Hi Pantipean สวัสดีชาวพันทิพย์ วันนี้ไอ มีประสบการณ์การท่องเที่ยวมาแชร์ ต้องขออนุญาตแทนตัวเองว่าไอนะ พอดีเข้ากับหน้าเลยฝึกพูดไว้เผื่อได้สามีฝรั่งดั้งโด่งกับเค้าบ้าง ถึงไอจะดูคล้ายนิกรอยก็เถอะ
ขออนุญาตยืมรูปคุณรัศมีแขมาใช้ เพราะ physical และ inner มันใช่ คนอ่านจะได้นึกภาพไอออก แต่จริงๆ คุณรัศมีแขสวยกว่าไอเยอะ อย่างน้อยนางก็หุ่นดีผิวงาม ในขณะที่ไอนี่อ้วนยังกับยักษ์แถมขนดกประหนึ่งใส่ถุงน่องกันข่มขืนตลอดเวลา
เพื่อให้เห็นภาพ ความขนดกของไอ แม่ใส่ให้ตั้งแต่เกิดเลย TT
ขอบคุณ google สำหรับตัวอย่างภาพถุงน่องกันข่มขืน
เห็นไอ dark tall and terrible ขนาดนี้ แต่จริง ข้างในไอขาวใสบริสุทธิ์ผุดผ่อง อ่อนต่อโลกเหมือนกับเจ้าหญิงราพันเซล ที่ถูกแม่มดลักพาตัวมาขังไว้บนหอคอยตั้งแต่ยังแบเบาะเอ๊าะแอ๊ะ จะว่าไป ราพันเซลนี้เป็นเจ้าหญิงที่อาภัพที่สุดเลยนะ เกิดมาเป็นเจ้าหญิงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง โดนขังไว้บนหอคอยสูงไม่ได้เจอผู้เจอคน เจอแต่กิ้งก่า แถมสุดท้ายได้สามีเป็นโจรอีก โอ๊ยชีวิต!!! แต่เอาเถอะ อย่างน้อยนางก็ยังได้สามี ไอซะอีก จะหาได้ไหม เพราะไอว่าไอนี่อาภัพยิ่งกว่า เพราะไอเป็นราพันเซลที่ถูกกร้อนผมให้สั้นกันอ่อยผู้ให้ปีนขึ้นมาหา แล้วฟ้ายังสาปให้ไออยู่ในร่างยักษ์ตัวเขียวตัวขนอีกตะหาก ไม่รู้ว่าระหว่างไอกับมังกรเนี่ย ถ้าเจ้าชายเจอพร้อมกัน จะเลือกฆ่าใครก่อน!!!
ออกนอกเรื่องไปซะไกล กลับมาเข้าเรื่องเที่ยวกันดีกว่า จะว่าไปจริงๆ ไอก็ไม่ได้มีเจตนาไปเที่ยวจริงๆ หรอก ไอไปตามหารักแท้และชาติกำเนิดที่แท้จริงของไอมากกว่า วันๆ อยู่แต่ในหอคอยอะเนอะ ผู้ชงผู้ชายไม่ได้เจอะได้เจอ หลุดมาจากพาต้า เอ๊ยหอคอยได้ ไอก็ขอเต็มที่หน่อย ทริปแรกที่ไอจะออกไปตามล่าหาชาติกำเนิดและรักแท้นั้น ไอเลือกจีนเป็นประเทศเป้าหมาย ทำไมนะหรอ ไอมีเหตุผลดังต่อไปนี้
1. จีนเป็นประเทศที่ใหญ่มากๆ มีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลาย
2. จีนมีอารยธรรมที่น่าสนใจและเก่าแก่ มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกโลกมากมาย
3. สำคัญที่สุดเลย คือจีนมีประชากรเป็น 1.4 พันล้านคน แล้วเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงอีกด้วย นั่นแปลว่ามีผู้ชายมากกว่า 700 ล้านคน แหม มันต้องมีสักคนสิวะ ที่เป็นของไอ!!!
