สารคดีพิเศษของสถานีโทรทัศน์ CCTV สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ออกอากาศในวันที่ ๒๘ กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รายงานการพัฒนารถถังหลักยุคใหม่ของจีนในโอกาสครบรอบวันกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน(People's Liberation Army Day)ที่จะถึงในวันที่ ๑ สิงหาคมนี้
รายงานพิเศษของ CCTV ได้แถลงถึงสายการผลิต การทดสอบการขับเคลื่อนในถนนและภูมิประเทศ รวมถึงการทดสอบยิงปืนใหญ่รถถังของรถถังหลัก VT4(MBT-3000) ที่ผลิตโดยโรงงาน Norinco ในจีน
ซึ่งก็ตามที่ทราบว่ารถถังหลัก VT4 จีนนั้นมีประเทศลูกค้าส่งออกปัจจุบันคือกองทัพบกไทยที่สั่งจัดหาชุดแรกจำนวน ๒๘คันในวงเงิน วงเงิน ๔,๙๘๔ล้านบาท ที่ลงนามสัญญาในปี พ.ศ.๒๕๕๙(2016) และชุดที่สอง ๑๑คัน วงเงินประมาณ ๒พันล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐(2017) นี้
จากที่เห็นได้ในชุดภาพของสารคดีจะเห็นว่ามีรถถังหลัก VT4 ในสีรองพื้นสีเขียวเข้มประกอบเสร็จทำการทดสอบในภูมิประเทศและทดสอบยิงปืนใหญ่รถถังไปแล้วถึงรถที่ทำสีเครื่องหมายเลขที่ 16 โดยติดตั้งระบบต่างๆตามรถต้นแบบล่าสุด เช่นป้อมปืนกลหนัก Remote Weapon Station
อีกทั้งมีรถถังที่ประกอบเสร็จอย่างน้อยหนึ่งคันที่ทำสีพรางสามสีคล้าย Woodland NATO ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ว่าทางหน่วยที่รับมอบรถต้องการให้ทำลายพรางสีนี้ ที่น่าจะคือ กองพันทหารม้าที่๖ กรมทหารม้าที่๖ กองพลทหารม้าที่๓
ระบบภายในรถถังหลัก VT4 ที่แสดงในภาพนับว่าดูทันสมัยมาก โดยสถานีผู้บังคับการรถและสถานีพลยิงมีจอแสดงผลสี พร้อมแผนที่ระบบอำนวยการสนามรบ(Battlefield Management System) ระดับเดียวกับรถถังหลักยุคใหม่ ทั้ง M1A2, Leopard 2A7, Leclerc และ T-90MS เป็นต้น(แต่จะมีประสิทธิภาพระดับเดียวกันหรือไม่ก็ไม่ทราบ)
ด้วยอัตราการผลิตเช่นที่ปรากฎในภาพของสารคดีเป็นไปได้มากว่าจีนจะสามารถส่งมอบรถถังหลัก VT4 ชุดแรกให้กองทัพบกไทยได้ในปีนี้พร้อมทั้งการถ่ายทอด Technology ซึ่งดูแล้วมีความรวดเร็วและดูทันสมัยกว่ารถถังหลัก Oplot จากยูเครนที่จัดหามาก่อนพอสมควร
โดยนับตั้งแต่ได้รับมอบรถชุดแรกในปี พ.ศ.๒๕๕๗(2014) ขณะนี้ กองพันทหารม้าที่๒ กองพลทหารราบที่๒ รักษาพระองค์ มีรถถังหลัก Oplot ประจำการอยู่ ๒๕คัน ซึ่งยังทดแทนรถถังหลัก M48A5 ได้ไม่ครบทั้งกองพัน
ยังรวมถึงการปรับปรุงรถถังหลัก M60A3 โดยบริษัท Elbit Systems อิสราเอล ของกองพันทหารม้าที่๕ รักษาพระองค์ กองพลทหารม้าที่๒ รักษาพระองค์ ซึ่งมีการติดตั้งจอแสดงผลสีสำหรับการเล็งยิงภายในรถ ที่จะมีการทยอบปรับปรุงตามที่งบประมาณเอื้ออำนวยด้วยครับ
คุณลักษณะเฉพาะที่เปิดเภยจากบริษัตNorinco
น้ำหนักพร้อมรบ: 52tons
พลประจำรถ: 3(ผู้บังคับการรถ, พลขับ, พลยิง)
