เป้าหมายในชีวิตไม่ชัดเจน สับสนมากค่ะ มันหาทางออกไม่ได้

กระทู้คำถาม
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เรามีความตั้งใจอยากทำงานหาเงินใช้หนี้ให้ที่บ้าน (หนี้สินจำนวนมาก สถานะตอนนี้แย่จากเมื่อก่อนจากเศรษฐกิจด้วยส่วนนึง อาจจะล้มละลายอันนี้จากที่คุยกับที่บ้านล่าสุด) เราพึ่งเรียนจบ เกรดไม่แย่ ได้เกียตรินิยมอันดับสอง (ไม่ได้วัดว่าเราเก่งจริงๆเพียงแต่เราขยันเรียนค่ะ)

ในช่วงนี้เราจบออกมา เราได้ไปทำงานอยู่เกือบเดือนค่ะ เป็นฟรีแลนซ์ เงินดี แต่เหนื่อยชนิดว่าได้นอนวันละ 1-2 ชม. แต่เราก็สนุกนะคะ และก็ไม่มีงานต่อจากนั้น ไม่มีใครเรียกใช้เรา คงเพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ(ทำงานกับคนต่างชาติค่ะ) ทำให้การจะเข้าไปทำงานตรงนั้น ก็มีโอกาสน้อย
เราเลยลงเรียนภาษอังกฤษออนไลน์ค่ะ เพื่อที่จะเอาไปสอบtoeicและ cu-tep ใช้ยื่นป.โทหรือยื่นสมัครงาน แต่เราอ่อนอังกฤษมาก พอใช้ได้เท่านั้น ก็ต้องรื้อกันยาวๆเลย

-มีแพลนอยากเรียนป.โทต่อ แต่ต้องรออีก7-8 เดือน คงจะมีเปิดสอบอีกครั้ง ในระหว่างนี้เราหางานทำค่ะ เรายื่นเรซูเม่ไปในเว็บต่างๆ ทั้งงานในบ้านเกิดและกทม. เราไป walk-in เองที่กทม. ก็ไม่สะดวก ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ต้องรบกวนขอเงินที่บ้านอีก งานในบ้านเกิดที่ยื่นก็เงียบค่ะ  ปัจจุบันมีบ.โทรมาเรียกให้ไปสัมภาษณ์ที่กทม.ค่ะ ที่บ้านก็ไม่อยากให้ไป เพราะค่าครองชีพสูง เงินเดือนไม่พอกินแน่ๆ เขาก็ว่าจะอยู่ไม่ไหว เพราะเราไม่มีที่อยู่ ก็ต้องเช่าเขา มันจะไม่พอเหลือเก็บ แต่ตำแหน่งงานน่าสนใจค่ะ สายงานมาทางที่เราเรียน เราก็น่าจะทำได้ เพียงแต่อยู่ยากหน่อย เงินน้อย ตามประสาเด็กจบใหม่

-มีญาติแนะนำให้สอบราชการค่ะ ตอนนี้มีเปิดสมัครแล้ว สอบครูผู้ช่วยอะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งเราไม่มีความรู้เลย เราจบศิลปะมา ไม่เคยสนใจอะไรพวกนี้ ใจก็คิดว่าจะรอดเหรอ วิชาการก็ทิ้งไปตั้งนานแล้ว ฝุ่นจับหมดแล้ว มีคนรับติวสอบค่ะ ค่าใช้จ่ายก็แพงมาก หลักหมื่น ตกใจเลย แถมเป็นคนไม่ชอบระบบระเบียบต่างๆ การอยู่ในกรอบ แต่มันมั่นคงสำหรับเราและครอบครัว เพราะเป็นการสอบท้องถิ่น ถ้าได้ก็ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ

แต่ทุกสิ่งอย่างในตอนนี้มันขัดแย้งกันไปหมดค่ะ สิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ควรทำ มันดันสวนทาง

ปัญาของเราตอนนี้คือเรารู้สึกกดดันมากๆ ทั้งการกดดันตัวเองที่มีมากอยู่แล้ว กดดันจากคนในเครือญาติ ที่มักถามตลอดเรื่องงานและเรียน(เราไม่ชอบการถูกถามเรื่องส่วนตัวจากญาติค่ะ) ที่บ้านมักชอบพูดถึงอีกบ้านนึงที่เป็นญาติกัน บ้านนั้นเขาเก่งมากๆค่ะ กลายเป็นข้อเปรียบเทียบและเป็นปมในใจของทุกคนทางบ้านเรา พอต้องมาเจอทุกคน เราไม่อยากตอบคำถามใดๆเลยค่ะ ว่าจะทำยังไงต่อไป เรายังสับสนในเป้าหมายของชีวิต

