ตั้งแต่กลับมาจากเนปาลเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากพักร่างเรียกพลังตั้งสติมาราวๆ 3 เดือน
ณ ตอนนี้ จขกท.ได้ฟื้นคืนชีพ สติกลับเข้าสู่กายหยาบได้สักที....
ได้เวลามานั่งทบทวนความจำกับทริปนี้และตั้งกระทู้เก็บไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่สนใจ...หรือเผื่อตัวเองจะกลับไปอีกรอบอ่ะเนอะ....
ขอบอกว่าทริปนี้สูบพลังเรามาก เพราะก่อนไปไม่ได้ฟิตร่างกายเลยด้วย
ทั้งที่ตั้งใจว่าจะออกกลังกายก่อนไปสัก 2เดือนเอาให้แบบเดินพลิ้วๆ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ....ไม่ไหวจะเคลียร์..เลิกงานกลับบ้านก็สลบทันที...
ย้อนไปปลายปี 59 นั่งคุยกันเล่นๆกับเพื่อนรุ่นพี่ที่บังเอิญได้โคจรมาพบกันในทริปๆนึง นี่คือบทสนทนาเท่าที่สมองอันน้อยนิดจะจำได้
พี่: ทริปหน้าไปไหนดี
จขกท : อยากไปเนปาลอีกอ่ะ...
พี่: เฮ้ยอยากไปเหมือนกันยังไม่เคยไป...ไปๆๆ
จขกท: คิดในใจ...ฉันชนะ...5555555 (เสร็จตรู)
และจากที่คุยกันในวันนั้นก็ใช้วิทยายุทธหลอกล่อเพื่อนร่วมทริปมาได้ทั้งหมด 3 คนถ้วน..ฮิฮิ...
หลังจากแพลนมาประมาณ 3-4 เส้นทางและด้วยระยะเวลาที่จำกัดของแต่ละคนจึงใช้เวลาเดินเทรคกิ้งทั้งหมด 8 วัน
ไม่รวมวันเดินทาง คือสตาร์ทตั้งแต่ 13-22 เม.ย.2560 คร่าวๆก็ประมาณนี้....
Itinerary( 13-22 Apr2017)
Day1/13Apr Arrive at KTM Airport by TG319 at 12.25 hrs, then domestic flight to Pokhara at 15.45hrs.
Day2/14Apr Pokhara drive to Kimche and trek to Ghandruk
Day3/15Apr Ghandruk trek to Chhomrong
Day4/16Apr Chhomrong trek to Bamboo
Day5/17Apr Bamboo-Dovan-Himalaya-Deurali
Day6/18Apr Deurali-MBC-ABC
Day7/19Apr ABC then trek down to Bamboo
Day8/20Apr Bamboo-Chhomrong-Jinhu Danda (hot springs)
Day9/21Apr Jinhu Danda- Modi Khola Valley-New Bridge – Siwai then drive to Pokhara, and domestic flight to Kathmandu
Day10/22Apr Transfer from hotel to KTM Inter Airport
วันแรกก็โดนซะแล้ว...ตายแล้วๆอะไรกันว๊า... (BKK-KTM-PKR)
วันแรกเราเดินทางกับเพื่อนอีกคน โดยนัดเจอพี่ 2คนที่สนามบินกาฐมาณฑุแล้วต่อไฟล์ทภายในไปโพคราด้วยกัน
ซึ่งตามปกติจากกรุเทพฯไปใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชั่วโมง ซึ่งจะถึงกาฐมาณฑุประมาณ 12.25 น.
แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีหมอกหนาๆและการจราจรบนรันเวย์หนาแน่นมากๆ
กัปตันประกาศ!! รอบแรก: เครื่องจะลงช้าประมาณ 20 นาที (โอเควะ...ช้าไป 20 นาที ไม่เป็นไร...สบาย...สบาย...)
หลังจากผ่านไป 20 นาที กัปตันประกาศ!! รอบสอง: เครื่องจะลงช้าประมาณ 15 นาทีนับจากนี้….
(ตอนนี้ใจเริ่มเต้นตุ๊มๆต่อมๆ..กลัวไม่ทันต่อเครื่องไปโพครา ได้แต่ภาวนาเอาวะ..ช้านิดหน่อยยังไงก็ทันอีก 15 นาทีเอ๊ง)
สักพักมองหน้าจอ..เอาแล้วไง...บินวน..เซิ้งเป็นก้นหอยเลยเมิง...เอาไงเนี้ยะ....จะทันป่ะวะ...
