ผมนั่งสงสัยอยู่นาน เมื่อเห็นตัวเลขบางอย่างของฤดูกาลก่อนที่น่าสนใจ(อยู่ในเนื้อหากะทู้) และชวนให้สงสัยกับเรื่องงบประมาณการซื้อผู้เล่นใหม่เข้าร่วมทีมของลิเวอร์พูล ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าเตรียมไว้ให้เจอร์เก้น คล้อปใช้ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังใกล้มาถึง ประมาณ 100 ล้านปอนด์
ถ้าหากพักเรื่องเงินไว้ก่อน มาย้อนดูแค่ผลงานก็จะพบว่า ฤดูกาลที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล้อป สามารถชักนำให้ลิเวอร์พูลกลับมาสู่เส้นทางที่ทีมใหญ่สมควรเป็นได้ แต่หากไม่คิดแบบเข้าข้างตัวเองเกินไป
ก็จะเห็นได้ชัดว่ากว่าจะเข้าเส้นชัยตามเป้าหมายติด 1 ใน 4 นั้นก็ “เลือดตาแทบกระเด็น” ถึงจะมีเหตุผลปลอบใจกันเองได้ว่า ที่ลำบากขนาดต้องลุ้นถึงนัดสุดท้ายนั้น เป็นเพราะผู้เล่นชุดหลักไม่สามารถยืนระยะได้จนจบฤดูกาลเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ
กะทู้เมื่อวานของผมบอกไปแล้วว่า ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูลมีผู้เล่น 12 คน ที่จัดเป็นแกนหลักของทีม เพราะมีโอกาสลงเล่นได้เกินครึ่งหนึ่งของโปรแกรมการแข่งขัน ซึ่งแฟนบอลของลิเวอร์พูลต่างก็รู้กันดีว่าขนาดของทีม “
เล็กเกินไป” ไม่สามารถตอบสนองให้แผนการเล่นที่ผู้จัดการทีมวางไว้ อย่างระบบ Gegenpressing ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ตลอดทั้งฤดูกาล เพราะปัญหา”
ความฟิต” และนั้นเป็นที่มาของงานที่ยากลำบากขึ้นกว่าที่ทีมจะทำได้ตามเป้าหมาย
ว่ากันตรงๆมีสาเหตุหลักๆอยู่แค่อย่างเดียว คือ การเตรียมทีมไม่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดนั้น ไม่ใช่ผู้เล่นสำรองจากชุดสองหรือชุดเยาวชนซึ่งเห็นๆกันว่า คุณภาพไม่ดีพอสำหรับการแข่งขัน
แต่ตัวการสำคัญที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ คือ ตัวผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เก้น คล้อป ที่ดูเด่นและเหมือนลอยอยู่เหนือเส้นของความรับผิดชอบก็เพราะว่า คว้าที่ 4 มาได้ตามเป้าหมาย ความซวยเลยเหมือจะตกไปอยู่ที่ผู้เล่นชุดสอง ที่ทำผลงานไม่เข้าตาเวลาได้โอกาสลงสนาม
ซึ่งอาจพูดได้ว่าเป็นโชคดีเล็กๆของคล้อป ที่ลอยตัวเหนือความรับผิดชอบจากการเตรียมทีมที่ไม่ดีพอของตัวเองไป ที่หากไล่เรียงกันถึงการเตรียมผู้เล่นเพื่อทำทีมแบบเต็มฤดูกาลของคล้อป ที่ซื้อขายผู้เล่นเพื่อปรับปรุงทัพทีมในยุคของเขาก็จะมีรายละเอียดดังนี้
