สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกของเราและเพื่อนเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การจัดทริปและการเดินทาง สำหรับใครที่ไปมาแล้วก็อย่าเพิ่งเบื่อกันเนอะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปแล้วมีแผนจะไปก็ลองอ่านเป็นแนวทางได้ค่ะ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือ เราได้ติดตามเพจ ลุงหมอขอพักร้อน ประมาณเดือนเมษายน 2559 ลุงหมอก็ลงรูปทริปซากุระแถบโตเกียวแบบฟูลบลูมให้แฟนเพจได้ดูกัน รูปถ่ายต้นซากุระที่ถูกปลูกเป็นทิวแถวอย่างเป็นระเบียบข้างทางหรือสวนต่างๆ เต็มไปด้วยดอกสีชมพูบ้าง ขาวบ้าง แล้วแต่สายพันธุ์ ชูช่อหรือปล่อยกิ่งก้านระย้าให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญีปุ่นและชาวต่างชาติได้ยลโฉมชมความงามอย่าใกล้ชิด เลยตั้งใจว่าขอสักครั้งเถอะในชีวิต ที่จะไปญี่ปุ่นแล้วเจอดอกซากุระบานสะพรั่งอย่างในรูป วันนั้นเราจึงแชร์หน้าเพจใน Facebook ก็มีเพื่อนสนใจเราจึงชักชวนกันไปเที่ยว สุดท้ายๆ สุด ด้วยความพร้อมในด้านต่างๆ เราจึงรวบรวมสมาชิกรวมกันได้ 3 คน
ด้วยความที่เราเป็นคนก่อการทริปในครั้งนี้ เพื่อนจึงมอบหมายให้เราเป็นคนจัดการทริปทั้งหมดด้วยตัวเองเลย เพราะเพื่อนอีก 2 คนนั้นไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน ส่วนเราเคยไปมาหนึ่งครั้ง สมัยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นยังต้องทำวีซ่าและไปกับทัวร์เราแทบไม่ได้วางแผนอะไรเลยเพราะมีคนวางให้เราหมดแล้ว แค่มีเงินกับตัวก็ไปได้เลย แต่ทริปนี้มันไม่ใช่นะซิ เพราะเราจะต้องหาที่เที่ยว ที่กิน และที่พักเอง ดังนั้นทริปนี้เราจึงต้องหาข้อมูลด้วยการอ่าน อ่าน และอ่านจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพันทิป เพจญี่ปุ่น ฯลฯ อยากรู้เรื่องไรเสิร์ซหาจาก Internet ทั้งสิ้น (นึกถึงอาจารย์แม่นี่ลอยมา ถามว่า “ตอนเรียนตั้งใจขนาดนี้ไหม๊” ตอบเลยว่า “ม้ายยย” )
จองตั๋วเครื่องบิน
เราหาข้อมูลโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินนั้นได้จาก Facebook Fanpage ar-pae , ติดโปร , Expedia ,Traveloka, และเวปไซต์ของสายการบินโดยตรง
ทริปนี้เราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเกือบหนึ่งปี โดยตั๋วที่เราได้นั้นจองไปประมาณเดือน มิถุนายน 2559 จากเวป Expedia เป็นของสายการบิน Singapore Airline ต้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK > สนาบินชางฮี SIN (สิงคโปร์)> สนามบินคันไซ KIX (โอซาก้า) และขากลับจากสนามบินฮาเนดะ HND> สนาบินชางฮี SIN (สิงคโปร์)>สนามบินสุวรรณภูมิ BKK ในราคารวมอยู่ที่ประมาณ 17,500 บาท