นัดพี่อีก 2คน ที่สนามบิน.. พี่เค้าจะคิดว่าเราทิ้งเค้าไม๊นะ.. แล้วจะทันต่อเครื่องไม๊วะ..โอ๊ย...เครียด
หลังบินวนไปอีก 40 นาที กัปตันประกาศจะลงละน่ะ...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด....
เสียงสวรรค์...รอดตายล๊าววว...มองดูนาฬิกาขณะนี้เวลา 13.40 น. น้ำตาจะไหล....
นี่ต้องวิ่งใส่เกียร์ไหนถึงจะทันค๊า T_T
ลงเครื่องปุ๊บเดิน+วิ่ง เข้าตม.+รอรับกระเป๋า เปิดมือถือปุ๊บพี่โทรเข้ามาตามบอกเร่งนิดนึงนะ เดี๋ยวตกเครื่อง......
รับกระเป๋าเสร็จวิ่งเร็วยิ่งกว่า Fast & Furious ไหน๊คนมารอรับ ไหนพี่ช๊าน T_T
แต่ก็นั่นล่ะค่ะมาทันเชคอินแบบ 4 คนสุดท้ายจริงๆ...ก็เข้าไปรอในเกทสวยๆ...
แต่โอ๊ะแม่เจ้า..ต๊กกะใจ... เอาจริงดิ...นี่สนามบินหรืออะไร นึกภาพสถานีขนส่งหมอชิตบ้านเรานะ
แต่เป็นอาคารแค่ชั้นเดียวแล้วแบบคนแน่นทุกตารางนิ้ว ไม่มีที่จะยืน..เก้าอี้ไม่ต้องพูดถึงนับได้ไม่ถึง 20 หันซ้ายหันขวา..
เอาวะนั่งพื้นเลยแล้วกัน ถึงเวลาบอร์ดดิ้งไม่เห็นเรียกขึ้นเครื่องว๊ายังไง..ยังไง...
ถามที่เคอน์เตอร์บอกดีเลย์จ้า ดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมงนะจ๊ะยูววว...เฮ้อออออ...รอไปค่ะ...
ผ่านไป 1 ชม.เรียกไปขึ้นเครื่องทุกคนดีใจกันยกใหญ่จะได้ไปแล้วเว้ย..เดินไปขึ้นรถบัส..
รถพาวิ่งวนรอบสนามบิน 1 รอบ...แล้วกลับมาที่เดิมบอกต้องรอต่อไปนะจ๊ะ..การจราจรยังหนาแน่น...
เฮ้ยยย...แบบนี้ก็ได้เหรอ...ช๊านจะได้ไปไม๊...นี่ 5 โมงกว่าแล้วนะยูววว...เลทมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วน๊า...ฮือออออออ.....
แต่...ในที่สุดก็ได้บินจ้า...ดีจาย...แต้มบุญยังพอมีนะเนี้ยะเรา....บินถึงโพคราเข้าที่พัก เดินเล่น แล้วรีบพักผ่อนเอาแรง...
เตรียมตัวเตรียมใจสำหรับวันพรุ่งนี้....
วันที่สอง...เผาหลอก...หลอกให้ตายใจ..วะฮ่ะฮ่าฮ่า..(PKR-Ghandruk)
เช้านี้ทั้งไกด์และลูกหาบมาเจอที่โรงแรม เตรียมแพคกระเป๋าแพคของไปขึ้นดอยกัน อะไรๆที่ไม่จำเป็นก็ทิ้งไว้ก่อนเนาะ..
จำกัดน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 กิโลต่อลูกหาบ 1 คน ส่วนของอะไรที่สำคัญก็ใส่เป้แบกเองสิคะรออะไร...
พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย...ออกสตาร์ทจากโรงแรมประมาณ 8 โมงเช้า...
เส้นทางวันนี้นั่งรถจี๊ปจากโพคราไปลงหมู่บ้านคิมเช ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง
และเดินต่อไปหมู่บ้านกันดรุคที่ความสูงประมาณ 1,950 เมตรจากระดับน้ำทะเล อีกราวๆ 1.30 ชั่วโมง
...เดินวันแรกเบาๆซอฟๆ...หลอกให้เพื่อนร่วมทริปตายใจก่อน...วะฮ่ะฮ่ะฮ่า...
แต่ถึงแม้ระยะทางสั้นๆแต่ด้วยความที่อากาศร้อนอบอ้าวและแดดก็แรงมาก ทำให้ต้องหยุดพักเป็นระยะ...
