เรื่องมีอยู่ว่า เราสะเพร่าเอง
เรามีบัตรเครดิตใบหนึ่งที่เราไม่ได้ใช้มาหลายปีมาก คาดว่าประมาณ 5 ปี ที่ไม่ได้ใช้ เพราะมันหายไป
บอกก่อน ส่วนตัวเราเอง ค่อนข้างมีวินัยการใช้เงิน
เรามีบัตรเครดิตใช้ เกือบ 10 ใบ เอาไว้เลือกใช้ตามโปรที่ดีสุด (เพราะงก อยากได้ของแถม ส่วนลดมัง เก็บแต้มมัง )
แต่ทุกใบเราจ่ายเต็มจำนวน ต่อให้บางครั้งจำเป็นต้องใช้รูดเรื่องจำเป็น อย่างเช่นค่าโรงพยาบาลหนักๆ จนเต็มวงเงิน เราก็เลือกที่จะจ่ายเต็มหมด ไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ เพราะงก เสียดายดอกเบี้ย
เราใช้บัตรตามความจำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือยมาก ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น
บัตรปัญหาอันนี้ เราก็ได้มาเพราะของแถม ธนาคารเจ้าของบัตร เราก็ไม่มีบัญชี เพราะไม่อยากเปิดมีบัญชีอื่น หลายอันแล้ว
ตอนที่ใช้บัตรเราก็มักจะฝากคนอื่นไปจ่ายเงินค่าบัตรให้ เพราะว่ายอดเงินไม่ได้เยอะมาก
เราไม่รู้ว่า ยอด 3.25 บาท มาจากการฝากคนอื่นจ่ายขาดหรือจากอะไรก็ตาม เราจำไม่ได้แล้ว
เรารู้ว่ามียอดค้าง ไม่ใช่เราไม่จ่าย ตอนบัตรหาย เราก็ตั้งใจว่าจะปิดบัญชียกเลิกไปแล้ว
ปัญหาคือ เราโทรเข้า call center แต่ไม่ได้คุยกะเจ้าหน้าที่ แต่รอสาย ก็ยาวนานเกินกว่าจะเสียเวลารอ แต่ค่าโทรศัพท์ระหว่างรอสาย ก็เกินเงิน 3.25 แล้ว เราเลยขี้เกียจรอ
พอจะไปจ่ายที่เค้าเตอร์ ก็ต้องมีเลขที่บัตร ซึ่งเราก็ไม่มี เพราะมันหายไปแล้ว
สรุปว่าเราทำเท่าที่ทำแล้วคือ จ่ายหนี้ แต่ยอดเงินแค่นี้ เราละเลย ครั้ง 2 ครั้ง จ่ายไม่ได้ เลยไม่สนใจ บอกตัวเอง ช่างหัวมันยอดแค่นี้เอง ขี้เกียจเสียเวลาแล้ว แล้วเราก็ลืมมันไป
เท่าที่ผ่านมา ปี 2 ปีที่ผ่านมา เราก็ยังลัลลา ได้อนุมัติ บัตรมาอีก 2-3 ใบ ที่ทำ เพราะได้ของแถม กะโปรดีๆเท่านั้นเอง เพราะครบกำหนดส่วนใหญ่ใบไหนไม่ได้ใช้ เราก็ยกเลิกไป
เพราะขี้เกียจเก็บให้กระเป๋าพอง
แล้วใครจะรู้ว่าตัวเองติดเครดิตบูโร
จนกระทั้ง นิสัยงก ตัวเอง ก็ทำงาน เพราะหลังจากไปดูว่า ตัวเองสมควร รีไฟแนนซ์บ้านแล้ว เพราะดอกเบี้ย ของแบงค์ปัจจุบันเรา โดนปรับใหม่หลังจากอยู่กะ แบงค์นี้ มาเกือบ 10 ปี
เราเลยไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์ กะแบ็งค์ใหม่ มารู้ตัวตอนเจ้าหน้าทีบอกเราติดเครดิตบูโร หาาาาาาาาาาาาาาาาาาา สตันท์???????????? คืออะไร เราติดหนี้อะไร
เค้าแนะนำให้เราไปเช็คเครดิตตัวเอง เพราะเค้าก็ไม่เห็นรายละเอียดว่าเราติดอะไร เพราะเครดิตบูโรบอกว่า เราติดเครดิตบูโรเท่านั้นเอง
ให้เราไปทำเรื่องปิดบัญชีก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยทำเรื่องกันต่อ
สตันท์ บวก เซ็งงงงงงงงงงงงงง เรื่องยิ่งช้า แปลว่าเราต้องจ่ายดอกเบี้ย เพิ่ม อีกหลายพัน เชื่อเลยยยยยย
