สวัสดีค่ะ เผอิญว่าพักนี้ดิฉันได้อ่านบทความเกี่ยวกับหลายคนไม่พอใจระบบการรักษาในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีมานานมากแล้ว เนื่องจากว่าดิฉันมีคนใกล้ตัวทำงานเกี่ยวกับสาธารณสุข และเคยไปรักษาตัว หรือพาญาติไปรักษา ทำให้ต่อนข้างรู้ว่าปัญหามันคืออะไร และสาเหตุของปัญหามันคืออะไรค่ะ
ดิฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญค่ะ แต่แค่อยากแบ่งปันข้อมูล จึงขอพูดเท่าที่ตัวเองทราบและเข้าใจ ลึกตื้นยังไงรบกวนผู้เชี่ยวชาญมาตอบอีกทีค่ะ ผิดพลาดตรงไหนขอ อภัย ด้วยค่ะ
เริ่มเข้าเรื่องกันเลยนะคะ
๑. คนไทยโชคดีที่รัฐบาลให้ค่ารักษากับรพ.รัฐฟรีหรือถูกมาก ข้อดีคืออุ่นใจคนทุกคนค่ะ พึ่งพาหมอได้ตลอดเวลา แต่ข้อเสียใหญ่ก็คือ คนไทยเป็นอะไรนิดหน่อยก็พึ่งหมอค่ะ แม้จะแค่ไอ เป็นหวัด ปวดหัว หกล้ม ท้องเสีย เหงา ก็มาหมอ มาใช้ประกันให้คุ้ม คนไข้เลยล้นโรงพยาบาล บุคลากรรพ.จึงไม่เพียงพอ ทำให้ส่วนที่ควรจะเร็วกลับช้า ส่วนที่ควรจะใส่ใจกลับไม่ได้รับการใส่ใจอย่างทั่วถึง แทนที่คนไข้ที่อาการแย่จะได้ตรวจรักษาอย่างทันท่วงที กลับต้องมานั่งรอคิว
ส่วนที่ควรจะได้รับการพัฒนา เช่น ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพิ่มบุคลากร พื้นที่ ให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น กลับต้องมาเสียให้กับการให้ประกันราคาถูกหรือฟรีแก่ประชาชน
๒. คนไข้หลายคนไม่ให้ความร่วมมือกับหมอและพยาบาล เช่น โกหกประวัติ อาการตนเอง ไม่ดูแลรักษาตนเอง ไม่ทำตามที่หมอบอก ไปหายากินเอง ทึกทักโรคเอาเอง สุดท้ายอาการแย่ลงก็ต้องมาเหนื่อยหมอ
๓.จากข้อ ๑. และ ๒. อาจทำให้หมอ พยาบาล บุคลากรท่านอื่นๆทำงานหนักเพราะคนไม่เพียงพอ และยังต้องมาต่อสู้กับคนไข้หลายรายที่พูดไม่รู้เรื่อง ทำให้บุคลากรอาจเครียดได้ ทำให้อาจพูดจา แสดงพฤติกรรมไม่ดีใส่คนไข้ได้
๔. ญาติคนไข้ยกขโขยงมาเต็มโรงพยาบาล ไม่รู้อันไหนคนไข้ บรรยากาศเลยอุดอู้ มีแต่คนป่วย คนเฝ้าคนป่วยอัดกันอยู่ ขนาดไม่ป่วยเข้าไปแล้วอาจป่วยได้
ในทางกลับกัน ไปรพเอกชน มีพยาบาลสุภาพอ่อนหวานล้อมหน้าล้อมหลัง ยังไม่ทันตรวจก็อาการดีขึ้นแล้ว
๕.หมอไม่ใช่พระเจ้า หากเป็นโรคอะไรอาจจะไม่ได้รักษาหายได้เสียทุกโรค และแต่ละโรงพยาบาลอาจมีความพร้อมด้านเครื่องมือและบุคลากรไม่เท่าเทียมกัน
ในด้านรพเองก็มี
