จริงๆ ไม่อยากใช้คำว่าโดนใส่ร้าย มเพราะเราก็ไม่ทราบว่าเขาจงใจหาเรื่อง หรือคิดด้วยหวังดี สงสัยจากใจเขาจริงๆ
ต้องบอกกก่อนว่าเป็นคนไม่มีเพื่อนกลุ่มสนิทที่จริงจังในมหาลัยค่ะ หรืออาจจะมีแต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยเปิดใจให้ใคร เพราะกลัวว่าความคิดเขากับเราจะไม่ตรงกัน เราคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทเรา แต่เขาไม่คิดอย่างงี้
แล้วก็ยอมรับด้วยนิสัยบางอย่างไม่ดี เวลาเพื่อนนัดทำงานรุ่นอะไรแบบนี้เราไปสายบ่อย มีทั้งสายเพราะไม่รู้ว่ามีนัดทำงาน กับสายเพราะมันจัดการเวลาไม่ทันจริงๆ เพื่อนบางส่วนก็หมั่นหน้าอยู่แล้ว
แล้วก็เป็นคนเสียงดัง เพื่อนบางคนก็ไม่ค่อยชอบ...คือคณะเราพักเดียวกันหมดน่ะค่ะ บางคนไม่ชอบเวลาเราพุดเสียงดังหอ ซึ่งเราก็พยายามปรับอยู่นะ ตอนนี้ไม่รู้ยังนินทากันอยู่ไหม แต่เราก็พูดเสียงเบาลง
คือเราก็รู้นะว่ามีคนไม่ชอบ อ่ะ...แต่ก็ไม่อะไรถือว่าเราแสดงความบริสุทธิ์ใจนะ ถ้ามีปัญหาแล้วเราทราบว่า เออ..เราผิด เราสร้างปัญหา เราก็ปรับปรุงตัว รับคำติไปแก้ไขตัวเองเสมอ พยายามไม่ไปสาย ไม่ทำเสียงดัง
แต่คราวนี้แบบมีคดีใหม่ ปัญหาคือคดีนี้ไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ คือเขาบอกว่าสังเกตว่าเราแอบลอกเพื่อนเวลาสอบ แต่คือเราไม่ได้ทำ และเราว่าเราก็มีลักษณะการนั่งสอบแบบนั้นของเรามานานแล้วตั้งแต่ก่อนเข้า จนเรียนมาถึงตอนนี้ แต่เหมือนเขาจะไม่เชื่อ แล้วก็บอกว่าเออ...นี่สังเกตหลาบรอบนะ หลายครั้งนะ มีคนเขาสังเกตเห็นกันตั้งเยอะ คือไอ้เราก็...อืม ไม่รู้บอกว่าไง
เราเป็นสายตาสั้นเทียมด้วย คือตาพล่าเบลอ แค่ในกระดาษคำตอบตัวเองยังเห็นไม่ค่อยจะชัดเลย ไม่มีทางมีปัญญาที่ไหนไปมองคนข้างๆ แล้วก็อย่างที่บอกว่าเราก็นั่งทำท่าแบบนี้มาตั้งนานมากแล้ว เเต่เพิ่งจะมีปัญหากันเฉยเลย...นี่คืออะไร
ตอนนี้เราไม่รู้ควรไปแก้ความเข้าใจผิดกับเพื่อนคนที่อ้างชื่อว่าเห็นเราลอกทั้งหลายทีละคน หรือว่าแบบปรับท่านั่งตัวเองดี (กลัวว่าถ้าเปลี่ยนกลายเป็นยอมรับอีกว่าท่านั่งเมื่อก่อนเป็นท่านั่งลอก)
จริงๆ เรื่องข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองก็พอจะเคยฟังมาบ้าง (เรื่องอื่นที่ไม่เรื่องสอบ) ก็ทั้งจริง (มาสายเสียงดังมารยาทบางอย่างในหอไม่ดีงี้ ยอมรับผิด ปัจจุบันไม่ด้ทำแล้ว) ทั้งมั่วปนกัน(เรื่องแบบไร้สาระหลายอย่าง กระทั่งกลิ่นครีมทาผิวยังมีมาตำหนิ ไอ้เรานี้งง บางเรื่องก็เรื่องส่วนบุคคลที่ไม่ได้สร้างปัญหากับใคร แล้วมาวอแวทำไม อารมณ์เหมือนข่าวที่แบบไม่ชอบขี้หน้าเราแล้วก็มาเรื่องมาด่าประมาณนั้น) จนเราคิดว่าชื่อเสียงคงแบบปนปี้ไปยับเยินแล้ว
คือเราเหนื่อเต็มที่กับเรื่องนี้ ถ้าเกิดจัดร่วมรุ่นแล้วเปิดประเด็นเป็น ใครมีปัญหาอะไร เชิญด่ามาเลย เดี๋ยวเคลียร์ตรงนี้ ถ้าผิดเราก็ยอมรับ คือเราแมนอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ผิดก็มาเคลียร์กัน คิดว่าดีไหมค่ะ
เพราะปัจจุบันเราเครียดมากเลยกับคำพูดของพวกเขาคือ เราเป็นแคร์ความคิด กับคำพูดคนรอบข้างค่อนข้างมากอยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะแบบให้มีเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ต่อไป
โดนใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมรุ่นควรทำไงดี เหมือนมันจะนินทาต่อไปแบบปากต่อปาก
ต้องบอกกก่อนว่าเป็นคนไม่มีเพื่อนกลุ่มสนิทที่จริงจังในมหาลัยค่ะ หรืออาจจะมีแต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยเปิดใจให้ใคร เพราะกลัวว่าความคิดเขากับเราจะไม่ตรงกัน เราคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทเรา แต่เขาไม่คิดอย่างงี้
แล้วก็ยอมรับด้วยนิสัยบางอย่างไม่ดี เวลาเพื่อนนัดทำงานรุ่นอะไรแบบนี้เราไปสายบ่อย มีทั้งสายเพราะไม่รู้ว่ามีนัดทำงาน กับสายเพราะมันจัดการเวลาไม่ทันจริงๆ เพื่อนบางส่วนก็หมั่นหน้าอยู่แล้ว
แล้วก็เป็นคนเสียงดัง เพื่อนบางคนก็ไม่ค่อยชอบ...คือคณะเราพักเดียวกันหมดน่ะค่ะ บางคนไม่ชอบเวลาเราพุดเสียงดังหอ ซึ่งเราก็พยายามปรับอยู่นะ ตอนนี้ไม่รู้ยังนินทากันอยู่ไหม แต่เราก็พูดเสียงเบาลง
คือเราก็รู้นะว่ามีคนไม่ชอบ อ่ะ...แต่ก็ไม่อะไรถือว่าเราแสดงความบริสุทธิ์ใจนะ ถ้ามีปัญหาแล้วเราทราบว่า เออ..เราผิด เราสร้างปัญหา เราก็ปรับปรุงตัว รับคำติไปแก้ไขตัวเองเสมอ พยายามไม่ไปสาย ไม่ทำเสียงดัง
แต่คราวนี้แบบมีคดีใหม่ ปัญหาคือคดีนี้ไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ คือเขาบอกว่าสังเกตว่าเราแอบลอกเพื่อนเวลาสอบ แต่คือเราไม่ได้ทำ และเราว่าเราก็มีลักษณะการนั่งสอบแบบนั้นของเรามานานแล้วตั้งแต่ก่อนเข้า จนเรียนมาถึงตอนนี้ แต่เหมือนเขาจะไม่เชื่อ แล้วก็บอกว่าเออ...นี่สังเกตหลาบรอบนะ หลายครั้งนะ มีคนเขาสังเกตเห็นกันตั้งเยอะ คือไอ้เราก็...อืม ไม่รู้บอกว่าไง
เราเป็นสายตาสั้นเทียมด้วย คือตาพล่าเบลอ แค่ในกระดาษคำตอบตัวเองยังเห็นไม่ค่อยจะชัดเลย ไม่มีทางมีปัญญาที่ไหนไปมองคนข้างๆ แล้วก็อย่างที่บอกว่าเราก็นั่งทำท่าแบบนี้มาตั้งนานมากแล้ว เเต่เพิ่งจะมีปัญหากันเฉยเลย...นี่คืออะไร
ตอนนี้เราไม่รู้ควรไปแก้ความเข้าใจผิดกับเพื่อนคนที่อ้างชื่อว่าเห็นเราลอกทั้งหลายทีละคน หรือว่าแบบปรับท่านั่งตัวเองดี (กลัวว่าถ้าเปลี่ยนกลายเป็นยอมรับอีกว่าท่านั่งเมื่อก่อนเป็นท่านั่งลอก)
จริงๆ เรื่องข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองก็พอจะเคยฟังมาบ้าง (เรื่องอื่นที่ไม่เรื่องสอบ) ก็ทั้งจริง (มาสายเสียงดังมารยาทบางอย่างในหอไม่ดีงี้ ยอมรับผิด ปัจจุบันไม่ด้ทำแล้ว) ทั้งมั่วปนกัน(เรื่องแบบไร้สาระหลายอย่าง กระทั่งกลิ่นครีมทาผิวยังมีมาตำหนิ ไอ้เรานี้งง บางเรื่องก็เรื่องส่วนบุคคลที่ไม่ได้สร้างปัญหากับใคร แล้วมาวอแวทำไม อารมณ์เหมือนข่าวที่แบบไม่ชอบขี้หน้าเราแล้วก็มาเรื่องมาด่าประมาณนั้น) จนเราคิดว่าชื่อเสียงคงแบบปนปี้ไปยับเยินแล้ว
คือเราเหนื่อเต็มที่กับเรื่องนี้ ถ้าเกิดจัดร่วมรุ่นแล้วเปิดประเด็นเป็น ใครมีปัญหาอะไร เชิญด่ามาเลย เดี๋ยวเคลียร์ตรงนี้ ถ้าผิดเราก็ยอมรับ คือเราแมนอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ผิดก็มาเคลียร์กัน คิดว่าดีไหมค่ะ
เพราะปัจจุบันเราเครียดมากเลยกับคำพูดของพวกเขาคือ เราเป็นแคร์ความคิด กับคำพูดคนรอบข้างค่อนข้างมากอยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะแบบให้มีเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ต่อไป