"แอฟริกาใต้" พอพูดถึงประเทศนี้ จะนึกถึงอะไรกันเอ่ย ซึ่งคงจะหนีไม่พ้น คนดำ อันตราย ซาฟารี ใช่มั้ยคะ?
จริงๆแล้วต้องบอกก่อนว่าแอฟริกาใต้ไม่ได้อยู่ใน list ประเทศที่เราจะไปเลย
แต่!! ประเทศนี้มีดีกว่าที่เราคิดนะทุกคน เป็นประเทศที่ใครมาแล้ว จะต้องตกหลุมรัก โดยเฉพาะ "Cape Town"
อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะไปแอฟริกาใต้ แต่เพราะราคาตั๋วที่น่ารัก ทั้งๆที่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย แต่ก็แพ้ทาง

กดจองกันไปแบบงงๆ ไป-กลับ ด้วยราคา 16,800 บาท โดยสายการบิน Kenya airways แวะพักเมือง Nairobi ค่ะ
ซึ่งหลังจากจองตั๋วไปแล้วเราค่อนข้างหาข้อมูลมากพอสมควรเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย สถานที่ต่างๆว่าเมืองไหนตรงไหนปลอดภัย
ควรไปหรือไม่ควรไป หรือการแต่งกายและการปฎิบัติตัว เราไม่ใส่หรือนำของมีค่าติดตัวไปเลยค่ะ กล้องถ่ายรูปเราใส่กระเป๋าสะพายข้างตลอด จนทำให้บางทีก็ขี้เกียจหยิบออกมาถ่ายรูป ส่วนมากจะหยิบเอามาถ่ายเฉพาะจุดแลนด์มาร์ค เราค่อนข้างเซฟตัวเองพอสมควรค่ะ
ส่วนเวลาจะเดินไปไหนมาไหน เราแนะนำว่าผู้หญิงไม่ควรเดินไปคนเดียวนะคะ ควรมีคนเดินไปเป็นเพื่อน อย่างเวลาจะไปเข้าห้องน้ำ
เราจะให้เพื่อนผู้ชายยืนเฝ้าข้างหน้า ถ้าไม่ใช่จุดแลนด์มาร์คที่คนเยอะๆ เพราะค่อนข้างน่ากลัว
มาแอฟริกาใต้ ได้เปิดมุมมองหลายๆอย่างสำหรับเราค่อนข้างมาก จริงๆแล้วเค้าก็เหมือนๆเราเนี่ยแหละค่ะ ซึ่งทุกประเทศก็จะมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป ดังนั้นเราควรจะเซฟตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ
__________________________________________
พอเริ่มหาข้อมูล ก็มีเรื่องที่ยังคงงงๆว่าสรุปแล้วเราต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองมั้ย? จริงๆไปเที่ยวแอฟริกาใต้ไม่ต้องฉีดค่ะ แต่ถ้าบิน Kenya airway หรือ Ethiopian Airlines ต้องฉีด แต่บางคนก็บอกไม่ต้องฉีด แต่เราไม่อยากมีปัญหาตอนขากลับเข้าประเทศ เลยไปฉีดค่ะ ซึ่งพอขากลับเราถามเจ้าหน้าที่ ที่ตรวจสมุดเล่มเหลือง ก็บอกว่าจริงๆถ้าไปแอฟริกาใต้อย่างเดียวไม่ต้องฉีดค่ะ แต่เพื่อความสบายใจก็แล้วแต่เรา
เราฉีดวัคซีนไข้เหลืองที่สถานเสาวภา ตรงอังรีดูนังต์ค่ะ ต้องฉีดก่อนเดินทางอย่างน้อย 10 วัน นะคะ ถึงจะเห็นผล เข็มละ 1,200 บาท แต่เราฉีดไข้หวัดใหญ่ไปด้วยเลย ฉีดเสร็จก็จะรับสมุดเล่มเหลืองได้เลยค่ะ อยู่ได้ 10 ปี ถ้าไปประเทศที่มีความเสี่ยงก็ไม่ต้องฉีดซ้ำจ้า
__________________________________________
เพราะข้อมูลและรีวิวประเทศนี้ค่อนข้างน้อย ไม่ค่อยอัพเดพเท่าไหร่ เราคิดว่าเรามาเขียนรีวิวข้อมูลต่างๆ เผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจ จะได้แพลนตามหรือดูเป็นแบบได้ค่ะ เราต้องขอบคุณกระทู้นี้นะคะ
https://pantip.com/topic/36440625 เจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลดีมากๆค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 28 May - 12 June เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ซึ่งแอฟริกาใต้กำลังย่างเข้าสู่หน้าหนาว อุณหภูมิอยู่ที่ 1-20 องศา ส่วนค่าเงิน เราแลกเรท 2.5 THB = 1 ZAR ทริปนี้เราเช่ารถขับกันค่ะ (ต้องใช้ใบขับขี่สากลนะคะ ทำไม่ยากสะดวกรวดเร็วมากๆ ทำที่ขนส่งได้เลยค่ะ) เราใช้ TomTom(เช่าได้ที่บริษัทรถเช่า)ในการบอกทาง จริงๆ TomTom ค่อนข้างแม่นค่ะ แต่บางทีอาจรวนได้ ดังนั้นบางทีก็ต้องเปิด Google map คอยเช็คเส้นทางด้วย ตอนรับรถน้ำมันจะเต็มถัง ก่อนคืนรถที่สนามบินอย่าลืมเติมเต็มถังคืนให้เค้าด้วยนะคะ
อย่าลืมทำประกันเดินทางด้วยน้า เราทำมา 700 บาทค่ะ และค่าทิปร้านอาหารที่แอฟริกาใต้ต้องให้ 10% ของราคาอาหารทุกครั้งนะคะ ไม่ให้มีการทวงถามเลยนะแกร ส่วนที่พักเราพัก Guesthouse เป็นส่วนใหญ่ เราจองแบบเป็นห้องใหญ่หรือบ้านเป็นหลังแทนโรงแรมเพราะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 5 คน ผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 ค่ะ (ที่พักเราจองผ่าน booking.com)
ต้องบอกก่อนว่าด้วยระยะเวลาที่เราไป เนื้อหาและรูปภาพอาจจะเยอะ เราเลยจะแบ่งเป็น 2 Part
PART 1 : เราจะไปเมือง
Stellenbosch, Gansbaai, Franschhoek, Cape town ค่ะ ซึ่งอยู่ทาง Western cape ของแอฟริกาใต้
PART 2 : เราจะไปเมือง
Hoedspruit, Glodern Green, Ledig, Pretoria ค่ะ ซึ่งอยู่ทาง North ของแอฟริกาใต้
__________________________________________
PART 1
Day 1 [29 May] :
Stellenbosch
Day 2 - Day 4 [30 May - 1 June] :
Gansbaai
Day 4 [1 June] :
Franschhoek
Day 5 - Day 7 [2 June - 4 June] :
Cape Town

