ทำไมบางคนถึงยังไม่พร้อมใช้คำว่าแฟนกับคนที่คุยอยู่ ทั้งๆที่บอกรู้สึกดี

ตอนนี้คุยอยู่กับคนๆหนึ่ง จะได้เจ็ดเดือนแล้วเขาบอก ยังชินกับสิ่งที่เป็นแบบนี้อยู่
ยังไม่พร้อม ถ้าพร้อมจะบอกเองพูดเอง

เราถามว่าเพราะเราไม่ใช่เหรอ? เขาก็บอกว่าเปล่า รู้สึกดี ชอบ  
เราไม่เข้าใจเลย การคบใครสักคนมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?
ถามว่ามีคนอื่นให้ไหม เราค่อนข้างมั้นใจ 99% ว่าเขาไม่มี

พอเราถามเยอะเข้า เขาก็บอกถ้ามีคนดีเข้ามาก็ไปได้
รอไม่ไหวก็ไม่ว่า (เสียใจ)

เราควรจีบเขาต่อไปไหม หรือควรรับมือยังไง
เพื่อนๆช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะ
พยามตัดใจแล้วแต่มันไม่ได้อะTT
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
มีอยู่สองประเด็นในความรู้สึกของอีกฝ่าย
1. "คนไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ ไม่ว่านานแค่ไหน ความสัมพันธ์ก็ทำได้เพียงเท่านี้"
2. "คนนี้น่าจะใช่ แต่ยังไม่มั่นใจ กลัวหากตกลงไปแล้ว มันไม่ใช่จะปฏิเสธอย่างไร จะกลายเป็นทำให้อีกฝ่ายเสียใจหนักกว่าเดิม"

ถ้าเป็นคำตอบแรก...
คุณควรถอยห่างในความรู้สึก เพราะไม่ว่าอย่างไร มันก็ไม่คืบหน้า...
จะเสียเวลา และเสียใจไปเอง
ทั้งที่เค้าก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าไม่ใช่!!!
ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ไม่ใช่ตลอดไป

ถ้าเป็นคำตอบที่ 2....
คุณควรดีใจ... แปลว่าผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่คนที่มองอะไรผิวเผินง่ายๆ
หากรักใครแล้ว มั่นใจแล้ว ยากจะเปลี่ยนใจ(แต่ไม่แน่นอนหรอก)
มีแนวโน้มว่าเป็นคนชัดเจน หากวันนึงเค้าบอกว่ารักคุณ
นั่นแปลว่า....
เค้าใช้ทั้ความรู้สึก หัวใจ และเหตุผลทั้งสิ้นทั้งมวลแล้วว่ารักคุณ!!!

สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือ....
...พยายามแยกให้ออกว่า คำตอบจะเป็นข้อแรก หรือข้อสอง!!

วิธีดูว่าเป็นข้อแรกหรือไม่......
ให้สังเกต ... หากคบสักระยะ พบว่าเค้าเจอคนถูกใจคนอื่น
แล้วดูหลงไหลสนใจคนนั้น แปลว่าคุณคือคนที่ไม่ใช่!!

แต่หากระหว่างนี้มีใครเข้ามา....
แล้วเค้าเองก็ไม่ได้สนใจ รวมไปถึง ยังสนใจคุณอยู่เช่นเดิม
แปลว่าเค้ากำลังพิจารณาสนใจคุณคนเดียว แค่ยังไม่วางใจ
น่าจะเป็นคำตอบข้อหลัง

คงต้องใช้เวลาสักพัก และสังเกตเอาครับ
และไม่ว่าคำตอบออกข้อไหน...
คุณต้องเตรียมใจที่จะอยู่คนเดียวไว้ก่อนครับ

เพราะ.....
ถ้าคุณรักตนเองมากพอ.... จะมีคนดีๆมารักคุณเอง
โดยที่ไม่ต้องไปจีบใครมากมาย

ขอให้โชคดีครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 53
เคยเป็นเหมือนกันค่ะ
ปัจจุบันมีแฟน และแต่งงานแล้วค่ะ
ขอแนะนำจากประสบการณ์นะคะ

ในทุกความสัมพันธ์มันมีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่าง

คนรู้จัก > เพื่อน(หรือพี่น้อง) > แฟน > คู่สมรส

ถ้าคุณอยากมีสถานะคุณต้องเลือกให้ชัดเจนค่ะว่าจะอยู่สถานะไหน
ห้ามอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 สถานะ หรือก้ำกึ่ง
ย้ำ!! ว่าห้ามอยู่ตรงกลางค่ะ
และย้ำว่าคุณเลือกเอง!! นะคะ ไม่เกี่ยวกับเขา

คือสมมุติว่าตอนนี้ไม่ใช่ "แฟน" คุณก็ต้องเป็น "เพื่อน" ค่ะ
แม้คุณอยากที่จะเป็น "แฟน" แต่เขาไม่พร้อม
(ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถือเป็นเรื่องของเขา)
คุณก็ต้องอยู่ในสถานะ "เพื่อน" ต่อไป
อาจจะเป็นเพื่อนที่ชอบเขาแต่ก็แค่ "เพื่อน" นะคะห้ามมากกว่านั้น
ทำดีกับเขาได้ แต่ห้ามให้เขารู้สึกว่าคุณให้เขามากกว่า "เพื่อน"
ห้ามปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบ...

...มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน...เด็ดขาด

ยิ่งถ้ามีอะไรกัน ยิ่งห้ามค่ะ
มันจะทำให้คุณได้สถานะยากขึ้น

--> ในกรณีที่เขาชอบคุณ
เขาจะคิดว่า เป็นแบบนี้ก็สบายใจดีแล้ว
ไม่ต้องมีภาระผูกมัด แต่ก็ยังได้อยู่ใกล้ๆ คุณต่อไป

--> ในกรณีที่เขาไม่ชอบคุณ
เขาจะคิดว่า ดีจัง ไม่ต้องมีแฟน
แต่มีคนมา......ด้วย แล้วก็ปล่อยให้คุณอยู่แบบ...

