
1. อ้างเหตุผลเข้าข้างตนเอง (Rationalization) เป็นการอ้างเหตุผลที่คิดว่าคนอื่นยอมรับ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง หรือเพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้น อาจแสดงออกในรูปขององุ่นเปรี้ยวหรือมะนาวหวาน
องุ่นเปรี้ยว เป็นวิธีการที่ทำให้ตนเองหรือคนอื่นเข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองอยากได้ แล้วไม่ได้นั้น ไม่ดี เช่น อยากให้อดีตนายกฯหญิงมาขึ้นศาล เพื่อโชว์ความเป็นวีรสตรี แต่ทำไม่ได้ก็ปลอบใจตนเองว่า ไม่อยากให้ขึ้นศาลจะรับโทษหนัก
มะนาวหวาน ตรงกันข้ามกับองุ่นเปรี้ยว คือการที่บุคคลพยายาามทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองได้นั้นดีเลิศอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงตัวอาจจะไม่ต้องการมาก่อน เช่น กาารหนีเป็นเรื่องดี เรื่องอะไรจะอยู่ให้เมื่อย ไปลั้นลาต่างประเทศ ตามประสาคนมีเงินดีกว่า
2. การปรับตัวแบบหาสิ่งอื่นมาทดแทน (Substitution) เป็นการหาสิ่งอื่นมาชดเชยสิ่งที่ตัวเองขาด ซึ่งมี 2 ลักษณะได้แก่
2.1 การชดเชย (Compensation) เมื่อขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไปหาสิ่งอื่นมาชดเชยเป็นการเปลี่ยนความต้องการหรือเป้าหมายใหม่ เช่น หันไปขุดเรื่องทางกฎหมายของคนหรือเรื่องที่ยังไม่ได้ตัดสินคดีมากล่าวหาเปรียบเทียบกับเรื่องของตนเอง
2.2 การทดแทน (Displacement) วิธีนี้ไม่เปลี่ยนเป้าหมายแต่พยายามหาสิ่งทดแทนอย่างอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกับความต้องการเดิมและสิ่งใหม่นี้ตัวเองพอจะหาทางตอบสนองได้ เช่น
คนก้าวร้าว อยากทำร้ายด่าว่าคนอื่น แต่สังคมไม่ยอมรับก็พยายามหาสิ่งทดแทนที่สังคมยอมรับ เช่น ทำเป็นหาคำกล่าวของนักวิชาการมาตำหนิติเตียนแทน เช่น มงแต็สกีเยอ ดร.โกร่ง กบต้ม เป็นต้น
3. การปรับตัวแบบโทษผู้อื่นหรือการโยนบาป (Projection) เป็นการอ้างความผิดของคนอื่นขึ้นมา ลบความผิดของตน เช่น ที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์หนีไป เพราะถูกฝ่ายตรงข้ามกลั่นแกล้ง อิจฉาริษยา ต้องการสืบทอดอำนาจ หรือความผิดอย่างนี้ คนอื่นรอดไม่ติดคุก แต่ฝ่ายตัวเองติดคุกอยู่ฝ่ายเดียว เป็นต้น
4. ความก้าวร้าว (Aggression) เป็นการลดความคับข้องใจโดยให้ผู้อื่นได้รับความกระทบกระเทือน ซึ่งส่วนใหญ่จะเนื่องมาจากความโกรธ เช่น
4.1 การก้าวร้าวโดยตรง (Direct Aggression) เป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อสิ่งของหรือบุคคลที่ทำให้โกรธหรือคับข้องใจ เช่น การใช้คำหยาบหรือใช้วาจาพูดให้สะเทือนใจ หรือการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามให้เจ็บใจ ว่ารัฐบาลและพรรคที่อยู่ตรงข้ามให้เสียหาย
