อ่านตอนที่ 1 ได้ที่ (
https://pantip.com/topic/36746719/comment6)
ตอนที่ 2 (ลอง)..เสี่ยง!
หลังจากที่ผมคิดแล้วคิดอีกจนได้ข้อสรุปว่า ผมควรที่จะลองเสี่ยงโชคดูสักครั้ง คืนนั้น ผมเอาเงินใส่กระเป๋าเพื่อรอ..รอเวลาที่จะได้ใช้มัน
วันรุ่งขึ้น ผมตื่นไปโรงเรียนพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายของผมด้วยความหวังเต็มเปี่ยม.. ที่โรงเรียนใหม่ ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงครับ มันก็น่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมแล้วละมั้งในตอนนี้ มันชื่อ ไอ้เต้ และมันนี่แหละคือคนที่น่าจะช่วยผมได้ ตอนพักเที่ยงผมเลยคุยกับมัน เรื่องที่จะให้มันช่วย
"เฮ้ย! ไอ้เต้..กูถามอะไรหน่อย พอจะรู้จักพวกศาลหรือว่าพวกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แถวนี้บ้างป่าวว่ะ?"
"หืม! อะไรนะ ศาลเหรอ?" มันทำหน้างงๆ
"เออ..ศาล" ผมตอบ
"จะทำอะไร?" มันถามอีก
"เออน่า จะเซ้าซี้กูทำไมว่ะ ตอบๆมาเหอะ รู้จักรึเปล่า?" ผมตัดบท
มันมองหน้าผมอยู่สักพักก่อนจะตอบ..
"แถวนี้เหรอว่ะ ก็พอมีนะ ถ้าจะเอาแบบศักดิ์สิทธิ์หน่อยก็ศาลเจ้าปู่สมิงดำ ตรงทางสามแพร่ง เห็นเขาบอกว่าจะบนจะขออะไรก็สมหวังกันเยอะ อีกที่ก็ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง สรรพคุณก็ไม่ต่างกัน" มันตอบไปพลางนึกไป ก่อนที่มันจะถามผมอีกรอบ "เออนี่..แล้วจะบอกกูได้ยังว่าจะไปทำอะไรที่นั่นว่ะ?"
"เออน่า ไม่ต้องรู้หรอก ว่าแต่..กูจะไปถูกได้ยังไงว่ะ?" ผมตอบ "ไอ้เต้ เย็นนี้ว่างป่ะ? กูว่ากูไปคนเดียวไม่ถูกหรอก"
"เย็นนี้เหรอ.. เออๆเดี๋ยวกูพาไป เลี้ยงข้าวกูด้วยล่ะ" มันตอบรับ พร้อมกับเงื่อนไขนิดหน่อย
ตกเย็นหลังเลิกเรียน ไอ้เต้พาผมไปที่ศาลตามสัญญา เริ่มที่ ศาลเจ้าปู่สมิงดำ บรรยากาศที่นั่นก็เหมือนศาลทั่วๆไป ด้านในตลบอบอวลไปด้วยควันธูปและควันเทียน มีคนแวะเวียนเข้ามาไว้ขอพรอยู่ไม่ขาดสาย ผมเดินเข้าไปด้านใน ส่วนไอ้เต้มันบอกจะรอที่รถเพราะกลัวกลิ่นธูปติดเสื้อ พอเข้ามาข้างในผมก็ทำตามขั้นตอนตามที่คนดูแลบอก จุดธูป เทียน ถวายพวงมาลัยและขอพร..พรที่ผมต้องการ
พอผมไหว้เสร็จ ไอ้เต้พาผมมาต่อที่ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง บรรยากาศก็ไม่ต่างกันครับ ผมก็เข้าไปไหว้ตามที่คนดูแลบอกเหมือนเดิม พอผมเดินออกมา ไอ้เต้มันก็ถามผมอีกครั้ง
"ขอพรอะไรว่ะ?"
"เอาไว้กูได้แล้ว เดี๋ยวกูจะบอกเป็นคนแรกเลย" ผมตอบ
"นี่ความลับเยอะจริงๆ กูพามาแล้ว ไป..พากูไปเลี้ยงข้าวเลย" ผมพยักหน้ารับและพามันไปเลี้ยงข้าวตามสัญญา
คืนนั้นก่อนนอน ผมขอพรอีกครั้ง ขอให้ท่านทั้งสองมาเข้าฝันผม
"เจ้าปู่ เจ้าแม่ครับ ถ้าเกิดว่าท่านทั้งสองมีอยู่จริงๆล่ะก็ ช่วยมาเข้าฝันบอกผมทีนะ"
วันรุ่งขึ้น ผมตื่นนอนมาด้วยความผิดหวัง.. ไม่มีใครมา ไม่มีอะไรมาเข้าฝันทั้งนั้น (ว่าแล้วเชียว มันไม่มีอยู่จริงหรอกไอ้ของพันธ์นี้ อุปโลกน์กันขึ้นมาเองทั้งนั้น ถ้ามีก็ต้องมาสิว่ะ)
"ถุ้ย!" ผมไม่รู้จะพูดกับตัวเองยังไง ที่บ้าไปหลงเชื่อเรื่องที่ผมไม่เคยเชื่อ สมเพชตัวเองชะมัด และตอนนี้ผมก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีจริง!"
