[CR] ไปกับเพื่อน ฝนนี้ที่ "เพชรบูรณ์"

สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สองของเรา
ซึ่งก็ยังเขียนได้ไม่เก่งเท่าไหร่นัก เขียนผิดๆถูกๆอ่านงงๆก็ขออภัยไว้ด้วยนะ ^^
ปล.อาจจะยาวหน่อยนะคะ เพราะเจ้าของกระทู้เองก็ เขียนเก็บไว้บันทึกความทรงจำด้วยค่ะ อมยิ้ม16
--------------------------------------------------------------------------------------



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สำหรับกระทู้นี้เกิดขึ้นจากการที่เราไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ไปกันทั้งหมด 7 คน ขับรถไป 2 คัน
และไม่มีการจองที่พักล่วงหน้าแต่อย่างใด ว่าง่ายๆ "ไปตายเอาดาบหน้า" นั่นเอง
เพราะช่วงวันที่เราไปกันนั้นคือ วันหยุดยาว 28-30 กค. 60 ที่พักก็เต็มหมด
แต่พวกเรามีความเชื่อมั่นว่า ต้องมีว่างบ้างแหละ ตามที่พักบางแห่งก็ไม่ได้ลงเว็บไซต์ไว้บ้างแหละ

วันแรก เราออกเดินทางกัน 09.00 น. (จากหินกอง จ.สระบุรี เนื่องจากเพื่อนมาจากตจว.เลยนัดสถานที่รวมตัวกัน)
เราจะไปพักที่เขาค้อกันก่อน ก็ขับรถกันไปอย่างไม่เร่งรีบ แวะปั๊มบ่อยเวอร์ เกือบๆบ่ายโมงเพื่อนๆก้เริ่มหิวกันแล้ว
ก็เลยแวะข้างทาง กินขนมจีนเส้นสด ที่มีเยอะมากในจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่เราเลือกเอาร้าน "ขนมจีนบ้านคุณตา"
ด้วยความที่หิวเวอร์ ก็มีสั่งนอกเหนือจากในรูปเยอะมาก เช่น ทอดมัน แต่ถ่ายไม่ทันทุกคนพร้อมสวาปามกันเต็มที่
โดยรวม รสชาติก็กลางๆนะ ก็ใครขับรถผ่านเส้น 21 ก็ลองแวะชิมดู มีหลายร้านเลย

คืนแรกเรากะเพื่อนๆตัดสินใจกันว่า มาวันแรกยังมีแรง จัดหนัก จัดเต็มไปเลย
ก็เลยนอนเอาบรรยากาศ ที่ไปรษณีย์เขาค้อกัน เราไปเช่าเต้นท์ที่ไปรษณีย์กันเลย
ตอนแรกเราคิดว่าคนต้องมากางเต้นท์เยอะแน่ๆ (เราเคยมาช่วงหน้าหนาว)
ผิดคาดค่ะ นี่น่าฝนค่ะ ลานกางเต้นท์โล่งโจ้งมากกกในจุดนี้

หลังจากที่ไปกางเต้นท์ไว้แล้ว ก็เลยออกไปเที่ยวในละแวกเขาค้อกันค่ะ
ซึ่งเราเลือกที่จะไปกังหันลมเขาค้อกันค่ะ ซึ่งก็จะมึจุดชมวิวในระหว่างทางที่ไปเช่นกัน
มันก็จะเขียวๆ ธรรมชาติๆหน่อย ถ้าใครชอบแนวนี้นะ รับรองได้ว่า มองไปสบายตามากค่ะ
ไม่เสียค่าเข้าชมนะ แต่เสียค่าที่จอดรถ 20 บาท เนื่องจากลานที่จอดรถเป็นของสถานที่เอกชนค่ะ

หลังจากที่ไปเที่ยวกังหันลมแล้ว (ได้ที่เดียว เพราะมันก็เกือบหกโมงเย็นได้)
เราก็เตรียมซื้อของเข้าแคมป์ก่อกองไฟกันคืนนี้ สภาพที่กางเต้นท์ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร
เพราะฝนตก ดินก็เป็นขี้โคลน มันก็จะลุยๆกันหน่อยอ่ะค่ะ ถ้าสายชิลขั้นสุดแบบเราก้ได้อยุ่ค่ะ
หลังจากที่กรมอุตุบอกแล้วว่าพายุเข้าจนถึง 29 กค. 60 นี้ ประมาณทุ่มกว่า ฝนก็ตกแบบมืดฟ้ามัวดินมากค่ะ
พวกเราไม่สามารถนั่งใต้ผ้าใบระหว่างเต้นท์กันได้ เลยต้องหอบของไปนั่งปิ้งย่างกันหน้าไปรษณีย์ทีเดียวค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราได้ขออนุญาติจะพี่พนักงานแล้ว เขาก็อนุญาติ ฝนมันตกหนักมากจริงๆค่ะ 555+

