Saving Private Ryan
เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมาจริงๆ
โอ้ หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่าหนังสงครามมันก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเอาไว้ เอาตรงๆ เราไม่ค่อยชอบดูหนังแบบนี้เท่าไหร่ หลับตลอดอ่ะ555555 แต่เรื่องนี้คือมันดึงดูดเรามาก ทุกฉาก ทุกซีน ทุกเม็ด คือมันดีจริง
ชื่อเรื่องคือแบบแปลกมากสำหรับเรา แปลตรงๆ จะได้ประมาณว่า 'ช่วยเหลือไรอันแบบเป็นส่วนตัว' นี่ก็คิดแบบ อะไรของมันวะ555555 แต่จริงๆ แล้วไอ้คำว่า Private ในที่นี้หมายถึงยศของทหารนั่นเองจ้า ชื่อเรื่องนี้จึงหมายถึง 'การช่วยเหลือพลทหารไรอัน' นั่นเอง
เนื้อเรื่องรวมๆ เล่าถึงกองทัพทหารกลุ่มนึงซึ่งนำโดยผู้กองจอห์นที่พึ่งเคลียรเหล่าทหารของฮีตเลอร์ในวันดีเดย์เสร็จ ก็ได้รับภารกิจใหม่ให้ไปช่วยเหลือพลทหารไรอัน ซึ่งพี่น้องทั้ง 3 ของเค้าได้ตายในสงครามแล้ว ทางกองทัพเลยอยากนำตัวไรอันซึ่งเป็นลูกคนสุดท้ายกลับไปคืนแม่โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ เลยส่งกองทัพของผู้กองจอห์นเนี่ยไปช่วยเหลือตามล่าหาไรอันที่โดดร่มหลงหายไปไหนก็ไม่รู้
ชอบประเด็นความลังเลในจิตใจของพลทหารในกองทัพทหารมาก คือเหมือนมันก็จริงอ่ะ ให้เราแบบสละชีวิตเสี่ยงตายเดินทางไกลท่ามกลางสงครามอันวุ่นวายเพื่อมาช่วยคนๆ เดียวเราก็ไม่เอาเหมือนกัน ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งแค่ไหนถึงจะยอมได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ระหว่างการเดินทางจะมีเรื่องราวมากมายและคำพูดที่กัดกินใจเราได้หลายประโยค และทุกสิ่ง ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของตัวละครคือมันโคตรเรียล
ดูเรื่องนี้แล้วเหมือนเราได้ร่วมเดินทางไปกับผู้กองจอห์นด้วยยังไงอย่างงั้น ฉากรบก็ทำได้ตื่นเต้นและน่าลุ้นเว่อร์ ฉากดราม่าก็ทำได้ซึ้งกินใจเว่อร์ เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ เราว่าการดำเนินเรื่องของหนังทำได้มีเสน่ห์และน่าติดตามมากๆ ถึงไม่ใช่ฉากยิงกันปิ้วๆ แค่ฉากพลทหารเดินทางหรือพูดคุยกัน แต่ทำออกมาได้น่าติดตามจริงๆ
ฉากเริ่มกับฉากจบเป็นอะไรที่แบบชอบมาก มันอาจจะมีเกลื่อนทั่วไปแล้วสำหรับการเริ่มเล่าเรื่องและตอนจบแบบนี้ แต่เราก็ยังคงชอบนะ ดูแล้วแบบเออ มันเป็นความทรงจำที่ตราตรึงใจดี อะไรแบบนี้
ขออีกนิดนึงว่าฉากรบเป็นอะไรที่ดีงามมาก ระเบิดเป็นระเบิด รถถังเป็นรถถัง ปืนใหญ่เป็นปืนใหญ่ เรารู้สึกว่ามันสมจริงและอลังการงานสร้างมาก ฆ่าคือฆ่า เลือดคือเลือด เห็นชัดทุกองศาเลยจริงจัง
---- เป็นการสปอยฉากสำคัญหลังจากนี้ ดูแล้วมาเม้ากัน -----
เป็นหนังที่มีฉากที่ชอบเยอะมากกกกก
- ฉากที่พลทหารคนนึงโดนมีดค่อยๆ เสียบทะลุหน้าอกโดยที่อัพฮัมยืนป๊อดอยู่หน้าประตู ดูแล้วเจ็บจี๊ดมากเว่อร์อ่ะพวกคุณ แบบถ้าแค่เข้าไปช่วยซักนิดเพื่อนก็รอดแล้วแท้ๆ
- ฉากที่สไนเปอร์โดนยิง ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เลยกับฉากนี้
- ฉากที่พลทหารกำลังทะเลาะกันเรื่องทำไมต้องแลกชีวิตเพื่อนๆ เพื่อช่วยคนๆ เดียวด้วยจนเกือบจะยิงกันตาย จนผู้กองจอห์นต้องมาห้ามไว้โดยการบอกอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ไป ชอบบบบ
