สวัสดีค่ะ สมาชิกพันทิปและทุกท่านๆ
วันนี้หนูมีเรื่องที่อาจเป็นอุทาหรณ์ หรือ เตือนสติทั้งผู้ที่ป่วย
และคนที่ไม่ได้ป่วย..
ให้เข้าใจในภาวะของพวกเราค่ะ
เกริ่นก่อนว่า หนูเป็น Major Depressive Disorder
หรือ โรคซึมเศร้านั่นเองค่ะ ขอข้ามเรื่องราวก่อนจะรู้ตัวและรักษานะคะ
สำหรับผู้ที่สนใจ หลังไมค์มาถามกันได้ค่ะ หนูยินดีตอบ
เหตุการณ์เพิ่งเกิดเมื่อ 3 วันที่แล้ว
หนูกับเพื่อนคนหนึ่ง ต้องไปซื้อของทำธุระตั้งแต่เช้ามืด
เลยถามเพื่อนคนอื่นๆในไลน์กลุ่ม (มีประมาณ 15) คน
ว่ามีใครสะดวกไปช่วยกันไหม
แต่ก็ไม่มีใครสะดวก แต่ได้ฝากซื้อและจัดการให้เรียบร้อยด้วย
รวมๆกันแล้ว ก็ประมาณ 10 ชิ้น กับผู้หญิงสองคน
ต้องตื่นแต่เช้ามืด แบกของ จัดเตรียมของ
อันที่จริง หนูทำด้วยใจค่ะ ตั้งใจทำ
แต่การที่เพื่อนๆฝากซื้อจำนวนมาก หนูจึงต้องขอรับค่าหิ้ว
และได้บอกราคาคร่าวๆไปคืนก่อนวันเกิดเรื่อง ว่าน่าจะประมาณนี้นะ
ไม่เคยไปซื้อ ถ้าได้ราคาแล้วจะบอกอีกทีภายในคืนนี้ (คืนวันนั้น)
แต่หนูไม่สามารถเช็คราคาได้ค่ะ ต้องรอดูที่จริงเลย จึงไม่ได้แจ้ง
และได้ทำการจัดซื้อของแต่เช้ามืด แบกของกลับมาจัดให้สวยงามสมราคา
แต่ราคาที่ว่านั้น ได้เกินจากราคาที่ตั้งไว้คร่าวๆ ถึง 2 เท่า
แต่หนูได้เช็ครคาสินค้าจาก IG แล้วว่าชิ้นที่หนูได้ทำนั้น
คุ้มค่าและราคาถูกกว่าทุกร้านแน่นอน หนูมีสัจจะและพูดจากใจจริงค่ะ
ประเด็นคือ มีเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนนี้ เป็นเพื่อนสนิทของหนู
เป็นเพื่อนคนแรกในมหาวิทยาลัยของหนู เป็นทั้งเพื่อน พี่ น้อง บางครั้งที่เค้าอ่อนแอ
เวลาหนูทำผิดพลาด เค้าคอยช่วยเหลือ เวลามีคนว่าเค้า
หนูปกป้องเค้าตลอด ถึงแม้เค้าจะไม่รับรู้ แต่หนูรักเพื่อนของหนู
ไม่ว่าเค้าอาจทำไม่ดีใส่ใคร แต่เค้าดีกับหนู
และหนูยอมรับว่ารักและผูกพันกับเพื่อนคนนี้มาก...
เพื่อนสนิทคนนี้ ได้พิมพ์ในไลน์กลุ่มว่า ...เลยหรอ ราคานี้เลยหรอ...