ไกลแค่ไหนคือใกล้ T_T เฮ้อออออออ....ถึงที่พักราวๆเที่ยงวัน สั่งอาหารกลางวันเสร็จ...ก็เอาผ้ามาตากแดดนั่งคุยนั่งกินขนมกันไป...
พักผ่อนกันตามระเบียบใครใคร่นอน...นอน...ใครใคร่กินก็กิน...
ส่วนเราน่ะเหรอนั่งคุยกับลูกหาบถามชื่อกันไปมาถามกันอยู่นานมากก็ยังจำไม่ได้เรียกกันผิดๆถูกๆ
สุดท้ายเค้าคงทนไม่ได้บอกให้เราเรียกสั้นๆว่า “เจบี Jor Bir ”
ส่วนหนุ่มน้อยลูกหาบอีกคนชื่อ “กังการ์ Ganga” อัธยาศัยน่ารักทั้งคู่เลยได้เพื่อนใหม่แล้ว...เย่ๆๆๆ ...
อ้อ...ลืมแนะนำไกด์ของเรา ชื่อ “จังเกอร์ Janga” เป็นพี่ชายของกังการ์ พี่น้องคู่นี้ช่วยกันทำงานขยันมากๆ...
วันหลังๆจะยิ่งเห็นว่าเค้าน่ารักกันจริงๆ
วันที่สาม ยังไหวอยู่นะ....(Ghandruk-Chchomrong)
เช้านี้อากาศดี๊ดีหลังจากนอนฟังเสียงฝนตกมาทั้งคืน...ตื่นมานั่งทานอาหารเช้าพร้อมวิวของ Annapurna South ที่ดูเหมือนใกล้ๆ...
เช๊อะ...รอก่อนนะอีกไม่กี่วันฉันจะไปเคาะประตูบ้านเธอเลยคอยดู๊ววว...ฮึ่มๆๆ …
หลังทานอาหารเสร็จเริ่มออกสตาร์ทกันที่ 8 โมง จุดหมายคือหมู่บ้าน Chchomrong ที่ความสูง 2,040 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ซึ่งเป็นประตูสู่ Annapurna Base Camp ซึ่งไม่ว่าจะมาจากเส้นทางไหน
หากต้องการไปที่ Annapurna Base Camp แล้วละก็ จะต้องแวะพักที่หมู่บ้านนี้
เราโอ้เอ้กันพักใหญ่ก่อนค่อยๆเดินตามไกด์ไปห่างๆพร้อมกับแดดที่เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
เดินขึ้นๆลงๆเขาจนถึงเวลาพักทานข้าวเที่ยง ไกด์พาแวะบ้านของชาวบ้านก่อนข้ามสะพานไปภูเขาอีกลูก
รับออเดอร์เสร็จเจ้าของบ้านก็ลงไปเก็บผัดสดๆจากสวนมาทำกับข้าวให้เราทานกัน นั่งชมวิวเพลินๆชิลล์ๆกันไป
มองภูเขาฝั่งโน้นที่จะต้องเดินขึ้นช่วงบ่ายคงมีหอบกันบ้างล่ะว๊า
และก็เป็นไปตามคาดช่วงบ่ายแดดร้อนมากถึงมากที่สุด เดินขึ้นแล้วก็ขึ้นๆๆๆ อย่าถามว่าร้อนแค่ไหน...
คือเข้าใจคำว่าอาบเหงื่อต่างน้ำก็วันนี้แหล๊ะ T_T
เดินๆหยุดๆค่อยกระย่องกระแย่งเดินไต่เขาไปเรื่อยๆ พร้อมกับเมฆที่ค่อยเปลี่ยนเป็นสีเทาๆครึ้มๆ อีกแล้วสินะ
มาตรงเวลาเป๊ะเลยนะเราไม่ได้นัดกันสักหน่อย...
ไกด์บอกรีบๆเดินกันเถอะฝนมาแล้วพร้อมชี้นิ้วให้ดูนั่นไงใกล้ถึงแล้วที่เราจะพักคืนนี้ ไม่ไกลๆ ....เอาวะไม่ไกลๆ...
พอมีแรงเดินขึ้นมาอีกหน่อย ยังไม่ทันจะก้าวขาฝนก็ตกมาแล้วค่า มาทั้งฝนทั้งลูกเห็บเลยโว้ย หนาวชิบ...
พอเร่งเดินขาก็เป็นตะคริวสิคะ...สุดท้ายค่อยๆเดินไปเรื่อยๆก็ถึงเหมือนกันนิ...