[ ซื้อ ]
มาร์โก กรูยิช – เร้ดสตาร์ (ราคา 5.12 ล้านปอนด์)
โจเอล มาติป – ชาลเก้ (ฟรี)
โยริส คาริอุส – ไมนซ์ (ราคา 4.7 ล้านปอนด์)
ซาดิโอ มาเน่ – เซาแธมป์ตัน (ราคา 30 ล้านปอนด์)
รักนาร์ คลาวาน – เอาก์สบวร์ก (ราคา 4.1 ล้านปอนด์)
อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ – (ฟรี)
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม – นิวคาสเซิล (ราคา 23 ล้านปอนด์)
ค่าใช้จ่ายรวม = 67.92 ล้านปอนด์
[ ขาย ]
จอร์แดน รอสซิเตอร์ – เรนเจอร์ส (ราคา 250,000 ปอนด์)
เจอโรม ซินแคลร์ – วัตฟอร์ด (ราคา 4 ล้านปอนด์)
เจา คอลอส เตเซร่า – ปอร์โต้ (ราคา 250,000 ปอนด์)
ลอว์เรนซ์ วิโกโรซ์ – สวินดอน ทาวน์ (ไม่เปิดเผยค่าตัว)
เซร์กี้ คาร์นอส – นอริช (ราคา 2.5 ล้านปอนด์)
จอร์ดอน ไอบ์ – บอร์นมัธ (ราคา 15 ล้านปอนด์)
มาร์ติน สเคอร์เทล – เฟเนร์บาห์เช่ (ราคา 5.5 ล้านปอนด์)
โจ อัลเลน – สโต๊ค ซิตี้ (ราคา 13 ล้านปอนด์)
แบรด สมิธ – บอร์นมัธ (ราคา 6 ล้านปอนด์)
คริสติย็อง เบนเตเก้ – คริวตัล พาเลซ (ราคา 27+5 ล้านปอนด์)
หลุยส์ อัลแบร์โต้ – ลาซิโอ้ (ราคา 4.3 ล้านปอนด์)
มาริโอ บาโลเตลลี่ – นีซ (ฟรีไม่คิดเงิน)
รายได้รวม : 73.02 ล้านปอนด์
เมื่อหักลบค่าใช้จ่าย ในการซื้อขายนักเตะรอบซัมเมอร์ 2016 เท่ากับ
กำไร 5.10 ล้านปอนด์ (ซื้อ 67.92 ลป., ขาย 73.02 ลป.) *ตัวเลขข้อมูลการซื้อขายนักเตะนำมาจากเว็บไซต์ Transfermarkt.uk
แน่นอน หากดูเฉพาะความสำเร็จที่ทำได้ตามเป้า การจัดการบริหารทรัพยากรผู้เล่นของคล้อปในปีก่อน ถือว่ายอดเยี่ยมแน่นอนในสายตาผู้บริหารหรือเจ้าของทีมอย่าง FSG แต่หากดูจากผลงานของทีมที่ต้องดิ้นรนจนนัดสุดท้ายเข้าป้ายคาบเส้นแบบเฉียดฉิว เพราะผู้เล่นระดับฝีเท้าดีไม่พอใช้ ก็ยากบอกได้ว่านี้คือผลงานอันยอดเยี่ยม เพราะหากคล้อปใช้เงินงบประมาณที่สมควรเป็นรายจ่ายมากกว่ารายได้
จะซื้อตัวผู้เล่นที่ดีมาเพิ่มมากกว่านี้ หรือยังรั้งตัวผู้เล่นที่ยังใช้ได้ในเรื่องคุณภาพไว้ช่วยเป็นกำลังหลักแบ่งเบาภาระให้กับทีมชุดใหญ่ การทำได้ตามเป้าหมายก็คงไม่ต้องลำบากอย่างที่เป็น
และปีที่แล้วหลายๆคนก็น่าจะจำกันได้ ว่ามีข่าวเรื่องงบประมาณการคว้าผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพเช่นเดียวกันกับปีนี้ แต่เผอิญที่ผมจำตัวเลขไม่ได้แน่นอนว่าเท่าไร ก็ขอข้ามมันไปก็แล้วกันนะครับ
เพราะที่สำคัญ คือ คำถามที่ว่า....แล้วปีนี้จะซ้ำรอยเดิมหรือไม่..?