ตอนแรกหนูคิดว่าเพื่อนไม่ได้จริงจัง เลยตอบไปว่า เทียบราคามาตรฐานแล้วนะ
แต่เพื่อนได้ตอบกลับมาว่า แล้วไหนว่าจะบอกราคาตั้งแต่เมื่อคืนไง
ความรู้สึกหนูตอนนั้น ทั้งเจ็บ และจุก พูดไม่ออก
ได้แต่น้ำตาไหลและจัดทำของต่อไป ปกติหนูเป็นคนไม่ยอมใคร
และจะโวยวาย แต่กับครั้งนี้
หนูพูดไม่ออกจริงๆค่ะ
หนูพิมพ์ในไลน์กลุ่มต่อว่า ถ้าเพื่อนคนไหนมีปัญหา ทักไลน์แยกมาได้เลยนะ
...แต่ก็ไม่มีค่ะ รวมถึงเพื่อนสนิทหนูด้วย
หนูกับเพื่อนที่ซื้อของ นั่งทำด้วยกันสุดฝีมือ ทำด้วยใจ
ตัดสินใจทำการกุศล ไม่รับเงินจากใครทั้งสิ้นค่ะ
ขาดทุนเต็มๆ หารค่าทุนแล้วช่วยกันออก
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงินค่ะ
เงินทองของนอกกาย แม้จะเป็นสิ่งจำเป็นก็ตาม
แต่ความรู้สึกของหนูที่เสียไป หนูไม่สามารถกู้คืนมาได้จริงๆค่ะ หนูเสียใจ
หนูไม่คิดว่า เพื่อนคนนี้ คิดกับหนูแบบนี้
ทำกับหนูแบบนี้โดยตั้งใจจริงๆหรือ ...
เมื่อเสร็จจากธุระ งานได้ผ่านพ้นไปแล้ว
หนูรู้สึกเตลิด ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
อยากไปที่ที่ไกลๆ ไม่มีใครรู้จัก
ขึ้นรถเมล์ไปเรื่อยๆ ไปให้ไกลที่สุด ร้องไห้ตลอดทาง
ไม่สามารถควบคุมได้ และมีความรู้สึกไม่อยากเรียนต่อ
ไม่อยากเจอหน้าเพื่อนคนนี้อีก เค้าไม่ใช่คนเดิม...
หนูรู้ตัวว่าตอนนั้นหนูไม่ได้ใช้สติคิดไตร่ตรองให้ดี
เมื่อกลับถึงหอ หนูรู้สึกเคว้งคว้าง
อยากหลับไป ไม่อยากตื่นมารับรู้สิ่งที่เป็นเหมือนฝันร้ายอีก
หนูตัดสินใจ ทานยานอนหลับ 2 mg 1 แผง = 10 เม็ด
ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อยาค่ะ
และได้หลับไป
..สิบโมงเช้าวันต่อมา หนูตื่นมาด้วยอาการปวดท้องรุนแรง
ลุกจากเตียงแล้วหน้าคว่ำกับพื้น คลานไปล้างหน้าล้างตา ตั้งสติ
คิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำตาก็ไหลออกมาอีก
หนูไม่สามารถทรงตัวได้
จึงหยิบแผงยาที่กินเข้าไป แล้วตะเกียกตะกายโบกแท้กซี่ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
###ขอร้องด้วยหัวใจนะคะ อย่าทำแบบหนู###
หนูไปด้วยสภาพทรงตัวไม่ได้ เวียนศีรษะ และมีพีที่อยู่แถวนั้นช่วยพาเข้าฉุกเฉิน
และได้วูบไป ..ตื่นอีกทีด้วยการปลุกของคุณหมอ หนูรู้สึกลิ้นพันกัน
พูดไม่รู้เรื่อง หมอถามอะไรก็ตอบเท่าที่ถาม
มีเพื่อนที่ห่วงและรักหนู รีบมาดูอาการ #ถ้าได้มาอ่านขอบคุณพวกมากนะรักมากๆ
คุณหมอขอโทรแจ้งแม่ และได้เอาแผงยาไปจากหนู หนูปวดท้องทรมานมาก เวียนศรีษะ วูบเป็นพักๆ
คุณหมอแจ้งว่า ล้างท้องไม่ทัน แต่ไม่ได้เป็นอันตราย ฉีดยาแล้ว มีสติได้ ให้กลับบ้าน
แม่และเพื่อนประคองหนูจะขึ้นรถหน้ารพ.
และโลกของหนูก็ดับวูบไปอีกครั้ง
รู้สึกตัวอีกที ก็อยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน ที่มือมีรอยเจาะน้ำเกลือ
ลืมตามาเห็นสายตาของเพื่อนที่เป็นห่วง
สภาพจิตใจตอนนั้นหนูแย่มากจริงๆ
จนถึงตอนนี้ หนูพยายามเข้มแข็ง แต่ก็ยังพิมพ์ทั้งน้ำตา...