บุคลากรหลายคน ถึงจะเหนื่อยและเครียดเพียงไหน แต่ก็ควรใช้คำพูดและพฤติกรรมที่อ่อนโยนต่อคนไข้ เพราะคนไข้ 100% มาโรงพยาบาลด้วยความกลัวและหดหู่ กลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรร้ายแรง กลัวว่าจะรักษาอย่างไร พูดกับคนไข้ดีๆ อารมณ์คุณหมอคุณพยาบาลก็จะดีขึ้นด้วยค่ะ
ควรใส่ใจคนไข้ให้มากขึ้น ต่อให้เขาเป็นใครยากดีมีจน ควรรับฟังเขา แล้วรีบประมวลว่าควรจะได้รับการตรวจรักษาแบบไหน ทันท่วงที บางอย่างที่จำเป็นต้องทำก่อนก็ต้องทำ ไม่ใช่ทุกคนรอคิวคุณก็ควรรอคิว กฎแหกได้ถ้าจำเป็นค่ะ เพราะมันคือชีวิตของคนไข้
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไทยเป็นประเทศที่คนไข้ได้ประโยชน์และสะดวกกว่าประเทศไหนๆ เพราะสามารถไปรพได้ตลอด 24 ชั่วโมง คุณหมอนอนอยู่ดีๆต้องแหกขี้ตาตื่นมารักษาตอนตีสอง ต่างประเทศนี่จะไปหาหมอได้ทีหนึ่งต้องมีญาณทิพย์ รู้ว่าจะป่วยล่วงหน้าแล้วนัดจองวันตรวจก็มีค่ะ อยู่ๆเอะอะไปทันทีไม่ได้ก็มีค่ะ เพราะคุณหมอไม่ได้อยู่เฝ้ารพตลอด
ทุกคนควรเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น ดูแลรักษาตนเองเสมอ อย่าให้ป่วย อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ ส่งผลเสียต่อร่างกาย ไปรพเฉพาะตอนที่จำเป็นหรือหนักจริงๆ หรือร่างกายเราผิดปกติก็อย่านิ่งนอนใจ หมั่นตรวจสุขภาพ ร่างกายจะได้แข็งแรง คุณแฮปปี้ หมอพยาบาลก็แฮปปี้ค่ะ
สุดท้ายนี้ เห็นหลายท่านเอาแต่ว่าบุคลากรของรพหลายเรื่อง แต่ปัญหามันไม่ได้เกิดจากแค่หมอหรือพยาบาล แต่มันก็มาจากเราทุกคนด้วยค่ะหากไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน หมออและพยาบาลเป็นอาชีพที่บั่นทอนสุขภาพตัวเองเพื่อรักษาคนอื่น ควรให้เกียรติเขาและรับฟังแหตุผลเขาบ้าง หมอหลายคนกลัวโดนฟ้อง หากรักษาไม่ดีคนไข้ฟ้อง แต่หมอเป็นแค่คนที่มีประสบการณ์และวิชาไม่ใช่พระเจ้าค่ะ เรื่องที่เขาแก้ไม่ได้ก็มี บางท่านโดนว่าจนหมดกำลังใจการทำงานไปเลยก็มีค่ะ ที่เขามาทำงานตรงนี้ส่วนใหญ่เพราะมีใจกุศลอยากช่วยเหลือ รักษาชีวิต กว่าจะเรียนกันมาจบยากลำบากมากค่ะ
รพเช่นกัน มีปัญหา บกพร่อง ก็ควรปรับปรุงแก้ไข้ไม่ปล่อยให้นาน ไม่มีงบมาปรับปรุงส่วนนี้ ส่วนนั้น ควรเปลี่ยนผู้บริหารค่ะ หาคนเก่งๆ ที่ของบเก่งๆ จะได้นำงบมาพัฒนา แก้ไขส่วนที่รพยังบกพร่องอยู่ ไม่ใช่เรื่องกำรี้กำไร เพราะงานของคุณค่ะชีวิตคนไข้ค่ะ