แต่ทำไงได้ ก็ต้องไปทำตามขั้นตอนเค้า ติดต่อเจ้าของบัตร ยอมเสียเวลา รอสาย เพื่อจะได้ติดต่อคนเป็นๆๆ ที่เจ้าหน้าที่เพื่อถามว่าจะทำยังไง
แล้วก็ไปแบ็งค์ เข้าคิว จ่ายเงิน 3.25 บาท (ค่าน้ำมันช๊านก็เกินแล้ว )
หลังจากนั้น ก็รอระบบว่า ปิดบัญชี แล้วติดต่อเจ้าของบัตร เสียเวลารอสาย เพื่อขอให้ออกเอกสารรับรองการปิดบัญชี ถึงจะเอาไปยื่นเพื่อทำการรีไฟแนนซ์ได้
3.25 บาท แค่นี้ ทำเอามีขีวิตวุ่นวายเยอะมากเลย
ประเด็นเราคือ เราโทษตัวเอง ที่สะเพร่า เพราะดันคิดเองว่า ยอดมันนิดเดียว ใครจะคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
เราคิดคือไม่ได้หนีหนี้ เราพยายามจ่ายแล้ว เพราะเราคิด เป็นหนี้ก็ต้องจ่ายเท่านั้นเอง
แต่คำถามคือ การจัดระดับการติดเครดิตบูโร ไม่มีข้อกำหนดยอดเงินเหรอ ติดเงินหลักหน่วย หลักสิบ ติดก็คือติดเท่านั้น
แบบนี้ ก็เท่ากับการตัดโอกาส หลายๆคนไปเลยนะ
ส่วนตัว สำหรับเรา ถ้า รีไฟแนนซ์ไม่ได้ เราก็ไม่เดือดร้อนมาก เพราะ แบ้งค์ ปจบ เราก็ไม่เคยปัญหาเรื่องการชำระหนี้ เราก็จ่ายแบังค์นี้ต่อไปได้ แต่เสียดายดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่ม อย่างมากถ้าจะให้หมดเร็ว เราก็ต้องเพิ่มอัตราการผ่อนอีก แต่ทำใจไม่ได้กะ ดอกเบี้ยที่เพิ่ม เพราะงก อย่างมาก เราก็ต้องรอ อีก 6 เดือน เพื่อรอเคลียร์ประวัติตัวเอง (น้ำตาไหลพราก ) แล้วเริ่มหาทางรีไฟแนนซ์ใหม่
เรื่องเหมือนขำแต่ขำไม่ออก เพราะความสะเพร่า ติดเครดิตบูโรด้วยยอดเงิน 3.25 บาท
เรามีบัตรเครดิตใบหนึ่งที่เราไม่ได้ใช้มาหลายปีมาก คาดว่าประมาณ 5 ปี ที่ไม่ได้ใช้ เพราะมันหายไป
บอกก่อน ส่วนตัวเราเอง ค่อนข้างมีวินัยการใช้เงิน
เรามีบัตรเครดิตใช้ เกือบ 10 ใบ เอาไว้เลือกใช้ตามโปรที่ดีสุด (เพราะงก อยากได้ของแถม ส่วนลดมัง เก็บแต้มมัง )
แต่ทุกใบเราจ่ายเต็มจำนวน ต่อให้บางครั้งจำเป็นต้องใช้รูดเรื่องจำเป็น อย่างเช่นค่าโรงพยาบาลหนักๆ จนเต็มวงเงิน เราก็เลือกที่จะจ่ายเต็มหมด ไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ เพราะงก เสียดายดอกเบี้ย
เราใช้บัตรตามความจำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือยมาก ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น
บัตรปัญหาอันนี้ เราก็ได้มาเพราะของแถม ธนาคารเจ้าของบัตร เราก็ไม่มีบัญชี เพราะไม่อยากเปิดมีบัญชีอื่น หลายอันแล้ว
ตอนที่ใช้บัตรเราก็มักจะฝากคนอื่นไปจ่ายเงินค่าบัตรให้ เพราะว่ายอดเงินไม่ได้เยอะมาก
เราไม่รู้ว่า ยอด 3.25 บาท มาจากการฝากคนอื่นจ่ายขาดหรือจากอะไรก็ตาม เราจำไม่ได้แล้ว
เรารู้ว่ามียอดค้าง ไม่ใช่เราไม่จ่าย ตอนบัตรหาย เราก็ตั้งใจว่าจะปิดบัญชียกเลิกไปแล้ว
ปัญหาคือ เราโทรเข้า call center แต่ไม่ได้คุยกะเจ้าหน้าที่ แต่รอสาย ก็ยาวนานเกินกว่าจะเสียเวลารอ แต่ค่าโทรศัพท์ระหว่างรอสาย ก็เกินเงิน 3.25 แล้ว เราเลยขี้เกียจรอ