ถึงที่พักแบ่งเวลากันอาบน้ำ หลังจากนั้นก็เป็นมหกรรมขายยาค่ะ มียาอะไรเอามาให้หมด
เรียกได้ว่าครึ่งนึงของกระเป๋านี่ยาล้วนๆ ในแต่ละมื้อทานยามากกว่าทานข้าวบอกเลย
จัดมาทั้ง Diamox ,พาราเซตามอล, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาแก้แพ้อากาศ, ยาช่วยย่อย, ยาแก้ท้องเสีย บลา บลา บลา
แต่ที่แน่ๆวันนี้ยังไหวอยู่นะ....
วันที่สี่...ร้อน..ฝน..หนาว..หิมะ...
เมื่อคืนตกลงกับไกด์ว่าวันนี้เราขอสตาร์ทจาก Chcomrong 7 โมงเช้า เพื่อถึงจุดหมายเร็วๆในช่วงบ่าย
เพราะมีบทเรียนแล้วว่าถ้าถึงที่พักหลังบ่าย 3เนี้ยะฝนมาแน่ๆ แถมด้วยลูกเห็บและหิมะบ้างประปราย
คือแดดมันก็ร้อนอยู่หรอกนะแต่พอนั่งพักในร่มนี่เย็นยะเยือกเลย
ทีนี้พอฝนตกมันก็จะยิ่งหน๊าวหนาวไง พอนึกออกมั้ย ทรมานสุดๆ วันนึงมี 3 ฤดู ทั้งร้อน ฝน หนาว
ก็ใส่เสื้อผ้าลำบากหน่อยๆ เพราะเช้าๆจะหนาว เดินไปสักพักเจอแดดก็จะร้อน เดินไปอีกนิดฝนตกงี้ เพลี๊ยเพลีย
เราแวะพักทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้าน Upper Sinuwa หลังจากนั่งมองหน้ากันไปมาก็เลยตกลงจะลองสั่งพิซซ่ามาทานกัน
เปลี่ยนรสชาดบ้างหลังจากทานไข่ต้ม มาม่าเกาหลีกันแทบทุกมื้อ
และก็เช่นเคยเราสั่งเมนูเผื่อให้ไกด์กับลูกหาบ 1 เมนูให้ทานรองท้องไปก่อน
เพราะกว่าเค้าจะได้ทานข้าวกันคือต้องรอจัดการของลูกทัวร์ให้เรียบร้อยก่อน เค้าก็หิวเหมือนเราแหล่ะ
เลยกลายเป็นว่าในทุกๆมื้อเราจะสั่งเผื่อเค้าทุกครั้ง เราอิ่มเค้าก็ต้องอิ่มด้วยแหละเนอะ
ช่วงบ่ายจาก Sinuwa ไป Bamboo ทางเดินง่ายๆสบายๆ ผ่านดงกุหลาบพันปีสวยๆ พอเห็นป่าไผ่ก็รู้แล้วว่าใกล้ถึง Bamboo แล้วละ
ซึ่งจาก Bamboo ไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึง Dovan ที่พักในคืนนี้
ถึงแบมบูประมาณบ่าย 2 นั่งพักเหนื่อยจิบน้ำทานขนมกันเพลินๆ จังเกอร์ (ไกด์)เดินมาบอกว่า
สงสัยคืนนี้ต้องนอนที่ Bamboo แทนแล้วล่ะเพราะที่ Dovan ที่พักเต็มไม่มีเหลือ (ที่ Dovan มีที่พักแค่ 3 ที่และเล็กมาก)
เอ้าพักก็พักเพราะวันนี้เพื่อนในกลุ่มไม่สบายด้วย พักที่นี่ก็พักพรุ่งนี้ค่อยออกกันแต่เช้าเหมือนเดิมละกันเนาะ
เพราะ my plan is no plan อยู่แล้ว...
วันที่ห้า....นี่สินะ Climbing ของจริง
เช้านี้นัดทานข้าวตอน 6 โมงครึ่งได้เจอกับก๊วนน้องคนไทย 3 คน ที่เพิ่งเดินลงมาจาก ABC
ก็เลยได้ถามเส้นทางกันบ้างพอให้มีแรงฮึด วันนี้เราจะเดินกันยาวๆ....
