แบ่งปันประสบการณ์ ส่วนตัวที่เจอมา
ปวดหัวมากๆ ขมับทั้ง2ข้าง ปวดแรกๆ พอทนไหว จนเกือบๆ 1 อาทิตย์ เริ่มทนไม่ไหวต้องกิน ibuprofen 200 mg 2 tablets / day
อาทิตย์ ที่2 เริ่มปวดลามลงมาท้ายทอย ยาที่กินเริ่ม เอาไม่อยู่ ไม่ได้กินทุกวันนะคะ กินเฉพาะวันที่ปวดจนทนไม่ไดว ทีนี้เริ่ม วิตกจริต เราเป็นอะไร
เริ่มสังเกตุตัวเอง
1. สงสัยจะ กินน้ำน้อยเกินไป เพราะทำงานในครัวมันร้อนมาก สงสัยจะเข้าภาวะร่างกายขาดน้ำ ก็พยายามกิน้ำให้ได้วันละ 3 ลิตร ( กินแล้วดีนะคะ ไอ้ที่ปวดกระบอกตา เพราะไซนัส หายไป ) อ่ะ ยังไม่หาย แต่ก็ยังกินน้ำ 3 ลิคร ทุกวัน
2. อายุก็นะ 47 แล้ว สงสัยความดันโลหิตจะสูงป่าว (ไม่ได้ไปวัด เดาเอา) แต่มันน่าจะมึนๆงงๆนะ ( รู้มาทีหลังตอนไปหาหมอว่า สามารถปวดหัวได้) คุมค่ะ คุมอาหารสิ น้ำหนักยิ่งเกินอยู่ด้วย
3. เริ่มกลับไปออกกำลังกาย คุมอาหารซึ่งก็คุมมาได้ 1เดือน ก่อนปวดหัว (หลังจากขี้เกียจ อ้างว่าเหนื่อยไม่มีแรง แต่งานมันเหนื่อยจริงๆ หมดแรง) ก็ปวดหัวน้อยลงแต่ยังไม่หาย อันนี้อาทิตย์ที่สองหลังจากเริ่มออกกำลังกาย ก่อนที่จะไปพบแพทย์
4. เอาผ้าเย็นห่อน้ำแข็ง โปะไว้ที่ต้นคอ อืมม ก็ดีนะ ช่วยได้ในระดับนึง ( สังเกตุตัวเองเอาเอง)
ทนไม่ไหวแล้ว ไมหายสักที ไม่ปกติแล้วล่ะ โทรไปนัดหมอ ตอนโทรไป หมอคนไหนก้ได้ค่ะทีว่าง แล้วได้เจอวันรุ่งขึ้นเลย ซึ่งปกติ ต้องรอคิว ถ้าจะไปหาหมอประจำ
- คุณหมอตรวจตา หู คอ ปกติ เช็คปอด ปกติ
- ความดันปกติ
- คุณหมอถาม เห็นแสงสีขาวไหม เสียง อากาศ แสง รบกวนสายตาไหม .... ไม่ค่ะ
- ปวดตรงไหน ... ข้างเดียว สองข้าง.... สองข้างค่ะ จากน้น ลามมาถึงท้ายทอย
- หมอกดรอบๆกระบอกตา และหน้าผาก ... เจ็บไหม ...... ไม่ค่ะ
- หมอกดท้ายทอย ... เจ็บไหม ... ไม่ค่ะ
- หมอเริ่มกดหัวไหล่ ..... ไปทำอะไรมา ทำไมไหล่ถึงได้ ตึงขนาดนี้ แข็งเป็นลูกๆ (0_0)
สรุป
ปวดหัว เพราะ กล้ามเนื้อที่บ่าและไหล่ตึง muscle spas sum
ทำให้ไปดึงกล้ามเนื้อที่หลังคอ เป็นสาเหตุให้ปวดหัว
ลักษณะ การปวด จะปวดแบบ บีบขมับทั้งสองข้าง อื้ออึง จากนั้นก็จะลามลงไปที่ด้านหลังศรีษะ ลงไปต้นคอ ปวดมากๆจนเริ่มมึนๆ
ไม่ติดมือถือ ไม่ติดคอม แต่ บ้าทำงาน