4. อย่างที่พอจะได้ยินข่าวกัน คนจีนนี่ชอบทำอะไรแปลกๆ ชอบของแปลกๆ ไอว่าไอก็แปลกระดับนึง น่าจะพอถูกใจหนุ่มตี๋ตาชั้นเดียวบ้างสักคน พูดแล้วเขิน ฮื้มๆ (ทำเสียงหมั่นเขี้ยวพร้อมกัดกราม เหมือนมาดามมด) เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เป็นไงเป็นกันสิว่ะ
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ก่อนจะแย่งกันจองตั๋ว มาดูการเตรียมตัวก่อนที่จะไปเที่ยวจีนกันซะก่อน บอกก่อนนะจ๊ะ ประเทศจีนนี่ไม่ได้ไปกันง่ายๆ เพราะฉะนั้นอยากจะเที่ยวให้สนุก จิกผู้ได้เต็มที่ ต้องเตรียมตัวก่อนไปกันให้ดีซะก่อน เริ่มกันที่
1. Visa!!! ใช่ จะไปเที่ยวประเทศจีนนอกจากมี passport แล้วยูต้องมี Visa กันด้วยนะจ๊ะ แต่วีซ่าจีนนี่ทำง่ายมากๆ ไม่เหมือนยุโรป หรืออเมริกา เพราะใช้เอกสารแค่ passport รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว หน้าตรงพื้นหลังสีขาว 2 ใบ พร้อมเงิน 1,500 บาท ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม search ดูจากกระทู้ใน pantip นี่แหละ มีคนทำรีวิวไว้ซะละเอียดเลย อะแปะ link ไว้ให้
https://pantip.com/topic/34669405 ไอรู้ว่าพวกยูอะขี้เกียจหา (เป็นเจ้าหญิงก็งี้แหละสวยแล้วก็ต้องจิตใจดีด้วย) แต่สำหรับไอน่ะหรอ ก็ใช้เงินแก้ปัญหาตามประสาคนมีอันจะกินบ้างไม่มีกินบ้าง จ้างพวก visa agency ทำ ก็โดนไป 2,500 เบาๆ
2. Internet ที่จีนนี่ ถ้ายูไปซื้อซิมที่โน่นประมาณ 50 – 300 หยวน จะคิดเป็นเงินบาทก็คูณ 5 เข้าไป ก็สามารถทำได้ แต่ยุ่งยากพอควร เพราะจะหาคนจีนที่ขายซิมให้พวกยูที่จะอธิบายให้ยูเข้าใจ package มันก็ยากอยู่ ไม่ว่ายูจะหัวทองหัวดำผิวขาวหรือผิวเข้มเค้าก็พูดจีนใส่ยูเหมือนกันแหละย่ะ ที่นี่เท่าเทียมมากๆ แต่ที่ต้องรู้เลยคือ ยูจะไม่สามารถเข้า Google, Google Map, Facebook, Line, Instagram ได้เลย ถึงแม้จะใช้ wifi ของโรงแรมก็ตาม เข้าไม่ได้คือไม่ได้จริง ยิ่งใครอ่านภาษาจีนไม่ออกด้วยนะ ยิ่งลำบากมากๆ ไอโดนมากับตัวแล้ว ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนแชร์รายละเอียดทริป ไอแนะนำเลย คนไทยที่ขาด Social ไม่ได้อย่างพวกเราให้ซื้อ package data roaming จากค่ายมือถือพวกยูไปดีกว่า ซื้อจากซิมที่พวกยูใช้อยู่ไปเลยนะ เพราะไอ้ซิมสำหรับท่องเที่ยวไปใช้ที่จีนไม่เวิร์คอย่างรุนแรง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตกวันละ 300-500 แล้วแต่ค่ายมือถือของพวกยูนั่นแหละ นอกจากนี้ไออยากให้พวกยู load app wechat ไว้เผื่อด้วยนะ เวลาเจอหนุ่มตี๋ที่ถูกใจ พวกยูจะได้ขอ add Wechat เค้า จะไปขอ add Line หนุ่มจีนนี่เค้าไม่มีให้หรอก และความประเสริฐของ Wechat เนี่ยนะ คือมันสามารถแปลภาษาจีนให้เราได้ด้วย แค่กดต้องข้อความภาษาจีนที่เค้าพิมพ์มาหาเราค้างไว้ เดี๋ยวมันจะขึ้น pop up เมนูมาให้เราเลือกว่าจะ คัดลอก หรือแปล หรืออะไร ง่ายมากๆ ขนาดไอพูดภาษาจีนไม่ได้ ไอยังแอ๊วหนุ่มจีนแซ่บๆ ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้สำเร็จมาแล้วเลย