ซึ่งถ้าให้ผมวิเคราะห์เองและมองจากสถานการณ์ในตลาดที่เกี่ยวกับลิเวอร์พูล ณ.ปัจจุบัน ก็บอกตรงๆว่า มีโอกาสเป็นไปได้ ที่สุดท้ายข่าวงบประมาณการซื้อผู้เล่น 100 ลป.ที่ออกมาก่อนหน้า จะเป็นแค่คำโกหก ที่พูดแบบนั้นก็เพราะว่า
ณ.ถึงตรงนี้สรุปรวบยอดแล้วลิเวอร์พูลเพิ่งใช้เงินไปแค่ 26.8 ล้านปอนด์เท่านั้น ในการซื้อตัวผู้เล่นมาร่วมทีม รายละเอียดอยู่ในสปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซื้อ
โดมินิก โซลันเก้ (เชลซี, ฟรีค่าตัว)
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (โรม่า, 34 ล้านปอนด์)
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ฮัลล์ ซิตี้, 7.65 ล้านปอนด์)
ขาย
อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ (รีไทร์)
อังเดร วิสดอม (ดาร์บี้, 2 ล้านปอนด์)
อดัม บ็อกดาน (ฟรีค่าตัว)
ลูคัส เลว่า (ลาซิโอ, 4.85 ล้านปอนด์)
เควิน สจ็วต (ฮัลล์ ซิตี้ 8 ล้านปอนด์)
เมื่อหักลบค่า ใช้จ่าย ในการซื้อขายนักเตะรอบ 2017 ในตอนนี้ เท่ากับ ใช้ไป = 26.8 ล้านปอนด์
และเมื่อมองจากสถานการณ์การซื้อขายในตลาดรอบใหม่โอกาสที่จะกลับมากำไรก็ยังมีอยู่ เพราะแค่มูลค่าของนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีม อย่าง ซาโก้ โมเรโน่ แค่สองคนก็เกินมูลค่าเงินที่ลิเวอร์พูลใช้ไปแล้วอยู่พอสมควร(คาดการณ์ว่าถ้าขายได้ทั้งคู่ ก็น่าจะประมาณ 30-35 ล้านปอนด์)
ถึงนักเตะที่อยู่ในรายชื่อที่เจอร์เก้น คล้อปต้องการตัวอย่าง เกอิต้า หรือ ฟานไดจ์ จะมีมูลค่ารวมกันแพงบรรลัยเกินกว่า 120 ล้านปอนด์แน่ๆ แต่จากข่าวการให้ความสนใจนักเตะชุดหลักที่ลิเวอร์พูลมีอยู่ตอนนนี้จากทีมยักษ์ใหญ่ อย่าง บาร์เซโลน่า ที่ตามตื้อขอซื้อ คูตินโญ่ กับ ยูเวนตุส ที่มนใจในตัว เอ็มเร่ ชาน 2 ผู้เล่นคนสำคัญของลิเวอร์พูล มูลค่ารวมของทั้งคู่ ก็ไม่น่าจะน้อยกว่า 120 ล้านปอนด์เช่นกัน
แม้ว่าท่าทีของคล้อปนั้นอยากจะเก็บผู้เล่นคนสำคัญเอาไว้ แต่ภายใต้เงินล่อใจจำนวนมาก ที่อาจทำให้เจ้าของทีมอย่าง FSG ไม่ต้องควักสตางค์ซักเพนนีเดียว เพื่อใช้ในการซื้อขายผู้เล่น เหมือนอย่างที่ทำมาตลอดนับตั้งแต่ปีที่ขายซัวเรส ก็อาจทำให้
งบประมาณการซื้อขายที่ออกข่าวมาว่าเตรียมไว้ให้ทีมตั้งแต่แรก กลายเป็นแค่คำโกหก ที่อาจทำให้ทีมลิเวอร์พูลนั้น ไม่อาจหลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการที่ฉุดรั้งทีมไม่ให้เอื้อมถึงความสำเร็จ
เหลือเวลาอีกไม่นาน คงได้รู้กัน