อุณหภูมิใช้งาน: -25degree Celsius ถึง +55degree Celsius
อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก: น้อยกว่าหรือเท่ากับ 23HP/ton
ความยาว(เมื่อปืนชี้ไปด้านหน้า): 10.1m
ความกว้าง(พร้อมแผ่นปิดสายพาน): 3.5m
ความสูง(ถึงด้านบนป้อมปืน): 2.4m
ความเร็วสูงสุดบนถนน: 70km/h
ความเร็วเฉลี่ยในภูมิประเทศ: 35-40km/h
อัตราเร่งจาก 0-32km/h: ๑๐-๑๒วินาที
ระยะปฏิบัติการ: 500km
ปีนที่ลาดชันได้สูงสุด: 60%
ปีนที่ลาดเอียงได้สูงสุด: 40%
ข้ามคูได้กว้าง: 2.7m
ข้ามเครื่องกีดขวางได้สูงสุด: 0.85m
ลุยน้ำลึก(มีการเตรียมการก่อน): 4-5m x 600mm
เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลแบบ FW150 สี่จังหวะ ๑๒สูบ พร้อมเครื่องเพิ่มไอดี ระบายความร้อนด้วยน้ำ การควบคุมไฟฟ้า กำลัง 1,200HP ความเร็วรอบเครื่อง 2,200rpm
เครื่องเปลี่ยนความเร็ว: รุ่น Ch1000B Intergrated Transmission System
อาวุธ: ปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบ 125mm พร้อมระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ, ปืนกลร่วมแกน Type 86 ขนาด 7.62mm ๒,๕๐๐นัด, ปืนกลหนักต่อสู้อากาศยาน 12.7mm Remote Weapon Station
ระบบควบคุมการยิง: แบบ Hunter-Killer พร้อมระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติเเบบเดียวกับT14 armataของรัเชีย, กล้องสร้างภาพความร้อน Gen II สำหรับ ผบ.รถ, พลขับ และพลยิง และระบบควบคุมอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง
ระบบรักษาการทรงตัวปืนใหญ่รถถัง: Stabilizer ควบคุมด้วยไฟฟ้าสองทิศทาง
การผลิตและทดสอบรถถังหลัก VT4 กองทัพบกไทยที่โรงงาน Norinco จีน
รายงานพิเศษของ CCTV ได้แถลงถึงสายการผลิต การทดสอบการขับเคลื่อนในถนนและภูมิประเทศ รวมถึงการทดสอบยิงปืนใหญ่รถถังของรถถังหลัก VT4(MBT-3000) ที่ผลิตโดยโรงงาน Norinco ในจีน
ซึ่งก็ตามที่ทราบว่ารถถังหลัก VT4 จีนนั้นมีประเทศลูกค้าส่งออกปัจจุบันคือกองทัพบกไทยที่สั่งจัดหาชุดแรกจำนวน ๒๘คันในวงเงิน วงเงิน ๔,๙๘๔ล้านบาท ที่ลงนามสัญญาในปี พ.ศ.๒๕๕๙(2016) และชุดที่สอง ๑๑คัน วงเงินประมาณ ๒พันล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐(2017) นี้
จากที่เห็นได้ในชุดภาพของสารคดีจะเห็นว่ามีรถถังหลัก VT4 ในสีรองพื้นสีเขียวเข้มประกอบเสร็จทำการทดสอบในภูมิประเทศและทดสอบยิงปืนใหญ่รถถังไปแล้วถึงรถที่ทำสีเครื่องหมายเลขที่ 16 โดยติดตั้งระบบต่างๆตามรถต้นแบบล่าสุด เช่นป้อมปืนกลหนัก Remote Weapon Station
อีกทั้งมีรถถังที่ประกอบเสร็จอย่างน้อยหนึ่งคันที่ทำสีพรางสามสีคล้าย Woodland NATO ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ว่าทางหน่วยที่รับมอบรถต้องการให้ทำลายพรางสีนี้ ที่น่าจะคือ กองพันทหารม้าที่๖ กรมทหารม้าที่๖ กองพลทหารม้าที่๓
