เรากับแฟนอยู่ด้วยกันมา 2 ปี แต่งงานกันตอนเราคบกันได้ 1 ปี แฟนเราบางทีก็ดี บางทีก็รู้สึกเหมือนเค้าไม่อยากมีเรา ไม่อยากอยู่กับเรา ยิ่งเวลาเรากลับบ้าน เค้าจะอารมณ์ไม่โอเค ทั้งเบื่อ ทั้งคิดนู่นนี่นั่น หรืออะไรเยอะแยะเต็มเป็นหมด ถึงขั้นเคยไปหากลุ่มแชทเพื่อคุยกะคนอื่น หรือ บางทีก็จะทำตัวแบบไม่โอเค คือต้องบอกก่อนว่าเรารักเค้ามาก เค้าเป็นอะไรนิดหน่อยเราจะรู้สึกได้ทันที โดยไม่ต้องพูดหรือบอกอะไร และมันจะเป็นทุกครั้งเวลาเรากลับบ้าน คือใน 1 อาทิตย์ เราจะกลับมานอนบ้านทุกวันพุธ (เค้ากลับมาด้วย) และ ศุกร์-อาทิตย์ เรากลับคนเดียว แต่บางทีเราก็จะลากเค้ามาด้วย เพราะตามตกลงคือ มานอนบ้านเรา 2 นอนบ้านเค้า 5 เราขอแค่ พุธ กับ เสาร์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ได้แค่วันเดียว เพราะเหตุผลคือ แม่เค้างอน อยากอยู่กะแม่บ้าง....ชีวิตปกติประจำวันเรา 2 คน คือ ออกบ้านไปทำงานกันซึ่งไม่ได้ระบุเวลาเพราะเรา 2 คน ทำบริษัทด้วยกัน กลับมาเราก็นั่งเล่นข้างล่างกับแม่เค้าและเค้าสักพัก ถึงจะอาบน้ำขึ้นนอน บางทีเราขึ้นก่อนเพื่อให้เค้าอยู่กะแม่......มาเข้าเรื่องค่ะ แฟนเราบางทีก็ดี บางทีก็ร้าย เคยถึงขั้นบอกเลิก ไม่อยากคุย กดสายทิ้ง ไม่ตอบไลน์ เปลี่ยนรูปในเฟช ในไลน์ หรือพูดจาน้ำเสียงแบบเรารู้สึกได้ว่าเค้าคิดมากหรือเป็นอะไรสักอย่าง และทุกครั้งเราจะขับรถจากบ้านเรา (พระราม2) ไปบ้านเค้าที่ "บางบัวทอง" จะกี่โมงก็ตามเราจะรีบขับรถออกไปทันที แต่ปัญหาทุกอย่างจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยแค่นั้น ถ้าอยู่ด้วยกันจะไม่มีอะไรค่ะ ปกติทุกอย่าง แบบนี้เราควรทำยังไงดีค่ะ เพราะตัวเราเองตอนนี้เริ่มรู้สึกเบื่อกับการที่เค้าเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็นั่งคิดว่าเรายอมมาได้ตั้งนานเราก็ต้องยอมแบบนี้ต่อไป เพราะถ้าวันนึงเราไม่สนใจ ก็จะกลายเป็นว่าเราเปลี่ยนไป ปัญหาเกิดอีก.....ก่อนที่เค้าจะมาคบกับเรา เค้าเป็นคนที่คุยกับคนเยอะแยะมากมาย เที่ยวกลางคืนแทบทุกวัน เราเจอกันในกลุ่มแชทกลุ่มนึง จนกลายเป็นรักกัน เรียกว่า "รักออนไลน์" ก็ได้นะคะ ซึ่งเราก็นิสัยแบบเดียวกัน ขี้เหงา ชอบคุย แต่ตั้งเต่เรามีเค้า เรราตกลงคบกัน เราเปลี่ยนทุกอย่าง คือหยุดเลย มีแต่เค้าคนเดียว ไม่มีความลับ โทรศัพท์ เฟชบุ๊ค ไลน์ ดูได้ตลอดถ้าอยากดู ตัวเค้าก็ทำเหมือนกัน และเราก็เปลี่ยนเป็นคนเย็นลง นิ่งมากขึ้น ไม่ใจร้อน