เช้าวันต่อมา (วันที่ 29 กค. 60)
ตื่นแต่เช้ามาเพื่อรับชมทะเลหมอก แต่ป่าวค่ะ หมอกหนามากขาวมาก เพราะเมื่อคืนฝนน่าจะตกหนัก
ได้สัมผัสบรรยากาศก็อุ่นใจแล้วค่ะ รูปข้างล่างนี้ ถ่ายตอนหมอกเริ่มจางแล้วค่ะ ประมานแปดโมงได้
เมื่อใครเห็นหมอกก็จะมีเพลงพี่เบิร์ดตามมาค่ะ "หมอกจางๆหรือควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้"
80% ของคนที่เห็น จะต้องร้องเพลงนี้กันค่ะ ไม่ว่าจะเจอที่หมอกที่ไหนก็ตาม 555+

หลังจากออกจากไปรษณีย์เขาค้อ เราก็มาแวะไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ กันค่ะ ก่อนจะเดินทางต่อไปทางภูทับเบิก

แวะกินข้าวอาหารตามสั่งร้านบ้านๆข้างทาง และแวะตุนเสบียงที่ตลาดเขาค้อก่อนจะไปยังภูทับเบิก
เราขับรถมาเส้น 12 มุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก ซึ่งระหว่างทางก็จะมีวัดชื่อดังที่ทุกคนต้องรู้จัก "วัดผาซ่อนแก้ว" นั่นเองค่ะ
เราเข้าทางหน้าวัด เพื่อจอดรถของลานจอดรถไว้จะไม่เสียตังค์ค่ะ แต่ในจุดนี้นั้น รถก็เยอะคนก็มหาศาลค่ะ

หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็สายๆแล้ว เพื่อนๆเริ่มหิวกาแฟ ร้องหากาแฟกันใหญ่
และร้านกาแฟชื่อดังที่อยู่ใกล้ๆกับวัดผาซ่อนแก้ว นั่นก็คือ "Pino Latte"
คุณพระ!!! ถนนที่ไปร้านนั้น แนะนำเลยค่ะ ว่าถ้าใครขับรถไม่ชำนาญ ไม่แนะนำค่ะ
ชันมาก ยิ่งกว่าทางขึ้นภูทับเบิกอีกค่ะ ต้องรักษาระยะห่างระหว่างคันด้วยนะคะ
เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ยิ่งตอนที่เราไปกัน ที่จอดรถไม่พอค่ะ ต้องจอดตามข้างทาง
แต่เราจอดของที่เอกชนก็จะเสียตังค์ 20 บาทค่ะ คนมหาศาลมาก
เรารอกาแฟชม.กว่าๆได้เลยค่ะ ราคากาแฟก็แพงตามวิวค่ะ อิอิ แต่ถือว่าคุ้มค่าค่ะ

หลังจากกินกาแฟสบายใจกันละ เราก็ไปหาข้าวบ่ายๆกินตรงทางขึ้นภูทับเบิก รองท้องกันไปก่อน
เพราะสั่งอะไรไปก็ไม่ได้ตามที่สั่งเลยค่ะ 555+
เห็นเที่ยวกันสบายใจขนาดนี้ แต่เราก็ไม่ลืมที่จะต้องหาที่พักกันนะคะ
หมอกลงหนามากค่ะ ก็ต้องขับช้ามากๆค่ะ เพื่อความปลอดภัย และอาศัยความชำนาญของคนขับค่ะ

ดันขึ้นอยู่เกือบชม. เจอที่พักเขียนว่าว่าง เราก็แวะถามตามทางค่ะ พวกเราก็ขอเขาดูที่พักก่อนค่ะ ว่าโอเคไหม
เพราะโจทย์เราคืนนี้คือ "นอนบ้านเป็นหลัง และนอนด้วยกันหมด" ที่แรกมันแคบและแพงไปค่ะ
ไม่ต้องกังวลนะคะ สำหรับคนที่ไม่ได้จองที่พักล่วงหน้ามาแบบเรา
เราก็โทรมาถามหลายที่นะคะ เขาจะพูดเหมือนกันหมดค่ะ
ว่าบนภูทับเบิกเต็มหมดค่ะ ไม่ต้องโทหาที่อื่นแล้วค่ะ ที่พักเรามีเต้นท์พร้อมเตียง สนใจจองไหมคะ
ทุกรีสอร์ทก็บัฟกันไปมา สุดท้ายเราไม่จองเลยค่ะ มาหาเอาเอง 555+
ที่พักที่ไม่ได้ลงเว็บเยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ แล้วก็ว่างเยอะค่ะ
สุดท้ายเรามาได้ที่ "ลุงท้ายโฮมสเตย์" ง่ายๆชิลๆมากค่ะ และที่จอดรถก็เรียบๆไม่เป็นเนินด้วยค่ะ
พี่ๆชาวม้งก็บริการพวกเราดีมากค่ะ ที่พักมีระเบียงหลังบ้านกว้างค่ะ เหมาะแก่การสังสรรค์ของพวกเราค่ะ 555+
ห้องพักใหญ่ค่ะ มีสองเตียงใหญ่ พี่ๆเขาไม่เก็บเงินคนส่วนเกินด้วยค่ะ มีหมูทะฟรีอีกชุดค่ะ
วิวระเบียงหลังบ้านพักเราค่ะ ฟินกำลังดีเลยค่ะ