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเราหาจาก Pantip, Facbook Fan Page เกี่ยวกับญี่ปุ่น อ่านและอ่านจริงๆ ค่ะ การหาข้อมูลท่องเที่ยวเริ่มจากจังหวัดที่เราไปอย่างโอซาก้า เกียวโต โตเกียว มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้างที่หน้าสนใจ เราลิสต์ไว้คะ จากนั้นเสิร์ซหาแผนที่ประเทศญี่ปุ่น แผนที่ภูมิภาค และแผนที่เฉพาะจังหวัดนั้นๆ ดูว่าสถานที่เที่ยวอยู่ส่วนทิศไหนของจังหวัด เหนือ กลาง ใต้ ออก ตก เพื่อเป็นการวางแผนเดินทางไม่ให้วกไปวนมา
เมื่อได้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในแต่ละจังหวัดเราก็มาเลือกเอาสถานที่เฉพาะที่สนใจอยากไปหรือเป็นไฮไลท์ เพราะด้วยระยะเวลาและงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จำกัด จึงอาจทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวได้ทุกที่
จากนั้นเมื่อเราเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไปเยือนแล้ว ก็มาเจาะลึกกันว่าการเดินทางให้ไปถึงแหล่งท่องเที่ยวนั้นได้อย่างไร จะเป็นทางรถยนต์ รถไฟ หรือรถบัสประจำทาง ทีนี้ก็หาสถานีรถที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวว่าชื่อสถานีอะไร แล้วเปิด Google map ควบคู่ไปด้วย เพราะใน Google map จะมีบอกชื่อสถานีให้ด้วยเราจะได้เลือกสถานีจอดรถใกล้ๆ ไม่ต้องเดินไกล และยังบอกระยะเวลา แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางในแต่ละเที่ยวได้ด้วย
ที่พัก
ก่อนจองเราจะถามความเห็นจากเพื่อนก่อนว่าต้องการพักแบบไหนเพื่อนเราก็คนง่ายๆ ก็บอกว่าแบบไหนก็ได้แล้วแต่เราเลย งั้นเอาแบบเป็นห้องส่วนตัวนะ ห้องน้ำในตัว ใกล้สถานีรถไฟ พักได้ 3 คน และราคาต้องถูกพอรับได้คือ ต่อคืนต่อคนไม่เกิน 1,500 บาท โจทย์นี้ค่อนข้างยากเหมือนกัน จะเอาแบบ ตัวท๊อป แต่ราคาที่จ่ายแค่ ตัวเริ่มต้น (จะหาได้ไหม ? ) เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดและประหยัดที่สุด เราจึงวางแผนจองที่พักไว้แต่เนินๆ เพราะเสิร์ซข้อมูลดู เขาบอกว่าที่พักในญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าได้ประมาณ 6 เดือนก่อนเข้าพัก แต่จริงๆ แล้วที่พักบางที่ก็เปิดให้จองก่อน 6 เดือนล่วงหน้าก็มี เราลองๆ หาที่พักประมาณเดือน ตุลาคม ก็มีที่พักให้จองแล้วแต่จะน้อยกว่า แต่ขอบอกว่าราคาค่อนข้างดีเชียวแหละ เราเลือกจองโรงแรมที่ จองก่อน จ่ายที่หลัง และยกเลิกฟรีก่อนเข้าพัก จาก Booking.com และ Agoda ค่อยๆ หมั่นเข้าไปดูไปเช็คราคา เอาที่เราพอใจและพอกับเงินในกระเป๋า
การเดินทาง
