ปุจฉา : มันมีคำว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในทางภาษาธรรม มันเกิด มันเกิดทุกข์ ตายหมายถึงดับ คำว่าแก่ คำว่าเจ็บนี่ ในทางภาษาธรรมมันหมายถึง ช่วงไหน
.
วิสัชนา : เกิด-โผล่ขึ้นมา แก่คือเปลี่ยนไปเลื่อนไปหาความดับ ตายคือดับ เจ็บคืออุปสรรคบางอย่างบางประการที่แทรกเข้ามา ชีวิตโผล่ขึ้นมาเรียกว่าเกิด เปลี่ยนไปหาความดับเรียกว่าแก่ มีอะไรมาแทรกแซงให้เจ็บปวดเรียกว่าเจ็บ ในที่สุดมันก็ดับ ตาย
.
ในทางภาษาธรรมมันหมายถึงกิริยาอาการที่มันเกิดขึ้นแก่สังขารโดยไม่ต้องมีสัตว์ บุคคล ตัวตน ถ้าภาษาคนต้องมีตัวตน กูหรือ นาย ก. นาย ข. นาย ง. มันเกิดออกมาแล้วโว้ย, มันแก่แล้วโว้ย, มันนอนเจ็บอยู่โว้ย, มันตายโว้ย, มันฝั่งโว้ย, พูดกับสังขารที่เป็นบุคคล นี่พูดถึงสังขารที่ไม่ถูกสมมติเป็นบุคคล เป็นสังขารตามธรรมชาติ ก็หมายความว่ามันก็เกิดขึ้น หรือปรากฏออกมา แล้วมันก็เปลี่ยนไป แล้วมันก็แก่ มีอะไรมากระทบกระทั่งบางครั้งบางคราวก็เรียกว่าเจ็บ ในที่สุดมันดับไป มันก็เรียกว่าตาย ก็ดีเหมือนกันแหละ
.
ถ้าคุณจะพยายามเข้าใจความหมายของชนิดนี้เรื่อย ๆ ไปให้ครบไปทุกเรื่องทุกราวดีมากแหละ ผมกล้าสัญญาว่าดีมาก คุณจะรู้ธรรมะเร็ว รู้ธรรมะเร็วมาก ถ้ารู้จักแยกแยะ ใช้ให้มองเห็น ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม มันยังมีละเอียดที่เป็นภาษาวิญญาณนะ เกิดความรู้สึกว่าตัวกู ขึ้นมา เรียกว่าเกิด แล้วพอไอ้รู้สึกตัวกูค่อย ๆ เปลี่ยนก็เรียกว่ามันแก่ พอถูกกระทบด้วยอะไรแรง ๆ ก็เรียกว่ามันเจ็บ พอรู้สึกว่าตัวกูดับก็คือมันตาย นี่อย่างละเอียด เป็นภาษาธรรมที่ละเอียดขึ้นไปอีก โดยเอาไอ้ ความรู้สึกว่าตัวกู ที่เกิดขึ้นด้วยอวิชชานั่นเป็นหลัก ตัวกูเกิด ความรู้สึกว่าตัวกูเกิดคือความเกิด ความรู้สึกว่าตัวกูดับคือความดับ ไอ้ความรู้สึกว่าตัวกูร่อยหรอไปเรียกว่าความแก่ แล้วมีไอ้ความคิดนึกอะไรเข้ามากระแทก มากั้นมาขวางมาอุปสรรคเรียกว่ามันเจ็บ
.
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : อบรมพระนวกะ
#จดหมายเหตุพุทธทาส 2115230905080
การ เกิดแก่เจ็บตาย ทางจิตใจ
.
วิสัชนา : เกิด-โผล่ขึ้นมา แก่คือเปลี่ยนไปเลื่อนไปหาความดับ ตายคือดับ เจ็บคืออุปสรรคบางอย่างบางประการที่แทรกเข้ามา ชีวิตโผล่ขึ้นมาเรียกว่าเกิด เปลี่ยนไปหาความดับเรียกว่าแก่ มีอะไรมาแทรกแซงให้เจ็บปวดเรียกว่าเจ็บ ในที่สุดมันก็ดับ ตาย
.
ในทางภาษาธรรมมันหมายถึงกิริยาอาการที่มันเกิดขึ้นแก่สังขารโดยไม่ต้องมีสัตว์ บุคคล ตัวตน ถ้าภาษาคนต้องมีตัวตน กูหรือ นาย ก. นาย ข. นาย ง. มันเกิดออกมาแล้วโว้ย, มันแก่แล้วโว้ย, มันนอนเจ็บอยู่โว้ย, มันตายโว้ย, มันฝั่งโว้ย, พูดกับสังขารที่เป็นบุคคล นี่พูดถึงสังขารที่ไม่ถูกสมมติเป็นบุคคล เป็นสังขารตามธรรมชาติ ก็หมายความว่ามันก็เกิดขึ้น หรือปรากฏออกมา แล้วมันก็เปลี่ยนไป แล้วมันก็แก่ มีอะไรมากระทบกระทั่งบางครั้งบางคราวก็เรียกว่าเจ็บ ในที่สุดมันดับไป มันก็เรียกว่าตาย ก็ดีเหมือนกันแหละ
.
ถ้าคุณจะพยายามเข้าใจความหมายของชนิดนี้เรื่อย ๆ ไปให้ครบไปทุกเรื่องทุกราวดีมากแหละ ผมกล้าสัญญาว่าดีมาก คุณจะรู้ธรรมะเร็ว รู้ธรรมะเร็วมาก ถ้ารู้จักแยกแยะ ใช้ให้มองเห็น ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม มันยังมีละเอียดที่เป็นภาษาวิญญาณนะ เกิดความรู้สึกว่าตัวกู ขึ้นมา เรียกว่าเกิด แล้วพอไอ้รู้สึกตัวกูค่อย ๆ เปลี่ยนก็เรียกว่ามันแก่ พอถูกกระทบด้วยอะไรแรง ๆ ก็เรียกว่ามันเจ็บ พอรู้สึกว่าตัวกูดับก็คือมันตาย นี่อย่างละเอียด เป็นภาษาธรรมที่ละเอียดขึ้นไปอีก โดยเอาไอ้ ความรู้สึกว่าตัวกู ที่เกิดขึ้นด้วยอวิชชานั่นเป็นหลัก ตัวกูเกิด ความรู้สึกว่าตัวกูเกิดคือความเกิด ความรู้สึกว่าตัวกูดับคือความดับ ไอ้ความรู้สึกว่าตัวกูร่อยหรอไปเรียกว่าความแก่ แล้วมีไอ้ความคิดนึกอะไรเข้ามากระแทก มากั้นมาขวางมาอุปสรรคเรียกว่ามันเจ็บ
.
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : อบรมพระนวกะ
#จดหมายเหตุพุทธทาส 2115230905080