หลังจากวันนั้น ผมก็วุ่นวายอยู่กับความคิดตัวเองอยู่หลายวัน ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและสับสน..
เย็นวันศุกร์ ผมยังไม่อยากกลับบ้านและพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด หลังเลิกเรียนผมเลยไปขี่รถเล่น ผมแค่อยากขี่ไปให้ไกลๆ จะได้พักสมองและลืมเรื่องร้ายๆที่ผมได้เจอมา บรรยากาศสองข้างทาง(ทุ่งนาและท้องไร่แบบต่างจังหวัด)บวกกับแสงอาทิตย์ตอนพลบค่ำ ก็ทำให้ผมผ่อนคลายลงมาได้บ้างแต่ยังไงผมก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี ขากลับผมลองกลับอีกทางนึง ทางที่ผมไม่เคยไป จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ใช้แต่เส้นเดิมๆ มันจำเจ ผมเคยผ่านมาทางนี้กับไอ้เต้ มันบอกผมว่าซอยแถวๆนี้ถ้าขี่ไป มันจะทะลุออกถนนใหญ่หมด ไม่ต้องกลัวหลง ผมเลยเลือกขี่เข้าไปในซอยๆนึง..
ซอยที่ผมเลือกเข้ามาค่อนข้างเปลี่ยว ทั้งสองข้างทางแทบไม่มีเสาไฟส่องแสงสว่างเลย ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วย จากความคิดที่ไม่อยากรีบกลับเริ่มเปลี่ยนเป็นอยากที่จะถึงบ้านให้เร็วที่สุดเข้ามาแทน ผมรีบบิดรถจะได้ถึงถนนใหญ่เร็วๆ แต่มันนานมากทั้งๆที่ขี่เร็วแล้วแต่ก็ไม่ถึงถนนใหญ่สักที ผมมองไปรอบๆ น่าแปลกที่แถวนี้ไม่มีบ้านสักหลัง ใจผมเริ่มตุ้มๆต่อมๆขึ้นเรื่อยๆ
พอขี่ไปสักพัก ระหว่างทาง เหมือนหางตาของผมมันเห็นอะไรสักอย่าง แต่เพราะผมขี่เร็วมากเลยมองไม่ชัด ลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ "ศาลเหรอ?" ผมนึกในใจ เหมือนมีอะไรมาดลใจให้ผมหยุดรถ ผมคิดอยู่สักพักว่าควรกลับไปดูให้แต่ใจหรือมุ่งหน้ากลับบ้านดี นี่ก็ใกล้มืดสนิทแล้วด้วย
ครับ..ผมกลับไป
ผมค่อยๆขี่กลับไปช้าๆ พร้อมกับมองหาสิ่งที่ทำให้ผมต้องกลับมาดูให้แน่ใจว่าคืออะไร และ..ผมก็เจอมัน มันคือ ศาล ไม่ผิดแน่! แต่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก มีหยากไย่และฝุ่นเกาะอยู่เต็มไปหมด มีของที่คนเอามาวางไว้อยู่นิดหน่อย เป็นพวก อาหารที่ถูกจัดใส่ใบตองเล็กๆ มีเศษของธูปเทียนที่คนนำมาไหว้
ผมลงมาจากรถและยืนมองดูศาลอยู่สักพักใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ผมไม่เชื่อว่ามีจริง นั่นคือ การบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ผมคุกเข่าลง คำพูดของไอ้เต้ในวันที่มันพาผมไปที่ศาล แว๊ปเข้ามาในหัวผม "กูว่าต้องบน น่าจะได้เร็วกว่าขอพรนะ กูว่าถ้าอยากให้เขาช่วยมันอาจจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน" ผมพนมมือและพูดต่อหน้าศาลไปว่า "สิ่งใดก็ตามที่อยู่ที่นี่ ถ้าศักดิ์สิทธิ์หรือมีอยู่จริงล่ะก็ ขอให้บรรดาลสิ่งที่ผมขอ ถ้าให้ได้จริงผมจะยอมทำ ยอมแลกทุกอย่างที่ท่านอยากได้ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ผมยอมให้ได้ทั้งนั้น แค่มาบอกว่าอยากได้อะไร และพรที่ผมจะขอคือ.. ขอให้ผมโชคดีถูกรางวัลที่ 1 กับเขาด้วย!"
