"เผชิญฝน ผจญเขา"...ที่เหล่านักท้าทายอยากจะมาลองสัมผัสสักครั้งในชีวิต กับผู้พิชิต "ภูบักได" ในฤดูฝน
/// หน้าฝนไม่ต้องบ่นเรื่องว่าฝนจะตกมั้ย? มันมาแน่ แต่ใครจะเป็นผู้โชคดีว่าวันไหนจะมีแดดก็แค่นั้น สำคัญคือต้องเตรียมเสื้อกันฝนมาไว้ แม้ฝนไม่ตกก็กันน้ำหมอกจากปลายยอดหญ้าได้เป็นอย่างดีเลยแหละ อีกอย่างอย่าลืม...อย่าลืม ถุงเท้ากันทากถ้าหาซื้อได้ยากใช้ถุงเท้าหนาๆ ก็ได้ พอเจ้ากองทัพ "ทาก" ตัวน้อยๆ มันมาเกาะก็แค่เอาไม้เขี่ยๆ ออกเท่านั้น อย่าลืมดูบ่อยๆ ด้วยนะ เดี๋ยวมันวิ่งขึ้นมาที่สูงแล้วจะตกใจกลัวไปกันใหญ่
/// เรื่องของการเดินทางมันต้องใช้คำว่าทุลักทุเล เพราะแค่นั่งรถเจอเข้ากับหนองน้ำตรงไหนเป็นต้องติดหล่มแน่ๆ ส่วนเดินเท้าเข้าป่าเป็นเรื่องธรรมดาของนักเดินทางที่จะเจอกับความยากลำบากอยู่แล้ว แต่ถ้าหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนยังไม่เคย อันนี้งานยากซึ่งของที่แบกอยู่บนหลังก็ว่าหนักแล้ว พื้นหญ้าพื้นป่าก็ลื้นด้วย บางทีก็มีลำธารเล็กๆ ไหลพอให้เห็นเป็นตาน้ำชื่นแฉะไปหมดอดสวยอดหล่อ ถึงอย่างนั้นเมื่อถึงจุดยอดเขาก็เบาใจ ออกซิเจน และโอโซน มีสูดเข้าปอดถือว่าเป็นสิ่งสุดยอดสำหรับร่างกายเราแล้วล่ะ และเมื่อมองไปรอบๆ นี่มันอยู่บน "สวรรค์" ชัดๆ ขาวโพลนไปด้วย เมฆ เอ๊ะ! หรือว่าหมอกกันแน่ แยกไม่ออกจริงๆ
/// อ้าวแล้วจุดไฟยังไงในเมื่อมันเปียกเขามีวิธีก็แล้วกัน เรื่องว่านอนตอนดึก จะเจอสายฝนหรือไม่ มันมาแน่ๆ ได้ยินเสียงสาดอยู่ข้างๆ เต็นท์ แต่ไม่เป็นไรเรามีผ้ายางกางไว้ชั้นบนกันไว้ก่อนจะมาถึงเต็นท์เรา นอนกันให้ยาวๆ ได้ไม่ต้องกังวล
/// สุดท้ายฝากไว้ เพราะนี่คือสิ่งล้ำค่า ความงดงามที่ธรรมชาติจัดสรรเอาไว้ให้มนุษย์โลกเราเชยชม แต่ไม่ใช่ว่าใครจะโชคดีเสมอไปนะ บางคนได้สัมผัสความพิเศษอย่างไร้ขอบเขตก็จริง แต่บางคนอาจไม่ถูกหวย ไม่ถูกชะตากับฟ้าฝน มันไม่เป็นใจให้เรานักก็ไม่เป็นไร ขอเพียงความกล้า เรื่องท้าทายเป็นสิ่งง่ายๆ แต่ไปแล้วถือว่าได้อะไรกลับมาเยอะแยะเลย
ขอบคุณภาพ ข้อมูล และใครสนใจเที่ยว ภูบักได ลองเข้าไปสอบถามได้ที่
https://www.facebook.com/PhuBakDai/