เดินผ่าน Dovan แวะทานข้าวกลางวันที่ Himalaya ไปต่อจนถึง Deurali ที่พักคืนนี้นั่นเอง
[CR] ((CR)) เนปาลครั้งเดียวไม่เคยพอ...ทริปตามฝัน Annapurna Base Camp (ABC) Annapurna Sanctuary 10 วัน
ตั้งแต่กลับมาจากเนปาลเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากพักร่างเรียกพลังตั้งสติมาราวๆ 3 เดือน
ณ ตอนนี้ จขกท.ได้ฟื้นคืนชีพ สติกลับเข้าสู่กายหยาบได้สักที....
ได้เวลามานั่งทบทวนความจำกับทริปนี้และตั้งกระทู้เก็บไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่สนใจ...หรือเผื่อตัวเองจะกลับไปอีกรอบอ่ะเนอะ....
ขอบอกว่าทริปนี้สูบพลังเรามาก เพราะก่อนไปไม่ได้ฟิตร่างกายเลยด้วย
ทั้งที่ตั้งใจว่าจะออกกลังกายก่อนไปสัก 2เดือนเอาให้แบบเดินพลิ้วๆ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ....ไม่ไหวจะเคลียร์..เลิกงานกลับบ้านก็สลบทันที...
ย้อนไปปลายปี 59 นั่งคุยกันเล่นๆกับเพื่อนรุ่นพี่ที่บังเอิญได้โคจรมาพบกันในทริปๆนึง นี่คือบทสนทนาเท่าที่สมองอันน้อยนิดจะจำได้
พี่: ทริปหน้าไปไหนดี
จขกท : อยากไปเนปาลอีกอ่ะ...
พี่: เฮ้ยอยากไปเหมือนกันยังไม่เคยไป...ไปๆๆ
จขกท: คิดในใจ...ฉันชนะ...5555555 (เสร็จตรู)
และจากที่คุยกันในวันนั้นก็ใช้วิทยายุทธหลอกล่อเพื่อนร่วมทริปมาได้ทั้งหมด 3 คนถ้วน..ฮิฮิ...
หลังจากแพลนมาประมาณ 3-4 เส้นทางและด้วยระยะเวลาที่จำกัดของแต่ละคนจึงใช้เวลาเดินเทรคกิ้งทั้งหมด 8 วัน
ไม่รวมวันเดินทาง คือสตาร์ทตั้งแต่ 13-22 เม.ย.2560 คร่าวๆก็ประมาณนี้....
Itinerary( 13-22 Apr2017)
Day1/13Apr Arrive at KTM Airport by TG319 at 12.25 hrs, then domestic flight to Pokhara at 15.45hrs.
Day2/14Apr Pokhara drive to Kimche and trek to Ghandruk
Day3/15Apr Ghandruk trek to Chhomrong
Day4/16Apr Chhomrong trek to Bamboo
Day5/17Apr Bamboo-Dovan-Himalaya-Deurali
Day6/18Apr Deurali-MBC-ABC
Day7/19Apr ABC then trek down to Bamboo
Day8/20Apr Bamboo-Chhomrong-Jinhu Danda (hot springs)
Day9/21Apr Jinhu Danda- Modi Khola Valley-New Bridge – Siwai then drive to Pokhara, and domestic flight to Kathmandu
Day10/22Apr Transfer from hotel to KTM Inter Airport
วันแรกก็โดนซะแล้ว...ตายแล้วๆอะไรกันว๊า... (BKK-KTM-PKR)
วันแรกเราเดินทางกับเพื่อนอีกคน โดยนัดเจอพี่ 2คนที่สนามบินกาฐมาณฑุแล้วต่อไฟล์ทภายในไปโพคราด้วยกัน
ซึ่งตามปกติจากกรุเทพฯไปใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชั่วโมง ซึ่งจะถึงกาฐมาณฑุประมาณ 12.25 น.
แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีหมอกหนาๆและการจราจรบนรันเวย์หนาแน่นมากๆ
กัปตันประกาศ!! รอบแรก: เครื่องจะลงช้าประมาณ 20 นาที (โอเควะ...ช้าไป 20 นาที ไม่เป็นไร...สบาย...สบาย...)
หลังจากผ่านไป 20 นาที กัปตันประกาศ!! รอบสอง: เครื่องจะลงช้าประมาณ 15 นาทีนับจากนี้….
(ตอนนี้ใจเริ่มเต้นตุ๊มๆต่อมๆ..กลัวไม่ทันต่อเครื่องไปโพครา ได้แต่ภาวนาเอาวะ..ช้านิดหน่อยยังไงก็ทันอีก 15 นาทีเอ๊ง)
สักพักมองหน้าจอ..เอาแล้วไง...บินวน..เซิ้งเป็นก้นหอยเลยเมิง...เอาไงเนี้ยะ....จะทันป่ะวะ...
