ทริปนี้ได้ตั๋ว นกแอร์ 7วัน สนน ราคา ไปกลับ 2600 บาท กับ อีกสองหนุ่ม

ทริปนี้เรามีกัน 3 คน
เริ่มทาง ออกจาก สนามบินดอนเมือง ตอน 1 ทุ่ม ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. ไปถึง สนามบินโฮจิมินห์


โอ้ยๆ ถึงแล้วเด้ออออ



ความประทับใจแรกบังเกิด คุณป้าเสื้อเทา มหาภัย แซงคิวกันดื้อๆเลย แล้วยังมาทำยิ้มอ่อนใส่อีก
อึ๋ยยยย อยากจะด่าเป็นภาษาเวียดนาม $%^#*&

ออกมาจากสนามบินก็ ไปทางไหนต่ออ่า? อันดับแรกซื้อซิมก่อน แล้วหารถบัสไป Hotstel Skygon
พี่ขายซิมบอกคันนี้ผ่าน ไปๆๆๆๆ



และแล้วมันก็ปล่อยเราไว้กลางทาง ที่เหลือคือเดินล้วนๆ
ก็เดินเรื่อยๆอ่ะ หาที่พักไม่เจอจน 5 ทุ่มแล้ว ขาก็ล้าแล้ว เจอตึกที่สุดในเวียดนามด้วยนะ
แล้วก็เจอร้านเฝ่อ ยังไม่ปิด ก็ไม่ได้เรื่องมากอะไรกินๆไป ก่อน OMG นี่สาบานนะว่ากินกันตาย หรือ กินแล้วจะตาย
ความอร่อยไม่มี น้ำปลาป้าไม่มี น้ำตาลป้าไม่มี น้ำส้มสายชูป้าก็ไม่มี คือ ไม่มีอะไรให้ปรุงอะ
ก็กินมันทั้งจืดแบบนั้นแหละฮะ เส้นก็จะคล้ายๆเส้นใหญ่บ้านเรา แต่เนียวววว กว่ามาก น้ำก็จืดๆ กลิ้นต้นหอม แรงเบอร์ 10




เอ้าได้พลังจากร้านป้าแล้ว ก็เดินหาที่พักต่อ ถามแท็กซี่ แท็กซี่ก็ไม่เคยรุ้จัก
แต่ GPS ออฟไลมันนำเรามาตรงนี้นะ มองไปเห็นอยู่ตึกเดว สูงๆ สัก 50-60 ชั้นได้ ไม่มีป้ายอะไรบอกทั้งสิ้น
เอาไงทีนี้ ซิมที่ซื้อมาก็ยังใช้งานไม่ได้ เลยขอร้องให้พี่แท็กซี่ โทรให้หน่อย พอรู้เรืองก็ ที่นี่จริงๆแหละ มันอยุ๋ในตึก ที่แต่ละชั้น
เป็น Hotstel หลายๆเจ้าของภายในตึกเดวกัน ก็พึ่งเคยเห็นนะแบบนี้ ราคาที่พักอยุ่ที่ 185 บาท/คืน ห้องแอร์ มีเครื่องซักผ้าใช้ฟรี
มีน้ำอุ่นใช้ก็ฟินดีนะ แต่ตอนนี้ร่างจะพังยังงัยยังนั้น
นี่คือ ทางเข้า Hotstel Skygon



สภาพคือตายตั้งแต่วันที่ 1 อวกไป 1 ทีหลับสบายย

วิวหลังห้อง

บรรยากาศด้านล่าง มีแม่ค้าที่ยังขายของกันตลอดคืน




เริ่มต้นวันใหม่กับแผนที่เพลนไว้
เราเลือกซื้อทัวร์ไปอุโมงกู้จี ด้วยราคา 5 เหรียญ หมดวัน
ออกมารอรถเพื่อเดินทางต่อ กับขนมปังยามเช้าในราคา ประมาณ 20 บาทไทย
เป็นขนมปังแข็งๆ ใส่เนย ชีส แฮม หมูยอ ผัก เราสามารถเลือกใส่ตามใจได้เลย
แล้วเอาไปผิงไฟเบาๆ ร้านแบบนี้หากินได้ตามท้องถนนทั่วไป



ระหว่างทางที่บัสจอกรับผู้โดยสารจากโรงแรมอื่นๆมีจุดจอดรอรนาน พวกเราเลยขอไปของในมินิมาร์ท
ได้นมถุงแสนอร่อยมา 1 ถุง