เพื่อนสนิหนูโทรเข้ามาตอนอยู่ที่รพ. แต่หนูไม่พร้อมคุย เค้าโทรหาคนอื่น เพื่อจะคุยกับหนู
แต่หนูไม่พร้อมจริงๆ
คุณหมอบอกว่า Effect ของยา จะอยู่ 2-3 วัน
เวียนหัว เดินไม่ตรง และสามารถวูบไปได้ตลอดเวลา แต่จะไม่หมดสติ
เหมือนคนหลับลึกเท่านั้น
จนถึงตอนนี้ ร่างกายหนูดีขึ้นแล้ว
แต่สภาพจิตใจ ยังคงย่ำแย่
และไม่มีการรติดต่อจากเพื่อนคนนั้นเข้ามาอีก
เพื่อนที่รักหนูเสียใจ แม่เสียใจ ครอบครัวเสียใจ
หนูเอง ก็เสียใจกับเรื่องนี้มากๆ
หนูไม่สัญญา แต่หนูจะทำให้ดูว่า มันจะไม่เกิดขึ้นอีก
คนที่เราต้องรักมากที่สุด คือตัวของเราเอง
แต่การรักตัวเอง กับการเห็นแก่ตัว ก็ต้องแยกกันนะคะ ต่างกันมากๆ
ขอฝากถึงผู้ป่วยโรคซึมเศร้า สู้ๆนะคะ หนูรู้ว่ามันยาก ยากมากๆ
เมื่ออยู่ในช่วง deep ของเรา เหมือนมีเสียงเรียกตลอดเวลาว่าพอเถอะ
พอแล้วโลกใบนี้ อย่าเป็นภาระใครเลย ไปเถอะ เราไม่มีค่า
ไม่รู้สึกผูกพันกับอะไรทั้งสิ้น
ขอให้รู้ไว้ว่ายังมีพ่อแม่ ครอบครัว และคนอื่นๆที่รักเราอยู่นะคะ
ที่สำคัญที่สุด คือตัวเราเองค่ะ ถ้าตัวเราเองยังไม่รัก
แล้วจะให้ใครมารักเรา จริงมั้ยคะ ? สู้ๆ สู้ไปกับหนูนะคะ
ส่วนผู้คนรอบข้าง ขอให้เข้าใจพวกเรานะคะ เรื่องที่คุณคิดว่ามันนิดเดียว
เราคิดไปหมื่นแสนล้าน เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ และไม่ได้อยากใช้เป็นข้ออ้างเลยค่ะ
ได้โปรดเข้าใจเราด้วยนะคะ เราก็อยากหายจากภาวะแย่ๆนี้ค่ะ
ฝากถึงเพื่อนสนิท...
เรารักแกมาก บอกได้เลยว่าตอนนี้ยังรักอยู่ แกเป็นเพื่อนคนแรกในมหาลัยของเรา
เรื่องที่เราผ่านด้วยกันมา ทั้งดีและไม่ดี เราจะเก็บไว้ ที่แกเตือนเราสารพัด
เราจะทำตาม ขอบคุณทุกๆอย่างที่ผ่านมา
และเรายังเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้น แกไม่ได้ตั้งใจ
เราจะเข้มแข็ง ถึงระหว่างเราจะไม่เป็นเหมือนเดิม
แต่รู้ไว้นะ เรารักและเป็นห่วงแก
ถึงเราจะไม่พร้อมคุยกับแกก็ตาม ไม่ว่าเมื่อไหร่
เราก็ยังคิดถึงแก
ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ติชมได้ค่ะ ยินดีรับฟัง
สิ่งที่หนูทำเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ ขอร้องจากใจว่าอย่าทำตามนะคะ
ชีวิตเราสำคัญค่ะ อย่าฝากหัวใจไว้ที่ใครค่ะ เก็บไว้กับตัวเอง
และรักษาไว้ให้ดีนะคะ
Be Strong <3
มีเรื่องเล่า ..จาก(เด็ก)ซึมเศร้าคนหนึ่ง
วันนี้หนูมีเรื่องที่อาจเป็นอุทาหรณ์ หรือ เตือนสติทั้งผู้ที่ป่วย
และคนที่ไม่ได้ป่วย..