- ฉากที่พลทหารไรอันเล่าถึงวีรกรรมสุดแสบของสี่พี่น้องก่อนที่พี่เค้าจะต้องมาเกณฑ์ทหาร คือนางหัวเราะหนักมาก แต่เป็นการหัวเราะที่ไม่น่าขำเลยซักนิด น้ำตาคลอกันเลยทีเดียว
- ฉากที่พลทหารนั่งสูบบุหรี่เตรียมรอข้าศึกแล้วให้อัพฮัมแปลเพลงให้ เป็นฉากชิลๆ อีกฉากที่ทำให้เรารู้สึกมาก แบบทหารพวกนี้คงจะปลงแล้วจริงๆ ตายเป็นตาย รอดเป็นรอด
- ฉากช่วยคุณหมอที่โดนยิงทะลุตับ เป็นฉากที่ทำเราน้ำตาตกได้เลยจริงๆ ชอบความที่ทุกคนช่วยกันปฐมพยาบาลคุณหมอโดยการถามว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แล้วช่วยกันบรรยายความเป็นไปของบาดแผล เป็นซีนที่ไม่ต้องใช้คำพูดลึกซึ้งแต่โคตรมีพลัง
------------ จบสปอย ----------
ฉากสรุปของเรื่องเป็นอะไรที่ทอม แฮงค์คือหล่อมากค่ะ กราบตีนสุดแรงกายแรงใจ ไม่เคยเจอพระเอกเรื่องไหนที่

โคตรเท่ขนาดนี้อีกแล้ว555555 ชอบจังเลย
สรุปว่า เป็นหนังสงครามที่มีหลายมู้ดมากกว่าที่เคยคิดว่าจะมีได้ และทุกมุ้ดหนังพาเราไปจนสุด สุดขอบจักรวาลเลยก็ว่าได้ บทหนังและการแสดงทำออกมาได้อย่างโคตรเพอร์เฟค เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยดูมา ทุกอย่างมันลงตัวซะจนเราไม่รู้จะติอะไรเลยจริงๆ ดูจบแล้วซึมไปหลายวัน อยากเป็นทหารรับใช้ชาติกันเลยทีเดียว5555
10/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
------------------------------
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังๆ พร้อมกับดูรีวิวอื่นๆ ได้ที่นี่เลย
เพจ แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
https://m.facebook.com/justasuckreviewer/?locale2=th_TH
[CR] Saving Private Ryan : เข้าใจเลยว่าทำไมถึงกลายเป็นตำนาน
เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมาจริงๆ
โอ้ หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่าหนังสงครามมันก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเอาไว้ เอาตรงๆ เราไม่ค่อยชอบดูหนังแบบนี้เท่าไหร่ หลับตลอดอ่ะ555555 แต่เรื่องนี้คือมันดึงดูดเรามาก ทุกฉาก ทุกซีน ทุกเม็ด คือมันดีจริง
ชื่อเรื่องคือแบบแปลกมากสำหรับเรา แปลตรงๆ จะได้ประมาณว่า 'ช่วยเหลือไรอันแบบเป็นส่วนตัว' นี่ก็คิดแบบ อะไรของมันวะ555555 แต่จริงๆ แล้วไอ้คำว่า Private ในที่นี้หมายถึงยศของทหารนั่นเองจ้า ชื่อเรื่องนี้จึงหมายถึง 'การช่วยเหลือพลทหารไรอัน' นั่นเอง
เนื้อเรื่องรวมๆ เล่าถึงกองทัพทหารกลุ่มนึงซึ่งนำโดยผู้กองจอห์นที่พึ่งเคลียรเหล่าทหารของฮีตเลอร์ในวันดีเดย์เสร็จ ก็ได้รับภารกิจใหม่ให้ไปช่วยเหลือพลทหารไรอัน ซึ่งพี่น้องทั้ง 3 ของเค้าได้ตายในสงครามแล้ว ทางกองทัพเลยอยากนำตัวไรอันซึ่งเป็นลูกคนสุดท้ายกลับไปคืนแม่โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ เลยส่งกองทัพของผู้กองจอห์นเนี่ยไปช่วยเหลือตามล่าหาไรอันที่โดดร่มหลงหายไปไหนก็ไม่รู้
ชอบประเด็นความลังเลในจิตใจของพลทหารในกองทัพทหารมาก คือเหมือนมันก็จริงอ่ะ ให้เราแบบสละชีวิตเสี่ยงตายเดินทางไกลท่ามกลางสงครามอันวุ่นวายเพื่อมาช่วยคนๆ เดียวเราก็ไม่เอาเหมือนกัน ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งแค่ไหนถึงจะยอมได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ระหว่างการเดินทางจะมีเรื่องราวมากมายและคำพูดที่กัดกินใจเราได้หลายประโยค และทุกสิ่ง ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของตัวละครคือมันโคตรเรียล
