เป็นกลุ่มที่ต้องใช้ รหัสเรียก... ช่วยด้วย 3 ครั้ง
ที่เคยเป็นข่าวกับทนาย เเต่ทนายทำอะไรไม่ได้
เข้าใจนะว่าทำไมถึงทำอะไรไม่ได้ เพราะว่า
-คนในนั้นเขาอยู่ด้วยความเต็มใจ ไม่ได้มีใครไปฉุดรั้งเอาไว้
ใครไม่มีคนในครอบครัวเข้าไปอยู่ก็คงตลกๆ เเบบคนเชื่อก็งมงาย
เเต่บังเอิญ ครอบครัวเดี้ยนเข้าไปอยู่ มันก็เริ่มไม่ตลก
ลัทธิเขาคงฝังรากลึกมากใช่ไหม ใช้หลายศาสตร์
-หลักจากจิตวิทยา,การขายของตามหลักธุรกิจ,การพูดโน้มน้าวใจ
หลายเหตุการณ์ที่เคยได้ยินจากครอบครัว
-ภัยพิบัติจะมา.. ให้รีบตุนน้ำใส่ขวด สรุปไม่มา ก็ให้เหตุผลว่าคนรู้ตัวเยอะ
-ขวดน้ำที่บรรจุเทวดา..
-อื่นๆ ไม่ขอเอ่ยถึง
ผลกระทบที่ได้รับ
-ครอบครัวเหมือนโดนล้างสมอง ชอบพูดอะไรซ้ำๆ เวลาจะพูด จะขึ้นต้นว่า "อาจารย์... สอนว่า.."
-ใครพูดจาลบหลู่ ตักเตือกไม่ได้ จะกระทบจิตใจอย่างรุนแรง
-จะบูชาเหมือนเทพเจ้า ตอนนี้เอารูปไปตั้งไว้เเถบเดียวกับพระ กราบเช้าเย็น
-เสียเงินบูชาของไปจำนวนมาก มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้เอะใจ
บูชาพีรมิดมีหลากหลานรุ่น ราคาก็เริ่มต้น 300 ถ้าจำไม่ผิด น่าจะทำมาจากปูนหล่อ ที่บ้านซื้อมาเยอะมาก หลักหมื่น
ต่อมามีการจักทำพิธี นำพีรมิดไปลอย ทดสอบว่าจมน้ำไหม(น่าจะขอให้ทุกคนร่วมด้วย) เอาไปทดลอง.. เป็นการเอาของออกบ้างจะได้ซื้อใหม่งี้หรอ
-ครอบครัวฐานะไม่ได้ดึ หาเช้ากินค่ำ เเต่ก็หมดไปเยอะ เเต่เราเห็นสภาพจิตใจเขาดีก็ไม่ได้อะไร เเล้วก็ไม่ได้มีปากมีเสียงที่จะเเนะนำอะไรได้อยู่เเล้ว
ครอบครัวอ้างว่า รักษาหายจริง เช่น ปวดขาหรืออะไรก็เเล้วเเต่ มันน่าจะเป็นผลจากจิตใจเขาเองใช่ไหม?
คำถาม
-ต้องรอให้มันถึงจุดของมันจริงๆ เช่น เณรคำ หรือหลายๆเคส นึกไม่ออก ถึงจะทำให้เราสามารถรู้ความจริงได้ใช่ไหม
-ถ้าเเนะนำให้ไปพิสูจน์ คงต้องขอบอกว่าไม่ เพราะยอมรับว่าทัศนคติเป็นลบกับด้านนี้ เพราะจากการคลุกคลีกับคนในครอบครัว รู้สึกเคมีเรากับลัทธินี้ไม่เข้ากัน
-เคยอ่านหนังสือมา เกี่ยวกับโน้มน้าวใจ มียกกรณีลัทธิเเบบนี้เเหละ ประมาณว่า
ถ้าเราหลุดเข้าไปในลัทธิเเล้ว ถึงภายในใจลึกๆจะค้นพบความจริงเเล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เเต่ด้วยเงินหรือเเรงกายเเรงใจที่เราเสียไป ทำให้ตัวเรายังคงเชื่อต่อไป ความคิดที่ว่ามันไม่จริงก็หลุดหายไปเอง อารมณ์ว่าถอยไม่ได้เเล้ว กระบวนการที่ว่านี้"เราไม่รุ้ตัว"
โลกซับซ้อนเหลือเกิน
เคยคิดที่ว่าจะหาทางกำจัด หรือดึงครอบครัวออกมาด้วยนะ เเต่อย่างว่า ตัวใครตัวมัน เราบังคับใครไม่ได้..
อีกอย่าง เห็นเรื่องเล็กเเค่นี้ เเต่ดูๆเเล้วกระบวนการคงซับซ้อน วางเเผนมาอย่างดี มีระบบ เป็นเครือข่าย..
อย่างที่บอกต้องรอให้มันถึงจุดของมันเองเหมือนทุกทีหรอ..