3. เงิน อันนี้สำคัญ เตรียมไปให้พร้อม ยูจะไปเที่ยวแอ๊วผู้ชายทั้งทีนี่ต้องลงทุนกันหน่อยนะย่ะ หัดอยู่สายเปย์กันซะบ้าง จะไปเที่ยวแบบประหยัดยัดมาม่านี้คงจะได้ผู้กลับมาหรอก ที่จีนข้าวของไม่ได้แพงมาก กินอยู่รวมเดินทางแบบสบายๆ ก็ใช้ประมาณวันละ 1,000 บาท ประมาณนั้น ไปกี่วันก็คำนวณกันไปให้ดี อย่าลืมประมาณการณ์งบ shopping ของตัวเองด้วยละ มีของน่าซื้อเยอะเชียวหล่ะ ส่วนค่าโรงแรมก็ประมาณคืนละ 1,500 – 3,000 บาทแล้วแต่ความหรูหรา อยู่กันได้ 2 คน ใครมีเงินถุงเงินถังจะนอนแพงกว่านี้ก็เชิญย่ะ ไม่ได้อิจฉาเลยจริ๊งจริงๆ เสียงสูงมากกกก ส่วนการแลกเงินหยวนก็แนะนำ Superich ในเมืองนะ เพราะเรทจะดีกว่าในสนามบิน ถ้าแลกธนาคารก็จะแพงกว่าอีกนิดนึง ซึ่งแล้วแต่ใครจะสะดวกละกัน ตอนไอไปไอก็ลืมแลก ไปเจอเรทบูธธนาคารในสนามบินก็แอบเกลียดตัวเองไปพักนึงเหมือนกัน
4. บัตรเครดิต อันนี้ก็แนะนำให้เอาไปด้วย แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้สมัครบัตรเครดิตของเครือ Union Pay ไปสักใบนะ เพราะถึงหน้างานแล้วจะได้ไม่ต้องลุ้นว่ารูดได้หรือไม่ได้ แต่เรทจะแพงกว่าเงินสดอีกประมาณ 5% เลยนะ อย่ารูดกันเพลินนะย่ะ ไปเที่ยวหน่ะหน้าใหญ่กลับมาหน้าซีด ไอไม่รู้ด้วยนะ เพราะหน้าไอเองก็ยังซีดไม่หายเลย TT
5. ที่พัก โรงแรมที่จีนไม่ได้แพงมาก มีหลากหลายราคาหลากหลายระดับให้เลือก แต่แนะนำว่ายอมลงทุนเลือกพักที่ดีๆ หน่อย อาจจะคืนละ 1,500 บาทขึ้นไป เพราะไปเที่ยวจีนขอบอกว่าเหนื่อยมากนะ ยูต้องเดินทางเยอะมากๆ ไม่ว่าจะนั่งรถหรือเดิน เพราะจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มากๆ ดังนั้นเวลาพักผ่อนควรจะได้พักผ่อนจริงๆ แล้วยูจะมาแรงเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเยอะ สำหรับคนที่ชอบพัก Airbnb สำหรับประเทศจีนนี่ไอยังไม่ค่อยแนะนำ เพราะไอคิดว่าคนจีนยังไม่ค่อยพร้อมที่จะเป็น Host สักเท่าไหร่ เค้ายังเตรียมรายละเอียดให้แขกได้ไม่ค่อยดี ข้าวของในที่พักก็ยังขาดๆ เกินๆ อยู่ อาจจะต้องรอให้เค้าปรับตัวอีกสักพักน่าจะอยู่แล้ว Happy กว่าตอนนี้
6. หยูกยา ที่จีนนี่หาซื้อยาไม่ยาก แต่ยูจะสื่อสารกับเค้ายาก เพราะฉะนั้นอย่าประมาท เตรียมไปเถอะ ยาลดไข้ แก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาแก้ท้องเสีย ยาลดกรด ใครรู้ตัวว่าเป็นโรคอะไรบ่อยๆ ก็เตรียมไปไม่เสียหลาย ใครจะไปหาฟงหาแฟนก็เตรียมอุปกรณ์ป้องกันไปด้วยนะจ๊ะ อย่าไปริอาจใช้ถุงก็อปแก็ปอย่างที่เคยเป็นข่าวกันหล่ะ ถ้ายูได้ไปสัมผัสประเทศจีนสักครั้งยูจะไม่แปลกใจกับข่าวอะไรแปลกๆ แบบนี้เลย ไอเจอมาแล้ว ไว้ไอจะเล่าให้ฟังในทริป
7. เสื้อผ้า ก่อนไปทำการบ้านให้ดีนะจ๊ะว่าจะไปเมืองไหนในจีนบ้าง ไอบอกเลยว่าภูมิอากาศที่จีนนี่ต่างกันมากมายราวนรกกับสววรรค์นะย่ะ หากไปในเมืองที่ยังหัวโบราณอยู่ ยูก็อย่าแต่งตัวอะไรที่มีล่อแหลมแปลกประหลาดนำแฟชั่นมากหล่ะ เดี๋ยวโดนปาขยะใส่ จะหาว่าไอไม่เตือน แต่ถ้าไปเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ ก็แต่งไปเถอะย่ะ เผลอๆ หล่อนอาจจะได้เป็น Net Idol ที่จีนอย่างพี่สิตางค์ สายสะบัด หรือแฮปปี้พอลล่าก็ได้ เอ..หรือว่านี่จะเป็นโอกาสเผยความเป็นดาวในตัวของไอ คริๆ
8. เพื่อนคนจีน ที่พอสื่อสารกับเราได้ การมีเพื่อนคนจีนนี่ประหนึ่งยูได้อภิสิทธิ์จากบัตร VIP เพราะเค้าจะทำให้ชีวิตของยูที่จีนง่ายขึ้นมากๆ และประหยัดขึ้นด้วย ซึ่งไอมีเพื่อนคนจีนคนนึงซึ่งเค้าจะพาไอเที่ยวเฉิงตู หน้าตาน่ารักด้วย เดี๋ยวไอจะแอบเอารูปเค้ามาอวด คริๆ
ปูพื้นมาซะยาวเลย ไอว่าเรามาเข้าเรื่องเริ่มต้นทริปของไอกันเลยดีกว่า สำหรับทริปนี้ไอให้ชื่อว่า ราพันเซลฯ ตะลุยแดนมังกร อยากได้ลูกมังกรก็ต้องเข้าถ้ำมังกรสิจริงมะ จะมังกรหัวเดียว สามหัว หรือเก้าหัว ตอนนี้ไอก็พร้อมเผชิญ ขอให้เจอเถอะสาธุ๊!!!