ไม่โวยวาย เวลางอนก็จะแค่เงียบและเดินออกมา แปปเดียวก็จะทำตัวปกติเหมือนเดิม คือทำทุกอย่างที่ตรงข้ามกับตัวเองและตรงข้ามกับเค้า บางทีมองเค้าเหมือนเราส่องกระจกตัวเองเมื่อก่อน เพราะคำว่า"รัก" หรือเราเป็นของตายเกินไป ซื่อสัตย์เกินไปเลยไม่ตื่นเต้น หรือเราสองคนอยู่ด้วยกันมากเกินไป แต่คนที่จะเป็นคนสุดท้ายของกันและกัน เค้าก็ต้องอยู่ด้วยกันรึป่าวคะ เพราะมันต้องอยู่ด้วยกันไปตลอด หรือเป็นเพราะว่า ตอนเราคบเค้าแรกๆเรามีแฟนที่เลิกกันแล้วแต่เค้าไม่ยอมปล่อยเรา แต่ตอนนั้นเรากับเค้าคบกันแล้วนะคะ พอเค้ารู้เรื่อง เราก็ขอโทษ ขอโอกาสเค้าก็ให้ และ ทำทุกอย่างให้ผู้ชายคนนั้นปล่อยเรา แล้วเค้าก็ปล่อยและยอมแพ้เรา เพราะเรารักแฟนเราคนนี้ เค้ารู้ว่าทำยังไงเราก็ไม่กลับแล้ว มันเป็นอะไรที่ฝังใจเค้าส่วนนึงมั้ยคะ หรือมันทำให้เค้าคิดว่ายังไงเราก็ต้องง้อต้องยอมเพราะเรารักเค้า แต่ตอนนี้เราเริ่มร็สึกว่ามันเยอะไปบางทีเราก็ไม่โอเคกับการที่เป็นแบบนี้!!!
*****************************
เรื่องตั้งแต่เริ่มต้น
v
v
ก่อนคบกับคนนี้เรามีลูกมาแล้ว 2 คน กับพ่อของลูกเราเลิกกันแต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน แต่นอนคนละห้อง เนื่องจากบ้านเราเป็นบริษัท ฯ ทำงานด้วยกัน แต่อยู่ด้วยกันแค่สถานะพ่อและแม่ของลูกเท่านั้น เราไม่เคยบอกใครว่าเรามีลูก เราบอกว่าพ่อของลูกคือน้องชายเรา และลูกคือหลาน ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือญาติจะไม่มีใครรู้เลยว่าเรามีลูก เราใช้ชีวิตเหมือนผู้หญิงโสดทั่วไป แต่เราก็ทำหน้าที่แม่เมื่ออยู่บ้าน
- หลังจากพ่อของลูก เราก็มีแฟนคนที่ไม่ยอมปล่อยเราทำร้ายเรา และ แฟนใหม่คนปัจจุบัน จนเราทำให้เค้ารู้ว่าเราไม่กลับไปแน่นอน (ผู้ชายคนนี้ด่าแม่เราแรงมาก ไม่เคารพครบครัวเรา และ เหมือนโรคจิต เคยจะเอามีดปาดคอเราเวลาไม่พอใจ แล้วเรามีลูกสาว อนาคตเรากลัวเราจะติดคุก ถ้ามันมาทำอะไรลูกเรา) เราเลยค่อยๆถ่อยห่างเพราะเรากลัวมาก เค้าเคยมาต่อยแฟนคนปัจจุบันเรา ด้วยเหตุผลคือ ถ้าไม่อยากให้เค้ามาทำร้ายเราแฟนเราต้องโดนแทนทุกวัน ตอนแรกเราไม่รู้ มารู้ตอนเราเห็นเค้าปวดท้องและท้องมันเขียวจึงบังคับให้พูดถึงจะรู้ และเค้าเคยมาด่าเราที่ออฟฟิสแฟน และขู่จะเอาเรื่องแฟนเรา จะบอกญาติเค้าที่เป็นผู้ใหญ่ระดับจังหวัด มาคุยกับผู้บริหารบีบให้แฟนเราออกจากบริษัทฯ และมีเรื่องเลวร้ายอีกหลายอย่างที่เค้าทำ ซึ่งอย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ
- และ แฟนคนปัจจุบัน (เป็นทอม) เข้ามาตอนที่เราห่างกับคนที่ 2 พอดี ด้วยความที่เรา 2 คน นิสัยคล้ายกัน จึงคลิ๊กกันง่าย ทำให้พัฒนาความสัมพันธ์ไปเร็วมาก เรารู้สึกสบายใจ มีความสุข อบอุ่น ปลอดภัย แบบที่ไม่เคยได้จากใคร แต่ เค้าก็เหมือนคนที่ 2 คือเราโกหกว่าเราโสด และเค้ามารู้ตอนหลังเพราะแฟนคนที่ 2 เราเป็นคนบอก คือ แฟนคนที่ 2 พยายามทำทุกย่างให้เราเลิกกับคนนี้ เพื่อจะได้กลับไปหาเค้า แฟนคนล่าสุดเค้ารู้ เค้าก็โกรธมาก เพราะเราโกหก แต่เราก็พยายามทุกอย่างขอโอกาสและสัญญาว่าจะไม่โกหกอีก และ จนถึงปัจจุบัน เราก็ไม่เคยโกหก นอกใจ แค่แว้บยังไม่มี เลิกนิสัยเดิมๆทุกอย่าง เพื่อเค้าคนเดียว ทิ้งทุกอย่าง เราปิดบริษัทฯ ที่เป็นรายได้หลักของครอบครัว (เราดูแลพ่อกับแม่และลูก2คน พี่สาวและลูกพี่สาวบางนิดหน่อย) ให้พ่อของลูกย้ายออกจากบ้าน เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ เปลี่ยนเฟช เริ่มใหม่ทุกอย่างที่มีแต่เค้าคนเดียว ชีวิตเราแย่ลง ช เพราะไม่มีงานไม่มีเงิน มีแต่เงินเดือนของเค้าที่เค้าให้ บางวันถึงขั้นไม่มีตังกินข้าว เพราะเราก็ต้องส่งให้บ้านเราด้วย เราก็ดิ้นรนทุกอย่าง ขนเอาเสื้อผ้าเรามาขายตามตลาดนัดเปิดท้าย (โชคดีที่ยังมีรถ) ได้พอใช้ไปวันๆ แบ่งไว้ซื้อของ โอนให้ที่บ้านและใช้กินบางส่วน คือยอมรับว่าลำบากมาก จากคนใช้เงินเดือนเป็นแสน (บริษัทเก่าของเรา รายได้ปีนึง 14 ล้าน) กลายเป็นไม่มีอะไรเลย แต่เราก็สู้เพราะขอให้ได้อยู่กับเค้าเราก็มีความสุข เราอดไม่เป็นไร เราขอให้ครอบครัวเราอิ่ม ลูกมีตังไปโรงเรียน เราขายของเริ่มมีขายดีมีทุนไปซื้อของใหม่มาขาย เรา 2 คนตื่นตีสี่ เพิ่อไปประตูน้ำเอาเสื้อผ้ามาขายตลาดเช้าช่วงคนไปทำงาน และ ขายอีกทีตอนเย็น จนเราไปของานช่วยพี่ชายทำงานที่แบงค์ เป็นนายหน้า ต้องไป ตจว บ่อย ก็มีปัญหา เกิดเรื่องกันอีก เราก็เลิกทำงานนี้เพื่อเค้า กลายมาเป็นวิ่งเอกสารทำเอกสาร ช่วยพี่ทำงานอยู่แต่ กทม ก็พอมีพอใช้ไป จุดเปลี่ยนคือ เราได้กำไรจากการทำงานอีเว้นท์และงานนายหน้ามาก้อนหนึ่ง บวกกับ แฟนเราเค้าไม่ค่อยโอเคกับบริษัทที่ทำอยู่ ส่วนตัวเราไม่โอเคนานแล้วแต่ก็ได้แต่ฟังเค้าระบาย และ เราดูแล้วไม่มีอนาคต รายได้ประจำจริงแต่มันน้อยมากเมื่อเทียบกับความสามารถและอายุงานและตำแหน่ง เราตัดสินใจเอาเงินก้อนสุดท้ายเปิดบริษัท ตอนนี้เปิดมาได้เข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ เพื่อให้ทำงานที่เค้ารัก ให้เค้าบริหารงานเอง ทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ทำแนวทางของตัวเอง เราคอยให้กำลังและคอยเป็นที่ปรึกษาบ้างในบางเรื่องที่เรารู้ ซึ่งผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ ทำงาน 1 เดือนได้เงินมากกว่า เงินเดือนทั้งปี (ยังไม่หักรายจ่าย) ซึ่งเค้าก็พอใจ แต่มันกลายเป็นบางทีเค้าเบื่อที่ไม่เจอเพื่อน ไม่เจอสังคมเดิมๆ ไม่เฮอา ทั้งออฟฟิศ มีแค่เค้า กับ ลูกน้องอีก 2 คน เราอยู่บ้างไม่อยู่บ้างเพราะไปทำงานข้างนอก เค้าเริ่มบ่นว่าคิดถึงเพื่อน คิดถึงที่ทำงานเก่า กลายเป็นว่าเค้าเหงา เพราะเคยอยู่แบบคนเยอะๆ พอมาอยู่แบบนี้ เค้าเลยเบื่อ หรือเพราะ เราเจอกันบ่อยเกินไป ตอนที่ทำงานเก่าจะเจอกันก็แค่ตอนเลิกงาน กลับบ้าน แต่ที่นี่เวลาเราไม่มีงานเราก็จะอยู่ทำงานที่ออฟฟิศเค้า (เราทำบัญชีของบริษัท) ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเรา.......หรือเพราะอะไร เราคิดไม่ออกแล้ว
----------------------------------------------
ปล. เล่ามายาวมาก ช่วยหาสาเหตุหรือทางแก้ไขหน่อยค่ะ และ เราไม่เคยห้ามให้เค้าไปเที่ยวกับเพื่อนแบบไม่มีเรา อยากให้ไปเราก็ไป ไม่ให้ไปเราก็ไม่ไป และไม่เคยโทรตามเวลาไปกับเพื่อน แต่ขอแค่ไปรับตอนกลับเพราะเค้าเมาเราไม่อยากให้นั่งแท๊กซี่แค่นั้นค่ะ
****************
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ
******************
แอบขายของ
v
v
ออแกไนซ์เซอร์ งานแต่ง งานสังสรรค์ แถลงข่าว เปิดตัวสินค้า งานอีเว้นท์ทุกรูปแบบ วางแผนการตลาด และ ประชาสัมพันธ์ เรียกใช้งานได้นะคะ
คนที่อยู่ด้วยกันมา 2 ปี แล้วรู้สึกเบื่อ แต่บางอารมณ์ก็โอเค แบบนี้ทำยังไงดี
*****************************
เรื่องตั้งแต่เริ่มต้น
v
v
ก่อนคบกับคนนี้เรามีลูกมาแล้ว 2 คน กับพ่อของลูกเราเลิกกันแต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน แต่นอนคนละห้อง เนื่องจากบ้านเราเป็นบริษัท ฯ ทำงานด้วยกัน แต่อยู่ด้วยกันแค่สถานะพ่อและแม่ของลูกเท่านั้น เราไม่เคยบอกใครว่าเรามีลูก เราบอกว่าพ่อของลูกคือน้องชายเรา และลูกคือหลาน ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือญาติจะไม่มีใครรู้เลยว่าเรามีลูก เราใช้ชีวิตเหมือนผู้หญิงโสดทั่วไป แต่เราก็ทำหน้าที่แม่เมื่ออยู่บ้าน