ให้เข้าใจในภาวะของพวกเราค่ะ
เกริ่นก่อนว่า หนูเป็น Major Depressive Disorder
หรือ โรคซึมเศร้านั่นเองค่ะ ขอข้ามเรื่องราวก่อนจะรู้ตัวและรักษานะคะ
สำหรับผู้ที่สนใจ หลังไมค์มาถามกันได้ค่ะ หนูยินดีตอบ
เหตุการณ์เพิ่งเกิดเมื่อ 3 วันที่แล้ว
หนูกับเพื่อนคนหนึ่ง ต้องไปซื้อของทำธุระตั้งแต่เช้ามืด
เลยถามเพื่อนคนอื่นๆในไลน์กลุ่ม (มีประมาณ 15) คน
ว่ามีใครสะดวกไปช่วยกันไหม
แต่ก็ไม่มีใครสะดวก แต่ได้ฝากซื้อและจัดการให้เรียบร้อยด้วย
รวมๆกันแล้ว ก็ประมาณ 10 ชิ้น กับผู้หญิงสองคน
ต้องตื่นแต่เช้ามืด แบกของ จัดเตรียมของ
อันที่จริง หนูทำด้วยใจค่ะ ตั้งใจทำ
แต่การที่เพื่อนๆฝากซื้อจำนวนมาก หนูจึงต้องขอรับค่าหิ้ว
และได้บอกราคาคร่าวๆไปคืนก่อนวันเกิดเรื่อง ว่าน่าจะประมาณนี้นะ
ไม่เคยไปซื้อ ถ้าได้ราคาแล้วจะบอกอีกทีภายในคืนนี้ (คืนวันนั้น)
แต่หนูไม่สามารถเช็คราคาได้ค่ะ ต้องรอดูที่จริงเลย จึงไม่ได้แจ้ง
และได้ทำการจัดซื้อของแต่เช้ามืด แบกของกลับมาจัดให้สวยงามสมราคา
แต่ราคาที่ว่านั้น ได้เกินจากราคาที่ตั้งไว้คร่าวๆ ถึง 2 เท่า
แต่หนูได้เช็ครคาสินค้าจาก IG แล้วว่าชิ้นที่หนูได้ทำนั้น
คุ้มค่าและราคาถูกกว่าทุกร้านแน่นอน หนูมีสัจจะและพูดจากใจจริงค่ะ
ประเด็นคือ มีเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนนี้ เป็นเพื่อนสนิทของหนู
เป็นเพื่อนคนแรกในมหาวิทยาลัยของหนู เป็นทั้งเพื่อน พี่ น้อง บางครั้งที่เค้าอ่อนแอ
เวลาหนูทำผิดพลาด เค้าคอยช่วยเหลือ เวลามีคนว่าเค้า
หนูปกป้องเค้าตลอด ถึงแม้เค้าจะไม่รับรู้ แต่หนูรักเพื่อนของหนู
ไม่ว่าเค้าอาจทำไม่ดีใส่ใคร แต่เค้าดีกับหนู
และหนูยอมรับว่ารักและผูกพันกับเพื่อนคนนี้มาก...
เพื่อนสนิทคนนี้ ได้พิมพ์ในไลน์กลุ่มว่า ...เลยหรอ ราคานี้เลยหรอ...