สำหรับทริปนี้ไอจะไป 3 เมืองด้วยกัน คือ เฉิงตู อุรุมชี และเซียงไฮ้ เมืองละประมาณ 4-5 วัน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 14 วัน นานมากกกกก เอาให้มันได้ให้มันโดนกันไปเลยทริปนี้ ทริปล่าผู้แบบนี้ไอก็ต้องไปคนเดียวนะ เอาเพื่อนไปด้วยไม่ได้เพราะเดี๋ยวผู้ชายจะมีตัวเลือก และที่สำคัญคือมันจะไม่เลือกไอนี่หล่ะ อะก่อนจะบินก็ต้องแวะเข้า lounge นั่งแอ๊คท่าถ่ายรูปสวยๆ กินขนมกรุบกริบรองท้องก่อนบินกันสักหน่อย ที่สำคัญเผื่อได้เจอนักธุรกิจรูปหล่อพ่อรวยมาจีบ คริๆ
แค่เดินเข้ามาเช็คอินที่ reception ของ lounge ผู้ชายทุกคนในนั้นก็หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างแล้วมองมาที่ไอเป็นตาเดียว คงตะลึงพรึงเพริดในรูปโฉมของไอกันหล่ะสิ สักพักพอผู้ชายเหล่านั้นได้สติก็เริ่มมองหาที่นั่งใหม่กันเป็นแถวรีบไปนั่งกองรวมกันเป็นกลุ่มเชียว กลัวจะมีที่ว่างข้างๆ เหลือให้ไอไปนั่งแทรกกันเหรอย่ะ แหมไอเข้าไปนั่งใกล้ๆ แค่นี้ ไม่คันหรอกย่ะ แค่เหม็น!!!
นั่งเล่นไปได้สักครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลา Boarding ไอก็ต้องเดินไปที่ Gate แล้วหล่ะ สายการบินที่ไอใช้บินจากไทยไปเฉิงตู คือ Sichuan Airline ซึ่งเป็นถือว่าเป็นสายการบินหลักของมณฑลเสฉวนเลยก็ว่าได้ ถ้าเทียบเกรดก็พอๆ กับการบินไทยบ้านเรานี่แหละ ใครมีสัมภาระที่จะ carry หรือถือขึ้นเครื่องรีบไปเลยนะย่ะ เพราะถ้าไปช้าขึ้นเครื่องหลังๆ ยูจะไม่มีที่เก็บของ ต้องไปเก็บของไกลจากที่นั่ง เพราะยูบินกับคนจีนนี่จำไว้เลยว่าคนจีนนี่ก็บ้าหอบฟางเหมือนกันของเยอะมากๆ แล้วก็เร็วมากๆ แป๊บเดียวยัดของเต็มช่องเก็บของบนหัวเราหมดแล้วแถมลามไปแถวอื่นๆ อีกตะหาก
กว่าจะฝ่าฝูงชนคนตาชั้นเดียวมานั่งที่ seat ได้ เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่กเปียกไปถึงง่ามขากันเลยทีเดียว พยายามหมุนเร่งแอร์บนเพดานเครื่องตรงที่นั่งแล้ว ทำไมลมที่ออกมาไม่เย็นสักที โอ๊ยหงุดหงิด คิดในใจเดี๋ยวเครื่องขึ้นคงจะเย็นขึ้นกว่านี้ นั่งทนขนเปียกไปก่อนละกัน สำหรับการเลือกที่นั่ง สำหรับไฟล์ทยาวตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป ไอแนะนำให้เลือกที่นั่งติดทางเดินไว้น่าจะสะดวกที่สุดเพราะยังไงยูก็ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ แถมมีโอกาสได้แอ๋วสจ๊วตอีกด้วย ซึ่งไอกำลังลุ้นในใจขอให้พนักงานบริการบนเครื่องบินโซนที่ไอนั่งเป็นสจ๊วตหนุ่มตี๋ขาวๆ หล่อๆ ดูอินเตอร์ๆ เหมือนเจมส์มาร์ อาเล็กธีรเดช หวังลี่ฮง หรืออย่างน้อยเจย์โชว์ก็ยังดี และแล้วคำขอของไอก็สัมฤทธิ์ผล ได้สจ๊วตหนุ่มตี๋จริงๆ แต่ตี๋แบบคนขายน้ำเต้าหู้หน้าปากซอยแถวบ้านนี่แหละ ชื่ออาซ้ง ไอตั้งให้ตามชื่อคนขายน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย คือตัวเล็กๆ ผอมๆ แกร็นๆ หน้าจืดๆ ผิวเหลืองๆ แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ต้องทำเขินไอไม่ได้พูดจริงๆ เอาวะ นาทีนี้ก็ดีที่สุดแล้วหล่ะที่จะแอ๊ว เพราะข้างๆ ก็เป็นชะนีจีนวัยรุ่น 2 คนแต่งตัวอย่างกับฮิปฮอป แต่ก็ดีที่นางสองคนตัวเล็ก ไอก็นั่งสบายหน่อย มาถึงนางก็ทำเป็นหลับเอาเสื้อแจ๊คเก็ตคลุมหัวนอนไปเลย ไม่รู้ง่วงจริงหรือกลัวไอกันแน่ ตั้งแต่ขอเข้ามานั่งแล้วดูไม่ค่อยกล้าสบตาไอเท่าไห
แชร์ประสบการณ์การเดินทางตามหาตัวตน ต้นกำเนิด และรักแท้ ตอน ราพันเซลฯ ตะลุยแดนมังกร EP 0
Hi Pantipean สวัสดีชาวพันทิพย์ วันนี้ไอ มีประสบการณ์การท่องเที่ยวมาแชร์ ต้องขออนุญาตแทนตัวเองว่าไอนะ พอดีเข้ากับหน้าเลยฝึกพูดไว้เผื่อได้สามีฝรั่งดั้งโด่งกับเค้าบ้าง ถึงไอจะดูคล้ายนิกรอยก็เถอะ
ขออนุญาตยืมรูปคุณรัศมีแขมาใช้ เพราะ physical และ inner มันใช่ คนอ่านจะได้นึกภาพไอออก แต่จริงๆ คุณรัศมีแขสวยกว่าไอเยอะ อย่างน้อยนางก็หุ่นดีผิวงาม ในขณะที่ไอนี่อ้วนยังกับยักษ์แถมขนดกประหนึ่งใส่ถุงน่องกันข่มขืนตลอดเวลา
เพื่อให้เห็นภาพ ความขนดกของไอ แม่ใส่ให้ตั้งแต่เกิดเลย TT
เห็นไอ dark tall and terrible ขนาดนี้ แต่จริง ข้างในไอขาวใสบริสุทธิ์ผุดผ่อง อ่อนต่อโลกเหมือนกับเจ้าหญิงราพันเซล ที่ถูกแม่มดลักพาตัวมาขังไว้บนหอคอยตั้งแต่ยังแบเบาะเอ๊าะแอ๊ะ จะว่าไป ราพันเซลนี้เป็นเจ้าหญิงที่อาภัพที่สุดเลยนะ เกิดมาเป็นเจ้าหญิงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง โดนขังไว้บนหอคอยสูงไม่ได้เจอผู้เจอคน เจอแต่กิ้งก่า แถมสุดท้ายได้สามีเป็นโจรอีก โอ๊ยชีวิต!!! แต่เอาเถอะ อย่างน้อยนางก็ยังได้สามี ไอซะอีก จะหาได้ไหม เพราะไอว่าไอนี่อาภัพยิ่งกว่า เพราะไอเป็นราพันเซลที่ถูกกร้อนผมให้สั้นกันอ่อยผู้ให้ปีนขึ้นมาหา แล้วฟ้ายังสาปให้ไออยู่ในร่างยักษ์ตัวเขียวตัวขนอีกตะหาก ไม่รู้ว่าระหว่างไอกับมังกรเนี่ย ถ้าเจ้าชายเจอพร้อมกัน จะเลือกฆ่าใครก่อน!!!
ออกนอกเรื่องไปซะไกล กลับมาเข้าเรื่องเที่ยวกันดีกว่า จะว่าไปจริงๆ ไอก็ไม่ได้มีเจตนาไปเที่ยวจริงๆ หรอก ไอไปตามหารักแท้และชาติกำเนิดที่แท้จริงของไอมากกว่า วันๆ อยู่แต่ในหอคอยอะเนอะ ผู้ชงผู้ชายไม่ได้เจอะได้เจอ หลุดมาจากพาต้า เอ๊ยหอคอยได้ ไอก็ขอเต็มที่หน่อย ทริปแรกที่ไอจะออกไปตามล่าหาชาติกำเนิดและรักแท้นั้น ไอเลือกจีนเป็นประเทศเป้าหมาย ทำไมนะหรอ ไอมีเหตุผลดังต่อไปนี้
1. จีนเป็นประเทศที่ใหญ่มากๆ มีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลาย
2. จีนมีอารยธรรมที่น่าสนใจและเก่าแก่ มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกโลกมากมาย
3. สำคัญที่สุดเลย คือจีนมีประชากรเป็น 1.4 พันล้านคน แล้วเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงอีกด้วย นั่นแปลว่ามีผู้ชายมากกว่า 700 ล้านคน แหม มันต้องมีสักคนสิวะ ที่เป็นของไอ!!!