ผมกลับถึงบ้านและรีบอาบน้ำเข้านอน เพื่อที่พรุ่งนี้ ผมจะได้ออกไป..ไปเสี่ยงโชค!
ตอนที่ 3 เสี่ยง..(โชค)
ผมออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อออกไปเดินหาซื้อล๊อตเตอร์รี่ น่าแปลกที่เลขที่ผมอยากซื้อดันหมดไม่มีเหลือเลยสักใบ ผมหาซื้ออยู่หลายแผงก็ไม่มี ครับ..ผมหาซื้อเลขที่เคยทำให้ผมชื่อว่า โชค มันคือเลข 13!
ระหว่างที่ผมตระเวนซื้ออยู่ เสียงข้อความจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมเปิดดู..ข้อความจากไอ้เต้
"ไอ้โชค! อยู่ไหน?"
"อยู่ข้างนอก มีอะไร?" ผมถามกลับ
"เหรอ มาหากูหน่อยได้ป่ะว่ะ" มันตอบกลับมา
"มีอะไร แล้วอยู่ไหนเนี่ย" ผมตอบกลับไปอีกครั้ง
"กูอยู่สุสาน รีบมานะ กูรออยู่"
"สุสานไหน?" ผมถามมัน แต่มันก็ไม่ตอบ ผมเลยมานึกดูว่าสุสานแถวนี้มีที่ไหนบ้าง ผมเลยรีบไปหามัน..
พอถึงที่นัดหมาย ผมกลับไม่เจอมัน ผมเดินเข้าไปหาข้างใน ถึงจะเป็นตอนเช้าแต่บรรยากาศในสุสานก็น่าขนลุกชะมัด เพราะไม่มีใครเลย ผมเดินหาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของไอ้เต้ ผมส่งข้อความไปหามัน แต่มันก็ไม่ตอบ ผมเลยโทรไป
"ไง ไอ้โชค มีอะไรว่ะ?" มันตอบ
"ไอ้เต้ อยู่ไหนเนี่ย?" ผมถามมัน
"กูก็อยู่บ้านดิว่ะ" มันตอบ
"อยู่บ้าน! แล้วนัดกูออกมาสุสานทำไมว่ะ นี่แกล้งกูเหรอ กูไม่ตลกด้วยนะเว้ย" ผมโพล่งด่ามันไปด้วยความโมโห
"สุสานอะไรว่ะ? แล้วกูไปนัดตอนไหน? กูยังไม่ตื่นเลยเนี่ย

นั่นแหละโทรมาปลุกกู" มันตอบ
"เพิ่งตื่นเหรอ แล้วที่ส่งข้อความมาหากูนี่คืออะไรว่ะ เดี๋ยวไปโรงเรียนเมื่อไหร่โดนดีแน่ไอ้เต้!" พอพูดจนผมก็ตัดสายมันทิ้ง
ผมเดินมาจากสุสานและกำลังจะขึ้นรถกลับ มีคนเดินเข้ามาสะกิดแขนผม ผมหันไปมอง เห็นเป็นลุงแก่ๆคนนึง
"มีอะไรรึเปล่าครับลุง?" ผมถามแก
"พ่อหนุ่ม ลุงมีอะไรให้ช่วยหน่อย" ลุงแกตอบ
"ให้ผมช่วยอะไรครับ?" ผมถามแกอีกครั้ง
"พอดีว่า ลุงขายล๊อตเตอร์รี่อยู่แถวนี้ ขายไม่ค่อยดีเลย พ่อหนุ่มช่วยซื้อหน่อยได้ไหม๊" แกบอกผม
"ล๊อตเตอร์รี่เหรอครับ..ได้สิครับ เลขอะไรครับ"
"ช่วยซื้อชุดใหญ่แล้วกันนะ เลข 13" แกตอบพร้อมกับยื่นล๊อตเตอร์รี่มาให้
13 เหรอ! อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น เลขชุดซะด้วย ผมรับมาและจ่ายเงินลุงแกไป หลังจากลุงเดินจากไปผมเอาล๊อตเตอร์รี่ออกมาดูอีกครั้ง ก่อนจะขับรถกลับบ้าน..