รถแล่นผ่านถนนในเมืองที่ดูป่ามากๆ ต้นไม้โคตเยอะ เรารู้มาว่าต้นไม้ของที่นี่มีนับเบอร์ทุกต้นนะจ๊ะ
ใครจะตัดหรือถอนต้องมีใบอนุญาติ จาก รัฐบาล ไม่งั้นถือว่าผิดกฎหมาย ประเทศเค้าอนุรักษณ์จริงๆ

จุดแรกที่มาแวะคือ มาดูงานฝีมือ หัถกรรมของที่นี่ คือ เค้าใช้เปลือกหอย เปลือกไข่ มาทุบๆให้เป็นชิ้นเล็ก
แล้วก็เอามาเรียงต่อกัน เป็นภาพ แล้วเอาไปเผา เคลือบ จนได้ตามนี้ละจ้าา คือต้องยอมรับในความละเอียด มานะอุสาหะ





ออกมากะจะกินน้ำปั่นสบายใจสะหน่อย อื้มหืมราคากินไม่ลง ตกแก้วละ 80-120 บาทไทย


มีความอยากลองกาแฟ ไม่ใส่นม สรุปกินไม่ได้นะครับ

ถึงสะทีนั้งรถมา ประมาณ เกือบๆ 1 ชม.

มาถึงก็มีการ เล่าประวัติความเป็นมาอขงอุโมงกู้จีนี้ มันคือสถานที่
สมรภูมิรบในยุคสงครามเวียดนาม ผ่านมาเกือบ 50 ปีแล้ว การสู่รบระหว่างชาวเวียดกงกับทหารอเมริกา
อุโมงค์กู๋จี ที่มีความยาวถึง 250 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดินถึง 3 ชั้น ราวๆ 8 เมตร
เป็นสมรภูมิรบแบบกองโจร ซึ่งเมืองใต้ดินแห่งนี้ มีทั้งโรงพยาบาท, ที่เก็บอาวุธ, ห้องประชุม, โรงครัว
และมีทหารเวียดกงประจำการอยู่ที่นี้หลายหมื่นคน สุดท้ายอุโมงค์กู๋จียังเป็นสถานที่แห่งชัยชนะต่อทหารสหรัฐ








และพบกับกิจกรรมที่น่าจะฮิตที่สุดในนี้และ คือการมุดลงไปอุโมงนี้ แถวจะยาวหน่อยๆนะ
ที่นี่จะมีทางออกเป็นระยะๆ ใครปวดหลังปวดเขา ก็เอาเท่าที่ได้ ส่วนเราสบายมากเพราะตัวเล็ก พอดีช่อง




มื้อกลางวันก็มีเลี้ยง มันนึง กับน้ำชายามบ่าย กับอากาศร้อนๆ



ทางขึ้นก็ประมาณนี้เลย

จากนั้นนั่งรถกลับเข้าเมือง เดินเล่นรอบๆหาของกินข้างทาง และ้วไปแวะไปรษณีย์กลาง Central Post Office
เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้ๆกับโบสถ์โนธตราดาม,




โบสถ์จากด้านหลัง ซึ่งอยุ๋ตรงข้ามกับ ไปรษณย์ มีถนนกัน
ซินจ่าว ได้มั้ยๆ ได้อยุ่เนอะ

กลับมาที่พัก ก็ขอเค้า อาบน้ำ พักสักแปป เพราะคืนนี้เราไม่ได้พักที่นี่แล้ว จะย้ายเมืองไปมุยเน่

ช่วงหัวค่ำยังคงมีแรงเหลือ มาเดินเล่นละเวกนั้น

นี่มันขนมอะไร? กุ๊กกิ๊กมากเลยยย



มาซื้อตั๋วรถบัสแบบนอนที่นี่นะ ราคา ประมาณ 250 บาท นะถ้าจำไม่ผิด
รถออก 5 ทุ่มยังมีเวลาให้อีดด ออด ตื่นเต้นอะ ไม่เคยนั่งรถนอนเลย แถมมีไฟไวฟรีตลอดเส้นทาง
อะไรจะดี๊ดีขนาดนี้ มีแบท เหลืออยู่ 5% ก็ได้แต่มองตาปริบๆ แล้วนอนยาวไป