นัดพี่อีก 2คน ที่สนามบิน.. พี่เค้าจะคิดว่าเราทิ้งเค้าไม๊นะ.. แล้วจะทันต่อเครื่องไม๊วะ..โอ๊ย...เครียด
หลังบินวนไปอีก 40 นาที กัปตันประกาศจะลงละน่ะ...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด....
เสียงสวรรค์...รอดตายล๊าววว...มองดูนาฬิกาขณะนี้เวลา 13.40 น. น้ำตาจะไหล....
นี่ต้องวิ่งใส่เกียร์ไหนถึงจะทันค๊า T_T
ลงเครื่องปุ๊บเดิน+วิ่ง เข้าตม.+รอรับกระเป๋า เปิดมือถือปุ๊บพี่โทรเข้ามาตามบอกเร่งนิดนึงนะ เดี๋ยวตกเครื่อง......
รับกระเป๋าเสร็จวิ่งเร็วยิ่งกว่า Fast & Furious ไหน๊คนมารอรับ ไหนพี่ช๊าน T_T
แต่ก็นั่นล่ะค่ะมาทันเชคอินแบบ 4 คนสุดท้ายจริงๆ...ก็เข้าไปรอในเกทสวยๆ...
แต่โอ๊ะแม่เจ้า..ต๊กกะใจ... เอาจริงดิ...นี่สนามบินหรืออะไร นึกภาพสถานีขนส่งหมอชิตบ้านเรานะ
แต่เป็นอาคารแค่ชั้นเดียวแล้วแบบคนแน่นทุกตารางนิ้ว ไม่มีที่จะยืน..เก้าอี้ไม่ต้องพูดถึงนับได้ไม่ถึง 20 หันซ้ายหันขวา..
เอาวะนั่งพื้นเลยแล้วกัน ถึงเวลาบอร์ดดิ้งไม่เห็นเรียกขึ้นเครื่องว๊ายังไง..ยังไง...
ถามที่เคอน์เตอร์บอกดีเลย์จ้า ดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมงนะจ๊ะยูววว...เฮ้อออออ...รอไปค่ะ...
ผ่านไป 1 ชม.เรียกไปขึ้นเครื่องทุกคนดีใจกันยกใหญ่จะได้ไปแล้วเว้ย..เดินไปขึ้นรถบัส..
รถพาวิ่งวนรอบสนามบิน 1 รอบ...แล้วกลับมาที่เดิมบอกต้องรอต่อไปนะจ๊ะ..การจราจรยังหนาแน่น...
เฮ้ยยย...แบบนี้ก็ได้เหรอ...ช๊านจะได้ไปไม๊...นี่ 5 โมงกว่าแล้วนะยูววว...เลทมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วน๊า...ฮือออออออ.....
แต่...ในที่สุดก็ได้บินจ้า...ดีจาย...แต้มบุญยังพอมีนะเนี้ยะเรา....บินถึงโพคราเข้าที่พัก เดินเล่น แล้วรีบพักผ่อนเอาแรง...
เตรียมตัวเตรียมใจสำหรับวันพรุ่งนี้....
วันที่สอง...เผาหลอก...หลอกให้ตายใจ..วะฮ่ะฮ่าฮ่า..(PKR-Ghandruk)
เช้านี้ทั้งไกด์และลูกหาบมาเจอที่โรงแรม เตรียมแพคกระเป๋าแพคของไปขึ้นดอยกัน อะไรๆที่ไม่จำเป็นก็ทิ้งไว้ก่อนเนาะ..
จำกัดน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 กิโลต่อลูกหาบ 1 คน ส่วนของอะไรที่สำคัญก็ใส่เป้แบกเองสิคะรออะไร...
พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย...ออกสตาร์ทจากโรงแรมประมาณ 8 โมงเช้า...
เส้นทางวันนี้นั่งรถจี๊ปจากโพคราไปลงหมู่บ้านคิมเช ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง
และเดินต่อไปหมู่บ้านกันดรุคที่ความสูงประมาณ 1,950 เมตรจากระดับน้ำทะเล อีกราวๆ 1.30 ชั่วโมง
...เดินวันแรกเบาๆซอฟๆ...หลอกให้เพื่อนร่วมทริปตายใจก่อน...วะฮ่ะฮ่ะฮ่า...
แต่ถึงแม้ระยะทางสั้นๆแต่ด้วยความที่อากาศร้อนอบอ้าวและแดดก็แรงมาก ทำให้ต้องหยุดพักเป็นระยะ...