4. อย่างที่พอจะได้ยินข่าวกัน คนจีนนี่ชอบทำอะไรแปลกๆ ชอบของแปลกๆ ไอว่าไอก็แปลกระดับนึง น่าจะพอถูกใจหนุ่มตี๋ตาชั้นเดียวบ้างสักคน พูดแล้วเขิน ฮื้มๆ (ทำเสียงหมั่นเขี้ยวพร้อมกัดกราม เหมือนมาดามมด) เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เป็นไงเป็นกันสิว่ะ
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ก่อนจะแย่งกันจองตั๋ว มาดูการเตรียมตัวก่อนที่จะไปเที่ยวจีนกันซะก่อน บอกก่อนนะจ๊ะ ประเทศจีนนี่ไม่ได้ไปกันง่ายๆ เพราะฉะนั้นอยากจะเที่ยวให้สนุก จิกผู้ได้เต็มที่ ต้องเตรียมตัวก่อนไปกันให้ดีซะก่อน เริ่มกันที่
1. Visa!!! ใช่ จะไปเที่ยวประเทศจีนนอกจากมี passport แล้วยูต้องมี Visa กันด้วยนะจ๊ะ แต่วีซ่าจีนนี่ทำง่ายมากๆ ไม่เหมือนยุโรป หรืออเมริกา เพราะใช้เอกสารแค่ passport รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว หน้าตรงพื้นหลังสีขาว 2 ใบ พร้อมเงิน 1,500 บาท ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม search ดูจากกระทู้ใน pantip นี่แหละ มีคนทำรีวิวไว้ซะละเอียดเลย อะแปะ link ไว้ให้ https://pantip.com/topic/34669405 ไอรู้ว่าพวกยูอะขี้เกียจหา (เป็นเจ้าหญิงก็งี้แหละสวยแล้วก็ต้องจิตใจดีด้วย) แต่สำหรับไอน่ะหรอ ก็ใช้เงินแก้ปัญหาตามประสาคนมีอันจะกินบ้างไม่มีกินบ้าง จ้างพวก visa agency ทำ ก็โดนไป 2,500 เบาๆ
2. Internet ที่จีนนี่ ถ้ายูไปซื้อซิมที่โน่นประมาณ 50 – 300 หยวน จะคิดเป็นเงินบาทก็คูณ 5 เข้าไป ก็สามารถทำได้ แต่ยุ่งยากพอควร เพราะจะหาคนจีนที่ขายซิมให้พวกยูที่จะอธิบายให้ยูเข้าใจ package มันก็ยากอยู่ ไม่ว่ายูจะหัวทองหัวดำผิวขาวหรือผิวเข้มเค้าก็พูดจีนใส่ยูเหมือนกันแหละย่ะ ที่นี่เท่าเทียมมากๆ แต่ที่ต้องรู้เลยคือ ยูจะไม่สามารถเข้า Google, Google Map, Facebook, Line, Instagram ได้เลย ถึงแม้จะใช้ wifi ของโรงแรมก็ตาม เข้าไม่ได้คือไม่ได้จริง ยิ่งใครอ่านภาษาจีนไม่ออกด้วยนะ ยิ่งลำบากมากๆ ไอโดนมากับตัวแล้ว ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนแชร์รายละเอียดทริป ไอแนะนำเลย คนไทยที่ขาด Social ไม่ได้อย่างพวกเราให้ซื้อ package data roaming จากค่ายมือถือพวกยูไปดีกว่า ซื้อจากซิมที่พวกยูใช้อยู่ไปเลยนะ เพราะไอ้ซิมสำหรับท่องเที่ยวไปใช้ที่จีนไม่เวิร์คอย่างรุนแรง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตกวันละ 300-500 แล้วแต่ค่ายมือถือของพวกยูนั่นแหละ นอกจากนี้ไออยากให้พวกยู load app wechat ไว้เผื่อด้วยนะ เวลาเจอหนุ่มตี๋ที่ถูกใจ พวกยูจะได้ขอ add Wechat เค้า จะไปขอ add Line หนุ่มจีนนี่เค้าไม่มีให้หรอก และความประเสริฐของ Wechat เนี่ยนะ คือมันสามารถแปลภาษาจีนให้เราได้ด้วย แค่กดต้องข้อความภาษาจีนที่เค้าพิมพ์มาหาเราค้างไว้ เดี๋ยวมันจะขึ้น pop up เมนูมาให้เราเลือกว่าจะ คัดลอก หรือแปล หรืออะไร ง่ายมากๆ ขนาดไอพูดภาษาจีนไม่ได้ ไอยังแอ๊วหนุ่มจีนแซ่บๆ ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้สำเร็จมาแล้วเลย