ตอนแรกหนูคิดว่าเพื่อนไม่ได้จริงจัง เลยตอบไปว่า เทียบราคามาตรฐานแล้วนะ
แต่เพื่อนได้ตอบกลับมาว่า แล้วไหนว่าจะบอกราคาตั้งแต่เมื่อคืนไง
ความรู้สึกหนูตอนนั้น ทั้งเจ็บ และจุก พูดไม่ออก
ได้แต่น้ำตาไหลและจัดทำของต่อไป ปกติหนูเป็นคนไม่ยอมใคร
และจะโวยวาย แต่กับครั้งนี้
หนูพูดไม่ออกจริงๆค่ะ
หนูพิมพ์ในไลน์กลุ่มต่อว่า ถ้าเพื่อนคนไหนมีปัญหา ทักไลน์แยกมาได้เลยนะ
...แต่ก็ไม่มีค่ะ รวมถึงเพื่อนสนิทหนูด้วย
หนูกับเพื่อนที่ซื้อของ นั่งทำด้วยกันสุดฝีมือ ทำด้วยใจ
ตัดสินใจทำการกุศล ไม่รับเงินจากใครทั้งสิ้นค่ะ
ขาดทุนเต็มๆ หารค่าทุนแล้วช่วยกันออก
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงินค่ะ
เงินทองของนอกกาย แม้จะเป็นสิ่งจำเป็นก็ตาม
แต่ความรู้สึกของหนูที่เสียไป หนูไม่สามารถกู้คืนมาได้จริงๆค่ะ หนูเสียใจ
หนูไม่คิดว่า เพื่อนคนนี้ คิดกับหนูแบบนี้
ทำกับหนูแบบนี้โดยตั้งใจจริงๆหรือ ...
เมื่อเสร็จจากธุระ งานได้ผ่านพ้นไปแล้ว
หนูรู้สึกเตลิด ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
อยากไปที่ที่ไกลๆ ไม่มีใครรู้จัก
ขึ้นรถเมล์ไปเรื่อยๆ ไปให้ไกลที่สุด ร้องไห้ตลอดทาง
ไม่สามารถควบคุมได้ และมีความรู้สึกไม่อยากเรียนต่อ
ไม่อยากเจอหน้าเพื่อนคนนี้อีก เค้าไม่ใช่คนเดิม...
หนูรู้ตัวว่าตอนนั้นหนูไม่ได้ใช้สติคิดไตร่ตรองให้ดี
เมื่อกลับถึงหอ หนูรู้สึกเคว้งคว้าง
อยากหลับไป ไม่อยากตื่นมารับรู้สิ่งที่เป็นเหมือนฝันร้ายอีก
หนูตัดสินใจ ทานยานอนหลับ 2 mg 1 แผง = 10 เม็ด
ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อยาค่ะ
และได้หลับไป
..สิบโมงเช้าวันต่อมา หนูตื่นมาด้วยอาการปวดท้องรุนแรง
ลุกจากเตียงแล้วหน้าคว่ำกับพื้น คลานไปล้างหน้าล้างตา ตั้งสติ
คิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำตาก็ไหลออกมาอีก
หนูไม่สามารถทรงตัวได้
จึงหยิบแผงยาที่กินเข้าไป แล้วตะเกียกตะกายโบกแท้กซี่ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
###ขอร้องด้วยหัวใจนะคะ อย่าทำแบบหนู###
หนูไปด้วยสภาพทรงตัวไม่ได้ เวียนศีรษะ และมีพีที่อยู่แถวนั้นช่วยพาเข้าฉุกเฉิน
และได้วูบไป ..ตื่นอีกทีด้วยการปลุกของคุณหมอ หนูรู้สึกลิ้นพันกัน
พูดไม่รู้เรื่อง หมอถามอะไรก็ตอบเท่าที่ถาม
มีเพื่อนที่ห่วงและรักหนู รีบมาดูอาการ #ถ้าได้มาอ่านขอบคุณพวกมากนะรักมากๆ
คุณหมอขอโทรแจ้งแม่ และได้เอาแผงยาไปจากหนู หนูปวดท้องทรมานมาก เวียนศรีษะ วูบเป็นพักๆ
คุณหมอแจ้งว่า ล้างท้องไม่ทัน แต่ไม่ได้เป็นอันตราย ฉีดยาแล้ว มีสติได้ ให้กลับบ้าน
แม่และเพื่อนประคองหนูจะขึ้นรถหน้ารพ.
และโลกของหนูก็ดับวูบไปอีกครั้ง
รู้สึกตัวอีกที ก็อยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน ที่มือมีรอยเจาะน้ำเกลือ
ลืมตามาเห็นสายตาของเพื่อนที่เป็นห่วง
สภาพจิตใจตอนนั้นหนูแย่มากจริงๆ
จนถึงตอนนี้ หนูพยายามเข้มแข็ง แต่ก็ยังพิมพ์ทั้งน้ำตา...
