[CR] การเตรียมเอกสารเพื่อขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ

ในส่วนนี้ขอให้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับใครที่อยากจะลองยื่นขอทุนเรียนต่อ ตปท. หรือแนะนำให้ลูกหลานเตรียมตัวขอทุนนะคะ
จขกท.ตอนนี้ใช้ทุนอยู่ต่างประเทศ จากการเตรียมตัวที่ผ่านมาจึงอยากจะแนะนำเรื่องการเตรียมเอกสารให้พร้อมสำหรับการสมัครทุนต่างๆ ดังนี้ค่ะ

1.อ่านรายละเอียดของทุน
อ่านให้รู้ว่าเป็นทุนเกี่ยวกับอะไร ของอะไร ให้เปล่าหรือเปล่า มีเงื่อนไขอะไรบ้าง เรียนกี่ปี ต้องอ่านให้เข้าใจถ่องแท้ค่ะ ว่าตรงตามความต้องการ ความสามารถ Background studies ของเราหรือเปล่า บางทุนถ้าพื้นเพของเราไม่ตรงกับที่เค้าต้องการแล้วเราให้เหตุผลได้ไม่ไดีพอ ก็จะถูกปฎิเสธได้ง่ายๆค่ะ ทีนี้ทุนบางทุนรายละเอียดเยอะ กว่าจะอ่านเงื่อนไขจบ บางคนถอดใจไปก่อนก็มี อันนี้ต้องขยันอ่านค่ะ ศึกษาข้อมูลของทุนให้ดี ทุนมีหลายประเภท ทุนมหาลัย ทุนรัฐบาล ทุนส่วนลด ทุนวิจัยฯลฯ ตามเพจทุนไว้จะได้ข้อมูลเยอะค่ะ

2.เตรียมเอกสาร
เอกสารเป็นสิ่งสำคัญมาก อ่านให้ดีค่ะ ว่าเค้าต้องการเอกสารอะไรบ้าง
- ทรานสคริป ใบปริญญา ใบจบ ใบต่างๆที่ได้รับจากสถานศึกษา ถ้าเป็นภาษาไทย ไปขอสำนักทะเบียนเลย ให้ออกเป็นภาษาอังกฤษ เค้าออกให้ได้อยู่แล้วค่ะ ของ มช. ใบละ 50 บาท ถูกกว่าต้องเอาไปแปลเองอีก ใบจบ ทรานสคริป ตอน ม.3 ม.6ก็เหมือนกันค่ะ ไปขอที่โรงเรียน เค้าออกให้ได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะจบมากี่ปีเค้าก็สามารถออกให้ได้ค่ะ  เรากลับไปขอตอนอที่โรงเรียน ตอนอยู่ปีสามแล้ว เค้าก็ยังออกให้ได้ค่ะ
ถ้าต้องเอาเอกสารพวกนี้ไปแปลเอง เสียหายหลายพัน

-Recommendation Letter จากอาจารย์ ก็ให้ไปขออาจารย์ที่เรารู้จักค่ะ อาจเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ที่เคยเรียนด้วย ที่สำคัญ คือ อาจารย์ต้องรู้จักเราและเรารู้จักอาจารย์ค่ะ เวลาไปขอก็ไม่ใช่ขอปากเปล่านะคะ บอกจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน ว่าขอไปทำอะไร แนบทรานสคริป CV คร่าวๆ ของตัวเองให้อาจารย์ไปด้วย ท่านจะได้มี reference เขียนให้เราได้ง่ายขึ้น
บางทุนอาจมีฟอร์มให้อาจารย์กรอก บางทุนก็อาจไม่มี ใครยังไม่รู้จะเอาไปแนบทุนไหน ขอให้ท่านเขียนรับรองพฤติกรรมมาก่อนก็ได้ แล้วแต่อาจารย์จะเขียนให้อีกทีหนึ่ง บางทุนไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์ อาจเป็นหัวหน้างานก็ได้ค่ะ

