได้ว่าคุณชอบกินอะไร นมยี่ห้อไหน มาหาคุณมาทำความสะอาดให้ พาคุณไปเที่ยว ถามความคิดเห็นจากคุณตลอด แชร์ความรู้สึกให้ตลอด คุณไม่รู้สึกเลยหรอ
ก็เลยหน้าชานิดๆแล้วก็บอกว่า ขอบคุณนะคะที่เข้ามา เขาบอกว่าขอบคุณทำไม ผมนี่สิต้องขอบคุณ ผมขอบคุณพระเจ้า ตลอด3ปีในไทย เขาก็ส่งคุณมาให้ผม
เวลาเรานั่งดื่มกัน เขาก็จะคุยสรรพเพเหระไปเรื่อย จนมาวันนึง เขาก็พูดว่า อย่าทำให้ผมรู้สึกกลัวเวลาคุณดื่มคนเดียว อย่าดื่มจนอ้วก คุณไม่รู้หรอกว่ามันอันตรายแค่ไหน คุณอยู่คนเดียว ถ้าเกิดเดินไปตกระเบียง แล้วผมจะทำยังไง "คุณสำคัญกับผมมากนะ" (อึ้งไปเลยค่ะ) สัญญากับผมอย่าทำแบบนี้อีกผมเป็นห่วง
เขาค่อนข้างเซนซิทิฟกับเรื่องเราร้องไห้ เราไม่สบายมากจนร้องไห้ โทรไปหาเขาแล้วบอกว่าไม่ไหวแล้วอยากไป รพ. เขาทำงานกว่าจะเลิกดึกมาก ประมาณ ตี1-2 เขาโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้ผมจะมารับตอนเช้าแล้วไปหาหมอกัน รพ.ประกันสังคมอยู่ไกลมาก เราอยู่ฝั่งธน รพ.อยู่ย่านสมุทรปราการ ก็ยอมนอนน้อยพาเราไป เขาหิวมากแต่กินไรไม่ได้นอกจากสินค้าตราฮาลาล เท่านั้น สงสารมากค่ะ ไล่ไปหาของกินก่อนก็ไม่ไป มานั่งเฝ้าเราจนเกือบเย็น ง่วงนอนมากหลับคารถแท็กซี่ พอเราไม่หายก็เลยพาไปหาหมอเสียเงิน จ่ายค่ารักษาให้หมด วันนึงเขาถามเราว่ากินไรยัง เราก็จำได้เลยว่าวันนั้นเงินจะหมดเพราะพรุ่งนี้เงินเดือนออก แล้วเหลือติดตัวน้อยมาก เราเลยโกหกว่ากินแล้ว เขาจำได้ว่าในตู้เย็นไม่มีของแล้ว แล้วกินยังไง เราบอกว่าไม่เป็นไรกินแล้ว จับทางเราได้ อีกวันถัดมา นัดเราไปเจอที่ทำงานเขา แล้วย้ำถามเราอีกรอบว่า เมื่อวานได้อะไรกิน เราเลยหลบตา แล้วบอกว่าทำกับข้าวกิน เขาโมโหมากแล้วพูดคำนึงออกมาเป็นภาษาไทย คุณโกหก (โหหห ชัดแจ๋วค่ะ) เขารู้ว่าเมื่อวานไม่มีเงิน ทำไมไม่บอกเขา เราก็ตอบว่ามี ทำไมจะไม่มี เขาขอดูกระเป๋าเงินเราแล้วถามว่าผมดูได้ไหม เราก็ยอม แล้วเขาขอร้องว่าตอนนี้คุณมีเงิน หากวันไหนไม่มีสัญญากับผมได้ไหมว่าจะบอก อย่าโกหกผม ผมไม่สบายใจ คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ขอให้บอกมา ผมจะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อBaby ของผมไม่ได้กินข้าว ไม่มีเงินใช้ เราจึงยิ้มแล้วตอบว่า ฟังนะDaddy ใช่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าได้ฟังแบบนี้เขาก็ต้องการเงินคุณแน่นอน เธอก็จะร้องขอในสิ่งที่เธออยากได้ กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง แต่ฉันไม่ใช่ ฉันแค่ต้องการคุณในทุกๆวัน เขาตอบว่า ผมไม่ได้แคร์ผู้หญิงคนอื่น แต่ผมแคร์คุณคนเดียวเท่านั้น คุณคือความสุขของผม