เพื่อนสนิหนูโทรเข้ามาตอนอยู่ที่รพ. แต่หนูไม่พร้อมคุย เค้าโทรหาคนอื่น เพื่อจะคุยกับหนู
แต่หนูไม่พร้อมจริงๆ
คุณหมอบอกว่า Effect ของยา จะอยู่ 2-3 วัน
เวียนหัว เดินไม่ตรง และสามารถวูบไปได้ตลอดเวลา แต่จะไม่หมดสติ
เหมือนคนหลับลึกเท่านั้น
จนถึงตอนนี้ ร่างกายหนูดีขึ้นแล้ว
แต่สภาพจิตใจ ยังคงย่ำแย่
และไม่มีการรติดต่อจากเพื่อนคนนั้นเข้ามาอีก
เพื่อนที่รักหนูเสียใจ แม่เสียใจ ครอบครัวเสียใจ
หนูเอง ก็เสียใจกับเรื่องนี้มากๆ
หนูไม่สัญญา แต่หนูจะทำให้ดูว่า มันจะไม่เกิดขึ้นอีก
คนที่เราต้องรักมากที่สุด คือตัวของเราเอง
แต่การรักตัวเอง กับการเห็นแก่ตัว ก็ต้องแยกกันนะคะ ต่างกันมากๆ
ขอฝากถึงผู้ป่วยโรคซึมเศร้า สู้ๆนะคะ หนูรู้ว่ามันยาก ยากมากๆ
เมื่ออยู่ในช่วง deep ของเรา เหมือนมีเสียงเรียกตลอดเวลาว่าพอเถอะ
พอแล้วโลกใบนี้ อย่าเป็นภาระใครเลย ไปเถอะ เราไม่มีค่า
ไม่รู้สึกผูกพันกับอะไรทั้งสิ้น
ขอให้รู้ไว้ว่ายังมีพ่อแม่ ครอบครัว และคนอื่นๆที่รักเราอยู่นะคะ
ที่สำคัญที่สุด คือตัวเราเองค่ะ ถ้าตัวเราเองยังไม่รัก
แล้วจะให้ใครมารักเรา จริงมั้ยคะ ? สู้ๆ สู้ไปกับหนูนะคะ
ส่วนผู้คนรอบข้าง ขอให้เข้าใจพวกเรานะคะ เรื่องที่คุณคิดว่ามันนิดเดียว
เราคิดไปหมื่นแสนล้าน เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ และไม่ได้อยากใช้เป็นข้ออ้างเลยค่ะ
ได้โปรดเข้าใจเราด้วยนะคะ เราก็อยากหายจากภาวะแย่ๆนี้ค่ะ
ฝากถึงเพื่อนสนิท...
เรารักแกมาก บอกได้เลยว่าตอนนี้ยังรักอยู่ แกเป็นเพื่อนคนแรกในมหาลัยของเรา
เรื่องที่เราผ่านด้วยกันมา ทั้งดีและไม่ดี เราจะเก็บไว้ ที่แกเตือนเราสารพัด
เราจะทำตาม ขอบคุณทุกๆอย่างที่ผ่านมา
และเรายังเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้น แกไม่ได้ตั้งใจ
เราจะเข้มแข็ง ถึงระหว่างเราจะไม่เป็นเหมือนเดิม
แต่รู้ไว้นะ เรารักและเป็นห่วงแก
ถึงเราจะไม่พร้อมคุยกับแกก็ตาม ไม่ว่าเมื่อไหร่
เราก็ยังคิดถึงแก
ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ติชมได้ค่ะ ยินดีรับฟัง
สิ่งที่หนูทำเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ ขอร้องจากใจว่าอย่าทำตามนะคะ
ชีวิตเราสำคัญค่ะ อย่าฝากหัวใจไว้ที่ใครค่ะ เก็บไว้กับตัวเอง
และรักษาไว้ให้ดีนะคะ
Be Strong <3