-Motivation Letter ส่วนมากขอทุกทุน บางทุนมีคำถามมาให้ตอบ มีฟอร์มมาให้กรอก บางทุนไม่มีอะไรเลย ต้องครีเอทขึ้นมาเอง เวลาเขียนก็เขียนให้ชัดเจน ตรงประเด็น ไม่ต้องเยิ่นเย้อ ยกย้อปอปั้นมหาลัยมาก คนสมัครเยอะเค้าไม่อยากมานั่งอ่านทุกคนหรอกค่ะ หน้าเดียวก็พอค่ะไม่ก็หน้าครึ่ง สองหน้าอาจจะเยอะไป
เขียนให้ชัดเจนค่ะว่าอะไร ทำไม จบไปจะทำอะไร สำคัญ คือ ต้องมี "แรงบันดาลใจ" การเขียนก็ลำดับความให้ดี ให้มีสตอรี่จากหนึ่งเป็นสอง
จากสองเป็นสาม (งานขายที่ดี ต้องมีสตอรี่ค่ะ) ที่สำคัญใช้ศัพท์ที่เป็นทางการ เป็น academic

-เอกสารทางภาษา อันนี้สำคัญมากค่ะ ไปสอบ ไอเอล โทเฟิล เก็บไว้เลย IELTS ก็แพงกว่าหน่อย แต่ง่ายกว่าหน่อย ความเห็นส่วนตัวนะคะ ฮ่าๆ

- CV หน้าเดียวพอค่ะ ไม่ต้องเขียนเยอะ สั้นๆง่ายๆ ตัวอย่างในอินเตอร์เน็ตมีเยอะค่ะ สิ่งที่เขียนใน CV ไปแล้ว ก็ไม่ต้องไป repeat ใน Motivation Letter มากนะคะ มันซ้ำซ้อน
- ใบสมัครทุน บางทุนก็มีบางทุนก็ไม่มีค่ะ ต้องดูรายละเอียดดีๆ

3.ตรวจทานเอกสาร
ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ แนะนำว่าให้ขออาจารย์ที่เรารู้จัก หรือหาเพื่อนที่เก่งๆ ช่วยรีวิวคำศัพท์ ประโยค แกรมม่าให้นิดหนึ่งจะดีกว่าไม่มีการรีวิวจากคนอื่นเลยค่ะ โดยเฉพาะอาจารย์ท่านจะแนะนำทริคในการเขียนบางอย่างให้เราได้ค่ะ

4.ส่งก่อนกำหนด
อันนี้สำคัญมากค่ะ เผื่อผิดพลาด ขาดเหลือจะได้มีเวลาแก้ปัญหาทัน

แนะนำว่า
บางทุน process นานมาก บางทุนอย่าง DAAD program PPGG ที่เราใช้ทุนอยู่นี้ นี้ ยื่นไปครึ่งปีค่ะ ถึงประกาศผล สำหรับน้องๆจบใหม่ ก็ไม่แนะนำให้รอทุนอย่างเดียวนะ อาจจะไปสมัครงาน ใช้ชีวิตปกติ บางทีถ้าเราพลาดทุนมาอย่างน้อยก็ยังมีหน้าที่การงานรองรับอยู่ เพราะ จขกท.เองก็เคยพลาดมาแล้วรอบหนึงค่ะ
และบางทีเราอาจจะเจอสิ่งที่ชอบมากกว่าระหว่างที่ทำงานก็เป็นได้ค่ะ หรืออาจจะเปลี่ยนใจอยากเรียนต่อในสายอื่นที่ไม่เคยคิดมาก่อน
ถ้ามีใครมาปรึกษาเราว่าเรียนต่อหรือทำงานก่อน ถ้าไม่รีบอะไร เราจะแนะนำให้ทำงานไปก่อนค่ะ อย่างที่บอก เราอาจจะเจอสิ่งที่ชอบมากกว่าก็ได้
ที่สำคัญเราจะได้ทักษะจากชีวิตวัยทำงานมากมาย ได้เรียนรู้ระบบการทำงาน การเข้าสังคม ได้พบเจอคนหลายประเภท เราจะรู้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร เราจะมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น แล้วทักษะเหล่านี้จะติดตัวเราไปตลอด เรียนจบมาแล้ว ก็อาจกลับไปทำงานในสายงานเดิมก็ได้ หรือเปลี่ยนสายงานใหม่ก็ได้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร เผลอๆใครได้ทำงานราชการ แล้ววันนึงเกิดได้ทุนมา ก็ลาไปเรียนต่อได้ เงินเดือนก็ได้อีกระหว่างเรียนอีกด้วยนะคะ

ก็ขอให้ทุกท่านโชคดีสำหรับการสมัครทุนต่างๆค่ะ
ชื่อสินค้า:   การเตรียมเอกสาร
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่