เขาไม่มี Work permit สำหรับการทำงาน จึงเหมือนต่างชาติมาเที่ยวในไทยแล้วต่อวีซ่าเรื่อยๆ เขาให้เราช่วยหาบ้านเช่าให้เพื่อที่จะเปิดบริษัทเขาจะได้ Work permit ด้วย เราก็ช่วยหา แคปรูปว่าชอบไหมเราคาเท่านี้นะ ส่งให้หลายๆที่ เขาก็ถามเราว่าเราชอบบ้านหลังไหน แต่ผมว่าคุณต้องชอบหลังแรก เพราะคุณส่งมาให้ดูก่อน เราก็ยอมรับว่าใช่ แต่ราคามันมากกว่าที่คุณต้องการ แต่เผื่อคุณชอบ หลังจากคุยกันทางแชท กลางดึกเขาก็มาหาเราก็คุยกันเรื่องบ้านเช่าต่อ เขาบอกว่า....วันนี้ไปหาเอเย่นวีซ่ามา เพื่อทำเรื่องต่อวีซ่า พอดีบอสของเขาไม่สบาย เราเลยกลับไปต่อวีซ่าไม่ได้ตามกำหนด จึงไปขอยืดวีซ่า แล้วเอเย่นแนะนำให้เขาหาจดทะเบียนสมรสกับคนไทยจ้างจดไป เอเย่นถามว่าเขามีแฟนไหม เขาเลยเอารูปเราให้ดู แล้วบอกว่า คนนี้แฟนผม เอเย่นจึงพูดว่าดีเลย จดทะเบียนสมรสแต่งงานกับเธอ คุณจะได้ทำงานที่ไทยได้โดยไม่ติดขัดอะไร เขาตอบว่า แต่จะให้ผมทำแบบคุณแนะนำไม่ได้หรอก แต่งงานแบบเฟกๆมันง่ายสำหรับผม ง่ายสำหรับเธอ แต่จะให้ผมทำร้ายหัวใจเธอหรอ แต่งกันแล้วผมจะอยู่ที่นี่ได้อีกกี่ปี 1-2ปี แล้วถ้าได้กลับกระทันหันล่ะ จริงอยู่ให้มีเพียงเอกสารในมือ เราทั้งสองคนก็คือสามี ภรรยากัน ทั้งในนามและสถานการณ์จริง แล้วสุดท้ายผมก็ต้องหย่ากับเธอ เพื่อกลับไปอยู่บ้านเกิดของผม แล้วทิ้งเธอไว้แบบนี้หรอ เธอมีครอบครัวมีพ่อ มีแม่ ผมทำกับครอบครัวเธอแบบนี้ไม่ได้หรอก เขาเล่าให้ฟัง เราฟังเราก็ไม่ได้ขัดอะไรในคำพูดของเขาหรอกนะ ก็ดีใจและยอมรับว่าเขาไม่คิดจะมาเอาเปรียบเรา (ในใจลึกๆแอบขำๆว่ามีเมียแต่งอยู่แล้วป๊าววว)
เวลานอน เขาจะเกาหัวเราแล้วบอกว่าแม่เขาชอบทำให้เขาแบบนี้เหมือนกัน เราบอกเขาว่าเขาโชคดีนะที่ยังมีพ่อกับแม่อยู่ แต่เราไม่เหลือใคร เขาบอกว่าเราไม่โชคดียังไง คุณต้องโชคดีสิเพราะมีผมอยู่ข้างๆ ผมอยู่นี่ เราก็ประมาณว่าจริงหรอ เขาว่าทำไมไม่จริง คุณรู้ไหมผมก็โชคดีเหมือนกันเพราะตอนนี้ผมมีคุณอยู่ข้างๆเช่นกัน (หวานไหมคะ อย่าเพิ่งอ้วกนะ)
จนถึงปัจจุบันนี้ เราก็ไม่เคยบอกชอบกันหรือบอกรักกันเลย จนเมื่อเช้าเขาตื่นมา แล้วอยู่ดีๆก็เรียกเรา ดึงเราไปกอด เหมือนคนละเมอ พูดขึ้นมาว่า "You are my everything" เราก็ห๊ะ ละเมอหรอ เราเลยเรียกเขา แล้วถามว่า เมื่อกี้พูดว่าอะไร พูดใหม่สิ เขาลืมตาขึ้นมา แล้วพูดคำเดิม "You are my everything" จนถึงตอนนี้เราก็คบกันดีอยู่ค่ะขัดใจตรงที่ว่าเขาทำงาน 7วันติด และเวลาเราคุยกันทางแชททีไรเหมือนจะทะเลาะกันตลอด