ไกลแค่ไหนคือใกล้ T_T เฮ้อออออออ....ถึงที่พักราวๆเที่ยงวัน สั่งอาหารกลางวันเสร็จ...ก็เอาผ้ามาตากแดดนั่งคุยนั่งกินขนมกันไป...
พักผ่อนกันตามระเบียบใครใคร่นอน...นอน...ใครใคร่กินก็กิน...
ส่วนเราน่ะเหรอนั่งคุยกับลูกหาบถามชื่อกันไปมาถามกันอยู่นานมากก็ยังจำไม่ได้เรียกกันผิดๆถูกๆ
สุดท้ายเค้าคงทนไม่ได้บอกให้เราเรียกสั้นๆว่า “เจบี Jor Bir ”
ส่วนหนุ่มน้อยลูกหาบอีกคนชื่อ “กังการ์ Ganga” อัธยาศัยน่ารักทั้งคู่เลยได้เพื่อนใหม่แล้ว...เย่ๆๆๆ ...
อ้อ...ลืมแนะนำไกด์ของเรา ชื่อ “จังเกอร์ Janga” เป็นพี่ชายของกังการ์ พี่น้องคู่นี้ช่วยกันทำงานขยันมากๆ...
วันหลังๆจะยิ่งเห็นว่าเค้าน่ารักกันจริงๆ
วันที่สาม ยังไหวอยู่นะ....(Ghandruk-Chchomrong)
เช้านี้อากาศดี๊ดีหลังจากนอนฟังเสียงฝนตกมาทั้งคืน...ตื่นมานั่งทานอาหารเช้าพร้อมวิวของ Annapurna South ที่ดูเหมือนใกล้ๆ...
เช๊อะ...รอก่อนนะอีกไม่กี่วันฉันจะไปเคาะประตูบ้านเธอเลยคอยดู๊ววว...ฮึ่มๆๆ …
หลังทานอาหารเสร็จเริ่มออกสตาร์ทกันที่ 8 โมง จุดหมายคือหมู่บ้าน Chchomrong ที่ความสูง 2,040 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ซึ่งเป็นประตูสู่ Annapurna Base Camp ซึ่งไม่ว่าจะมาจากเส้นทางไหน
หากต้องการไปที่ Annapurna Base Camp แล้วละก็ จะต้องแวะพักที่หมู่บ้านนี้
เราโอ้เอ้กันพักใหญ่ก่อนค่อยๆเดินตามไกด์ไปห่างๆพร้อมกับแดดที่เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
เดินขึ้นๆลงๆเขาจนถึงเวลาพักทานข้าวเที่ยง ไกด์พาแวะบ้านของชาวบ้านก่อนข้ามสะพานไปภูเขาอีกลูก
รับออเดอร์เสร็จเจ้าของบ้านก็ลงไปเก็บผัดสดๆจากสวนมาทำกับข้าวให้เราทานกัน นั่งชมวิวเพลินๆชิลล์ๆกันไป
มองภูเขาฝั่งโน้นที่จะต้องเดินขึ้นช่วงบ่ายคงมีหอบกันบ้างล่ะว๊า
และก็เป็นไปตามคาดช่วงบ่ายแดดร้อนมากถึงมากที่สุด เดินขึ้นแล้วก็ขึ้นๆๆๆ อย่าถามว่าร้อนแค่ไหน...
คือเข้าใจคำว่าอาบเหงื่อต่างน้ำก็วันนี้แหล๊ะ T_T
เดินๆหยุดๆค่อยกระย่องกระแย่งเดินไต่เขาไปเรื่อยๆ พร้อมกับเมฆที่ค่อยเปลี่ยนเป็นสีเทาๆครึ้มๆ อีกแล้วสินะ
มาตรงเวลาเป๊ะเลยนะเราไม่ได้นัดกันสักหน่อย...
ไกด์บอกรีบๆเดินกันเถอะฝนมาแล้วพร้อมชี้นิ้วให้ดูนั่นไงใกล้ถึงแล้วที่เราจะพักคืนนี้ ไม่ไกลๆ ....เอาวะไม่ไกลๆ...
พอมีแรงเดินขึ้นมาอีกหน่อย ยังไม่ทันจะก้าวขาฝนก็ตกมาแล้วค่า มาทั้งฝนทั้งลูกเห็บเลยโว้ย หนาวชิบ...