ป.ล. ยินดีต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมสนทนากันอย่างมีมารยาทสมกับเป็นปัญญาชนนะครับ แต่ไม่ต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้พื้นที่กะทู้นี้ เหยียบย่ำซ้ำเติม หรือหาประโยชน์จากข้อความคำใดคำหนึ่งในกะทู้ มาระบายความใคร่ แบบไร้วุฒิภาวะ ทำตัวเป็นขยะสังคมในการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ ชี้แจงให้ทราบตามนี้ครับ
Liverpool กับงบประมาณการซื้อขาย ที่สุดท้ายอาจเป็นแค่เรื่องโกหกเหมือนเคย
ผมนั่งสงสัยอยู่นาน เมื่อเห็นตัวเลขบางอย่างของฤดูกาลก่อนที่น่าสนใจ(อยู่ในเนื้อหากะทู้) และชวนให้สงสัยกับเรื่องงบประมาณการซื้อผู้เล่นใหม่เข้าร่วมทีมของลิเวอร์พูล ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าเตรียมไว้ให้เจอร์เก้น คล้อปใช้ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังใกล้มาถึง ประมาณ 100 ล้านปอนด์
ถ้าหากพักเรื่องเงินไว้ก่อน มาย้อนดูแค่ผลงานก็จะพบว่า ฤดูกาลที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล้อป สามารถชักนำให้ลิเวอร์พูลกลับมาสู่เส้นทางที่ทีมใหญ่สมควรเป็นได้ แต่หากไม่คิดแบบเข้าข้างตัวเองเกินไป ก็จะเห็นได้ชัดว่ากว่าจะเข้าเส้นชัยตามเป้าหมายติด 1 ใน 4 นั้นก็ “เลือดตาแทบกระเด็น” ถึงจะมีเหตุผลปลอบใจกันเองได้ว่า ที่ลำบากขนาดต้องลุ้นถึงนัดสุดท้ายนั้น เป็นเพราะผู้เล่นชุดหลักไม่สามารถยืนระยะได้จนจบฤดูกาลเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ
กะทู้เมื่อวานของผมบอกไปแล้วว่า ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูลมีผู้เล่น 12 คน ที่จัดเป็นแกนหลักของทีม เพราะมีโอกาสลงเล่นได้เกินครึ่งหนึ่งของโปรแกรมการแข่งขัน ซึ่งแฟนบอลของลิเวอร์พูลต่างก็รู้กันดีว่าขนาดของทีม “เล็กเกินไป” ไม่สามารถตอบสนองให้แผนการเล่นที่ผู้จัดการทีมวางไว้ อย่างระบบ Gegenpressing ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ตลอดทั้งฤดูกาล เพราะปัญหา”ความฟิต” และนั้นเป็นที่มาของงานที่ยากลำบากขึ้นกว่าที่ทีมจะทำได้ตามเป้าหมาย
ว่ากันตรงๆมีสาเหตุหลักๆอยู่แค่อย่างเดียว คือ การเตรียมทีมไม่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดนั้น ไม่ใช่ผู้เล่นสำรองจากชุดสองหรือชุดเยาวชนซึ่งเห็นๆกันว่า คุณภาพไม่ดีพอสำหรับการแข่งขัน แต่ตัวการสำคัญที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ คือ ตัวผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เก้น คล้อป ที่ดูเด่นและเหมือนลอยอยู่เหนือเส้นของความรับผิดชอบก็เพราะว่า คว้าที่ 4 มาได้ตามเป้าหมาย ความซวยเลยเหมือจะตกไปอยู่ที่ผู้เล่นชุดสอง ที่ทำผลงานไม่เข้าตาเวลาได้โอกาสลงสนาม