ระบบภายในรถถังหลัก VT4 ที่แสดงในภาพนับว่าดูทันสมัยมาก โดยสถานีผู้บังคับการรถและสถานีพลยิงมีจอแสดงผลสี พร้อมแผนที่ระบบอำนวยการสนามรบ(Battlefield Management System) ระดับเดียวกับรถถังหลักยุคใหม่ ทั้ง M1A2, Leopard 2A7, Leclerc และ T-90MS เป็นต้น(แต่จะมีประสิทธิภาพระดับเดียวกันหรือไม่ก็ไม่ทราบ)
ด้วยอัตราการผลิตเช่นที่ปรากฎในภาพของสารคดีเป็นไปได้มากว่าจีนจะสามารถส่งมอบรถถังหลัก VT4 ชุดแรกให้กองทัพบกไทยได้ในปีนี้พร้อมทั้งการถ่ายทอด Technology ซึ่งดูแล้วมีความรวดเร็วและดูทันสมัยกว่ารถถังหลัก Oplot จากยูเครนที่จัดหามาก่อนพอสมควร
โดยนับตั้งแต่ได้รับมอบรถชุดแรกในปี พ.ศ.๒๕๕๗(2014) ขณะนี้ กองพันทหารม้าที่๒ กองพลทหารราบที่๒ รักษาพระองค์ มีรถถังหลัก Oplot ประจำการอยู่ ๒๕คัน ซึ่งยังทดแทนรถถังหลัก M48A5 ได้ไม่ครบทั้งกองพัน
ยังรวมถึงการปรับปรุงรถถังหลัก M60A3 โดยบริษัท Elbit Systems อิสราเอล ของกองพันทหารม้าที่๕ รักษาพระองค์ กองพลทหารม้าที่๒ รักษาพระองค์ ซึ่งมีการติดตั้งจอแสดงผลสีสำหรับการเล็งยิงภายในรถ ที่จะมีการทยอบปรับปรุงตามที่งบประมาณเอื้ออำนวยด้วยครับ
คุณลักษณะเฉพาะที่เปิดเภยจากบริษัตNorinco
น้ำหนักพร้อมรบ: 52tons
พลประจำรถ: 3(ผู้บังคับการรถ, พลขับ, พลยิง)
อุณหภูมิใช้งาน: -25degree Celsius ถึง +55degree Celsius
อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก: น้อยกว่าหรือเท่ากับ 23HP/ton
ความยาว(เมื่อปืนชี้ไปด้านหน้า): 10.1m
ความกว้าง(พร้อมแผ่นปิดสายพาน): 3.5m
ความสูง(ถึงด้านบนป้อมปืน): 2.4m
ความเร็วสูงสุดบนถนน: 70km/h
ความเร็วเฉลี่ยในภูมิประเทศ: 35-40km/h
อัตราเร่งจาก 0-32km/h: ๑๐-๑๒วินาที
ระยะปฏิบัติการ: 500km
ปีนที่ลาดชันได้สูงสุด: 60%
ปีนที่ลาดเอียงได้สูงสุด: 40%
ข้ามคูได้กว้าง: 2.7m
ข้ามเครื่องกีดขวางได้สูงสุด: 0.85m
ลุยน้ำลึก(มีการเตรียมการก่อน): 4-5m x 600mm
เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลแบบ FW150 สี่จังหวะ ๑๒สูบ พร้อมเครื่องเพิ่มไอดี ระบายความร้อนด้วยน้ำ การควบคุมไฟฟ้า กำลัง 1,200HP ความเร็วรอบเครื่อง 2,200rpm
เครื่องเปลี่ยนความเร็ว: รุ่น Ch1000B Intergrated Transmission System
อาวุธ: ปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบ 125mm พร้อมระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ, ปืนกลร่วมแกน Type 86 ขนาด 7.62mm ๒,๕๐๐นัด, ปืนกลหนักต่อสู้อากาศยาน 12.7mm Remote Weapon Station
ระบบควบคุมการยิง: แบบ Hunter-Killer พร้อมระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติเเบบเดียวกับT14 armataของรัเชีย, กล้องสร้างภาพความร้อน Gen II สำหรับ ผบ.รถ, พลขับ และพลยิง และระบบควบคุมอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง
ระบบรักษาการทรงตัวปืนใหญ่รถถัง: Stabilizer ควบคุมด้วยไฟฟ้าสองทิศทาง