ปวดหัวเนื่องจากกล้ามเนื้อไหล่
ปวดหัวมากๆ ขมับทั้ง2ข้าง ปวดแรกๆ พอทนไหว จนเกือบๆ 1 อาทิตย์ เริ่มทนไม่ไหวต้องกิน ibuprofen 200 mg 2 tablets / day
อาทิตย์ ที่2 เริ่มปวดลามลงมาท้ายทอย ยาที่กินเริ่ม เอาไม่อยู่ ไม่ได้กินทุกวันนะคะ กินเฉพาะวันที่ปวดจนทนไม่ไดว ทีนี้เริ่ม วิตกจริต เราเป็นอะไร
เริ่มสังเกตุตัวเอง
1. สงสัยจะ กินน้ำน้อยเกินไป เพราะทำงานในครัวมันร้อนมาก สงสัยจะเข้าภาวะร่างกายขาดน้ำ ก็พยายามกิน้ำให้ได้วันละ 3 ลิตร ( กินแล้วดีนะคะ ไอ้ที่ปวดกระบอกตา เพราะไซนัส หายไป ) อ่ะ ยังไม่หาย แต่ก็ยังกินน้ำ 3 ลิคร ทุกวัน
2. อายุก็นะ 47 แล้ว สงสัยความดันโลหิตจะสูงป่าว (ไม่ได้ไปวัด เดาเอา) แต่มันน่าจะมึนๆงงๆนะ ( รู้มาทีหลังตอนไปหาหมอว่า สามารถปวดหัวได้) คุมค่ะ คุมอาหารสิ น้ำหนักยิ่งเกินอยู่ด้วย
3. เริ่มกลับไปออกกำลังกาย คุมอาหารซึ่งก็คุมมาได้ 1เดือน ก่อนปวดหัว (หลังจากขี้เกียจ อ้างว่าเหนื่อยไม่มีแรง แต่งานมันเหนื่อยจริงๆ หมดแรง) ก็ปวดหัวน้อยลงแต่ยังไม่หาย อันนี้อาทิตย์ที่สองหลังจากเริ่มออกกำลังกาย ก่อนที่จะไปพบแพทย์
4. เอาผ้าเย็นห่อน้ำแข็ง โปะไว้ที่ต้นคอ อืมม ก็ดีนะ ช่วยได้ในระดับนึง ( สังเกตุตัวเองเอาเอง)
ทนไม่ไหวแล้ว ไมหายสักที ไม่ปกติแล้วล่ะ โทรไปนัดหมอ ตอนโทรไป หมอคนไหนก้ได้ค่ะทีว่าง แล้วได้เจอวันรุ่งขึ้นเลย ซึ่งปกติ ต้องรอคิว ถ้าจะไปหาหมอประจำ
- คุณหมอตรวจตา หู คอ ปกติ เช็คปอด ปกติ
- ความดันปกติ
- คุณหมอถาม เห็นแสงสีขาวไหม เสียง อากาศ แสง รบกวนสายตาไหม .... ไม่ค่ะ
- ปวดตรงไหน ... ข้างเดียว สองข้าง.... สองข้างค่ะ จากน้น ลามมาถึงท้ายทอย
- หมอกดรอบๆกระบอกตา และหน้าผาก ... เจ็บไหม ...... ไม่ค่ะ
- หมอกดท้ายทอย ... เจ็บไหม ... ไม่ค่ะ
- หมอเริ่มกดหัวไหล่ ..... ไปทำอะไรมา ทำไมไหล่ถึงได้ ตึงขนาดนี้ แข็งเป็นลูกๆ (0_0)
สรุป
ปวดหัว เพราะ กล้ามเนื้อที่บ่าและไหล่ตึง muscle spas sum
ทำให้ไปดึงกล้ามเนื้อที่หลังคอ เป็นสาเหตุให้ปวดหัว
ลักษณะ การปวด จะปวดแบบ บีบขมับทั้งสองข้าง อื้ออึง จากนั้นก็จะลามลงไปที่ด้านหลังศรีษะ ลงไปต้นคอ ปวดมากๆจนเริ่มมึนๆ
ไม่ติดมือถือ ไม่ติดคอม แต่ บ้าทำงาน