4.2 การก้าวร้าวทางอ้อม (Displaced Aggression) เช่น ผิดหวังที่อดีตนายกยิ่งลักษณ์หนีศาล ก็พาลเศร้าเสียใจ ไปหาเรื่องพูดประชดประชันเสียดสีคนอื่นอ้อมๆ เป็นต้น
5. การเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ (Reaction Formation) เป็นการปรับตัวแบบหน้าไหว้หลังหลอก เช่น พูดเชียร์รัฐบาลให้อยู่ต่อชั่วกาลนาน เรียกว่าปากกับใจไม่ตรงกัน ส่วนลึกนั้นชิงชังอย่างเหลือเกิน หรือบอกว่าคนที่เชียร์รักประเทศไทยแต่ในใจโกรธแค้นที่อยู่ประเทศไทยไม่ได้
6. การเก็บกด (Repression) เป็นการปรับตัวโดยการทำเป็นลืม ทำไม่สนใจ ไม่คิด ไม่กังวล พยายามปัดออกไปจากจิตรู้สำนึก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองมีความทุกข์ ความละอายหรือความเจ็บปวดหรือเจ็บแน่นแสนสาหัส นานๆ เข้าอาจจะลืมได้ วิธีการแบบนี้บุคคลไม่ได้ระบายความวิตกกังวลเลย ความวิตกกังวลหรือความไม่สบายใจจึงมีอยู่ตลอดเวลา นานๆ เข้าจะทำให้เป็นคนเจ้าทุกข์ เจ้าคิด เจ้าแค้น ไม่มีเวลาสำหรับความรื่นรมย์ใด ๆ ในชีวิตเลย
ขอบคุณข้อมูลทางวิชาการจาก..👇
https://sites.google.com/site/educationalpsychology2555/
ปลาหมึก เปลี่ยนสีเพื่อป้องกันตนเอง แต่จิ้งจก เปลี่ยนสีเพื่อจะไปกินแมลงตามเพดานห้อง
จิ้งจกเปลี่ยนสี ถือว่าเป็นวิธีที่อันตราย เพราะคนเช่นนี้ พร้อมที่จะกัดกินใครก็ได้ ขอให้ตัวเขาได้ผลประโยชน์
ระวัง ! อยู่ห่างๆจิ้งจกตัวร้ายกันไว้นะคะ

~มาลาริน~** จิ้งจกยังต้องเปลี่ยนสี ทำไมวีรสตรีจะหนีเพื่อความอยู่รอดไม่ได้...มาดู 6 วิธีการปรับตัวของบรรดาจิ้งจกกันค่ะ
1. อ้างเหตุผลเข้าข้างตนเอง (Rationalization) เป็นการอ้างเหตุผลที่คิดว่าคนอื่นยอมรับ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง หรือเพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้น อาจแสดงออกในรูปขององุ่นเปรี้ยวหรือมะนาวหวาน
องุ่นเปรี้ยว เป็นวิธีการที่ทำให้ตนเองหรือคนอื่นเข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองอยากได้ แล้วไม่ได้นั้น ไม่ดี เช่น อยากให้อดีตนายกฯหญิงมาขึ้นศาล เพื่อโชว์ความเป็นวีรสตรี แต่ทำไม่ได้ก็ปลอบใจตนเองว่า ไม่อยากให้ขึ้นศาลจะรับโทษหนัก
มะนาวหวาน ตรงกันข้ามกับองุ่นเปรี้ยว คือการที่บุคคลพยายาามทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองได้นั้นดีเลิศอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงตัวอาจจะไม่ต้องการมาก่อน เช่น กาารหนีเป็นเรื่องดี เรื่องอะไรจะอยู่ให้เมื่อย ไปลั้นลาต่างประเทศ ตามประสาคนมีเงินดีกว่า
2. การปรับตัวแบบหาสิ่งอื่นมาทดแทน (Substitution) เป็นการหาสิ่งอื่นมาชดเชยสิ่งที่ตัวเองขาด ซึ่งมี 2 ลักษณะได้แก่
2.1 การชดเชย (Compensation) เมื่อขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไปหาสิ่งอื่นมาชดเชยเป็นการเปลี่ยนความต้องการหรือเป้าหมายใหม่ เช่น หันไปขุดเรื่องทางกฎหมายของคนหรือเรื่องที่ยังไม่ได้ตัดสินคดีมากล่าวหาเปรียบเทียบกับเรื่องของตนเอง
