กระทู้เก่า
Oscarwatch2018#1 / The Shape of Water / หรือนี้จะเป็นหนังแฟนตาซีที่คว้าออสการ์หนังยอดเยี่ยมในรอบหลายปี
- https://pantip.com/topic/36683803
Oscarwatch2018#2 / Call Me By Your Name / หรือนี้จะเป็นหนังเกย์ที่คว้าออสการ์หนังยอดเยี่ยมอีกครา, พาคนไทยเข้าชิงออสการ์
- https://pantip.com/topic/36697752
Oscarwatch2018#3 / Darkest Hour / เต็งหนึ่งออสการ์นำชายปีนี้ตอนนี้สำหรับ Gary Oldman
- https://pantip.com/topic/36706003
Oscarwatch2018#4 / Novitiate / หรือหนังเรื่องนี้จะพาป้า Melissa Leo คว้าออสการ์ตัวที่ 2
- https://pantip.com/topic/36732021


Mudbound : Dee Rees
DRAMA
US DATE: January 21, 2017 (Sundance), ยังไม่มีกำหนดการฉาย
Distributed by Netflix
CAST: Carey Mulligan, Garrett Hedlund, Jason Clarke, Jason Mitchell, Mary J. Blige



Mudbound เล่าเรื่องชายหนุ่มสองคนที่กลับบ้านหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองทำงานในฟาร์มในชนบทของมิสซิสซิปปีที่ที่พวกเขาต่อสู้เพื่อจัดการกับการแบ่งแยกเชื้อชาติและการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตหลังสงคราม

ยังไม่มีตัวอย่าง

สาขาที่น่าสนใจว่าจะลุ้นเข้าชิงออสการ์
^{# คือลำดับที่คาดการณ์ที่ผมจัดไว้ในแต่ละสาขา ลำดับอาจจะเปลี่ยนแปลตามช่วงเวลา}
Best Picture #outtop10


     ถึงแม้หนังจะได้รับคำวิจารณ์จากเทศกาล Sundance ตัวหนังมีความหลากหลายของนักแสดงโดยที่มีนักแสดงนำเป็นทั้งผิวขาวและผิวสีและทั้งชายและหญิงและมีผู้กำกับที่เป็นผู้กำกับผิวสีและเป็นผู้หญิง สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างกระแสให้หนังได้อย่างดีเยี่ยม แต่ทั้งหมดนี้อาจจะไม่ช่วยอะไร เมื่อหนังได้ผู้จัดจำหน่ายเป็น Netflix ที่เคยพาหนังแค่เรื่องเดียวเข้าชิงออสการ์ แถมยังเป็นหนังสารคดีที่แทบจะพาตัวหนังเองเข้าชิงด้วยตัวเองด้วยซ้ำอย่าง 13th (2016) รวมถึงการที่พาหนังอย่าง Beasts of No Nation (2015) และ Idris Elbaไปไม่ถึงออสการ์ และกระแสต่อต้าน Netflix ในเทศกาลเมืองคานส์ อาจจะส่งผลกระทบเล็กๆอย่างสมาชิก (โดยเฉพาะสายอินดี้ตามเทศกาลหนัง ที่พึ่งจะถูกเพิ่มไปเป็นสมาชิกจำนวนมาก) ไม่โหวตให้หนังเรื่องนี้ แต่ได้ข่าวมาว่าเหมือน Netflix ก็ค่อนข้างกระตือรือร้นกับการทำแคมเปญหนังของตัวเองที่ใยปีนี้มีหนัง Okja (2017), To the Bone (2017), Mute (2017), Our Souls at Night (2017) และ The Meyerowitz Stories (2017) รวมถึงหนังที่จะออกฉายในอนาคตอย่าง The Irishman ของปู่ Martin Scorsese ให้ได้มีโอกาสเข้าชิงออสการ์ โดยการจ้างผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะมาช่วยทีม PRของ Netflix อย่าง Julie Fontaine ที่เคยทำงานกับทั้ง Disney และ Miramaxที่ล่าสุดทำงานกับ Lionsgate ที่ปีที่ผ่านมาพาหนังเข้าชิงออสการ์รวมกัน 26 สาขาจากหนัง 4 เรื่องอย่าง La La Land (2016), Hacksaw Ridge (2016), Hell or High Water (2016) และ Deepwater Horizon (2016) แต่หนังอาจจะมีลุ้นเข้าชิงก็เป็นได้เพราะค่ายหนังสตรีมมิ่งคู่แข่งอย่าง Amazon ก็พึ่งพาหนัง Manchester by the Sea (2016) เข้าชิงออสการ์ในปีที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วคือคงต้องรอดูไปยาวๆ

Best Director #outtop10 - Dee Rees
     โอกาสในการลุ้นเข้าชิงออสการ์ของผู้กำกับหญิงค่อนข้างน้อยแล้ว แถมยังต้องมาเจอผู้กำกับอย่าง Christopher Nolan กับ Dunkirk และ Steven Spielberg กับ The Papers ยังไม่นับผู้กำกับหญิงอย่าง Kathryn Bigelow และ Detroit ที่เคยคว้าออสการ์สาขานี้ รวมถึงต้องเจอผู้กำกับหญิงคนอื่นๆ อย่าง Sofia Coppola กับ The Beguiled เป็นต้น ทำให้คิดว่าโอกาสของ Dee Rees มีค่อนข้างน้อย โดยล่าสุดผู้กำกับหญิงผิวสีที่เฉียดเข้าใกล้ออสการ์สาขานี้มากที่สุดคือ Ava DuVernay กับ Selma (2014) ที่ทำได้เพียงแค่เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Best (Adapted) Screenplay #3 - Dee Rees, Virgil Williams
     นี้เป็นสาขาที่หนังค่อนข้างมีลุ้นอยู่ ด้วยเนื้อหาที่พูดถึง ผลกระทบต่อสงครามต่อชีวิตผู้คนและปัญหาเรื่องเชื้อชาติ โดยหนังดัดแปลงจากหนังสือนิยายชื่อเดียวกันที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2008 ของนักเขียนสาว Hillary Jordanและนี้คือหนังสือเริ่มแรกของเธอ

Best Supporting Actor #8 - Jason Mitchell

     นักแสดงหลักของเรื่องนี้ทั้ง 5 คน ได้แก่ Carey Mulligan, Garrett Hedlund, Jason Clarke, Jason Mitchellและ Mary J. Blige ล้วนด้วยได้รับคำชมในการแสดงทุกคน และอาจจะถูกส่งชิงสมทบทุกคน แต่คนที่มีลุ้นที่มีลุ้นเข้าชิงออสการ์มากสุดเป็น 2 นักแสดงผิวสีอย่าง Jason Mitchellและ Mary J. Blige โดยส่วนของ Jason Mitchell อาจจะมีลุ้นเพราะพึ่งจะพลาดเข้าชิงออสการ์ในปีที่มีกระแส oscar so whight จากเรื่อง Straight Outta Compton (2014)

Best Supporting Actress #5 - Mary J. Blige

      คนที่โดดเด่นและมีลุ้นเข้าชิงมากที่สุดของหนังก็คือ Mary J. Blige นักร้องสาวแนว R&B

Best Cinematography,  Production Design and Costume Design #outtop10
      หนังมีงานด้านเหล่านี้ที่ค่อนข้างโดดเด่น แต่การที่หนังจะมีลุ้นเข้าชิงในสาขานี้ขึ้นอยู่กับตัวหนังว่าจะได้เข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมหรือไหมด้วย เพราะปีนี้สาขาเหล่านี้ก็ค่อนข้างแข็ง