เช้าวันจันทร์ผมตื่นไปโรงเรียน ผมได้เลขที่ผมต้องการแล้วแต่มีอีกอย่างที่ผมต้องทำคือ ไปเคลียร์กับไอ้เต้ พอไปถึงห้องเรียนมันก็นั่งรออยู่แล้ว
"ไอ้เต้ มาเคลียร์กับกูเลย หลอกกูไปสุสานทำไมว่ะ" ผมเดินเข้าไปถามมัน
"ใครหลอกไอ้โชค กูไม่ได้ส่งข้อความไปหาเลยนะ" มันตอบหน้าซื่อๆ
"แล้วข้อความนี่คืออะไร.." ผมพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเปิดข้อความให้มันดูเป็นหลักฐาน แต่!?... มันไม่อยู่แล้ว ไม่มีข้อความใดๆ มันหายไปไหน ผมเปิดแล้วเปิดอีกแต่ก็ไม่เจอ "หายไปไหนว่ะ!?" ผมไม่ได้ลบมันออกไปนะ..
เมื่อผมหาข้อความที่มันส่งมาไม่เจอ ผมเลยต่อว่ามันไม่ได้ ตอนนั้นผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ก็ต้องขอบคุณมันนะ ถ้างั้นผมคงไม่ได้มันมาหรอก
ผมนั่งนับวันรอวัน และวันนั้นมันก็มาถึง.. วันหวยออก!
"เลขที่ออก 134413" ให้ตายสิ!? ผมถูกรางวัล! รางวัลใหญ่! รางวัลที่ 1! 30 ล้านนนนนนน
ผมทำอะไรไม่ถูกเลย และมันก็เกินกว่าที่ผมจะร้องออกไป ผมเอาแต่เงียบ มันดีใจจนพูดไม่ออก น้ำตาเริ่มซึมออกมาก่อนจะไหลเป็นทาง ความรู้สึกของผมตอนนี้มันอธิบายไม่ได้ ผมไม่เคยรู้สึกโล่งใจเท่านี้มาก่อน ความอัดอั้นตันใจของผมหายไปในทันทีที่เขาประกาศรางวัล และรู้ว่าผมโชคดีเข้าให้แล้ว ผมนั่งร้องไห้คนเดียวในห้อง ร้องจนพอ ผมอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว และรอแม่กลับบ้าน เพื่อที่จะบอกข่าวดี..
เย็นวันนั้น ผมนั่งรอแม่กลับบ้าน พอแม่กลับมาถึง ผมเดินเข้าไปหาแม่และยื่นล๊อตเตอร์รี่ให้กับแม่..
"อะไร.." แม่พูดเสียงเครือ
"รางวัลที่ 1 ไงแม่ โชคให้แม่หมดเลยนะ" ผมพูดและยิ้มให้แม่ พร้อมน้ำตาคลอเบ้า แม่รับไปและร้องไห้ ก่อนจะกระโดดกอดผม เรากอดกันร้องไห้อยู่พักใหญ่ ก่อนที่แม่จะพูดกับผมว่า
"ขอบใจมากนะลูก ขอบใจ ลูกคือโชคของแม่จริงๆ" ผมดีใจมากกว่าถูกรางวัลที่ 1 เสียอีกเมื่อได้ยินมัน เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมอยากได้ยิน และตอนนี้ผมกลับมาเป็น โชค .. โชคของแม่อีกครั้ง ผมเลยให้แม่สัญญากับผม
"แม่สัญญากับโชคได้รึเปล่า ว่าต่อจากนี้แม่จะไม่เล่นหวยอีก แม่สัญญานะ"
"แม่สัญญา.."
เรื่องที่ถูกหวยแม่กับผมเก็บเป็นความลับ ตอนนี้แม่ใช้หนี้หมดแล้ว บ้านเป็นของเราโดยสมบูรณ์ ผมกับแม่เรามีความสุขมาก จนกระทั่ง..
คืนนึงก่อนที่ผมจะหลับ มีข้อความส่งมาหาผมว่า "ไง! ได้แล้วนะ เหลือแค่ให้คืน" มันเป็นข้อความจากเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก ข้อความของคนแปลกหน้า ผมโทรกลับไปที่เบอร์นั้น และแน่นอนว่าผมโทรติด ใจคอผมมันไม่ค่อยจะดีเอาซะเลย ตื๊ด ตื๊ด ดื๊ด เสียงรอสายหายไป และมีเสียงของผู้หญิงจากปลายสายออกมาว่า "สัญญาที่ให้ไว้ กำลังตามไปเอานะ" เสียงนั้นสั่นเครือจนผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ผมรีบตัดสายทิ้ง ก่อนที่เบอร์นั้นจะส่งข้อความมาหาผมอีกว่า "มาหาแล้ว"
(มป.)