2.2 การทดแทน (Displacement) วิธีนี้ไม่เปลี่ยนเป้าหมายแต่พยายามหาสิ่งทดแทนอย่างอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกับความต้องการเดิมและสิ่งใหม่นี้ตัวเองพอจะหาทางตอบสนองได้ เช่น
คนก้าวร้าว อยากทำร้ายด่าว่าคนอื่น แต่สังคมไม่ยอมรับก็พยายามหาสิ่งทดแทนที่สังคมยอมรับ เช่น ทำเป็นหาคำกล่าวของนักวิชาการมาตำหนิติเตียนแทน เช่น มงแต็สกีเยอ ดร.โกร่ง กบต้ม เป็นต้น
3. การปรับตัวแบบโทษผู้อื่นหรือการโยนบาป (Projection) เป็นการอ้างความผิดของคนอื่นขึ้นมา ลบความผิดของตน เช่น ที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์หนีไป เพราะถูกฝ่ายตรงข้ามกลั่นแกล้ง อิจฉาริษยา ต้องการสืบทอดอำนาจ หรือความผิดอย่างนี้ คนอื่นรอดไม่ติดคุก แต่ฝ่ายตัวเองติดคุกอยู่ฝ่ายเดียว เป็นต้น
4. ความก้าวร้าว (Aggression) เป็นการลดความคับข้องใจโดยให้ผู้อื่นได้รับความกระทบกระเทือน ซึ่งส่วนใหญ่จะเนื่องมาจากความโกรธ เช่น
4.1 การก้าวร้าวโดยตรง (Direct Aggression) เป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อสิ่งของหรือบุคคลที่ทำให้โกรธหรือคับข้องใจ เช่น การใช้คำหยาบหรือใช้วาจาพูดให้สะเทือนใจ หรือการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามให้เจ็บใจ ว่ารัฐบาลและพรรคที่อยู่ตรงข้ามให้เสียหาย
4.2 การก้าวร้าวทางอ้อม (Displaced Aggression) เช่น ผิดหวังที่อดีตนายกยิ่งลักษณ์หนีศาล ก็พาลเศร้าเสียใจ ไปหาเรื่องพูดประชดประชันเสียดสีคนอื่นอ้อมๆ เป็นต้น
5. การเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ (Reaction Formation) เป็นการปรับตัวแบบหน้าไหว้หลังหลอก เช่น พูดเชียร์รัฐบาลให้อยู่ต่อชั่วกาลนาน เรียกว่าปากกับใจไม่ตรงกัน ส่วนลึกนั้นชิงชังอย่างเหลือเกิน หรือบอกว่าคนที่เชียร์รักประเทศไทยแต่ในใจโกรธแค้นที่อยู่ประเทศไทยไม่ได้
6. การเก็บกด (Repression) เป็นการปรับตัวโดยการทำเป็นลืม ทำไม่สนใจ ไม่คิด ไม่กังวล พยายามปัดออกไปจากจิตรู้สำนึก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองมีความทุกข์ ความละอายหรือความเจ็บปวดหรือเจ็บแน่นแสนสาหัส นานๆ เข้าอาจจะลืมได้ วิธีการแบบนี้บุคคลไม่ได้ระบายความวิตกกังวลเลย ความวิตกกังวลหรือความไม่สบายใจจึงมีอยู่ตลอดเวลา นานๆ เข้าจะทำให้เป็นคนเจ้าทุกข์ เจ้าคิด เจ้าแค้น ไม่มีเวลาสำหรับความรื่นรมย์ใด ๆ ในชีวิตเลย
ขอบคุณข้อมูลทางวิชาการจาก..👇
https://sites.google.com/site/educationalpsychology2555/
ปลาหมึก เปลี่ยนสีเพื่อป้องกันตนเอง แต่จิ้งจก เปลี่ยนสีเพื่อจะไปกินแมลงตามเพดานห้อง
จิ้งจกเปลี่ยนสี ถือว่าเป็นวิธีที่อันตราย เพราะคนเช่นนี้ พร้อมที่จะกัดกินใครก็ได้ ขอให้ตัวเขาได้ผลประโยชน์
ระวัง ! อยู่ห่างๆจิ้งจกตัวร้ายกันไว้นะคะ