ซึ่งอาจพูดได้ว่าเป็นโชคดีเล็กๆของคล้อป ที่ลอยตัวเหนือความรับผิดชอบจากการเตรียมทีมที่ไม่ดีพอของตัวเองไป ที่หากไล่เรียงกันถึงการเตรียมผู้เล่นเพื่อทำทีมแบบเต็มฤดูกาลของคล้อป ที่ซื้อขายผู้เล่นเพื่อปรับปรุงทัพทีมในยุคของเขาก็จะมีรายละเอียดดังนี้
[ ซื้อ ]
มาร์โก กรูยิช – เร้ดสตาร์ (ราคา 5.12 ล้านปอนด์)
โจเอล มาติป – ชาลเก้ (ฟรี)
โยริส คาริอุส – ไมนซ์ (ราคา 4.7 ล้านปอนด์)
ซาดิโอ มาเน่ – เซาแธมป์ตัน (ราคา 30 ล้านปอนด์)
รักนาร์ คลาวาน – เอาก์สบวร์ก (ราคา 4.1 ล้านปอนด์)
อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ – (ฟรี)
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม – นิวคาสเซิล (ราคา 23 ล้านปอนด์)
ค่าใช้จ่ายรวม = 67.92 ล้านปอนด์
[ ขาย ]
จอร์แดน รอสซิเตอร์ – เรนเจอร์ส (ราคา 250,000 ปอนด์)
เจอโรม ซินแคลร์ – วัตฟอร์ด (ราคา 4 ล้านปอนด์)
เจา คอลอส เตเซร่า – ปอร์โต้ (ราคา 250,000 ปอนด์)
ลอว์เรนซ์ วิโกโรซ์ – สวินดอน ทาวน์ (ไม่เปิดเผยค่าตัว)
เซร์กี้ คาร์นอส – นอริช (ราคา 2.5 ล้านปอนด์)
จอร์ดอน ไอบ์ – บอร์นมัธ (ราคา 15 ล้านปอนด์)
มาร์ติน สเคอร์เทล – เฟเนร์บาห์เช่ (ราคา 5.5 ล้านปอนด์)
โจ อัลเลน – สโต๊ค ซิตี้ (ราคา 13 ล้านปอนด์)
แบรด สมิธ – บอร์นมัธ (ราคา 6 ล้านปอนด์)
คริสติย็อง เบนเตเก้ – คริวตัล พาเลซ (ราคา 27+5 ล้านปอนด์)
หลุยส์ อัลแบร์โต้ – ลาซิโอ้ (ราคา 4.3 ล้านปอนด์)
มาริโอ บาโลเตลลี่ – นีซ (ฟรีไม่คิดเงิน)
รายได้รวม : 73.02 ล้านปอนด์
เมื่อหักลบค่าใช้จ่าย ในการซื้อขายนักเตะรอบซัมเมอร์ 2016 เท่ากับ กำไร 5.10 ล้านปอนด์ (ซื้อ 67.92 ลป., ขาย 73.02 ลป.) *ตัวเลขข้อมูลการซื้อขายนักเตะนำมาจากเว็บไซต์ Transfermarkt.uk
แน่นอน หากดูเฉพาะความสำเร็จที่ทำได้ตามเป้า การจัดการบริหารทรัพยากรผู้เล่นของคล้อปในปีก่อน ถือว่ายอดเยี่ยมแน่นอนในสายตาผู้บริหารหรือเจ้าของทีมอย่าง FSG แต่หากดูจากผลงานของทีมที่ต้องดิ้นรนจนนัดสุดท้ายเข้าป้ายคาบเส้นแบบเฉียดฉิว เพราะผู้เล่นระดับฝีเท้าดีไม่พอใช้ ก็ยากบอกได้ว่านี้คือผลงานอันยอดเยี่ยม เพราะหากคล้อปใช้เงินงบประมาณที่สมควรเป็นรายจ่ายมากกว่ารายได้ จะซื้อตัวผู้เล่นที่ดีมาเพิ่มมากกว่านี้ หรือยังรั้งตัวผู้เล่นที่ยังใช้ได้ในเรื่องคุณภาพไว้ช่วยเป็นกำลังหลักแบ่งเบาภาระให้กับทีมชุดใหญ่ การทำได้ตามเป้าหมายก็คงไม่ต้องลำบากอย่างที่เป็น
และปีที่แล้วหลายๆคนก็น่าจะจำกันได้ ว่ามีข่าวเรื่องงบประมาณการคว้าผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพเช่นเดียวกันกับปีนี้ แต่เผอิญที่ผมจำตัวเลขไม่ได้แน่นอนว่าเท่าไร ก็ขอข้ามมันไปก็แล้วกันนะครับ
เพราะที่สำคัญ คือ คำถามที่ว่า....แล้วปีนี้จะซ้ำรอยเดิมหรือไม่..?