"อ้อมีความพีคกว่านั้นที่ลืมเล่า คือเขาพูดว่า กว่าผมจะรู้สึกรักใครสักคนมันต้องใช้เวลาสำหรับผมถ้าวันนึงผมรู้สึกรักผมจะบอกว่าผมรัก ผมจะไม่บอกว่ารักใครง่ายๆ ถ้าผมไม่รู้สึก"
และด้วยความเป็นเอกลักษ์ ขอประเพณีบ้านเขา คือเขาเป็นลูกชายคนเดียวซึ่งมีแต่พี่น้องที่เป็นผู้หญิง จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะแต่งงานกับคนต่างถิ่นได้ ถ้าหากเขามีพี่หรือน้องชาย เขาจะสามารถแต่งงานกับคนต่างถิ่นได้ ซึ่งตรงนี้เหมือนกับว่าทำให้เราทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เราก็คิดเสมอว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลงแบบไหน จึงค่อนข้างทำใจยอมรับระดับนึง เขาบอกว่าถึงตอนนั้นเรายังเจอกันได้ใช่ไหม ถ้าผมมาเยี่ยมคุณ คุณจะยอมเจอหน้าผมไหม ฉันจึงตอบกลับไปทั้งน้ำตาคลอเบ้าว่าไม่ดีกว่า ฉันคงทำใจไม่ได้ เราสองคนจึงเลือกที่จะไม่พูดถึงอนาคตอันไกล พูดถึงแต่ปัจจุบัน อาทิ เราจะไปเที่ยวกัน หรือ เขาอยากไปเยี่ยมครอบครัวเรา หรือ เขาอยากพาเราไปเที่ยวบ้านเกิดเขา
นี้คือความสุขในปัจจุบันของฉันค่ะ หลังจากเลิกกับแฟนเก่าเปย์ให้แฟนเก่ามานาน แชทคุยกับสาย ฝ. มาก็หลายคน จนตอนนี้ ก็มาเจอเขา เขาทำให้เรามีความสุขกับปัจจุบัน แต่เรากลัวเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเหมือนกัน และขอให้เพื่อนๆสมหวังกับความรักนะคะ มีอะไรคืบหน้าเราก็จะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ
ประสบการณ์มีแฟนต่างชาติครั้งแรก
เรื่องมีอยู่ว่า กำลังเฮิร์ทๆกับหนุ่มอังกฤษอยู่ แล้วไปเดินเล่นแถว แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหญ่ย่านนั้น ทัวร์ต่างชาติมาลงเยอะมาก จังหวะที่เราไปก็ดึกพอสมควรแล้ว ไปเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย จนเขาเดินเข้ามาทัก (สงสัยเห็นอยู่คนเดียว) แอบกลัวเหมือนกันค่ะ หน้าโหด ตาโตๆ ขนตางอนๆ ออกขาวนิดๆ รวมๆดูดี
หน้าตาก็อารมณ์แขกตะวันออกกลางกึ่งๆอินเดีย เขาก็ประมาณว่า มาเที่ยวหรอ คนไทยหรือเปล่า มาคนเดียวหรอ เราก็ยิ้มๆ แล้วตอบว่าใช่ คุยกันไปมาเขาบอกว่าทำงานอยู่ที่นี่ มาเที่ยวๆบ่อยๆสิ เราก็ตอบว่าอ๋อ เราก็พักอยู่แถวนี้แหละใกล้ๆ เขาถามว่าทำไมดูเศร้าๆจัง เราก็เอ่อ ไหนๆก็มีเพื่อนคุยแระ เลยเล่าให้เขาฟัง คุยไปๆมาๆ เลยแลกเบอร์โทรกัน แลกแชทกัน เขาเลยชวนเราเล่นเกมส์ โยนฝาน้ำแล้วทาย ใครผิดโดนลงโทษ เลยพากันไปเล่นที่ลานจอดรถ (เราขับรถมา) หลังจากพากันเดินไปเซเว่นหาไรกิน จนคิดว่าดึกมากแล้วเราเลยขอตัวกลับ เขาก็พูดว่าขับรถช้าๆนะ เขาเป็นห่วง ถึงบ้านแชทมาบอกด้วยว่าถึงแล้ว เราเลยโอเค