เอาใจเขามาใส่ใจเรา สังคมจะน่าอยู่ขึ้นมากเลยค่ะ
ขอบคุณที่รับอ่านค่ะ
อยากแบ่งปันเรื่องระบบการรักษาในโรงพยาบาลค่ะ เผื่อจะได้เข้าใจต่างฝ่ายกันมากขึ้น
ดิฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญค่ะ แต่แค่อยากแบ่งปันข้อมูล จึงขอพูดเท่าที่ตัวเองทราบและเข้าใจ ลึกตื้นยังไงรบกวนผู้เชี่ยวชาญมาตอบอีกทีค่ะ ผิดพลาดตรงไหนขอ อภัย ด้วยค่ะ
เริ่มเข้าเรื่องกันเลยนะคะ
๑. คนไทยโชคดีที่รัฐบาลให้ค่ารักษากับรพ.รัฐฟรีหรือถูกมาก ข้อดีคืออุ่นใจคนทุกคนค่ะ พึ่งพาหมอได้ตลอดเวลา แต่ข้อเสียใหญ่ก็คือ คนไทยเป็นอะไรนิดหน่อยก็พึ่งหมอค่ะ แม้จะแค่ไอ เป็นหวัด ปวดหัว หกล้ม ท้องเสีย เหงา ก็มาหมอ มาใช้ประกันให้คุ้ม คนไข้เลยล้นโรงพยาบาล บุคลากรรพ.จึงไม่เพียงพอ ทำให้ส่วนที่ควรจะเร็วกลับช้า ส่วนที่ควรจะใส่ใจกลับไม่ได้รับการใส่ใจอย่างทั่วถึง แทนที่คนไข้ที่อาการแย่จะได้ตรวจรักษาอย่างทันท่วงที กลับต้องมานั่งรอคิว
ส่วนที่ควรจะได้รับการพัฒนา เช่น ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพิ่มบุคลากร พื้นที่ ให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น กลับต้องมาเสียให้กับการให้ประกันราคาถูกหรือฟรีแก่ประชาชน
๒. คนไข้หลายคนไม่ให้ความร่วมมือกับหมอและพยาบาล เช่น โกหกประวัติ อาการตนเอง ไม่ดูแลรักษาตนเอง ไม่ทำตามที่หมอบอก ไปหายากินเอง ทึกทักโรคเอาเอง สุดท้ายอาการแย่ลงก็ต้องมาเหนื่อยหมอ
๓.จากข้อ ๑. และ ๒. อาจทำให้หมอ พยาบาล บุคลากรท่านอื่นๆทำงานหนักเพราะคนไม่เพียงพอ และยังต้องมาต่อสู้กับคนไข้หลายรายที่พูดไม่รู้เรื่อง ทำให้บุคลากรอาจเครียดได้ ทำให้อาจพูดจา แสดงพฤติกรรมไม่ดีใส่คนไข้ได้
๔. ญาติคนไข้ยกขโขยงมาเต็มโรงพยาบาล ไม่รู้อันไหนคนไข้ บรรยากาศเลยอุดอู้ มีแต่คนป่วย คนเฝ้าคนป่วยอัดกันอยู่ ขนาดไม่ป่วยเข้าไปแล้วอาจป่วยได้
ในทางกลับกัน ไปรพเอกชน มีพยาบาลสุภาพอ่อนหวานล้อมหน้าล้อมหลัง ยังไม่ทันตรวจก็อาการดีขึ้นแล้ว
๕.หมอไม่ใช่พระเจ้า หากเป็นโรคอะไรอาจจะไม่ได้รักษาหายได้เสียทุกโรค และแต่ละโรงพยาบาลอาจมีความพร้อมด้านเครื่องมือและบุคลากรไม่เท่าเทียมกัน
ในด้านรพเองก็มี