ติดตามตอนต่อไป..
เสี่ยง..(โชค) ตอนที่ 2,3
ตอนที่ 2 (ลอง)..เสี่ยง!
หลังจากที่ผมคิดแล้วคิดอีกจนได้ข้อสรุปว่า ผมควรที่จะลองเสี่ยงโชคดูสักครั้ง คืนนั้น ผมเอาเงินใส่กระเป๋าเพื่อรอ..รอเวลาที่จะได้ใช้มัน
วันรุ่งขึ้น ผมตื่นไปโรงเรียนพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายของผมด้วยความหวังเต็มเปี่ยม.. ที่โรงเรียนใหม่ ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงครับ มันก็น่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมแล้วละมั้งในตอนนี้ มันชื่อ ไอ้เต้ และมันนี่แหละคือคนที่น่าจะช่วยผมได้ ตอนพักเที่ยงผมเลยคุยกับมัน เรื่องที่จะให้มันช่วย
"เฮ้ย! ไอ้เต้..กูถามอะไรหน่อย พอจะรู้จักพวกศาลหรือว่าพวกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แถวนี้บ้างป่าวว่ะ?"
"หืม! อะไรนะ ศาลเหรอ?" มันทำหน้างงๆ
"เออ..ศาล" ผมตอบ
"จะทำอะไร?" มันถามอีก
"เออน่า จะเซ้าซี้กูทำไมว่ะ ตอบๆมาเหอะ รู้จักรึเปล่า?" ผมตัดบท
มันมองหน้าผมอยู่สักพักก่อนจะตอบ..
"แถวนี้เหรอว่ะ ก็พอมีนะ ถ้าจะเอาแบบศักดิ์สิทธิ์หน่อยก็ศาลเจ้าปู่สมิงดำ ตรงทางสามแพร่ง เห็นเขาบอกว่าจะบนจะขออะไรก็สมหวังกันเยอะ อีกที่ก็ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง สรรพคุณก็ไม่ต่างกัน" มันตอบไปพลางนึกไป ก่อนที่มันจะถามผมอีกรอบ "เออนี่..แล้วจะบอกกูได้ยังว่าจะไปทำอะไรที่นั่นว่ะ?"
"เออน่า ไม่ต้องรู้หรอก ว่าแต่..กูจะไปถูกได้ยังไงว่ะ?" ผมตอบ "ไอ้เต้ เย็นนี้ว่างป่ะ? กูว่ากูไปคนเดียวไม่ถูกหรอก"
"เย็นนี้เหรอ.. เออๆเดี๋ยวกูพาไป เลี้ยงข้าวกูด้วยล่ะ" มันตอบรับ พร้อมกับเงื่อนไขนิดหน่อย
ตกเย็นหลังเลิกเรียน ไอ้เต้พาผมไปที่ศาลตามสัญญา เริ่มที่ ศาลเจ้าปู่สมิงดำ บรรยากาศที่นั่นก็เหมือนศาลทั่วๆไป ด้านในตลบอบอวลไปด้วยควันธูปและควันเทียน มีคนแวะเวียนเข้ามาไว้ขอพรอยู่ไม่ขาดสาย ผมเดินเข้าไปด้านใน ส่วนไอ้เต้มันบอกจะรอที่รถเพราะกลัวกลิ่นธูปติดเสื้อ พอเข้ามาข้างในผมก็ทำตามขั้นตอนตามที่คนดูแลบอก จุดธูป เทียน ถวายพวงมาลัยและขอพร..พรที่ผมต้องการ
พอผมไหว้เสร็จ ไอ้เต้พาผมมาต่อที่ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง บรรยากาศก็ไม่ต่างกันครับ ผมก็เข้าไปไหว้ตามที่คนดูแลบอกเหมือนเดิม พอผมเดินออกมา ไอ้เต้มันก็ถามผมอีกครั้ง
"ขอพรอะไรว่ะ?"
"เอาไว้กูได้แล้ว เดี๋ยวกูจะบอกเป็นคนแรกเลย" ผมตอบ
"นี่ความลับเยอะจริงๆ กูพามาแล้ว ไป..พากูไปเลี้ยงข้าวเลย" ผมพยักหน้ารับและพามันไปเลี้ยงข้าวตามสัญญา
คืนนั้นก่อนนอน ผมขอพรอีกครั้ง ขอให้ท่านทั้งสองมาเข้าฝันผม
"เจ้าปู่ เจ้าแม่ครับ ถ้าเกิดว่าท่านทั้งสองมีอยู่จริงๆล่ะก็ ช่วยมาเข้าฝันบอกผมทีนะ"
วันรุ่งขึ้น ผมตื่นนอนมาด้วยความผิดหวัง.. ไม่มีใครมา ไม่มีอะไรมาเข้าฝันทั้งนั้น (ว่าแล้วเชียว มันไม่มีอยู่จริงหรอกไอ้ของพันธ์นี้ อุปโลกน์กันขึ้นมาเองทั้งนั้น ถ้ามีก็ต้องมาสิว่ะ)
"ถุ้ย!" ผมไม่รู้จะพูดกับตัวเองยังไง ที่บ้าไปหลงเชื่อเรื่องที่ผมไม่เคยเชื่อ สมเพชตัวเองชะมัด และตอนนี้ผมก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีจริง!"