ซึ่งถ้าให้ผมวิเคราะห์เองและมองจากสถานการณ์ในตลาดที่เกี่ยวกับลิเวอร์พูล ณ.ปัจจุบัน ก็บอกตรงๆว่า มีโอกาสเป็นไปได้ ที่สุดท้ายข่าวงบประมาณการซื้อผู้เล่น 100 ลป.ที่ออกมาก่อนหน้า จะเป็นแค่คำโกหก ที่พูดแบบนั้นก็เพราะว่า ณ.ถึงตรงนี้สรุปรวบยอดแล้วลิเวอร์พูลเพิ่งใช้เงินไปแค่ 26.8 ล้านปอนด์เท่านั้น ในการซื้อตัวผู้เล่นมาร่วมทีม รายละเอียดอยู่ในสปอย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมื่อมองจากสถานการณ์การซื้อขายในตลาดรอบใหม่โอกาสที่จะกลับมากำไรก็ยังมีอยู่ เพราะแค่มูลค่าของนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีม อย่าง ซาโก้ โมเรโน่ แค่สองคนก็เกินมูลค่าเงินที่ลิเวอร์พูลใช้ไปแล้วอยู่พอสมควร(คาดการณ์ว่าถ้าขายได้ทั้งคู่ ก็น่าจะประมาณ 30-35 ล้านปอนด์)
ถึงนักเตะที่อยู่ในรายชื่อที่เจอร์เก้น คล้อปต้องการตัวอย่าง เกอิต้า หรือ ฟานไดจ์ จะมีมูลค่ารวมกันแพงบรรลัยเกินกว่า 120 ล้านปอนด์แน่ๆ แต่จากข่าวการให้ความสนใจนักเตะชุดหลักที่ลิเวอร์พูลมีอยู่ตอนนนี้จากทีมยักษ์ใหญ่ อย่าง บาร์เซโลน่า ที่ตามตื้อขอซื้อ คูตินโญ่ กับ ยูเวนตุส ที่มนใจในตัว เอ็มเร่ ชาน 2 ผู้เล่นคนสำคัญของลิเวอร์พูล มูลค่ารวมของทั้งคู่ ก็ไม่น่าจะน้อยกว่า 120 ล้านปอนด์เช่นกัน
แม้ว่าท่าทีของคล้อปนั้นอยากจะเก็บผู้เล่นคนสำคัญเอาไว้ แต่ภายใต้เงินล่อใจจำนวนมาก ที่อาจทำให้เจ้าของทีมอย่าง FSG ไม่ต้องควักสตางค์ซักเพนนีเดียว เพื่อใช้ในการซื้อขายผู้เล่น เหมือนอย่างที่ทำมาตลอดนับตั้งแต่ปีที่ขายซัวเรส ก็อาจทำให้ งบประมาณการซื้อขายที่ออกข่าวมาว่าเตรียมไว้ให้ทีมตั้งแต่แรก กลายเป็นแค่คำโกหก ที่อาจทำให้ทีมลิเวอร์พูลนั้น ไม่อาจหลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการที่ฉุดรั้งทีมไม่ให้เอื้อมถึงความสำเร็จ
เหลือเวลาอีกไม่นาน คงได้รู้กัน
ป.ล. ยินดีต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมสนทนากันอย่างมีมารยาทสมกับเป็นปัญญาชนนะครับ แต่ไม่ต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้พื้นที่กะทู้นี้ เหยียบย่ำซ้ำเติม หรือหาประโยชน์จากข้อความคำใดคำหนึ่งในกะทู้ มาระบายความใคร่ แบบไร้วุฒิภาวะ ทำตัวเป็นขยะสังคมในการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ ชี้แจงให้ทราบตามนี้ครับ