- หลังจากพ่อของลูก เราก็มีแฟนคนที่ไม่ยอมปล่อยเราทำร้ายเรา และ แฟนใหม่คนปัจจุบัน จนเราทำให้เค้ารู้ว่าเราไม่กลับไปแน่นอน (ผู้ชายคนนี้ด่าแม่เราแรงมาก ไม่เคารพครบครัวเรา และ เหมือนโรคจิต เคยจะเอามีดปาดคอเราเวลาไม่พอใจ แล้วเรามีลูกสาว อนาคตเรากลัวเราจะติดคุก ถ้ามันมาทำอะไรลูกเรา) เราเลยค่อยๆถ่อยห่างเพราะเรากลัวมาก เค้าเคยมาต่อยแฟนคนปัจจุบันเรา ด้วยเหตุผลคือ ถ้าไม่อยากให้เค้ามาทำร้ายเราแฟนเราต้องโดนแทนทุกวัน ตอนแรกเราไม่รู้ มารู้ตอนเราเห็นเค้าปวดท้องและท้องมันเขียวจึงบังคับให้พูดถึงจะรู้ และเค้าเคยมาด่าเราที่ออฟฟิสแฟน และขู่จะเอาเรื่องแฟนเรา จะบอกญาติเค้าที่เป็นผู้ใหญ่ระดับจังหวัด มาคุยกับผู้บริหารบีบให้แฟนเราออกจากบริษัทฯ และมีเรื่องเลวร้ายอีกหลายอย่างที่เค้าทำ ซึ่งอย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ
- และ แฟนคนปัจจุบัน (เป็นทอม) เข้ามาตอนที่เราห่างกับคนที่ 2 พอดี ด้วยความที่เรา 2 คน นิสัยคล้ายกัน จึงคลิ๊กกันง่าย ทำให้พัฒนาความสัมพันธ์ไปเร็วมาก เรารู้สึกสบายใจ มีความสุข อบอุ่น ปลอดภัย แบบที่ไม่เคยได้จากใคร แต่ เค้าก็เหมือนคนที่ 2 คือเราโกหกว่าเราโสด และเค้ามารู้ตอนหลังเพราะแฟนคนที่ 2 เราเป็นคนบอก คือ แฟนคนที่ 2 พยายามทำทุกย่างให้เราเลิกกับคนนี้ เพื่อจะได้กลับไปหาเค้า แฟนคนล่าสุดเค้ารู้ เค้าก็โกรธมาก เพราะเราโกหก แต่เราก็พยายามทุกอย่างขอโอกาสและสัญญาว่าจะไม่โกหกอีก และ จนถึงปัจจุบัน เราก็ไม่เคยโกหก นอกใจ แค่แว้บยังไม่มี เลิกนิสัยเดิมๆทุกอย่าง เพื่อเค้าคนเดียว ทิ้งทุกอย่าง เราปิดบริษัทฯ ที่เป็นรายได้หลักของครอบครัว (เราดูแลพ่อกับแม่และลูก2คน พี่สาวและลูกพี่สาวบางนิดหน่อย) ให้พ่อของลูกย้ายออกจากบ้าน เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ เปลี่ยนเฟช เริ่มใหม่ทุกอย่างที่มีแต่เค้าคนเดียว ชีวิตเราแย่ลง ช เพราะไม่มีงานไม่มีเงิน มีแต่เงินเดือนของเค้าที่เค้าให้ บางวันถึงขั้นไม่มีตังกินข้าว เพราะเราก็ต้องส่งให้บ้านเราด้วย เราก็ดิ้นรนทุกอย่าง ขนเอาเสื้อผ้าเรามาขายตามตลาดนัดเปิดท้าย (โชคดีที่ยังมีรถ) ได้พอใช้ไปวันๆ แบ่งไว้ซื้อของ โอนให้ที่บ้านและใช้กินบางส่วน คือยอมรับว่าลำบากมาก จากคนใช้เงินเดือนเป็นแสน (บริษัทเก่าของเรา รายได้ปีนึง 14 ล้าน) กลายเป็นไม่มีอะไรเลย แต่เราก็สู้เพราะขอให้ได้อยู่กับเค้าเราก็มีความสุข เราอดไม่เป็นไร เราขอให้ครอบครัวเราอิ่ม ลูกมีตังไปโรงเรียน เราขายของเริ่มมีขายดีมีทุนไปซื้อของใหม่มาขาย