เมื่อเรารู้ว่าจะเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน ก็ต้องหาข้อมูลการเดินทางว่าจะเดินทางไปได้อย่างไรบ้าง รถไฟ เรือ เมล์ ลิเก ตำรวจ (ไม่ใช่ เฮะๆ ^__^ ) อย่างที่บอกเสิร์ชจาก Google Map เราก็จะรู้ว่า ต้องนั่งรถไฟ รถเมล์ หรือจะเดินก็จะได้วางแผนซื้อตั๋วการเดินทางได้ถูก และจากการหาข้อมูล Pass การเดินทางในแถบคันไซที่คุ้มค่าประหยัดเงินที่สุด (สำหรับเรา) คือ KANSAI THRU PASS และ OSAKA AMAZING PASS และสำหรับการเดินทางข้ามภูมิภาคก็ใช้ Night Bus เพื่อประหยัดเงินและไม่เสียเวลาในการท่องเที่ยว ส่วนการเดินทางในโตเกียวเราใช้บัตรเติมเงิน Suica ใช้ในการเดินทางเพราะคิดแล้วว่าถ้าซื้อ Pass อาจจะไม่คุ้ม
เงิน
ปัจจัยสำคัญในการเดินทาง ขาดไม่ได้ เราจะเช็คอัตราแรกเปลี่ยนเงินกับเวป Superrich สีเขียว อยู่เรื่อยๆ และทยอยแลก เพราะได้เรทดีสุด ตอนเราไปแลกได้เรทประมาณ 100 เยน 30.80 บาท และใช้บัตรเครดิต KTC JCB ในการใช้รูดซื้อสินค้า
ประกันการเดินทาง
ก่อนเดินทางประมาณอาทิตย์เราหาข้อมูลรายละเอียดค่าเบี้ยประกันเปรียบเทียบ 3-4 บริษัท เลือกที่คุ้มค่าและครอบคลุม อุบัติเหตุ เจ็บป่วย และการดีเลย์ของสายการบิน อันนี้มีไว้อุ่นใจ แต่ซื้อไว้ไม่ได้เครมเป็นดีที่สุด
เกรินกันยาว มาเริ่มที่การเดินทางเลยดีกว่า หลังจากที่ทำการบ้านมาอย่างดีก่อนเดินทางเกือบหนึ่งปี ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง เราจัดเตรียมกระเป๋า เสื้อผ้า สิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ เงิน Passport และอื่นๆ ให้พร้อมจะได้เผื่อลืมอะไรจะได้จัดเตรียมได้ทัน เช็คลิสต์ทุกอย่างพร้อมเดินทาง Let’s go!!!
[CR] ชวนเพื่อนไปเที่ยว “ญี่ปุ่น” เมื่อยามดอกซากุระบาน 8 วัน 7 คืน เมษายน 2560
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกของเราและเพื่อนเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การจัดทริปและการเดินทาง สำหรับใครที่ไปมาแล้วก็อย่าเพิ่งเบื่อกันเนอะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปแล้วมีแผนจะไปก็ลองอ่านเป็นแนวทางได้ค่ะ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือ เราได้ติดตามเพจ ลุงหมอขอพักร้อน ประมาณเดือนเมษายน 2559 ลุงหมอก็ลงรูปทริปซากุระแถบโตเกียวแบบฟูลบลูมให้แฟนเพจได้ดูกัน รูปถ่ายต้นซากุระที่ถูกปลูกเป็นทิวแถวอย่างเป็นระเบียบข้างทางหรือสวนต่างๆ เต็มไปด้วยดอกสีชมพูบ้าง ขาวบ้าง แล้วแต่สายพันธุ์ ชูช่อหรือปล่อยกิ่งก้านระย้าให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญีปุ่นและชาวต่างชาติได้ยลโฉมชมความงามอย่าใกล้ชิด เลยตั้งใจว่าขอสักครั้งเถอะในชีวิต ที่จะไปญี่ปุ่นแล้วเจอดอกซากุระบานสะพรั่งอย่างในรูป วันนั้นเราจึงแชร์หน้าเพจใน Facebook ก็มีเพื่อนสนใจเราจึงชักชวนกันไปเที่ยว สุดท้ายๆ สุด ด้วยความพร้อมในด้านต่างๆ เราจึงรวบรวมสมาชิกรวมกันได้ 3 คน