หรือสิ่งนี้คือของจริงที่คู่ควรกับคนไทย
จบ
คนในครอบครัวอยู่ในลัทธิ
ที่เคยเป็นข่าวกับทนาย เเต่ทนายทำอะไรไม่ได้
เข้าใจนะว่าทำไมถึงทำอะไรไม่ได้ เพราะว่า
-คนในนั้นเขาอยู่ด้วยความเต็มใจ ไม่ได้มีใครไปฉุดรั้งเอาไว้
ใครไม่มีคนในครอบครัวเข้าไปอยู่ก็คงตลกๆ เเบบคนเชื่อก็งมงาย
เเต่บังเอิญ ครอบครัวเดี้ยนเข้าไปอยู่ มันก็เริ่มไม่ตลก
ลัทธิเขาคงฝังรากลึกมากใช่ไหม ใช้หลายศาสตร์
-หลักจากจิตวิทยา,การขายของตามหลักธุรกิจ,การพูดโน้มน้าวใจ
หลายเหตุการณ์ที่เคยได้ยินจากครอบครัว
-ภัยพิบัติจะมา.. ให้รีบตุนน้ำใส่ขวด สรุปไม่มา ก็ให้เหตุผลว่าคนรู้ตัวเยอะ
-ขวดน้ำที่บรรจุเทวดา..
-อื่นๆ ไม่ขอเอ่ยถึง
ผลกระทบที่ได้รับ
-ครอบครัวเหมือนโดนล้างสมอง ชอบพูดอะไรซ้ำๆ เวลาจะพูด จะขึ้นต้นว่า "อาจารย์... สอนว่า.."
-ใครพูดจาลบหลู่ ตักเตือกไม่ได้ จะกระทบจิตใจอย่างรุนแรง
-จะบูชาเหมือนเทพเจ้า ตอนนี้เอารูปไปตั้งไว้เเถบเดียวกับพระ กราบเช้าเย็น
-เสียเงินบูชาของไปจำนวนมาก มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้เอะใจ
บูชาพีรมิดมีหลากหลานรุ่น ราคาก็เริ่มต้น 300 ถ้าจำไม่ผิด น่าจะทำมาจากปูนหล่อ ที่บ้านซื้อมาเยอะมาก หลักหมื่น
ต่อมามีการจักทำพิธี นำพีรมิดไปลอย ทดสอบว่าจมน้ำไหม(น่าจะขอให้ทุกคนร่วมด้วย) เอาไปทดลอง.. เป็นการเอาของออกบ้างจะได้ซื้อใหม่งี้หรอ
-ครอบครัวฐานะไม่ได้ดึ หาเช้ากินค่ำ เเต่ก็หมดไปเยอะ เเต่เราเห็นสภาพจิตใจเขาดีก็ไม่ได้อะไร เเล้วก็ไม่ได้มีปากมีเสียงที่จะเเนะนำอะไรได้อยู่เเล้ว
ครอบครัวอ้างว่า รักษาหายจริง เช่น ปวดขาหรืออะไรก็เเล้วเเต่ มันน่าจะเป็นผลจากจิตใจเขาเองใช่ไหม?
คำถาม
-ต้องรอให้มันถึงจุดของมันจริงๆ เช่น เณรคำ หรือหลายๆเคส นึกไม่ออก ถึงจะทำให้เราสามารถรู้ความจริงได้ใช่ไหม
-ถ้าเเนะนำให้ไปพิสูจน์ คงต้องขอบอกว่าไม่ เพราะยอมรับว่าทัศนคติเป็นลบกับด้านนี้ เพราะจากการคลุกคลีกับคนในครอบครัว รู้สึกเคมีเรากับลัทธินี้ไม่เข้ากัน
-เคยอ่านหนังสือมา เกี่ยวกับโน้มน้าวใจ มียกกรณีลัทธิเเบบนี้เเหละ ประมาณว่า
ถ้าเราหลุดเข้าไปในลัทธิเเล้ว ถึงภายในใจลึกๆจะค้นพบความจริงเเล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เเต่ด้วยเงินหรือเเรงกายเเรงใจที่เราเสียไป ทำให้ตัวเรายังคงเชื่อต่อไป ความคิดที่ว่ามันไม่จริงก็หลุดหายไปเอง อารมณ์ว่าถอยไม่ได้เเล้ว กระบวนการที่ว่านี้"เราไม่รุ้ตัว"
โลกซับซ้อนเหลือเกิน
เคยคิดที่ว่าจะหาทางกำจัด หรือดึงครอบครัวออกมาด้วยนะ เเต่อย่างว่า ตัวใครตัวมัน เราบังคับใครไม่ได้..
อีกอย่าง เห็นเรื่องเล็กเเค่นี้ เเต่ดูๆเเล้วกระบวนการคงซับซ้อน วางเเผนมาอย่างดี มีระบบ เป็นเครือข่าย..
อย่างที่บอกต้องรอให้มันถึงจุดของมันเองเหมือนทุกทีหรอ..
หรือสิ่งนี้คือของจริงที่คู่ควรกับคนไทย
จบ