หลังจากวันนั้น ผมก็วุ่นวายอยู่กับความคิดตัวเองอยู่หลายวัน ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและสับสน..
เย็นวันศุกร์ ผมยังไม่อยากกลับบ้านและพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด หลังเลิกเรียนผมเลยไปขี่รถเล่น ผมแค่อยากขี่ไปให้ไกลๆ จะได้พักสมองและลืมเรื่องร้ายๆที่ผมได้เจอมา บรรยากาศสองข้างทาง(ทุ่งนาและท้องไร่แบบต่างจังหวัด)บวกกับแสงอาทิตย์ตอนพลบค่ำ ก็ทำให้ผมผ่อนคลายลงมาได้บ้างแต่ยังไงผมก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี ขากลับผมลองกลับอีกทางนึง ทางที่ผมไม่เคยไป จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ใช้แต่เส้นเดิมๆ มันจำเจ ผมเคยผ่านมาทางนี้กับไอ้เต้ มันบอกผมว่าซอยแถวๆนี้ถ้าขี่ไป มันจะทะลุออกถนนใหญ่หมด ไม่ต้องกลัวหลง ผมเลยเลือกขี่เข้าไปในซอยๆนึง..
ซอยที่ผมเลือกเข้ามาค่อนข้างเปลี่ยว ทั้งสองข้างทางแทบไม่มีเสาไฟส่องแสงสว่างเลย ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วย จากความคิดที่ไม่อยากรีบกลับเริ่มเปลี่ยนเป็นอยากที่จะถึงบ้านให้เร็วที่สุดเข้ามาแทน ผมรีบบิดรถจะได้ถึงถนนใหญ่เร็วๆ แต่มันนานมากทั้งๆที่ขี่เร็วแล้วแต่ก็ไม่ถึงถนนใหญ่สักที ผมมองไปรอบๆ น่าแปลกที่แถวนี้ไม่มีบ้านสักหลัง ใจผมเริ่มตุ้มๆต่อมๆขึ้นเรื่อยๆ
พอขี่ไปสักพัก ระหว่างทาง เหมือนหางตาของผมมันเห็นอะไรสักอย่าง แต่เพราะผมขี่เร็วมากเลยมองไม่ชัด ลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ "ศาลเหรอ?" ผมนึกในใจ เหมือนมีอะไรมาดลใจให้ผมหยุดรถ ผมคิดอยู่สักพักว่าควรกลับไปดูให้แต่ใจหรือมุ่งหน้ากลับบ้านดี นี่ก็ใกล้มืดสนิทแล้วด้วย
ครับ..ผมกลับไป
ผมค่อยๆขี่กลับไปช้าๆ พร้อมกับมองหาสิ่งที่ทำให้ผมต้องกลับมาดูให้แน่ใจว่าคืออะไร และ..ผมก็เจอมัน มันคือ ศาล ไม่ผิดแน่! แต่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก มีหยากไย่และฝุ่นเกาะอยู่เต็มไปหมด มีของที่คนเอามาวางไว้อยู่นิดหน่อย เป็นพวก อาหารที่ถูกจัดใส่ใบตองเล็กๆ มีเศษของธูปเทียนที่คนนำมาไหว้
ผมลงมาจากรถและยืนมองดูศาลอยู่สักพักใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ผมไม่เชื่อว่ามีจริง นั่นคือ การบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ผมคุกเข่าลง คำพูดของไอ้เต้ในวันที่มันพาผมไปที่ศาล แว๊ปเข้ามาในหัวผม "กูว่าต้องบน น่าจะได้เร็วกว่าขอพรนะ กูว่าถ้าอยากให้เขาช่วยมันอาจจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน" ผมพนมมือและพูดต่อหน้าศาลไปว่า "สิ่งใดก็ตามที่อยู่ที่นี่ ถ้าศักดิ์สิทธิ์หรือมีอยู่จริงล่ะก็ ขอให้บรรดาลสิ่งที่ผมขอ ถ้าให้ได้จริงผมจะยอมทำ ยอมแลกทุกอย่างที่ท่านอยากได้ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ผมยอมให้ได้ทั้งนั้น แค่มาบอกว่าอยากได้อะไร และพรที่ผมจะขอคือ.. ขอให้ผมโชคดีถูกรางวัลที่ 1 กับเขาด้วย!"