และในคืนนี้เอง รถบัสมาสุดสาย ก่อนถึงมุยเน่ ตอนตี 1 OMG ไปไงต่อ ไม่มีรถอะไรให้ไปเลย
ระยะทางก็อีก น่าจะ 10 โลได้ ในเมื่อไม่มีทางเลือก ง่วงก็ง่วง เรา 3 คนเดินไปเรื่อยๆ โอ้ยยๆเดินไปก็จะหลับ บรรยากาศ วังเวง
เงียบ มืด ถนนไม่มีไฟ โอ้ยยย มีแท็กซี่ผ่านมา 1 คัน ไปมั้ยๆ พวกเราไม่ไป เพราะกลัวโดนชาทราคา ยิ่งดึกๆแบบนี้ โดนแน่ๆ เดินไปปลอดภันกว่า
เดินต่อไป...... มีแท็กซี่ผ่านมาอีกคัน ไปมั้ย? ถามก่อนคิดราคายังงัย แพงไม่ไปนะ โอ้ยยน้องขึ้นมาเลยๆ ไม่แพงหลอก ราคาเท่ากับกินกาแฟถ้วยเดียว
เพราะมันจะถึงแล้วนิดเดวเอง โอ้ยยยย กาแฟพี่แก้วกี่บาท? ง่วงแต่สติต้องมา!!
มาถึงมุยเน่ตี 3 ด้วยร่างกายอ่อนละทวย เจอร้านค้าตรงข้ามทะเลทราย อื้มเช่าเปลนอนคนละอัน ราคา 20 บาทไทย นอนนานแค่ไหนก็ได้
เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตีห้าครึ่ง จิบโอวันติล แล้วไปลุยทะเลทรายกันเลยยยยย
เป็นเช้าที่ดีมากกกอ่า คือ ไม่มีมนุษย์ ไม่มีรอยเท้าใครนอกจากเราสามคนกับผืนทรายสีแดงอันกว้างไกล