พอถึงคอนโดเราก็ทักไปปกติ เขาก็บอกว่าขับรถช้าใช้ไหม ผมคิดถึงคุณอยู่ เขาบอกว่าทำไมลืมเสียงหัวเราะกับรอยยิ้มเราไม่ได้เลย (เอิ่มมมเราก็แบบผู้ชายมามุกนี้ตลอดเลย) เราก็คุยกันสักพักนึงจนดึกมากๆ เลยส่งวิดีโอเล่นเกมส์คอนโดไม้ให้เขาดูแล้วบอกว่า มันสนุกมาก เขาเลยอยากรู้ว่าเล่นยังไง เราเลยบอกว่าเล่นหลายๆคนสนุกดี เขาเลยบอกว่าไว้ว่างๆมาเล่นกัน (เพราะในวิดีโอเราเล่นแบบใครแพ้ดวลเหล้าเป็นชอต)
เขาก็ถามความเป็นอยู่เรา ทำงาน การใช้ชีวิต แล้วอยู่ๆก็บอกว่า ตอนนี้ผมรู้สึกโง่มากๆเลย นอนไม่หลับ ทำไมคิดถึงแต่คุณ อยากเจออีก ขับรถมาหาผมเจอกันอีกได้ไหม
บอกตามตรงตอนนั้นง่วงมากเลยปฏิเสธเขาไป เลยบอกว่าถ้าอยากเจอมาหาแทนได้ไหมขับรถหลับในแน่ๆ เขาเลยนั่งแท็กซี่มาหา เล่นเกมส์กันแล้วเขาก็กลับ (ถามว่ามีอะไรกันไหม เราตอบไม่อายก็มีนะ)
คือคิดไว้เอออ คงไม่จริงจังอะไรหรอกขำๆไป เขาคงคิดกับเราแค่ One night stand
ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ 2 เดือนแล้วค่ะ ที่คบกัน กลายเป็นว่าเขา เข้ามาในชีวิตเรา เทคแคร์เรามาก หลังจากได้มีไรกันสักพัก เขาก็แวะมาหาเราบ่อยๆ แต่ที่เซอร์ไพร์มากคือ เขามาแต่ละครั้งก็มาทำความสะอาดห้องให้ ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน บางครั้งเราซักผ้าทิ้งไว้ก็มาช่วยตากให้ ทำกับข้าวให้กิน ปลื้มค่ะ ทำตัวไม่ถูก และที่สำคัญเขาขี้หึงมาก เขาเป็นคนดุระดับนึงเลยล่ะ ส่วนใหญ่ก็จะสอนชีวิตให้ฟัง ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง
เราไม่เคยบอกชอบ หรือบอกรักกันเลย บอกแต่ว่าคิดถึง เขาจะเรียกเราว่า Baby เราก็เลยเรียกเขาว่า Daddy (เหมือนได้พ่อมาเพิ่มจริงๆค่ะ)
จนถึงวันนึงเขาได้นั่งเราเรื่องแฟนเก่าเขาที่เคยคบกันมา เขาเล่าว่าเขาเชื่อใจในตัวแฟนเก่ามาก เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างบ้างาน ไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน(ตอนนั้นเราคุยกันได้ประมาณครึ่งเดือน) จนแฟนเขาไปมีคนอื่น เขาก็เสียใจนิดๆนะ แต่ที่เขามาทำงานก็มาทำเพื่อครอบครัวมากกว่าเขาเลยเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายจากเชียงใหม่มาอยู่ กรุงเทพฯแทน เขาก็มีแฟนอีกคนแต่เธอเป็นคนจีน ต้องใช้คำว่าแฟนในแชทมากกว่า คบกันได้สักพักด้วยระยะทางที่ห่างไกล แฟนเขาก็กลับไปคบกับแฟนเก่า แล้วก็ทิ้งเขา เราก็เลยถามต่อว่า อ้าวตอนนี้ไม่มีแฟนหรอ เขาก็ยิ้มแล้วตอบว่ามี มีแล้ว(ถามเราสิตอนนั้นหน้าเจื่อนแค่ไหน) เราเลยยิ้มๆ ถามกลับว่า แล้วมาหาเราแบบนี้จะไม่มีปัญหากับแฟนหรอ แล้วแฟนอยู่ที่ไหน