เรา 2 คนตื่นตีสี่ เพิ่อไปประตูน้ำเอาเสื้อผ้ามาขายตลาดเช้าช่วงคนไปทำงาน และ ขายอีกทีตอนเย็น จนเราไปของานช่วยพี่ชายทำงานที่แบงค์ เป็นนายหน้า ต้องไป ตจว บ่อย ก็มีปัญหา เกิดเรื่องกันอีก เราก็เลิกทำงานนี้เพื่อเค้า กลายมาเป็นวิ่งเอกสารทำเอกสาร ช่วยพี่ทำงานอยู่แต่ กทม ก็พอมีพอใช้ไป จุดเปลี่ยนคือ เราได้กำไรจากการทำงานอีเว้นท์และงานนายหน้ามาก้อนหนึ่ง บวกกับ แฟนเราเค้าไม่ค่อยโอเคกับบริษัทที่ทำอยู่ ส่วนตัวเราไม่โอเคนานแล้วแต่ก็ได้แต่ฟังเค้าระบาย และ เราดูแล้วไม่มีอนาคต รายได้ประจำจริงแต่มันน้อยมากเมื่อเทียบกับความสามารถและอายุงานและตำแหน่ง เราตัดสินใจเอาเงินก้อนสุดท้ายเปิดบริษัท ตอนนี้เปิดมาได้เข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ เพื่อให้ทำงานที่เค้ารัก ให้เค้าบริหารงานเอง ทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ทำแนวทางของตัวเอง เราคอยให้กำลังและคอยเป็นที่ปรึกษาบ้างในบางเรื่องที่เรารู้ ซึ่งผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ ทำงาน 1 เดือนได้เงินมากกว่า เงินเดือนทั้งปี (ยังไม่หักรายจ่าย) ซึ่งเค้าก็พอใจ แต่มันกลายเป็นบางทีเค้าเบื่อที่ไม่เจอเพื่อน ไม่เจอสังคมเดิมๆ ไม่เฮอา ทั้งออฟฟิศ มีแค่เค้า กับ ลูกน้องอีก 2 คน เราอยู่บ้างไม่อยู่บ้างเพราะไปทำงานข้างนอก เค้าเริ่มบ่นว่าคิดถึงเพื่อน คิดถึงที่ทำงานเก่า กลายเป็นว่าเค้าเหงา เพราะเคยอยู่แบบคนเยอะๆ พอมาอยู่แบบนี้ เค้าเลยเบื่อ หรือเพราะ เราเจอกันบ่อยเกินไป ตอนที่ทำงานเก่าจะเจอกันก็แค่ตอนเลิกงาน กลับบ้าน แต่ที่นี่เวลาเราไม่มีงานเราก็จะอยู่ทำงานที่ออฟฟิศเค้า (เราทำบัญชีของบริษัท) ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเรา.......หรือเพราะอะไร เราคิดไม่ออกแล้ว
----------------------------------------------
ปล. เล่ามายาวมาก ช่วยหาสาเหตุหรือทางแก้ไขหน่อยค่ะ และ เราไม่เคยห้ามให้เค้าไปเที่ยวกับเพื่อนแบบไม่มีเรา อยากให้ไปเราก็ไป ไม่ให้ไปเราก็ไม่ไป และไม่เคยโทรตามเวลาไปกับเพื่อน แต่ขอแค่ไปรับตอนกลับเพราะเค้าเมาเราไม่อยากให้นั่งแท๊กซี่แค่นั้นค่ะ
****************
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ
******************
แอบขายของ
v
v
ออแกไนซ์เซอร์ งานแต่ง งานสังสรรค์ แถลงข่าว เปิดตัวสินค้า งานอีเว้นท์ทุกรูปแบบ วางแผนการตลาด และ ประชาสัมพันธ์ เรียกใช้งานได้นะคะ