บุคลากรหลายคน ถึงจะเหนื่อยและเครียดเพียงไหน แต่ก็ควรใช้คำพูดและพฤติกรรมที่อ่อนโยนต่อคนไข้ เพราะคนไข้ 100% มาโรงพยาบาลด้วยความกลัวและหดหู่ กลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรร้ายแรง กลัวว่าจะรักษาอย่างไร พูดกับคนไข้ดีๆ อารมณ์คุณหมอคุณพยาบาลก็จะดีขึ้นด้วยค่ะ
ควรใส่ใจคนไข้ให้มากขึ้น ต่อให้เขาเป็นใครยากดีมีจน ควรรับฟังเขา แล้วรีบประมวลว่าควรจะได้รับการตรวจรักษาแบบไหน ทันท่วงที บางอย่างที่จำเป็นต้องทำก่อนก็ต้องทำ ไม่ใช่ทุกคนรอคิวคุณก็ควรรอคิว กฎแหกได้ถ้าจำเป็นค่ะ เพราะมันคือชีวิตของคนไข้
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไทยเป็นประเทศที่คนไข้ได้ประโยชน์และสะดวกกว่าประเทศไหนๆ เพราะสามารถไปรพได้ตลอด 24 ชั่วโมง คุณหมอนอนอยู่ดีๆต้องแหกขี้ตาตื่นมารักษาตอนตีสอง ต่างประเทศนี่จะไปหาหมอได้ทีหนึ่งต้องมีญาณทิพย์ รู้ว่าจะป่วยล่วงหน้าแล้วนัดจองวันตรวจก็มีค่ะ อยู่ๆเอะอะไปทันทีไม่ได้ก็มีค่ะ เพราะคุณหมอไม่ได้อยู่เฝ้ารพตลอด
ทุกคนควรเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น ดูแลรักษาตนเองเสมอ อย่าให้ป่วย อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ ส่งผลเสียต่อร่างกาย ไปรพเฉพาะตอนที่จำเป็นหรือหนักจริงๆ หรือร่างกายเราผิดปกติก็อย่านิ่งนอนใจ หมั่นตรวจสุขภาพ ร่างกายจะได้แข็งแรง คุณแฮปปี้ หมอพยาบาลก็แฮปปี้ค่ะ
สุดท้ายนี้ เห็นหลายท่านเอาแต่ว่าบุคลากรของรพหลายเรื่อง แต่ปัญหามันไม่ได้เกิดจากแค่หมอหรือพยาบาล แต่มันก็มาจากเราทุกคนด้วยค่ะหากไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน หมออและพยาบาลเป็นอาชีพที่บั่นทอนสุขภาพตัวเองเพื่อรักษาคนอื่น ควรให้เกียรติเขาและรับฟังแหตุผลเขาบ้าง หมอหลายคนกลัวโดนฟ้อง หากรักษาไม่ดีคนไข้ฟ้อง แต่หมอเป็นแค่คนที่มีประสบการณ์และวิชาไม่ใช่พระเจ้าค่ะ เรื่องที่เขาแก้ไม่ได้ก็มี บางท่านโดนว่าจนหมดกำลังใจการทำงานไปเลยก็มีค่ะ ที่เขามาทำงานตรงนี้ส่วนใหญ่เพราะมีใจกุศลอยากช่วยเหลือ รักษาชีวิต กว่าจะเรียนกันมาจบยากลำบากมากค่ะ
รพเช่นกัน มีปัญหา บกพร่อง ก็ควรปรับปรุงแก้ไข้ไม่ปล่อยให้นาน ไม่มีงบมาปรับปรุงส่วนนี้ ส่วนนั้น ควรเปลี่ยนผู้บริหารค่ะ หาคนเก่งๆ ที่ของบเก่งๆ จะได้นำงบมาพัฒนา แก้ไขส่วนที่รพยังบกพร่องอยู่ ไม่ใช่เรื่องกำรี้กำไร เพราะงานของคุณค่ะชีวิตคนไข้ค่ะ
เอาใจเขามาใส่ใจเรา สังคมจะน่าอยู่ขึ้นมากเลยค่ะ
ขอบคุณที่รับอ่านค่ะ