เขาวางช้อนกินข้าวลง มองหน้าเราแล้วก็หัวเราะเบาๆ (สีหน้าเราคงบ่งว่าไม่สู้ดีนัก) เขาว่าเธอพักอยู่ในกรุงเทพฯ แถวนี้แหละ ชื่อคอนโด...... ห้องเลขที่...... แล้วก็นั่งตรงหน้าเขา กำลังถามอะไรวุ่นวายอยู่เนี้ย....เท่านั้นแหละค่ะ เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพราะเราพูดว่า เดี๋ยวๆ หมายถึงฉันหรอ ฉันไปเป็นแฟนกับคุณตอนไหน คุณไม่เคยบอกว่าขอเป็นแฟนฉันนะ เขาตอบว่าที่ทำให้ทุกอย่างนี้ยังไม่เรียกว่าแฟนอีกหรอ คุณไม่มีความรู้สึกเลยหรอ ผมตามใจคุณทุกอย่าง ซื้อของที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับคุณ จำได้ว่าคุณชอบกินอะไร นมยี่ห้อไหน มาหาคุณมาทำความสะอาดให้ พาคุณไปเที่ยว ถามความคิดเห็นจากคุณตลอด แชร์ความรู้สึกให้ตลอด คุณไม่รู้สึกเลยหรอ
ก็เลยหน้าชานิดๆแล้วก็บอกว่า ขอบคุณนะคะที่เข้ามา เขาบอกว่าขอบคุณทำไม ผมนี่สิต้องขอบคุณ ผมขอบคุณพระเจ้า ตลอด3ปีในไทย เขาก็ส่งคุณมาให้ผม
เวลาเรานั่งดื่มกัน เขาก็จะคุยสรรพเพเหระไปเรื่อย จนมาวันนึง เขาก็พูดว่า อย่าทำให้ผมรู้สึกกลัวเวลาคุณดื่มคนเดียว อย่าดื่มจนอ้วก คุณไม่รู้หรอกว่ามันอันตรายแค่ไหน คุณอยู่คนเดียว ถ้าเกิดเดินไปตกระเบียง แล้วผมจะทำยังไง "คุณสำคัญกับผมมากนะ" (อึ้งไปเลยค่ะ) สัญญากับผมอย่าทำแบบนี้อีกผมเป็นห่วง
เขาค่อนข้างเซนซิทิฟกับเรื่องเราร้องไห้ เราไม่สบายมากจนร้องไห้ โทรไปหาเขาแล้วบอกว่าไม่ไหวแล้วอยากไป รพ. เขาทำงานกว่าจะเลิกดึกมาก ประมาณ ตี1-2 เขาโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้ผมจะมารับตอนเช้าแล้วไปหาหมอกัน รพ.ประกันสังคมอยู่ไกลมาก เราอยู่ฝั่งธน รพ.อยู่ย่านสมุทรปราการ ก็ยอมนอนน้อยพาเราไป เขาหิวมากแต่กินไรไม่ได้นอกจากสินค้าตราฮาลาล เท่านั้น สงสารมากค่ะ ไล่ไปหาของกินก่อนก็ไม่ไป มานั่งเฝ้าเราจนเกือบเย็น ง่วงนอนมากหลับคารถแท็กซี่ พอเราไม่หายก็เลยพาไปหาหมอเสียเงิน จ่ายค่ารักษาให้หมด วันนึงเขาถามเราว่ากินไรยัง เราก็จำได้เลยว่าวันนั้นเงินจะหมดเพราะพรุ่งนี้เงินเดือนออก แล้วเหลือติดตัวน้อยมาก เราเลยโกหกว่ากินแล้ว เขาจำได้ว่าในตู้เย็นไม่มีของแล้ว แล้วกินยังไง เราบอกว่าไม่เป็นไรกินแล้ว จับทางเราได้ อีกวันถัดมา