ผมกลับถึงบ้านและรีบอาบน้ำเข้านอน เพื่อที่พรุ่งนี้ ผมจะได้ออกไป..ไปเสี่ยงโชค!
ตอนที่ 3 เสี่ยง..(โชค)
ผมออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อออกไปเดินหาซื้อล๊อตเตอร์รี่ น่าแปลกที่เลขที่ผมอยากซื้อดันหมดไม่มีเหลือเลยสักใบ ผมหาซื้ออยู่หลายแผงก็ไม่มี ครับ..ผมหาซื้อเลขที่เคยทำให้ผมชื่อว่า โชค มันคือเลข 13!
ระหว่างที่ผมตระเวนซื้ออยู่ เสียงข้อความจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมเปิดดู..ข้อความจากไอ้เต้
"ไอ้โชค! อยู่ไหน?"
"อยู่ข้างนอก มีอะไร?" ผมถามกลับ
"เหรอ มาหากูหน่อยได้ป่ะว่ะ" มันตอบกลับมา
"มีอะไร แล้วอยู่ไหนเนี่ย" ผมตอบกลับไปอีกครั้ง
"กูอยู่สุสาน รีบมานะ กูรออยู่"
"สุสานไหน?" ผมถามมัน แต่มันก็ไม่ตอบ ผมเลยมานึกดูว่าสุสานแถวนี้มีที่ไหนบ้าง ผมเลยรีบไปหามัน..
พอถึงที่นัดหมาย ผมกลับไม่เจอมัน ผมเดินเข้าไปหาข้างใน ถึงจะเป็นตอนเช้าแต่บรรยากาศในสุสานก็น่าขนลุกชะมัด เพราะไม่มีใครเลย ผมเดินหาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของไอ้เต้ ผมส่งข้อความไปหามัน แต่มันก็ไม่ตอบ ผมเลยโทรไป
"ไง ไอ้โชค มีอะไรว่ะ?" มันตอบ
"ไอ้เต้ อยู่ไหนเนี่ย?" ผมถามมัน
"กูก็อยู่บ้านดิว่ะ" มันตอบ
"อยู่บ้าน! แล้วนัดกูออกมาสุสานทำไมว่ะ นี่แกล้งกูเหรอ กูไม่ตลกด้วยนะเว้ย" ผมโพล่งด่ามันไปด้วยความโมโห
"สุสานอะไรว่ะ? แล้วกูไปนัดตอนไหน? กูยังไม่ตื่นเลยเนี่ย
"เพิ่งตื่นเหรอ แล้วที่ส่งข้อความมาหากูนี่คืออะไรว่ะ เดี๋ยวไปโรงเรียนเมื่อไหร่โดนดีแน่ไอ้เต้!" พอพูดจนผมก็ตัดสายมันทิ้ง
ผมเดินมาจากสุสานและกำลังจะขึ้นรถกลับ มีคนเดินเข้ามาสะกิดแขนผม ผมหันไปมอง เห็นเป็นลุงแก่ๆคนนึง
"มีอะไรรึเปล่าครับลุง?" ผมถามแก
"พ่อหนุ่ม ลุงมีอะไรให้ช่วยหน่อย" ลุงแกตอบ
"ให้ผมช่วยอะไรครับ?" ผมถามแกอีกครั้ง
"พอดีว่า ลุงขายล๊อตเตอร์รี่อยู่แถวนี้ ขายไม่ค่อยดีเลย พ่อหนุ่มช่วยซื้อหน่อยได้ไหม๊" แกบอกผม
"ล๊อตเตอร์รี่เหรอครับ..ได้สิครับ เลขอะไรครับ"
"ช่วยซื้อชุดใหญ่แล้วกันนะ เลข 13" แกตอบพร้อมกับยื่นล๊อตเตอร์รี่มาให้
13 เหรอ! อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น เลขชุดซะด้วย ผมรับมาและจ่ายเงินลุงแกไป หลังจากลุงเดินจากไปผมเอาล๊อตเตอร์รี่ออกมาดูอีกครั้ง ก่อนจะขับรถกลับบ้าน..
