[Review] หนังสือเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่เราอยากบอกต่อ :)

ในเมื่อมันบรรยายด้วย 140 ตัวอักษรไม่พอ เราก็จะมาบรรยายในนี้ 5555555555555
จริงๆอ่านจบไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนคิดไปคิดมาอยู่หลายครั้งว่า อยากจะเขียนรีวิวให้คนอื่นๆได้อ่าน
เพราะหนังสือมันดีมากจริงๆ....แต่ก็ล้มเลิกไป ช่วงนี้ก็เห็นข่าว,เรื่องราวเกี่ยวกับ #โรคซึมเศร้า มากขึ้น
ก็เลยอยากจะแนะนำหนังสือเล่มนี้แบบจริงจัง!


สารภาพว่าอ่านชื่อหนังสือตอนแรก คิดว่าจะต้องเป็นหนังสือสารคดีท่องเที่ยวเทือกเขาหนาวเหน็บ อะไรทำนองนี้
แต่พออ่านที่มุมล่างปกหนังสือ บอกว่า 'หนังสือเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่มีคนบอกต่อมากที่สุด'
ในใจคือ เอ๊ะ! เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าหรอ? ยิ่งอ่านหลังปกหนังสือก็สนใจอยากอ่านมากขึ้น
สุดท้ายก็ตัดสินใจไปจ่ายเงิน เลือกเล่มนี้กลับบ้าน คิดแค่นี้จริงๆ

เราอ่านหนังสือเล่มนี้ในฐานะคนทั่วไปที่อยากรู้เกี่ยวกับโรคและไม่ได้มีคนใกล้ชิดเป็นโรคใดๆ
หนังสือเล่มนี้ทำให้เรารู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามากกว่าที่เราเคยรู้มาผ่านๆ เราเปิดใจ เปิดสมองกว้างสำหรับโรคนี้มากขึ้น
จากที่เข้าใจว่ามันเป็นแค่อาการชั่วครู่ เดี๋ยวคนที่เขาเป็นก็หาย
แต่ไม่เลย...ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนเขาต้องต่อสู้หนักมาก และอาการของโรคก็ติดอยู่กับเขาอยู่นานตั้ง 7 ปี
กว่าเขาจะผ่านมาถึงจุดที่ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือแบบนี้ได้ มันต้องเหนื่อยแค่ไหนนะ..?

เรื่องราวสารคดีชีวิตจาก 'ภูเขาน้ำแข็ง' ที่ผู้เขียนถ่ายทอดราวกับเดินทางไปยอดภูเขาน้ำแข็งจริงๆ
เราก็ยอมรับว่าอ่านแบบไม่วางเลยจริงๆ
จำได้ว่าอ่านไป 6-7 หน้าแรกๆก็ปาดน้ำตาตามกับความสัมพันธ์แม่ลูกที่แสนเจ็บปวด :'(
เรื่องราวหลังจากความสัมพันธ์แม่ลูก คือ เพื่อนซึมเศร้าที่มาเยือน (ผู้เขียน)
ทุกตอนของหนังสือทำให้เราดิ่งไปกับอารมณ์ ความรู้สึกของผู้เขียน อยากจะเข้าไปกอดปลอบจริงๆถ้าเป็นไปได้

หลายคนอาจจะรู้เกี่ยวกับโรคอยู่แล้วว่าเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง
หนังสือบอกว่า 'แต่ก็ยังมีปัจจัยรอบข้างอื่นๆอีกทั้งชีวภาพ สังคม และจิตใจ'
'ในประเทศไทยมีผู้ป่วยซึมเศร้าอยู่ประมาณสามล้านคน แต่มาพบจิตแพทย์ไม่ถึงแสนคน!!!!'

เราคงจะบอกให้ผู้ป่วยทุกคนไปพบจิตแพทย์ไม่ได้ แต่ทุกคนอ่านหนังสือเล่มนี้ได้
ถ้าผู้ป่วยเปิดใจ ทำความเข้าใจกับโรค เราเชื่อว่าทุกคนทำได้แบบผู้เขียนแน่นอน

อยากขอบคุณผู้เขียนที่เขียนหนังสือดีๆแบบนี้ขึ้นมา เล่มนี้ก็พิมครั้งที่ 6 เข้าไปแล้ว
ถ้ามีคนบอกต่อเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้แล้ว ก็บอกต่อๆไปอีกนะคะ
ต้องอ่านเองถึงจะรู้จริงๆ

เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคนปีนภูเขาน้ำแข็งขึ้นไปอยู่บนยอดแบบผู้เขียนค่ะ ยิ้ม

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่