นัดเราไปเจอที่ทำงานเขา แล้วย้ำถามเราอีกรอบว่า เมื่อวานได้อะไรกิน เราเลยหลบตา แล้วบอกว่าทำกับข้าวกิน เขาโมโหมากแล้วพูดคำนึงออกมาเป็นภาษาไทย คุณโกหก (โหหห ชัดแจ๋วค่ะ) เขารู้ว่าเมื่อวานไม่มีเงิน ทำไมไม่บอกเขา เราก็ตอบว่ามี ทำไมจะไม่มี เขาขอดูกระเป๋าเงินเราแล้วถามว่าผมดูได้ไหม เราก็ยอม แล้วเขาขอร้องว่าตอนนี้คุณมีเงิน หากวันไหนไม่มีสัญญากับผมได้ไหมว่าจะบอก อย่าโกหกผม ผมไม่สบายใจ คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ขอให้บอกมา ผมจะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อBaby ของผมไม่ได้กินข้าว ไม่มีเงินใช้ เราจึงยิ้มแล้วตอบว่า ฟังนะDaddy ใช่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าได้ฟังแบบนี้เขาก็ต้องการเงินคุณแน่นอน เธอก็จะร้องขอในสิ่งที่เธออยากได้ กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง แต่ฉันไม่ใช่ ฉันแค่ต้องการคุณในทุกๆวัน เขาตอบว่า ผมไม่ได้แคร์ผู้หญิงคนอื่น แต่ผมแคร์คุณคนเดียวเท่านั้น คุณคือความสุขของผม
เขาไม่มี Work permit สำหรับการทำงาน จึงเหมือนต่างชาติมาเที่ยวในไทยแล้วต่อวีซ่าเรื่อยๆ เขาให้เราช่วยหาบ้านเช่าให้เพื่อที่จะเปิดบริษัทเขาจะได้ Work permit ด้วย เราก็ช่วยหา แคปรูปว่าชอบไหมเราคาเท่านี้นะ ส่งให้หลายๆที่ เขาก็ถามเราว่าเราชอบบ้านหลังไหน แต่ผมว่าคุณต้องชอบหลังแรก เพราะคุณส่งมาให้ดูก่อน เราก็ยอมรับว่าใช่ แต่ราคามันมากกว่าที่คุณต้องการ แต่เผื่อคุณชอบ หลังจากคุยกันทางแชท กลางดึกเขาก็มาหาเราก็คุยกันเรื่องบ้านเช่าต่อ เขาบอกว่า....วันนี้ไปหาเอเย่นวีซ่ามา เพื่อทำเรื่องต่อวีซ่า พอดีบอสของเขาไม่สบาย เราเลยกลับไปต่อวีซ่าไม่ได้ตามกำหนด จึงไปขอยืดวีซ่า แล้วเอเย่นแนะนำให้เขาหาจดทะเบียนสมรสกับคนไทยจ้างจดไป เอเย่นถามว่าเขามีแฟนไหม เขาเลยเอารูปเราให้ดู แล้วบอกว่า คนนี้แฟนผม เอเย่นจึงพูดว่าดีเลย จดทะเบียนสมรสแต่งงานกับเธอ คุณจะได้ทำงานที่ไทยได้โดยไม่ติดขัดอะไร เขาตอบว่า แต่จะให้ผมทำแบบคุณแนะนำไม่ได้หรอก แต่งงานแบบเฟกๆมันง่ายสำหรับผม ง่ายสำหรับเธอ แต่จะให้ผมทำร้ายหัวใจเธอหรอ แต่งกันแล้วผมจะอยู่ที่นี่ได้อีกกี่ปี 1-2ปี แล้วถ้าได้กลับกระทันหันล่ะ จริงอยู่ให้มีเพียงเอกสารในมือ เราทั้งสองคนก็คือสามี ภรรยากัน ทั้งในนามและสถานการณ์จริง แล้วสุดท้ายผมก็ต้องหย่ากับเธอ เพื่อกลับไปอยู่บ้านเกิดของผม แล้วทิ้งเธอไว้แบบนี้หรอ เธอมีครอบครัวมีพ่อ มีแม่ ผมทำกับครอบครัวเธอแบบนี้ไม่ได้หรอก เขาเล่าให้ฟัง เราฟังเราก็ไม่ได้ขัดอะไรในคำพูดของเขาหรอกนะ ก็ดีใจและยอมรับว่าเขาไม่คิดจะมาเอาเปรียบเรา (ในใจลึกๆแอบขำๆว่ามีเมียแต่งอยู่แล้วป๊าววว)