พอเร่งเดินขาก็เป็นตะคริวสิคะ...สุดท้ายค่อยๆเดินไปเรื่อยๆก็ถึงเหมือนกันนิ...
ถึงที่พักแบ่งเวลากันอาบน้ำ หลังจากนั้นก็เป็นมหกรรมขายยาค่ะ มียาอะไรเอามาให้หมด
เรียกได้ว่าครึ่งนึงของกระเป๋านี่ยาล้วนๆ ในแต่ละมื้อทานยามากกว่าทานข้าวบอกเลย
จัดมาทั้ง Diamox ,พาราเซตามอล, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาแก้แพ้อากาศ, ยาช่วยย่อย, ยาแก้ท้องเสีย บลา บลา บลา
แต่ที่แน่ๆวันนี้ยังไหวอยู่นะ....
วันที่สี่...ร้อน..ฝน..หนาว..หิมะ...
เมื่อคืนตกลงกับไกด์ว่าวันนี้เราขอสตาร์ทจาก Chcomrong 7 โมงเช้า เพื่อถึงจุดหมายเร็วๆในช่วงบ่าย
เพราะมีบทเรียนแล้วว่าถ้าถึงที่พักหลังบ่าย 3เนี้ยะฝนมาแน่ๆ แถมด้วยลูกเห็บและหิมะบ้างประปราย
คือแดดมันก็ร้อนอยู่หรอกนะแต่พอนั่งพักในร่มนี่เย็นยะเยือกเลย
ทีนี้พอฝนตกมันก็จะยิ่งหน๊าวหนาวไง พอนึกออกมั้ย ทรมานสุดๆ วันนึงมี 3 ฤดู ทั้งร้อน ฝน หนาว
ก็ใส่เสื้อผ้าลำบากหน่อยๆ เพราะเช้าๆจะหนาว เดินไปสักพักเจอแดดก็จะร้อน เดินไปอีกนิดฝนตกงี้ เพลี๊ยเพลีย
เราแวะพักทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้าน Upper Sinuwa หลังจากนั่งมองหน้ากันไปมาก็เลยตกลงจะลองสั่งพิซซ่ามาทานกัน
เปลี่ยนรสชาดบ้างหลังจากทานไข่ต้ม มาม่าเกาหลีกันแทบทุกมื้อ
และก็เช่นเคยเราสั่งเมนูเผื่อให้ไกด์กับลูกหาบ 1 เมนูให้ทานรองท้องไปก่อน
เพราะกว่าเค้าจะได้ทานข้าวกันคือต้องรอจัดการของลูกทัวร์ให้เรียบร้อยก่อน เค้าก็หิวเหมือนเราแหล่ะ
เลยกลายเป็นว่าในทุกๆมื้อเราจะสั่งเผื่อเค้าทุกครั้ง เราอิ่มเค้าก็ต้องอิ่มด้วยแหละเนอะ
ช่วงบ่ายจาก Sinuwa ไป Bamboo ทางเดินง่ายๆสบายๆ ผ่านดงกุหลาบพันปีสวยๆ พอเห็นป่าไผ่ก็รู้แล้วว่าใกล้ถึง Bamboo แล้วละ
ซึ่งจาก Bamboo ไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึง Dovan ที่พักในคืนนี้
ถึงแบมบูประมาณบ่าย 2 นั่งพักเหนื่อยจิบน้ำทานขนมกันเพลินๆ จังเกอร์ (ไกด์)เดินมาบอกว่า
สงสัยคืนนี้ต้องนอนที่ Bamboo แทนแล้วล่ะเพราะที่ Dovan ที่พักเต็มไม่มีเหลือ (ที่ Dovan มีที่พักแค่ 3 ที่และเล็กมาก)
เอ้าพักก็พักเพราะวันนี้เพื่อนในกลุ่มไม่สบายด้วย พักที่นี่ก็พักพรุ่งนี้ค่อยออกกันแต่เช้าเหมือนเดิมละกันเนาะ
เพราะ my plan is no plan อยู่แล้ว...
วันที่ห้า....นี่สินะ Climbing ของจริง
เช้านี้นัดทานข้าวตอน 6 โมงครึ่งได้เจอกับก๊วนน้องคนไทย 3 คน ที่เพิ่งเดินลงมาจาก ABC
ก็เลยได้ถามเส้นทางกันบ้างพอให้มีแรงฮึด วันนี้เราจะเดินกันยาวๆ....
เดินผ่าน Dovan แวะทานข้าวกลางวันที่ Himalaya ไปต่อจนถึง Deurali ที่พักคืนนี้นั่นเอง