พอจะไปจ่ายที่เค้าเตอร์ ก็ต้องมีเลขที่บัตร ซึ่งเราก็ไม่มี เพราะมันหายไปแล้ว
สรุปว่าเราทำเท่าที่ทำแล้วคือ จ่ายหนี้ แต่ยอดเงินแค่นี้ เราละเลย ครั้ง 2 ครั้ง จ่ายไม่ได้ เลยไม่สนใจ บอกตัวเอง ช่างหัวมันยอดแค่นี้เอง ขี้เกียจเสียเวลาแล้ว แล้วเราก็ลืมมันไป
เท่าที่ผ่านมา ปี 2 ปีที่ผ่านมา เราก็ยังลัลลา ได้อนุมัติ บัตรมาอีก 2-3 ใบ ที่ทำ เพราะได้ของแถม กะโปรดีๆเท่านั้นเอง เพราะครบกำหนดส่วนใหญ่ใบไหนไม่ได้ใช้ เราก็ยกเลิกไป
เพราะขี้เกียจเก็บให้กระเป๋าพอง
แล้วใครจะรู้ว่าตัวเองติดเครดิตบูโร
จนกระทั้ง นิสัยงก ตัวเอง ก็ทำงาน เพราะหลังจากไปดูว่า ตัวเองสมควร รีไฟแนนซ์บ้านแล้ว เพราะดอกเบี้ย ของแบงค์ปัจจุบันเรา โดนปรับใหม่หลังจากอยู่กะ แบงค์นี้ มาเกือบ 10 ปี
เราเลยไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์ กะแบ็งค์ใหม่ มารู้ตัวตอนเจ้าหน้าทีบอกเราติดเครดิตบูโร หาาาาาาาาาาาาาาาาาาา สตันท์???????????? คืออะไร เราติดหนี้อะไร
เค้าแนะนำให้เราไปเช็คเครดิตตัวเอง เพราะเค้าก็ไม่เห็นรายละเอียดว่าเราติดอะไร เพราะเครดิตบูโรบอกว่า เราติดเครดิตบูโรเท่านั้นเอง
ให้เราไปทำเรื่องปิดบัญชีก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยทำเรื่องกันต่อ
สตันท์ บวก เซ็งงงงงงงงงงงงงง เรื่องยิ่งช้า แปลว่าเราต้องจ่ายดอกเบี้ย เพิ่ม อีกหลายพัน เชื่อเลยยยยยย
แต่ทำไงได้ ก็ต้องไปทำตามขั้นตอนเค้า ติดต่อเจ้าของบัตร ยอมเสียเวลา รอสาย เพื่อจะได้ติดต่อคนเป็นๆๆ ที่เจ้าหน้าที่เพื่อถามว่าจะทำยังไง
แล้วก็ไปแบ็งค์ เข้าคิว จ่ายเงิน 3.25 บาท (ค่าน้ำมันช๊านก็เกินแล้ว )
หลังจากนั้น ก็รอระบบว่า ปิดบัญชี แล้วติดต่อเจ้าของบัตร เสียเวลารอสาย เพื่อขอให้ออกเอกสารรับรองการปิดบัญชี ถึงจะเอาไปยื่นเพื่อทำการรีไฟแนนซ์ได้
3.25 บาท แค่นี้ ทำเอามีขีวิตวุ่นวายเยอะมากเลย
ประเด็นเราคือ เราโทษตัวเอง ที่สะเพร่า เพราะดันคิดเองว่า ยอดมันนิดเดียว ใครจะคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
เราคิดคือไม่ได้หนีหนี้ เราพยายามจ่ายแล้ว เพราะเราคิด เป็นหนี้ก็ต้องจ่ายเท่านั้นเอง
แต่คำถามคือ การจัดระดับการติดเครดิตบูโร ไม่มีข้อกำหนดยอดเงินเหรอ ติดเงินหลักหน่วย หลักสิบ ติดก็คือติดเท่านั้น
แบบนี้ ก็เท่ากับการตัดโอกาส หลายๆคนไปเลยนะ
ส่วนตัว สำหรับเรา ถ้า รีไฟแนนซ์ไม่ได้ เราก็ไม่เดือดร้อนมาก เพราะ แบ้งค์ ปจบ เราก็ไม่เคยปัญหาเรื่องการชำระหนี้ เราก็จ่ายแบังค์นี้ต่อไปได้ แต่เสียดายดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่ม อย่างมากถ้าจะให้หมดเร็ว เราก็ต้องเพิ่มอัตราการผ่อนอีก แต่ทำใจไม่ได้กะ ดอกเบี้ยที่เพิ่ม เพราะงก อย่างมาก เราก็ต้องรอ อีก 6 เดือน เพื่อรอเคลียร์ประวัติตัวเอง (น้ำตาไหลพราก ) แล้วเริ่มหาทางรีไฟแนนซ์ใหม่