เวลานอน เขาจะเกาหัวเราแล้วบอกว่าแม่เขาชอบทำให้เขาแบบนี้เหมือนกัน เราบอกเขาว่าเขาโชคดีนะที่ยังมีพ่อกับแม่อยู่ แต่เราไม่เหลือใคร เขาบอกว่าเราไม่โชคดียังไง คุณต้องโชคดีสิเพราะมีผมอยู่ข้างๆ ผมอยู่นี่ เราก็ประมาณว่าจริงหรอ เขาว่าทำไมไม่จริง คุณรู้ไหมผมก็โชคดีเหมือนกันเพราะตอนนี้ผมมีคุณอยู่ข้างๆเช่นกัน (หวานไหมคะ อย่าเพิ่งอ้วกนะ)
จนถึงปัจจุบันนี้ เราก็ไม่เคยบอกชอบกันหรือบอกรักกันเลย จนเมื่อเช้าเขาตื่นมา แล้วอยู่ดีๆก็เรียกเรา ดึงเราไปกอด เหมือนคนละเมอ พูดขึ้นมาว่า "You are my everything" เราก็ห๊ะ ละเมอหรอ เราเลยเรียกเขา แล้วถามว่า เมื่อกี้พูดว่าอะไร พูดใหม่สิ เขาลืมตาขึ้นมา แล้วพูดคำเดิม "You are my everything" จนถึงตอนนี้เราก็คบกันดีอยู่ค่ะขัดใจตรงที่ว่าเขาทำงาน 7วันติด และเวลาเราคุยกันทางแชททีไรเหมือนจะทะเลาะกันตลอด
"อ้อมีความพีคกว่านั้นที่ลืมเล่า คือเขาพูดว่า กว่าผมจะรู้สึกรักใครสักคนมันต้องใช้เวลาสำหรับผมถ้าวันนึงผมรู้สึกรักผมจะบอกว่าผมรัก ผมจะไม่บอกว่ารักใครง่ายๆ ถ้าผมไม่รู้สึก"
และด้วยความเป็นเอกลักษ์ ขอประเพณีบ้านเขา คือเขาเป็นลูกชายคนเดียวซึ่งมีแต่พี่น้องที่เป็นผู้หญิง จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะแต่งงานกับคนต่างถิ่นได้ ถ้าหากเขามีพี่หรือน้องชาย เขาจะสามารถแต่งงานกับคนต่างถิ่นได้ ซึ่งตรงนี้เหมือนกับว่าทำให้เราทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เราก็คิดเสมอว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลงแบบไหน จึงค่อนข้างทำใจยอมรับระดับนึง เขาบอกว่าถึงตอนนั้นเรายังเจอกันได้ใช่ไหม ถ้าผมมาเยี่ยมคุณ คุณจะยอมเจอหน้าผมไหม ฉันจึงตอบกลับไปทั้งน้ำตาคลอเบ้าว่าไม่ดีกว่า ฉันคงทำใจไม่ได้ เราสองคนจึงเลือกที่จะไม่พูดถึงอนาคตอันไกล พูดถึงแต่ปัจจุบัน อาทิ เราจะไปเที่ยวกัน หรือ เขาอยากไปเยี่ยมครอบครัวเรา หรือ เขาอยากพาเราไปเที่ยวบ้านเกิดเขา
นี้คือความสุขในปัจจุบันของฉันค่ะ หลังจากเลิกกับแฟนเก่าเปย์ให้แฟนเก่ามานาน แชทคุยกับสาย ฝ. มาก็หลายคน จนตอนนี้ ก็มาเจอเขา เขาทำให้เรามีความสุขกับปัจจุบัน แต่เรากลัวเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเหมือนกัน และขอให้เพื่อนๆสมหวังกับความรักนะคะ มีอะไรคืบหน้าเราก็จะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