หลังจากพักผ่อนสักแปป เนื่องจากเพื่อนที่ขับรถมากบอกเหนื่อย
เราก็คำนวณกันแล้วว่า ตอนเช้าคงไม่ตื่นไปดูหมอกกันแน่ ไปดูกันเย็นนี้เลยละกัน
เราก็ออกจากที่พัก 5 โมงครึ่งค่ะ ไปตรงจุดชมวิว ตรงวิสาหกิจชุมชนค่ะ
วิวตอนเย็นก็สวยนะคะ ฟินมากค่ะ เคยมาตอนหน้าหนาวไม่เจอหมอก
คราวนี้อยากเห็นหมอกต้องมาหน้าฝนกันนะคะ

หมอกเยอะมากค่ะ ไม่เห็นเป็นทะเลตามคนอื่นที่เขารีวิวเลยค่ะ แต่ในจุดๆนี้ได้เห็นแบบนี้ ก็ชืนใจมากค่ะ
คนมาก็ไม่เยอะด้วยค่ะ เคยมาตอนคนเยอะ รู้สึกอึดอัดค่ะ ช่วงหน้าฝนนี่แหละค่ะ ชิลมากค่ะ

หลังจากชมวิวจนหนำใจแล้ว ก็หาเสบียงตุ่นเข้าที่พัก จำนวน 7 คน คงไม่พอสำหรับหมูทะหนึ่งชุดที่บ้านพักจัดให้แน่ๆ
เห็นขนมปังทาเนยน่ากินดีค่ะ เลยลองสักหน่อย 20 บาทค่ะ
ส่วนรสชาตินั้นนนนน ก็ขนมปังปิ้งทั่วไปนี่แหละค่ะ

วันสุดท้ายแล้ว (30 กค. 60) หมดเวลาสนุกแล้วสิ
เราก็ตื่นสายโด่งมากค่ะ เหลือบ้านเราหลังเดียวที่ยังไม่รับประทานอาหารเช้า 555
ล้อหมุนก็เกือบเที่ยงพอดีค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเดินทางกลับเลย
แต่เพื่อนใจดีมีแรงไปต่ออีกหน่อย
เลยไป "อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า" กันค่ะ
ไม่คิดเลยว่าระยะทางจากภูทับเบิกมาก้เอาเรื่องเหมือนกันค่ะ ขดเป็นงูเลย
ใช้เวลาเกือบ 40 นาที เราเลยกินข้าวกลางวันตรงแถวที่จอดรถกันเลยค่ะ ส้มตำเด็ดมากค่ะ แนะนำ!!!
ครั้งแรกของทุกคน ไม่เคยรู้กันมาก่อนเลยว่าต้องเดินต่ออีกเป็นระยะทางไปกลับ2กม. กว่า
ในจุดๆนี้อึ้งตามๆกัน แต่มาแล้วต้องให้สุด เลยจ้างพี่ไกด์นำทาง(ตามแต่เราจะทริป)

ใช่ค่ะ!! เดินป่านี่แหละค่ะ ไม่เคยคาดคิดกันมาเลย เพื่อนๆใส่แตะกันค่ะ งดงามค่ะ
ระหว่างเดินก็จะมีหมอกลอยเรียบๆเคียงๆเราเลยค่ะ ถือว่าบรรยากาศเย็นดีค่ะ

ที่แรกที่พี่ไกด์ชาวม้ง พาก่อนเลยคือ "ผาชูธง"
พูดเลยค่ะ ต้องมาเห็นด้วยตาเนื้อกันค่ะ มันฟินมากค่ะ
ฟินจนลืมเก็บภาพวิวตรงนั้นไปเลยค่ะ ได้แต่รูปพวกเราค่ะ
ผู้พิชิต "ผาชูธง"

เดินต่อไปอีกหนึ่งจุดท๊อปวิว คือ "ลานหินปุ่ม" นั่นเอง
ระยะทางก็ไกลจากกันพอเหนื่อยเลยค่ะ 555+

ระหว่างเดินกลับ ก็จะพบหินต่างๆมากมายค่ะ

ค่าใช้จ่ายของเราทั้ง 7 คน ตกคนละ 2500 บาทค่ะ
ใช่ค่ะ เราไม่ประหยัดค่ะ หนักไปที่กินค่ะ ^^

ทริปนี้ก็ขอลากันไปก่อนนะคะ
การเขียนกระทู้ในครั้งนี้ อยากให้เพื่อนๆไปเที่ยวเหมือนพวกเรา
ไปสัมผัสบรรยากาศ และเกิดความทรงจำในระหว่างทริปว่า น่าจดจำแค่ไหนค่ะ

ทริปหน้าพวกเราไปจะไปเที่ยวที่ไหนกันอีก จะมาแนะนำนะคะ
ไว้พบกันใหม่ค่ะ อมยิ้ม17
ชื่อสินค้า:   เขาค้อ ภูทับเบิก ผาซ่อนแก้ว ภูหินร่องกล้า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่