กิจกรรมสไลเดอร์ 30 บาทไทย


ได้เวลา 7 โมงแล้ว ทัวร์จีนเริ่มมาและคับพี่น้องเราต้องรีบเผ่น
#โปรดติดตามตอนต่อไป
[CR] เวียดนาม ใต้ กลาง เหนือ 7 วัน 7 พัน
ทริปนี้เรามีกัน 3 คน
เริ่มทาง ออกจาก สนามบินดอนเมือง ตอน 1 ทุ่ม ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. ไปถึง สนามบินโฮจิมินห์
อึ๋ยยยย อยากจะด่าเป็นภาษาเวียดนาม $%^#*&
พี่ขายซิมบอกคันนี้ผ่าน ไปๆๆๆๆ
และแล้วมันก็ปล่อยเราไว้กลางทาง ที่เหลือคือเดินล้วนๆ
ก็เดินเรื่อยๆอ่ะ หาที่พักไม่เจอจน 5 ทุ่มแล้ว ขาก็ล้าแล้ว เจอตึกที่สุดในเวียดนามด้วยนะ
แล้วก็เจอร้านเฝ่อ ยังไม่ปิด ก็ไม่ได้เรื่องมากอะไรกินๆไป ก่อน OMG นี่สาบานนะว่ากินกันตาย หรือ กินแล้วจะตาย
ความอร่อยไม่มี น้ำปลาป้าไม่มี น้ำตาลป้าไม่มี น้ำส้มสายชูป้าก็ไม่มี คือ ไม่มีอะไรให้ปรุงอะ
ก็กินมันทั้งจืดแบบนั้นแหละฮะ เส้นก็จะคล้ายๆเส้นใหญ่บ้านเรา แต่เนียวววว กว่ามาก น้ำก็จืดๆ กลิ้นต้นหอม แรงเบอร์ 10
เอ้าได้พลังจากร้านป้าแล้ว ก็เดินหาที่พักต่อ ถามแท็กซี่ แท็กซี่ก็ไม่เคยรุ้จัก
แต่ GPS ออฟไลมันนำเรามาตรงนี้นะ มองไปเห็นอยู่ตึกเดว สูงๆ สัก 50-60 ชั้นได้ ไม่มีป้ายอะไรบอกทั้งสิ้น
เอาไงทีนี้ ซิมที่ซื้อมาก็ยังใช้งานไม่ได้ เลยขอร้องให้พี่แท็กซี่ โทรให้หน่อย พอรู้เรืองก็ ที่นี่จริงๆแหละ มันอยุ๋ในตึก ที่แต่ละชั้น
เป็น Hotstel หลายๆเจ้าของภายในตึกเดวกัน ก็พึ่งเคยเห็นนะแบบนี้ ราคาที่พักอยุ่ที่ 185 บาท/คืน ห้องแอร์ มีเครื่องซักผ้าใช้ฟรี
มีน้ำอุ่นใช้ก็ฟินดีนะ แต่ตอนนี้ร่างจะพังยังงัยยังนั้น
เริ่มต้นวันใหม่กับแผนที่เพลนไว้
เราเลือกซื้อทัวร์ไปอุโมงกู้จี ด้วยราคา 5 เหรียญ หมดวัน
ออกมารอรถเพื่อเดินทางต่อ กับขนมปังยามเช้าในราคา ประมาณ 20 บาทไทย
เป็นขนมปังแข็งๆ ใส่เนย ชีส แฮม หมูยอ ผัก เราสามารถเลือกใส่ตามใจได้เลย
แล้วเอาไปผิงไฟเบาๆ ร้านแบบนี้หากินได้ตามท้องถนนทั่วไป
ได้นมถุงแสนอร่อยมา 1 ถุง
ใครจะตัดหรือถอนต้องมีใบอนุญาติ จาก รัฐบาล ไม่งั้นถือว่าผิดกฎหมาย ประเทศเค้าอนุรักษณ์จริงๆ
มาถึงก็มีการ เล่าประวัติความเป็นมาอขงอุโมงกู้จีนี้ มันคือสถานที่
สมรภูมิรบในยุคสงครามเวียดนาม ผ่านมาเกือบ 50 ปีแล้ว การสู่รบระหว่างชาวเวียดกงกับทหารอเมริกา
อุโมงค์กู๋จี ที่มีความยาวถึง 250 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดินถึง 3 ชั้น ราวๆ 8 เมตร
เป็นสมรภูมิรบแบบกองโจร ซึ่งเมืองใต้ดินแห่งนี้ มีทั้งโรงพยาบาท, ที่เก็บอาวุธ, ห้องประชุม, โรงครัว
และมีทหารเวียดกงประจำการอยู่ที่นี้หลายหมื่นคน สุดท้ายอุโมงค์กู๋จียังเป็นสถานที่แห่งชัยชนะต่อทหารสหรัฐ
ที่นี่จะมีทางออกเป็นระยะๆ ใครปวดหลังปวดเขา ก็เอาเท่าที่ได้ ส่วนเราสบายมากเพราะตัวเล็ก พอดีช่อง
มื้อกลางวันก็มีเลี้ยง มันนึง กับน้ำชายามบ่าย กับอากาศร้อนๆ
จากนั้นนั่งรถกลับเข้าเมือง เดินเล่นรอบๆหาของกินข้างทาง และ้วไปแวะไปรษณีย์กลาง Central Post Office
เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้ๆกับโบสถ์โนธตราดาม,
มาซื้อตั๋วรถบัสแบบนอนที่นี่นะ ราคา ประมาณ 250 บาท นะถ้าจำไม่ผิด
รถออก 5 ทุ่มยังมีเวลาให้อีดด ออด ตื่นเต้นอะ ไม่เคยนั่งรถนอนเลย แถมมีไฟไวฟรีตลอดเส้นทาง
อะไรจะดี๊ดีขนาดนี้ มีแบท เหลืออยู่ 5% ก็ได้แต่มองตาปริบๆ แล้วนอนยาวไป
ระยะทางก็อีก น่าจะ 10 โลได้ ในเมื่อไม่มีทางเลือก ง่วงก็ง่วง เรา 3 คนเดินไปเรื่อยๆ โอ้ยยๆเดินไปก็จะหลับ บรรยากาศ วังเวง
เงียบ มืด ถนนไม่มีไฟ โอ้ยยย มีแท็กซี่ผ่านมา 1 คัน ไปมั้ยๆ พวกเราไม่ไป เพราะกลัวโดนชาทราคา ยิ่งดึกๆแบบนี้ โดนแน่ๆ เดินไปปลอดภันกว่า
เดินต่อไป...... มีแท็กซี่ผ่านมาอีกคัน ไปมั้ย? ถามก่อนคิดราคายังงัย แพงไม่ไปนะ โอ้ยยน้องขึ้นมาเลยๆ ไม่แพงหลอก ราคาเท่ากับกินกาแฟถ้วยเดียว
เพราะมันจะถึงแล้วนิดเดวเอง โอ้ยยยย กาแฟพี่แก้วกี่บาท? ง่วงแต่สติต้องมา!!
มาถึงมุยเน่ตี 3 ด้วยร่างกายอ่อนละทวย เจอร้านค้าตรงข้ามทะเลทราย อื้มเช่าเปลนอนคนละอัน ราคา 20 บาทไทย นอนนานแค่ไหนก็ได้
เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตีห้าครึ่ง จิบโอวันติล แล้วไปลุยทะเลทรายกันเลยยยยย
เป็นเช้าที่ดีมากกกอ่า คือ ไม่มีมนุษย์ ไม่มีรอยเท้าใครนอกจากเราสามคนกับผืนทรายสีแดงอันกว้างไกล
#โปรดติดตามตอนต่อไป