...กลับตัวก็ไม่ได้ เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง...

จะไปคุยกับคนอื่น คุณก็ไม่อยากทำ เพราะเหมือนจะผิดต่อเขา
จะไปเริ่มใหม่ก็เหมือนยังไม่สุดกับเขา
จะรอ ก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน...

ในทางกลับกัน
การคงสถานะ "เพื่อน" อย่างชัดเจนของคุณ
จะทำให้คุณได้สถานะง่ายขึ้น

--> ในกรณีที่เขาชอบคุณ
เขาจะ "พร้อม" ที่จะเป็น "แฟน" เร็วขึ้น
เขาจะรีบตัดสินใจ เพราะเขาไม่อยากเป็นแค่ "เพื่อน"
แต่ถ้าคุณยอมให้เขา "มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน"
เขาก็จะไม่พร้อมเป็นแฟนสักทีค่ะ ต่อให้คุณดีกับเขาแค่ไหน
คุณอาจจะต้องรอเขาไปถึง 5 ปี 10 ปี
ถึงตอนนั้นคุณเองก็เหนื่อยที่จะรอแล้ว

--> ในกรณีที่เขาไม่ชอบคุณ
เขาก็จะเป็นเพื่อนคุณต่อไป คุณก็ควรเลิกรอ
และเป็น "เพื่อน" ที่ดีต่อไป
หรือจะเลื่อนไปเป็น "คนรู้จัก" ก็ตามใจ
คุณอาจจะเสียใจ (กรณีอื่นๆ คุณก็เสียใจเหมือนกัน)
แต่คุณจะไม่เสียสิ่งเหล่านี้...
-ไม่เสียประวัติ (ว่าคบกับผู้ชายคนนั้นอยู่)
-ตัวเลขประวัติการคบ ผช ในลิสท์ของคุณก็ไม่เพิ่มขึ้น (ก็เพื่อนกันนิ)
-ไม่เสียเวลา เพราะในระหว่างนั้นคุณก็มีสิทธิ์คุยกับคนอื่น ศึกษาคนอื่นเช่นกัน

ด้วยความหวังดีค่ะ
เลือกฝั่งให้ชัดเจนค่ะ ว่าอยู่ฝั่งไหน
เพื่อน / แฟน ไม่มีคำว่าตรงกลางค่ะ
(เพลง "ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน" นี่ห้ามร้องเลยค่ะ)
ถ้าคุณอยากมีสถานะคุณต้องทำแบบนี้
อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน
ถ้าเขาไม่ชัดเจนมา คุณก็ต้องชัดเจนว่า "แค่เพื่อน" นะคะ
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคุณเองนะคะ

(ลองนึกภาพตามนะคะ เหมือนคุณตกลงจ้างงานใครแล้วคุณจ่ายมัดจำไปมากกว่า 50% มีโอกาสที่เค้าจะดองงานคุณเพราะเขาไม่เดือดร้อนแล้ว คุณก็จะต้องตามทวงงาน ทวงแล้ว ทวงอีก  จนเบื่อทวง เผลอๆถ้าคุณทวงมากๆ เขารำคาญ ก็แกล้งดองงานคุณต่อไปอีก คุณก็ทำอะไรไม่ได้เพราะคุณจ่ายไปแล้ว 50% แต่ลองคุณไม่จ่ายมัดจำสักบาทสิคะ เค้าจะรีบปิดจ๊อบให้คุณเร็วขึ้นค่ะ)

ลองดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ จขกท และ ผญ ทุกคนที่โดนดองงานค่ะ ^_^

ปล. เดี๋ยวนี้มีคนคบกันแบบนี้เยอะ และส่วนใหญ่คนที่เสียเปรียบคือผู้หญิง เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เค้ามาเอาเปรียบเรานะคะ
ความคิดเห็นที่ 1
อารมณ์นี้ เราเป็นบ่อย คือ เหมือนจะใช่ แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด
แบบก็อยากคุยนะ แต่เป็นแบบนี้อ่ะดีแล้ว
คืออยากคุยทุกวัน แต่ไม่พร้อมพัฒนา

ถามว่าทำไม คำตอบคือ คุณยังไม่ดีพอถึงขึ้นที่จะทำให้เรากำหนดสถานะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
เรารู้สึกว่าการตัดสินใจเป็นแฟนกับใครสักคน
อย่างน้อยต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่งค่ะ
ระยะเวลาในทำความรู้จัก ศึกษากันในเบื้องต้นอาจต่างกันไป ในแต่ละคู่

การเปลี่ยนระดับความสัมพันธ์ เชื่อว่าแต่ละคนมีเงื่อนไขต่างกันไป
จากคนแปลกหน้า มาเป็นคนคุย
จากคนคุย มาเป็นแฟน
จากแฟน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน

คุยกันแล้วรู้สึกดี แต่ยังไม่อยากเป็นแฟน มีหลายเหตุผลนะคะ
อาจรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ ตัดสินใจบางอย่างอยู่

ยิ่งวัยทำงานแล้ว การมีแฟนสักคนส่วนใหญ่ก็มองการณ์ไกลถึงอนาคตค่ะ
วันหนึ่งมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ความรักไม่ใช่แค่คนสองคนนะคะ
เขาอาจคิดถึงการปรับตัวของเรากับครอบครัวเขาด้วย ว่าจะมีความสุขกันทุกฝ่ายไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่