ด้วยความที่เราเป็นคนก่อการทริปในครั้งนี้ เพื่อนจึงมอบหมายให้เราเป็นคนจัดการทริปทั้งหมดด้วยตัวเองเลย เพราะเพื่อนอีก 2 คนนั้นไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน ส่วนเราเคยไปมาหนึ่งครั้ง สมัยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นยังต้องทำวีซ่าและไปกับทัวร์เราแทบไม่ได้วางแผนอะไรเลยเพราะมีคนวางให้เราหมดแล้ว แค่มีเงินกับตัวก็ไปได้เลย แต่ทริปนี้มันไม่ใช่นะซิ เพราะเราจะต้องหาที่เที่ยว ที่กิน และที่พักเอง ดังนั้นทริปนี้เราจึงต้องหาข้อมูลด้วยการอ่าน อ่าน และอ่านจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพันทิป เพจญี่ปุ่น ฯลฯ อยากรู้เรื่องไรเสิร์ซหาจาก Internet ทั้งสิ้น (นึกถึงอาจารย์แม่นี่ลอยมา ถามว่า “ตอนเรียนตั้งใจขนาดนี้ไหม๊” ตอบเลยว่า “ม้ายยย” )
จองตั๋วเครื่องบิน
เราหาข้อมูลโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินนั้นได้จาก Facebook Fanpage ar-pae , ติดโปร , Expedia ,Traveloka, และเวปไซต์ของสายการบินโดยตรง
ทริปนี้เราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเกือบหนึ่งปี โดยตั๋วที่เราได้นั้นจองไปประมาณเดือน มิถุนายน 2559 จากเวป Expedia เป็นของสายการบิน Singapore Airline ต้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ BKK > สนาบินชางฮี SIN (สิงคโปร์)> สนามบินคันไซ KIX (โอซาก้า) และขากลับจากสนามบินฮาเนดะ HND> สนาบินชางฮี SIN (สิงคโปร์)>สนามบินสุวรรณภูมิ BKK ในราคารวมอยู่ที่ประมาณ 17,500 บาท
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเราหาจาก Pantip, Facbook Fan Page เกี่ยวกับญี่ปุ่น อ่านและอ่านจริงๆ ค่ะ การหาข้อมูลท่องเที่ยวเริ่มจากจังหวัดที่เราไปอย่างโอซาก้า เกียวโต โตเกียว มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้างที่หน้าสนใจ เราลิสต์ไว้คะ จากนั้นเสิร์ซหาแผนที่ประเทศญี่ปุ่น แผนที่ภูมิภาค และแผนที่เฉพาะจังหวัดนั้นๆ ดูว่าสถานที่เที่ยวอยู่ส่วนทิศไหนของจังหวัด เหนือ กลาง ใต้ ออก ตก เพื่อเป็นการวางแผนเดินทางไม่ให้วกไปวนมา
เมื่อได้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในแต่ละจังหวัดเราก็มาเลือกเอาสถานที่เฉพาะที่สนใจอยากไปหรือเป็นไฮไลท์ เพราะด้วยระยะเวลาและงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จำกัด จึงอาจทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวได้ทุกที่
จากนั้นเมื่อเราเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไปเยือนแล้ว ก็มาเจาะลึกกันว่าการเดินทางให้ไปถึงแหล่งท่องเที่ยวนั้นได้อย่างไร จะเป็นทางรถยนต์ รถไฟ หรือรถบัสประจำทาง ทีนี้ก็หาสถานีรถที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวว่าชื่อสถานีอะไร แล้วเปิด Google map ควบคู่ไปด้วย เพราะใน Google map จะมีบอกชื่อสถานีให้ด้วยเราจะได้เลือกสถานีจอดรถใกล้ๆ ไม่ต้องเดินไกล และยังบอกระยะเวลา แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางในแต่ละเที่ยวได้ด้วย
