📌ปภ.แนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เร็ว เมา โทร ง่วง ลดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่ลดพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยควรใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดและลดความเร็วขณะขับผ่านเส้นทางเสี่ยง หากผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์ห้ามขับรถ ควรใช้บริการรถแท็กซี่หรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน รวมถึงนอนพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการง่วงนอนให้จอดรถพักในบริเวณ
ที่ปลอดภัย เพื่อนอนหลับหรือปรับเปลี่ยนอิริยาบถ อีกทั้งไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถเพราะจะทำให้เสียสมาธิ ตลอดจนไม่ประกอบกิจกรรมอื่นในขณะขับรถ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนน มีสาเหตุหลักจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ทั้งการขับรถเร็ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และการง่วงหลับใน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่ลดพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้ ไม่ขับรถเร็ว ควรใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัด โดยใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และสภาพจราจร รวมถึงลดความเร็วเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ เขตชุมชน โรงเรียน ทางโค้ง ดื่มไม่ขับ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง และไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ควรใช้บริการรถแท็กซี่ รถสาธารณะหรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน กรณีไม่มีเพื่อนร่วมทางเปลี่ยนขับรถ ให้จอดรถนอนพักในบริเวณที่ปลอดภัยแล้วรอจนสร่างเมาจึงค่อยขับรถไปต่อ นอกจากนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถช่วงเวลากลางคืน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากผู้ร่วมใช้เส้นทางที่เมาแล้วขับ โทรไม่ขับ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะส่งผลให้เสียสมาธิในการขับรถ ให้ใช้อุปกรณ์เสริม อาทิ แฮนด์ฟรี บลูทูธ หากไม่มีอุปกรณ์เสริมควรจอดรถคุยโทรศัพท์ในบริเวณที่ปลอดภัย ง่วงไม่ขับ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง ไม่อดนอนติดต่อกันหลายวันและไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรจอดรถพักเป็นระยะทุก 2 ชั่วโมง เพื่อผ่อนคลายความอ่อนล้า รวมทั้งไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน ควรจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อนอนหลับหรือปรับเปลี่ยนอิริยาบถจะช่วยป้องกันการหลับในได้ ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///
4 พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน
📌ปภ.แนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เร็ว เมา โทร ง่วง ลดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่ลดพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยควรใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดและลดความเร็วขณะขับผ่านเส้นทางเสี่ยง หากผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์ห้ามขับรถ ควรใช้บริการรถแท็กซี่หรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน รวมถึงนอนพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการง่วงนอนให้จอดรถพักในบริเวณ
ที่ปลอดภัย เพื่อนอนหลับหรือปรับเปลี่ยนอิริยาบถ อีกทั้งไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถเพราะจะทำให้เสียสมาธิ ตลอดจนไม่ประกอบกิจกรรมอื่นในขณะขับรถ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนน มีสาเหตุหลักจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ทั้งการขับรถเร็ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และการง่วงหลับใน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่ลดพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้ ไม่ขับรถเร็ว ควรใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัด โดยใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และสภาพจราจร รวมถึงลดความเร็วเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ เขตชุมชน โรงเรียน ทางโค้ง ดื่มไม่ขับ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง และไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ควรใช้บริการรถแท็กซี่ รถสาธารณะหรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน กรณีไม่มีเพื่อนร่วมทางเปลี่ยนขับรถ ให้จอดรถนอนพักในบริเวณที่ปลอดภัยแล้วรอจนสร่างเมาจึงค่อยขับรถไปต่อ นอกจากนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถช่วงเวลากลางคืน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากผู้ร่วมใช้เส้นทางที่เมาแล้วขับ โทรไม่ขับ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะส่งผลให้เสียสมาธิในการขับรถ ให้ใช้อุปกรณ์เสริม อาทิ แฮนด์ฟรี บลูทูธ หากไม่มีอุปกรณ์เสริมควรจอดรถคุยโทรศัพท์ในบริเวณที่ปลอดภัย ง่วงไม่ขับ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง ไม่อดนอนติดต่อกันหลายวันและไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรจอดรถพักเป็นระยะทุก 2 ชั่วโมง เพื่อผ่อนคลายความอ่อนล้า รวมทั้งไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน ควรจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อนอนหลับหรือปรับเปลี่ยนอิริยาบถจะช่วยป้องกันการหลับในได้ ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///