เช้าวันจันทร์ผมตื่นไปโรงเรียน ผมได้เลขที่ผมต้องการแล้วแต่มีอีกอย่างที่ผมต้องทำคือ ไปเคลียร์กับไอ้เต้ พอไปถึงห้องเรียนมันก็นั่งรออยู่แล้ว
"ไอ้เต้ มาเคลียร์กับกูเลย หลอกกูไปสุสานทำไมว่ะ" ผมเดินเข้าไปถามมัน
"ใครหลอกไอ้โชค กูไม่ได้ส่งข้อความไปหาเลยนะ" มันตอบหน้าซื่อๆ
"แล้วข้อความนี่คืออะไร.." ผมพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเปิดข้อความให้มันดูเป็นหลักฐาน แต่!?... มันไม่อยู่แล้ว ไม่มีข้อความใดๆ มันหายไปไหน ผมเปิดแล้วเปิดอีกแต่ก็ไม่เจอ "หายไปไหนว่ะ!?" ผมไม่ได้ลบมันออกไปนะ..
เมื่อผมหาข้อความที่มันส่งมาไม่เจอ ผมเลยต่อว่ามันไม่ได้ ตอนนั้นผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ก็ต้องขอบคุณมันนะ ถ้างั้นผมคงไม่ได้มันมาหรอก
ผมนั่งนับวันรอวัน และวันนั้นมันก็มาถึง.. วันหวยออก!
"เลขที่ออก 134413" ให้ตายสิ!? ผมถูกรางวัล! รางวัลใหญ่! รางวัลที่ 1! 30 ล้านนนนนนน
ผมทำอะไรไม่ถูกเลย และมันก็เกินกว่าที่ผมจะร้องออกไป ผมเอาแต่เงียบ มันดีใจจนพูดไม่ออก น้ำตาเริ่มซึมออกมาก่อนจะไหลเป็นทาง ความรู้สึกของผมตอนนี้มันอธิบายไม่ได้ ผมไม่เคยรู้สึกโล่งใจเท่านี้มาก่อน ความอัดอั้นตันใจของผมหายไปในทันทีที่เขาประกาศรางวัล และรู้ว่าผมโชคดีเข้าให้แล้ว ผมนั่งร้องไห้คนเดียวในห้อง ร้องจนพอ ผมอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว และรอแม่กลับบ้าน เพื่อที่จะบอกข่าวดี..
เย็นวันนั้น ผมนั่งรอแม่กลับบ้าน พอแม่กลับมาถึง ผมเดินเข้าไปหาแม่และยื่นล๊อตเตอร์รี่ให้กับแม่..
"อะไร.." แม่พูดเสียงเครือ
"รางวัลที่ 1 ไงแม่ โชคให้แม่หมดเลยนะ" ผมพูดและยิ้มให้แม่ พร้อมน้ำตาคลอเบ้า แม่รับไปและร้องไห้ ก่อนจะกระโดดกอดผม เรากอดกันร้องไห้อยู่พักใหญ่ ก่อนที่แม่จะพูดกับผมว่า
"ขอบใจมากนะลูก ขอบใจ ลูกคือโชคของแม่จริงๆ" ผมดีใจมากกว่าถูกรางวัลที่ 1 เสียอีกเมื่อได้ยินมัน เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมอยากได้ยิน และตอนนี้ผมกลับมาเป็น โชค .. โชคของแม่อีกครั้ง ผมเลยให้แม่สัญญากับผม
"แม่สัญญากับโชคได้รึเปล่า ว่าต่อจากนี้แม่จะไม่เล่นหวยอีก แม่สัญญานะ"
"แม่สัญญา.."
เรื่องที่ถูกหวยแม่กับผมเก็บเป็นความลับ ตอนนี้แม่ใช้หนี้หมดแล้ว บ้านเป็นของเราโดยสมบูรณ์ ผมกับแม่เรามีความสุขมาก จนกระทั่ง..
คืนนึงก่อนที่ผมจะหลับ มีข้อความส่งมาหาผมว่า "ไง! ได้แล้วนะ เหลือแค่ให้คืน" มันเป็นข้อความจากเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก ข้อความของคนแปลกหน้า ผมโทรกลับไปที่เบอร์นั้น และแน่นอนว่าผมโทรติด ใจคอผมมันไม่ค่อยจะดีเอาซะเลย ตื๊ด ตื๊ด ดื๊ด เสียงรอสายหายไป และมีเสียงของผู้หญิงจากปลายสายออกมาว่า "สัญญาที่ให้ไว้ กำลังตามไปเอานะ" เสียงนั้นสั่นเครือจนผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ผมรีบตัดสายทิ้ง ก่อนที่เบอร์นั้นจะส่งข้อความมาหาผมอีกว่า "มาหาแล้ว"
(มป.)
ติดตามตอนต่อไป..