ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ
ตอนนี้ระบบนี้ขาดแคลนคนเยอะมากๆ จริงๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลรัฐ ไม่ใช่แค่ หมอ พยาบาลที่ขาด พนักงานช่วยเหลือคนไข้ คนงาน เวรเปล และประเภทอื่นที่ทำงานช่วยเหลือกิจกรรมในรพ.ทั้งหมด
หลายคนมีประสบการณ์ที่ไม่โอเคกับโรงพยาบาลโดยเฉพาะกับโรงพยาบาลรัฐ เจ้าของกระทู้ก็้เคยเป็นเคยสัมผัส เคยไม่พอใจ แต่พอได้เข้ามาอยู่ในระบบนี้จริงๆ หลายอย่างมันทำให้มองและเข้าใจในอีกมุมนึง
จากข่าวเยอะแยะเกี่ยวกับรพ. พอไล่อ่านคอมเม้น อือหือออออ ทำให้รู้ว่าบางคนอธิบายให้ตาย ก็ไม่ยอมเข้าใจอยู่ดี ฉะนั้นต้องให้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ให้ลูกหลานมาเจอมาสัมผัสจะได้เอาไปเล่าเอาไปบ่นไปให้ฟัง (เหมือนที่เราบ่นให้คนรอบข้างฟังถถถ)
ลองคิดดูนะคะมันได้ประโยชน์หลายต่อเลยนะคะ พอมาเรียน คนในระบบก็จะเยอะขึ้น มีเพียงพอในการตอบสนองคนไข้และญาติ
แถมยังจะเข้าใจระบบมากขึ้น ลดการคอมเม้นรุนแรง ไม่บั่นทอนเจ้าหน้าที่ โหยยยย ดีดีทั้งนั้นเลยค่ะ
อ่อ ขอเสริมอีกเรื่องค่ะ กับคอมเม้นที่เจอบ่อย คนจนไม่ยอมรักษา ไม่มีเงินจ่ายไม่ยอมรักษา รักษาช้าเพราะไม่ใช่คนรวยคนดังหรือคนมีตังค์
หรือต้องยื่นตังค์ให้ก่อนถึงจะรักษาให้
โอ้ยยยย อยากจะบอกเหลือเกินว่า ไม่ว่าคุณจะสิทธิ์การรักษาอะไร บัตรทอง? ประกันสังคม?
พรบ.? เบิกได้? จ่ายเอง? หรือไม่มีตังจ่าย?
พยาบาลหมอไม่ได้สัมผัสเงินที่คุณจ่ายหรอกนะคะ เขาจะมีเจ้าหน้าที่การเงินแยกหรือคุยเรื่องนี้ต่างหาก
คุณจะจ่ายมากจ่ายน้อยหรือยังไงหน้าที่หมอหรือพยาบาลรักษาก็คือรักษาไม่ได้มีหน้าที่เก็บตังคหรือจ้องว่าคนมารักษามีตังจ่ายหรือเปล่า เอาจริงๆเจ้าหน้าที่อย่างเราชอบคนไข้ธรรมดาสามัญ พูดคุยรู้เรื่อง น่ารักมากว่าคนไข้มีตังค์ คนดังเสียอีก
เพราะไม่กดดัน สบายใจทีไ่ด้ทำมากกว่า
คุณอาจจะได้รอ.. ไม่สะดวก ไม่โอเค แต่เชื่อเถอะมันมีเหตุผลอื่นมากมาย ที่สำคัญกว่าเรื่องเงิน
ขี้เกียจอธิบาย เอาเป็นว่ามาเรียนมาทำงานด้านนี้กันค่ะ
จบ !!!