ดูเรื่องนี้แล้วเหมือนเราได้ร่วมเดินทางไปกับผู้กองจอห์นด้วยยังไงอย่างงั้น ฉากรบก็ทำได้ตื่นเต้นและน่าลุ้นเว่อร์ ฉากดราม่าก็ทำได้ซึ้งกินใจเว่อร์ เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ เราว่าการดำเนินเรื่องของหนังทำได้มีเสน่ห์และน่าติดตามมากๆ ถึงไม่ใช่ฉากยิงกันปิ้วๆ แค่ฉากพลทหารเดินทางหรือพูดคุยกัน แต่ทำออกมาได้น่าติดตามจริงๆ
ฉากเริ่มกับฉากจบเป็นอะไรที่แบบชอบมาก มันอาจจะมีเกลื่อนทั่วไปแล้วสำหรับการเริ่มเล่าเรื่องและตอนจบแบบนี้ แต่เราก็ยังคงชอบนะ ดูแล้วแบบเออ มันเป็นความทรงจำที่ตราตรึงใจดี อะไรแบบนี้
ขออีกนิดนึงว่าฉากรบเป็นอะไรที่ดีงามมาก ระเบิดเป็นระเบิด รถถังเป็นรถถัง ปืนใหญ่เป็นปืนใหญ่ เรารู้สึกว่ามันสมจริงและอลังการงานสร้างมาก ฆ่าคือฆ่า เลือดคือเลือด เห็นชัดทุกองศาเลยจริงจัง
---- เป็นการสปอยฉากสำคัญหลังจากนี้ ดูแล้วมาเม้ากัน -----
เป็นหนังที่มีฉากที่ชอบเยอะมากกกกก
- ฉากที่พลทหารคนนึงโดนมีดค่อยๆ เสียบทะลุหน้าอกโดยที่อัพฮัมยืนป๊อดอยู่หน้าประตู ดูแล้วเจ็บจี๊ดมากเว่อร์อ่ะพวกคุณ แบบถ้าแค่เข้าไปช่วยซักนิดเพื่อนก็รอดแล้วแท้ๆ
- ฉากที่สไนเปอร์โดนยิง ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เลยกับฉากนี้
- ฉากที่พลทหารกำลังทะเลาะกันเรื่องทำไมต้องแลกชีวิตเพื่อนๆ เพื่อช่วยคนๆ เดียวด้วยจนเกือบจะยิงกันตาย จนผู้กองจอห์นต้องมาห้ามไว้โดยการบอกอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ไป ชอบบบบ
- ฉากที่พลทหารไรอันเล่าถึงวีรกรรมสุดแสบของสี่พี่น้องก่อนที่พี่เค้าจะต้องมาเกณฑ์ทหาร คือนางหัวเราะหนักมาก แต่เป็นการหัวเราะที่ไม่น่าขำเลยซักนิด น้ำตาคลอกันเลยทีเดียว
- ฉากที่พลทหารนั่งสูบบุหรี่เตรียมรอข้าศึกแล้วให้อัพฮัมแปลเพลงให้ เป็นฉากชิลๆ อีกฉากที่ทำให้เรารู้สึกมาก แบบทหารพวกนี้คงจะปลงแล้วจริงๆ ตายเป็นตาย รอดเป็นรอด
- ฉากช่วยคุณหมอที่โดนยิงทะลุตับ เป็นฉากที่ทำเราน้ำตาตกได้เลยจริงๆ ชอบความที่ทุกคนช่วยกันปฐมพยาบาลคุณหมอโดยการถามว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แล้วช่วยกันบรรยายความเป็นไปของบาดแผล เป็นซีนที่ไม่ต้องใช้คำพูดลึกซึ้งแต่โคตรมีพลัง
------------ จบสปอย ----------
ฉากสรุปของเรื่องเป็นอะไรที่ทอม แฮงค์คือหล่อมากค่ะ กราบตีนสุดแรงกายแรงใจ ไม่เคยเจอพระเอกเรื่องไหนที่
สรุปว่า เป็นหนังสงครามที่มีหลายมู้ดมากกว่าที่เคยคิดว่าจะมีได้ และทุกมุ้ดหนังพาเราไปจนสุด สุดขอบจักรวาลเลยก็ว่าได้ บทหนังและการแสดงทำออกมาได้อย่างโคตรเพอร์เฟค เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยดูมา ทุกอย่างมันลงตัวซะจนเราไม่รู้จะติอะไรเลยจริงๆ ดูจบแล้วซึมไปหลายวัน อยากเป็นทหารรับใช้ชาติกันเลยทีเดียว5555
10/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
------------------------------
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังๆ พร้อมกับดูรีวิวอื่นๆ ได้ที่นี่เลย
เพจ แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
https://m.facebook.com/justasuckreviewer/?locale2=th_TH