บันทึกชะนีฟรีแลนซ์ : เรื่องระหว่างทาง ฝืนใจ ดราม่า น่าเบื่อ ไร้สาระ?

...สวัสดีหน้าฝน ช่วงนี้ฝนตกรัวๆ น้ำท่วมประปราย อย่าลืมรักษาสุขภาพ หลังจากที่รับงานนอกสถานที่จนหน้ากร้าน วันนี้ชาขอนำบทความที่ดองเค็มไว้ครึ่งนึงมานานจนได้ที่ เพิ่งจบได้วันนี้มาฝากกัน

นั่นคือ...เรื่องระหว่างทาง
...ชาคิดว่าหลายคนเป็นแบบชา คือช่วงแรกของการทำงานเนี่ยยังหาตัวเองไม่เจอ หรือว่าอาจจะไม่ได้ทำงานที่ชอบด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป
ทีนี้เวลาเราเจอกับสิ่งเร้าระหว่างทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องทำหน้าที่ที่ซ้ำๆ น่าเบื่อ หรือต้องทำสิ่งที่ไม่ถนัดจนก็ให้เกิดการถูกตำหนิ หรืออะไรอีกมากมายที่มากระทบใจ อาจทำให้รู้สึกท้อ และตั้งคำถามกับตัวเองว่า...เรามาทำอะไรตรงนี้นะ

...ชาเรียนจบวิทยาศาสตร์ พอมาทำงานเป็นเลขานุการ แรกเริ่มต้องฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาฯ ก่อน และตอนนั้นเองก็โดนสั่งให้ไปถ่ายเอกสารแบบขยายจากเอสี่เป็นขนาดเอสามหน้าหลัง ยี่สิบหน้า สิบสองชุด และกระดาษมีพอดี เกินมาไม่มากเพราะต้องเบิกพิเศษ ขอบอกเลยว่า อื้อหือออออออ ตอนนั้นขอบอกก่อนว่าชาเพิ่งเรียนรู้การใช้เครื่องมือในสำนักงาน เครื่องถ่ายเอกสารใช้ได้แบบเบสิก ถามคนในชั้นที่เครื่องวางก็ไม่มีใครรู้ซักคน พี่หัวหน้าเองสั่งเสร็จก็เค้าประชุมทันทีโดยพอประชุมเสร็จเอกสารชุดนี้ต้องเสร็จสำหรับการประชุมครั้งต่อไป

...การโดนทิ้งไว้กลางทะเลรู้สึกแบบไหน ความรู้สึกของชาตอนนั้นคงไม่ต่างกัน แม้ว่าสุดท้ายชาจะหาวิธีทำจนได้โดยที่กระดาษเสียเล็กน้อย แต่มันแลกมาด้วยความเชื่องช้า เพราะชาเย็บเสร็จแค่สิบชุดตอนการประชุมเริ่ม สองชุดหลังต้องตามเข้าไประหว่างประชุม และบอกเลยว่าหัวหน้าเป็นคนเป๊ะมาก...

...และหัวหน้าคนนี้ได้ชื่อว่าไม่มีลูกน้องทนได้เกินสองเดือน...

...ผลคือโดนด่าเละ จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ 55555 ตอนนั้นนี่แบบ นี่เรามาทำอะไรวะเนี่ย เพื่อนในออฟฟิศก็คบกันเผินๆ ไประบายอะไรไม่ได้  เพราะเรารู้ข้อมูลฝ่ายบริหารพอสมควรกลัวหลุด เวลากินข้าวก็ไปแต่กับหัวหน้า กับกลุ่มเลขาที่อายุต่างกับเรา อึดอัดมาก เวลาในออฟฟิศเราค่อนข้างทรมานใจ ไม่มีความสนุกในระหว่างนั้น  เรื่องดูแย่ใช่มะ ถูกตอนนั้นรู้สึกแย่มาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรถ้าไม่ใช่ที่นี่ ไม่มีไอเดียเลยจริงๆ อีกอย่างทำงานที่แรกยังไม่ผ่านโปรแล้วรีบออกคงดูไม่ดี ผลคือต้องทน

...โดยที่ต้องพัฒนาความไวเพื่อตอบสนองความเป๊ะของหัวหน้า จนผ่านเกณฑ์โหด ได้เป็นเลขามือหนึ่งของผู้บริหารอีกคน เริ่มเก็บความลับเก่งขึ้นจนได้มีเพื่อนและเฮฮาในออฟฟิศอย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่ตอนแรกก็ต้องปรับตัวเยอะมาก เรียกได้ว่าบนตัว หัวจรดเท้าไม่ชอบซักอย่าง เกลียดส้นสูงมาจนถึงวันนี้ 5555 นี่เป็นเหตุที่ทำให้เปลี่ยนงานแม้ว่าเริ่มทำได้เข้าที่ แต่ก็นั่นแหละ เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับชา

...ระหว่างทางอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรืออาจจะไม่รู้ว่าทางเส้นนี้จะนำทางเราไปที่ไหน ไปในที่ที่เราชอบหรือเปล่า ต้องทำอะไรที่ไม่ชอบ แต่ถ้าเราทำหน้าที่ ณ ขณะนั้นให้ดีที่สุด ผลดีที่สุดย่อมเกิดกับเรา

...ตอนนี้เป็นฟรีแลนซ์แล้วทักษะหลายอย่างที่ติดตัวมาระหว่างค้นหาตัวตนเป็นประโยชน์อย่างไม่น่าชื่อ การวางแผนงาน การหาลูกค้า หรือแม้แต่เจรจางาน ต้องยอมรับจริงๆ ว่ามาจากงานที่ผ่านมาทั้งนั้น นี่ไม่รวมพวกเอกสารบัญชี ข้อมูลการรับเงินที่ได้รู้ขั้นตอนจากบริษัทใหญ่ จนทำให้เรารับงานได้หลากหลายนะ คือถ้าไม่ทนจนผ่านโปร และเข้าใจงาน มองแค่ความดุของหัวหน้า สิ่งมีค่าพวกนี้ต้องไม่มีในสมองแน่ๆ

...อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างสั้นๆ นอกจากเรื่องงานหลายระเอียดระหว่างทางชีวิต ก็สอนเราได้หลายอย่าง ทั้งคนที่ดีกับเรา คนที่ไม่ชอบเรา เหตุการณ์ไม่คาดฝัน มันทำให้รู้ว่า ไม่มีอะไรที่สูญเปล่า สิ่งๆต่างๆ ล้วนฝึกให้เราเป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน ถ้าเรามีความอดทน และสติ

...ถ้าไม่ได้ทำสั่งที่ไม่ชอบ ไม่เคยฝืนมาก่อนจะรู้ได้ไงว่าการที่ทำสิ่งที่รักมันฟินขนาดนี้ และสำหรับคนที่ได้ทำในสิ่งที่รักแต่แรกก็อย่าลืมความสุขนี้ล่ะ

...แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่า ณ ขณะนี้คุณมีหน้าที่อะไร
...ก็ทำมันให้เต็มที่นะคะ

วันนี้วันหยุด กรี๊ด ดีใจ ขอไปนอนตามหน้าที่สำหรับวันขี้เกียจแห่งชาติก่อนนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่