เม้นแสดงความคิดเห็นได้ ถามได้ แต่อย่าถามด้วยอคติ ตั้งแง่ หรือตั้งใจด่าก็พอค่ะ ~..~

(ขออนุญาตเจ้าของรูปนะคะ)
อยากเชิญชวนทุกๆ คน (โดยเฉพาะคนที่ไม่โอเคกับ รพ.รัฐ) มาเรียนหรือส่งลูกส่งหลานมาเรียนทางนี้กันเยอะๆค่ะ
ตอนนี้ระบบนี้ขาดแคลนคนเยอะมากๆ จริงๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลรัฐ ไม่ใช่แค่ หมอ พยาบาลที่ขาด พนักงานช่วยเหลือคนไข้ คนงาน เวรเปล และประเภทอื่นที่ทำงานช่วยเหลือกิจกรรมในรพ.ทั้งหมด
หลายคนมีประสบการณ์ที่ไม่โอเคกับโรงพยาบาลโดยเฉพาะกับโรงพยาบาลรัฐ เจ้าของกระทู้ก็้เคยเป็นเคยสัมผัส เคยไม่พอใจ แต่พอได้เข้ามาอยู่ในระบบนี้จริงๆ หลายอย่างมันทำให้มองและเข้าใจในอีกมุมนึง
จากข่าวเยอะแยะเกี่ยวกับรพ. พอไล่อ่านคอมเม้น อือหือออออ ทำให้รู้ว่าบางคนอธิบายให้ตาย ก็ไม่ยอมเข้าใจอยู่ดี ฉะนั้นต้องให้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ให้ลูกหลานมาเจอมาสัมผัสจะได้เอาไปเล่าเอาไปบ่นไปให้ฟัง (เหมือนที่เราบ่นให้คนรอบข้างฟังถถถ)
ลองคิดดูนะคะมันได้ประโยชน์หลายต่อเลยนะคะ พอมาเรียน คนในระบบก็จะเยอะขึ้น มีเพียงพอในการตอบสนองคนไข้และญาติ
แถมยังจะเข้าใจระบบมากขึ้น ลดการคอมเม้นรุนแรง ไม่บั่นทอนเจ้าหน้าที่ โหยยยย ดีดีทั้งนั้นเลยค่ะ
อ่อ ขอเสริมอีกเรื่องค่ะ กับคอมเม้นที่เจอบ่อย คนจนไม่ยอมรักษา ไม่มีเงินจ่ายไม่ยอมรักษา รักษาช้าเพราะไม่ใช่คนรวยคนดังหรือคนมีตังค์
หรือต้องยื่นตังค์ให้ก่อนถึงจะรักษาให้
โอ้ยยยย อยากจะบอกเหลือเกินว่า ไม่ว่าคุณจะสิทธิ์การรักษาอะไร บัตรทอง? ประกันสังคม?
พรบ.? เบิกได้? จ่ายเอง? หรือไม่มีตังจ่าย?
พยาบาลหมอไม่ได้สัมผัสเงินที่คุณจ่ายหรอกนะคะ เขาจะมีเจ้าหน้าที่การเงินแยกหรือคุยเรื่องนี้ต่างหาก
คุณจะจ่ายมากจ่ายน้อยหรือยังไงหน้าที่หมอหรือพยาบาลรักษาก็คือรักษาไม่ได้มีหน้าที่เก็บตังคหรือจ้องว่าคนมารักษามีตังจ่ายหรือเปล่า เอาจริงๆเจ้าหน้าที่อย่างเราชอบคนไข้ธรรมดาสามัญ พูดคุยรู้เรื่อง น่ารักมากว่าคนไข้มีตังค์ คนดังเสียอีก
เพราะไม่กดดัน สบายใจทีไ่ด้ทำมากกว่า
คุณอาจจะได้รอ.. ไม่สะดวก ไม่โอเค แต่เชื่อเถอะมันมีเหตุผลอื่นมากมาย ที่สำคัญกว่าเรื่องเงิน
ขี้เกียจอธิบาย เอาเป็นว่ามาเรียนมาทำงานด้านนี้กันค่ะ
จบ !!!
เม้นแสดงความคิดเห็นได้ ถามได้ แต่อย่าถามด้วยอคติ ตั้งแง่ หรือตั้งใจด่าก็พอค่ะ ~..~