ที่พัก
ก่อนจองเราจะถามความเห็นจากเพื่อนก่อนว่าต้องการพักแบบไหนเพื่อนเราก็คนง่ายๆ ก็บอกว่าแบบไหนก็ได้แล้วแต่เราเลย งั้นเอาแบบเป็นห้องส่วนตัวนะ ห้องน้ำในตัว ใกล้สถานีรถไฟ พักได้ 3 คน และราคาต้องถูกพอรับได้คือ ต่อคืนต่อคนไม่เกิน 1,500 บาท โจทย์นี้ค่อนข้างยากเหมือนกัน จะเอาแบบ ตัวท๊อป แต่ราคาที่จ่ายแค่ ตัวเริ่มต้น (จะหาได้ไหม ? ) เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดและประหยัดที่สุด เราจึงวางแผนจองที่พักไว้แต่เนินๆ เพราะเสิร์ซข้อมูลดู เขาบอกว่าที่พักในญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าได้ประมาณ 6 เดือนก่อนเข้าพัก แต่จริงๆ แล้วที่พักบางที่ก็เปิดให้จองก่อน 6 เดือนล่วงหน้าก็มี เราลองๆ หาที่พักประมาณเดือน ตุลาคม ก็มีที่พักให้จองแล้วแต่จะน้อยกว่า แต่ขอบอกว่าราคาค่อนข้างดีเชียวแหละ เราเลือกจองโรงแรมที่ จองก่อน จ่ายที่หลัง และยกเลิกฟรีก่อนเข้าพัก จาก Booking.com และ Agoda ค่อยๆ หมั่นเข้าไปดูไปเช็คราคา เอาที่เราพอใจและพอกับเงินในกระเป๋า
การเดินทาง
เมื่อเรารู้ว่าจะเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน ก็ต้องหาข้อมูลการเดินทางว่าจะเดินทางไปได้อย่างไรบ้าง รถไฟ เรือ เมล์ ลิเก ตำรวจ (ไม่ใช่ เฮะๆ ^__^ ) อย่างที่บอกเสิร์ชจาก Google Map เราก็จะรู้ว่า ต้องนั่งรถไฟ รถเมล์ หรือจะเดินก็จะได้วางแผนซื้อตั๋วการเดินทางได้ถูก และจากการหาข้อมูล Pass การเดินทางในแถบคันไซที่คุ้มค่าประหยัดเงินที่สุด (สำหรับเรา) คือ KANSAI THRU PASS และ OSAKA AMAZING PASS และสำหรับการเดินทางข้ามภูมิภาคก็ใช้ Night Bus เพื่อประหยัดเงินและไม่เสียเวลาในการท่องเที่ยว ส่วนการเดินทางในโตเกียวเราใช้บัตรเติมเงิน Suica ใช้ในการเดินทางเพราะคิดแล้วว่าถ้าซื้อ Pass อาจจะไม่คุ้ม
เงิน
ปัจจัยสำคัญในการเดินทาง ขาดไม่ได้ เราจะเช็คอัตราแรกเปลี่ยนเงินกับเวป Superrich สีเขียว อยู่เรื่อยๆ และทยอยแลก เพราะได้เรทดีสุด ตอนเราไปแลกได้เรทประมาณ 100 เยน 30.80 บาท และใช้บัตรเครดิต KTC JCB ในการใช้รูดซื้อสินค้า
ประกันการเดินทาง
ก่อนเดินทางประมาณอาทิตย์เราหาข้อมูลรายละเอียดค่าเบี้ยประกันเปรียบเทียบ 3-4 บริษัท เลือกที่คุ้มค่าและครอบคลุม อุบัติเหตุ เจ็บป่วย และการดีเลย์ของสายการบิน อันนี้มีไว้อุ่นใจ แต่ซื้อไว้ไม่ได้เครมเป็นดีที่สุด
เกรินกันยาว มาเริ่มที่การเดินทางเลยดีกว่า หลังจากที่ทำการบ้านมาอย่างดีก่อนเดินทางเกือบหนึ่งปี ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง เราจัดเตรียมกระเป๋า เสื้อผ้า สิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ เงิน Passport และอื่นๆ ให้พร้อมจะได้เผื่อลืมอะไรจะได้จัดเตรียมได้ทัน เช็คลิสต์ทุกอย่างพร้อมเดินทาง Let’s go!!!