[CR] "เผชิญฝน ผจญเขา" @ภูบักได
/// หน้าฝนไม่ต้องบ่นเรื่องว่าฝนจะตกมั้ย? มันมาแน่ แต่ใครจะเป็นผู้โชคดีว่าวันไหนจะมีแดดก็แค่นั้น สำคัญคือต้องเตรียมเสื้อกันฝนมาไว้ แม้ฝนไม่ตกก็กันน้ำหมอกจากปลายยอดหญ้าได้เป็นอย่างดีเลยแหละ อีกอย่างอย่าลืม...อย่าลืม ถุงเท้ากันทากถ้าหาซื้อได้ยากใช้ถุงเท้าหนาๆ ก็ได้ พอเจ้ากองทัพ "ทาก" ตัวน้อยๆ มันมาเกาะก็แค่เอาไม้เขี่ยๆ ออกเท่านั้น อย่าลืมดูบ่อยๆ ด้วยนะ เดี๋ยวมันวิ่งขึ้นมาที่สูงแล้วจะตกใจกลัวไปกันใหญ่
/// เรื่องของการเดินทางมันต้องใช้คำว่าทุลักทุเล เพราะแค่นั่งรถเจอเข้ากับหนองน้ำตรงไหนเป็นต้องติดหล่มแน่ๆ ส่วนเดินเท้าเข้าป่าเป็นเรื่องธรรมดาของนักเดินทางที่จะเจอกับความยากลำบากอยู่แล้ว แต่ถ้าหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนยังไม่เคย อันนี้งานยากซึ่งของที่แบกอยู่บนหลังก็ว่าหนักแล้ว พื้นหญ้าพื้นป่าก็ลื้นด้วย บางทีก็มีลำธารเล็กๆ ไหลพอให้เห็นเป็นตาน้ำชื่นแฉะไปหมดอดสวยอดหล่อ ถึงอย่างนั้นเมื่อถึงจุดยอดเขาก็เบาใจ ออกซิเจน และโอโซน มีสูดเข้าปอดถือว่าเป็นสิ่งสุดยอดสำหรับร่างกายเราแล้วล่ะ และเมื่อมองไปรอบๆ นี่มันอยู่บน "สวรรค์" ชัดๆ ขาวโพลนไปด้วย เมฆ เอ๊ะ! หรือว่าหมอกกันแน่ แยกไม่ออกจริงๆ
/// อ้าวแล้วจุดไฟยังไงในเมื่อมันเปียกเขามีวิธีก็แล้วกัน เรื่องว่านอนตอนดึก จะเจอสายฝนหรือไม่ มันมาแน่ๆ ได้ยินเสียงสาดอยู่ข้างๆ เต็นท์ แต่ไม่เป็นไรเรามีผ้ายางกางไว้ชั้นบนกันไว้ก่อนจะมาถึงเต็นท์เรา นอนกันให้ยาวๆ ได้ไม่ต้องกังวล
/// สุดท้ายฝากไว้ เพราะนี่คือสิ่งล้ำค่า ความงดงามที่ธรรมชาติจัดสรรเอาไว้ให้มนุษย์โลกเราเชยชม แต่ไม่ใช่ว่าใครจะโชคดีเสมอไปนะ บางคนได้สัมผัสความพิเศษอย่างไร้ขอบเขตก็จริง แต่บางคนอาจไม่ถูกหวย ไม่ถูกชะตากับฟ้าฝน มันไม่เป็นใจให้เรานักก็ไม่เป็นไร ขอเพียงความกล้า เรื่องท้าทายเป็นสิ่งง่ายๆ แต่ไปแล้วถือว่าได้อะไรกลับมาเยอะแยะเลย
ขอบคุณภาพ ข้อมูล และใครสนใจเที่ยว ภูบักได ลองเข้าไปสอบถามได้ที่ https://www.facebook.com/PhuBakDai/
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น