เรามีสิ่งที่เราอยากทำ แต่โลกของความจริงมันไม่เอื้อให้เราเต็มที่เลย อยากจะทำอันนี้ก็ติดอันนั้น จะทำอันนั้นก็ติดอันนี้ หรือมันมีความคิดแบบว่า ฉันควรทำอันนี้นะ มันดีกับตัวฉัน แต่ฉันอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ ทนๆไป อะไรแบบนี้
ไม่รู้ว่าต้องทำเพื่อสิ่งที่ตัวเองชอบตัวเองหรือเพื่อสิ่งที่พ่อแม่และญาติๆอยากให้ทำ

แต่บอกก่อนนะคะ พ่อแม่เราไม่เคยบอกให้เราทำอะไร ค่อนข้างใจกว้างกับเรา มีบ้างที่เขาถามหรือแนะนำ แต่ไม่บังคับ อาจจะมีเหมือนบังคับอ้อมๆ แต่นิดหน่อยค่ะ เราก็ดื้อบ้าง ไม่ทำตามบ้าง เพราะไม่อยากฝืนใจทำ เขาก็เข้าใจค่ะ

ส่วนแพลนระหว่างนี้ที่ควรทำค่ะ
1.ฝึกภาษาเพื่อสอบ Toeic, Cu-tep
2.หางานทำที่เป็นหลักแหล่ง รายได้แน่นอน
3.สอบราชการ

ความฝันที่อยากทำได้(ฝันมากๆในจินตนาการของตัวเอง)
1.ทำงานศิลปะที่ชอบ
2.ฝึกฝนการทำโปรแกรมให้เก่ง
3.อยากเป็นบิ้วตี้บล็อกเกอร์ด้วย 55 ชอบแต่งหน้ามาก อยากลองทำ แต่ไม่กล้า (อีกอย่างไม่มีเงินมาซื้อของใหม่ๆตลอดเวลา)
3.อันนี้ดูไร้สาระที่สุด แต่มันคือสิ่งที่เราฝันมากๆ เที่ยวรอบโลกค่ะ ไปแบบเรื่อยๆ อยากไปไหนก็ได้ไป แค่นั้นพอ
4. ล้างหนี้สิน (ซึ่งอันนี้คือความกดดันอันดับ1 ที่ทำให้เราคิดมาก เพราะสิ่งที่เราชอบก็ต้องใช้เงินและเรื่องเงินก็จำเป็นกับที่บ้านมากๆ)

ปัญหาอีกอันคือตอนนี้เรามีรายได้จากการขายของออนไลน์นิดหน่อยค่ะ เมื่อก่อนขายดี หาเงินได้เองจ่ายค่าเทอม ค่ากิน ค่าเรียนเองได้ ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ลง เจอตัดราคาสารพัด เราก็แย่ ไม่รู้จะฟื้นยังไง ขายได้น้อยลงจากแต่ก่อนมาก ของออกน้อยลง ทีนี้เงินมันก็คงๆที่ จะใช้จ่ายเองก็ลำบาก เพราะมันมีกำไรจากหลักหมื่นเหลือหลักพัน เพราะมันต้องห่วงว่าจะพอใช้หมุนมั้ย สำรองเงินอีก บลาๆ

เราเรียงลำดับอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ว่าตอนนี้ตัวเองควรทำอะไร ต้องไปทางไหนดี  สับสนตัวเอง
มันคิดเยอะไปหมด ตื่นมาก็คิดว่าจะทำยังไงดี จะหาเงินยังไง จะทำอันนี้ได้มั้ย จะทันรึเปล่า
งานที่เขาเรียกไปสัมภาษณ์ก็ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง คือเป็นคนที่ทำนู่นนี่ได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง มันรู้สึกว่าเราไปไม่สุดน่ะค่ะ เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้นะคะ มันเหมือนถ้าเราสามารถอะไรอะไรได้ดีที่สุด เก่งที่สุดสักอย่างหนึ่ง มันก็จะแสดงศักยภาพของเราออกมาอย่างชัดเจนให้คนอื่นเห็นได้ แต่นี่มันคลุมเครือไปหมด ไม่ชัดเจนสักอย่างเลย

เราไม่รู้เราพิมพ์เข้าใจมั้ย อาจจะอ่านแล้วงง เพราะเรากำลังสับสนจริงๆค่ะ มันพิมพ์ออกไปตามความคิดตัวเองเลย ไม่รู้จะเรียบเรียงยังไง พิมพ์ผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ

อยากได้คำแนะนำ หนทางออก หรือคำปรึกษาอะไรก็ได้ค่ะ  เรารู้สึกเราไม่สามารถพูดกับใครได้เลย อยากเล่าให้เพื่อนหรือคนใกล้ๆตัวฟัง แต่เขาก็มีปัญหาของเขามากพอ เราก็เกรงใจ แบบเราคิดเรื่องพวกนี้วนเวียนทั้งตื่นและนอน มันห่วงที่บ้าน ห่วงพ่อแม่
อยากให้พ่อแม่สบายเร็วๆ กดดันสาระพัด เราเลยอยากรู้สึกดีขึ้นมากกว่านี้ค่ะ ร้องไห้
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต ครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่