3. เงิน อันนี้สำคัญ เตรียมไปให้พร้อม ยูจะไปเที่ยวแอ๊วผู้ชายทั้งทีนี่ต้องลงทุนกันหน่อยนะย่ะ หัดอยู่สายเปย์กันซะบ้าง จะไปเที่ยวแบบประหยัดยัดมาม่านี้คงจะได้ผู้กลับมาหรอก ที่จีนข้าวของไม่ได้แพงมาก กินอยู่รวมเดินทางแบบสบายๆ ก็ใช้ประมาณวันละ 1,000 บาท ประมาณนั้น ไปกี่วันก็คำนวณกันไปให้ดี อย่าลืมประมาณการณ์งบ shopping ของตัวเองด้วยละ มีของน่าซื้อเยอะเชียวหล่ะ ส่วนค่าโรงแรมก็ประมาณคืนละ 1,500 – 3,000 บาทแล้วแต่ความหรูหรา อยู่กันได้ 2 คน ใครมีเงินถุงเงินถังจะนอนแพงกว่านี้ก็เชิญย่ะ ไม่ได้อิจฉาเลยจริ๊งจริงๆ เสียงสูงมากกกก ส่วนการแลกเงินหยวนก็แนะนำ Superich ในเมืองนะ เพราะเรทจะดีกว่าในสนามบิน ถ้าแลกธนาคารก็จะแพงกว่าอีกนิดนึง ซึ่งแล้วแต่ใครจะสะดวกละกัน ตอนไอไปไอก็ลืมแลก ไปเจอเรทบูธธนาคารในสนามบินก็แอบเกลียดตัวเองไปพักนึงเหมือนกัน
4. บัตรเครดิต อันนี้ก็แนะนำให้เอาไปด้วย แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้สมัครบัตรเครดิตของเครือ Union Pay ไปสักใบนะ เพราะถึงหน้างานแล้วจะได้ไม่ต้องลุ้นว่ารูดได้หรือไม่ได้ แต่เรทจะแพงกว่าเงินสดอีกประมาณ 5% เลยนะ อย่ารูดกันเพลินนะย่ะ ไปเที่ยวหน่ะหน้าใหญ่กลับมาหน้าซีด ไอไม่รู้ด้วยนะ เพราะหน้าไอเองก็ยังซีดไม่หายเลย TT
5. ที่พัก โรงแรมที่จีนไม่ได้แพงมาก มีหลากหลายราคาหลากหลายระดับให้เลือก แต่แนะนำว่ายอมลงทุนเลือกพักที่ดีๆ หน่อย อาจจะคืนละ 1,500 บาทขึ้นไป เพราะไปเที่ยวจีนขอบอกว่าเหนื่อยมากนะ ยูต้องเดินทางเยอะมากๆ ไม่ว่าจะนั่งรถหรือเดิน เพราะจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มากๆ ดังนั้นเวลาพักผ่อนควรจะได้พักผ่อนจริงๆ แล้วยูจะมาแรงเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเยอะ สำหรับคนที่ชอบพัก Airbnb สำหรับประเทศจีนนี่ไอยังไม่ค่อยแนะนำ เพราะไอคิดว่าคนจีนยังไม่ค่อยพร้อมที่จะเป็น Host สักเท่าไหร่ เค้ายังเตรียมรายละเอียดให้แขกได้ไม่ค่อยดี ข้าวของในที่พักก็ยังขาดๆ เกินๆ อยู่ อาจจะต้องรอให้เค้าปรับตัวอีกสักพักน่าจะอยู่แล้ว Happy กว่าตอนนี้
6. หยูกยา ที่จีนนี่หาซื้อยาไม่ยาก แต่ยูจะสื่อสารกับเค้ายาก เพราะฉะนั้นอย่าประมาท เตรียมไปเถอะ ยาลดไข้ แก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาแก้ท้องเสีย ยาลดกรด ใครรู้ตัวว่าเป็นโรคอะไรบ่อยๆ ก็เตรียมไปไม่เสียหลาย ใครจะไปหาฟงหาแฟนก็เตรียมอุปกรณ์ป้องกันไปด้วยนะจ๊ะ อย่าไปริอาจใช้ถุงก็อปแก็ปอย่างที่เคยเป็นข่าวกันหล่ะ ถ้ายูได้ไปสัมผัสประเทศจีนสักครั้งยูจะไม่แปลกใจกับข่าวอะไรแปลกๆ แบบนี้เลย ไอเจอมาแล้ว ไว้ไอจะเล่าให้ฟังในทริป
7. เสื้อผ้า ก่อนไปทำการบ้านให้ดีนะจ๊ะว่าจะไปเมืองไหนในจีนบ้าง ไอบอกเลยว่าภูมิอากาศที่จีนนี่ต่างกันมากมายราวนรกกับสววรรค์นะย่ะ หากไปในเมืองที่ยังหัวโบราณอยู่ ยูก็อย่าแต่งตัวอะไรที่มีล่อแหลมแปลกประหลาดนำแฟชั่นมากหล่ะ เดี๋ยวโดนปาขยะใส่ จะหาว่าไอไม่เตือน แต่ถ้าไปเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ ก็แต่งไปเถอะย่ะ เผลอๆ หล่อนอาจจะได้เป็น Net Idol ที่จีนอย่างพี่สิตางค์ สายสะบัด หรือแฮปปี้พอลล่าก็ได้ เอ..หรือว่านี่จะเป็นโอกาสเผยความเป็นดาวในตัวของไอ คริๆ
8. เพื่อนคนจีน ที่พอสื่อสารกับเราได้ การมีเพื่อนคนจีนนี่ประหนึ่งยูได้อภิสิทธิ์จากบัตร VIP เพราะเค้าจะทำให้ชีวิตของยูที่จีนง่ายขึ้นมากๆ และประหยัดขึ้นด้วย ซึ่งไอมีเพื่อนคนจีนคนนึงซึ่งเค้าจะพาไอเที่ยวเฉิงตู หน้าตาน่ารักด้วย เดี๋ยวไอจะแอบเอารูปเค้ามาอวด คริๆ
ปูพื้นมาซะยาวเลย ไอว่าเรามาเข้าเรื่องเริ่มต้นทริปของไอกันเลยดีกว่า สำหรับทริปนี้ไอให้ชื่อว่า ราพันเซลฯ ตะลุยแดนมังกร อยากได้ลูกมังกรก็ต้องเข้าถ้ำมังกรสิจริงมะ จะมังกรหัวเดียว สามหัว หรือเก้าหัว ตอนนี้ไอก็พร้อมเผชิญ ขอให้เจอเถอะสาธุ๊!!!
สำหรับทริปนี้ไอจะไป 3 เมืองด้วยกัน คือ เฉิงตู อุรุมชี และเซียงไฮ้ เมืองละประมาณ 4-5 วัน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 14 วัน นานมากกกกก เอาให้มันได้ให้มันโดนกันไปเลยทริปนี้ ทริปล่าผู้แบบนี้ไอก็ต้องไปคนเดียวนะ เอาเพื่อนไปด้วยไม่ได้เพราะเดี๋ยวผู้ชายจะมีตัวเลือก และที่สำคัญคือมันจะไม่เลือกไอนี่หล่ะ อะก่อนจะบินก็ต้องแวะเข้า lounge นั่งแอ๊คท่าถ่ายรูปสวยๆ กินขนมกรุบกริบรองท้องก่อนบินกันสักหน่อย ที่สำคัญเผื่อได้เจอนักธุรกิจรูปหล่อพ่อรวยมาจีบ คริๆ
แค่เดินเข้ามาเช็คอินที่ reception ของ lounge ผู้ชายทุกคนในนั้นก็หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างแล้วมองมาที่ไอเป็นตาเดียว คงตะลึงพรึงเพริดในรูปโฉมของไอกันหล่ะสิ สักพักพอผู้ชายเหล่านั้นได้สติก็เริ่มมองหาที่นั่งใหม่กันเป็นแถวรีบไปนั่งกองรวมกันเป็นกลุ่มเชียว กลัวจะมีที่ว่างข้างๆ เหลือให้ไอไปนั่งแทรกกันเหรอย่ะ แหมไอเข้าไปนั่งใกล้ๆ แค่นี้ ไม่คันหรอกย่ะ แค่เหม็น!!!
นั่งเล่นไปได้สักครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลา Boarding ไอก็ต้องเดินไปที่ Gate แล้วหล่ะ สายการบินที่ไอใช้บินจากไทยไปเฉิงตู คือ Sichuan Airline ซึ่งเป็นถือว่าเป็นสายการบินหลักของมณฑลเสฉวนเลยก็ว่าได้ ถ้าเทียบเกรดก็พอๆ กับการบินไทยบ้านเรานี่แหละ ใครมีสัมภาระที่จะ carry หรือถือขึ้นเครื่องรีบไปเลยนะย่ะ เพราะถ้าไปช้าขึ้นเครื่องหลังๆ ยูจะไม่มีที่เก็บของ ต้องไปเก็บของไกลจากที่นั่ง เพราะยูบินกับคนจีนนี่จำไว้เลยว่าคนจีนนี่ก็บ้าหอบฟางเหมือนกันของเยอะมากๆ แล้วก็เร็วมากๆ แป๊บเดียวยัดของเต็มช่องเก็บของบนหัวเราหมดแล้วแถมลามไปแถวอื่นๆ อีกตะหาก
กว่าจะฝ่าฝูงชนคนตาชั้นเดียวมานั่งที่ seat ได้ เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่กเปียกไปถึงง่ามขากันเลยทีเดียว พยายามหมุนเร่งแอร์บนเพดานเครื่องตรงที่นั่งแล้ว ทำไมลมที่ออกมาไม่เย็นสักที โอ๊ยหงุดหงิด คิดในใจเดี๋ยวเครื่องขึ้นคงจะเย็นขึ้นกว่านี้ นั่งทนขนเปียกไปก่อนละกัน สำหรับการเลือกที่นั่ง สำหรับไฟล์ทยาวตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป ไอแนะนำให้เลือกที่นั่งติดทางเดินไว้น่าจะสะดวกที่สุดเพราะยังไงยูก็ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ แถมมีโอกาสได้แอ๋วสจ๊วตอีกด้วย ซึ่งไอกำลังลุ้นในใจขอให้พนักงานบริการบนเครื่องบินโซนที่ไอนั่งเป็นสจ๊วตหนุ่มตี๋ขาวๆ หล่อๆ ดูอินเตอร์ๆ เหมือนเจมส์มาร์ อาเล็กธีรเดช หวังลี่ฮง หรืออย่างน้อยเจย์โชว์ก็ยังดี และแล้วคำขอของไอก็สัมฤทธิ์ผล ได้สจ๊วตหนุ่มตี๋จริงๆ แต่ตี๋แบบคนขายน้ำเต้าหู้หน้าปากซอยแถวบ้านนี่แหละ ชื่ออาซ้ง ไอตั้งให้ตามชื่อคนขายน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย คือตัวเล็กๆ ผอมๆ แกร็นๆ หน้าจืดๆ ผิวเหลืองๆ แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ต้องทำเขินไอไม่ได้พูดจริงๆ เอาวะ นาทีนี้ก็ดีที่สุดแล้วหล่ะที่จะแอ๊ว เพราะข้างๆ ก็เป็นชะนีจีนวัยรุ่น 2 คนแต่งตัวอย่างกับฮิปฮอป แต่ก็ดีที่นางสองคนตัวเล็ก ไอก็นั่งสบายหน่อย มาถึงนางก็ทำเป็นหลับเอาเสื้อแจ๊คเก็ตคลุมหัวนอนไปเลย ไม่รู้ง่วงจริงหรือกลัวไอกันแน่ ตั้งแต่ขอเข้ามานั่งแล้วดูไม่ค่อยกล้าสบตาไอเท่าไห