__________________________________________
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึงค่า ตื่นเต้นสุดๆ เตรียมของจัดกระเป๋าเรียบร้อย แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทางสายการบินได้เมลล์มาตอนเช้าว่าเครื่องมีปัญหา ทำการบินไม่ได้ ให้เราเปลี่ยนสายการบิน ข้อเสนอมี 2 สายคือ Qatar airways กับ Emirate airlines เราเลือก Qatar ไปค่ะ แต่เวลาก็เปลี่ยนด้วยนะนายจ๋า จากบิน 00:30 น. ก็เปลี่ยนเป็น 21:15 น. ดังนั้นคือเราต้องอยู่สนามบินตั้งแต่ 5 โมง!!
อือฮื้อ!! รีบตาแตกเลยค่า เพราะเราติดธุระที่ทองหล่อ (เลื่อนไม่ได้) กว่าจะเสร็จก็บ่าย 3 แล้ว พอเสร็จก็รีบบึ่งมาบางบ่อเลยค่ะ

อาบน้ำเตรียมตัวไปสนามบิน รนรานไปหมด ณ จุดๆนั้น แต่ก็ผ่านมันไปได้ 555 5 ดังนั้นจริงๆวันที่เรามีบิน เราควรทำตัวให้ว่าง สแตนบายรอบินชิวๆนะคะ เพราะอาจจะเกิดเหตุการ์ไม่คาดคิดได้
__________________________________________
28 May : Bangkok - Doha - Johannesburg

เราบิน 21:15 น. จากสุวรรณภูมิค่ะ ถึงโดฮา 00:15 น. แวะพักเครื่อง จริงๆไฟท์เราต้องบินต่อ 02:20 น. แต่เกิดการ Delay ได้บินอีกที ตี 3 กว่าๆ สนามบินฮาหมัดกว้างใหญ่น่าเดินสุดๆค่ะ แต่ด้วยความเหนื่อยและความง่วง ก็หาที่นั่งแล้วงีบหลับค่ะ 5555 5 แต่สลับกันหลับนะคะ กลัวของหาย และเผื่อเค้าเรียกขึ้นเครื่องหรือเปลี่ยน Gate จะได้รู้ค่ะ
__________________________________________
ใช้เวลาเดินทางจาก Doha มาถึง Johannesburg 8 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ตม.ไม่ถามอะไรเลย มองแต่หน้าแค่นั้น

ร้านขนมข้างๆเคาน์เตอร์ Check in ของ Mango Airlines ค่ะ น่าซื้อทั้งนั้นเลย งือออ

เดินมา Check in ต่อเพื่อไป Cape Town ค่ะ เราบินต่อจาก Johanesburg ไป Cape Town ด้วยสายการบิน Mango Airlines ระยะเวลาเกือบ 3 ชม. (ราคา 4,500 บาท ไป - กลับนะคะ) เรื่องซิม internet เราใช้ Vodacom ซื้อที่สนามบินได้เลยค่ะ

__________________________________________
Day 1 [29 MAY] :
Stellenbosch
ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 24 ชม.พอดี จาก Bangkok ถึง Cape town T-T พอถึงสนามบิน ก็เดินตรงมาที่รถเช่าเลยค่ะ เราจอง Hertz จากเว็บไซด์มาก่อน ระยะเวลา 1 อาทิตย์ 15,000 บาท ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารสนามบิน ต้องเดินรอดอุโมงค์มา มีหลายบริษัทให้เลือกสรรเลยค่ะ

ได้รถเรียบร้อยก็ขับไปเมือง
Stellenbosch กันค่า

เมืองนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Cape Town เลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที เพราะเราแพลนเมืองนี้เป็นเมืองแรกของทริปนี้ แล้ววนเป็นวงกลมไปจบที่ Cape Town 3 คืนสุดท้ายก่อนไป Johannesburg ค่ะ
Stellenbosch เป็นเมืองแห่งต้นโอ๊คและเป็นเมืองไร่ไวน์ที่สำคัญเมืองหนึ่งของแอฟริกาใต้เลยนะคะ เราพักที่ The Country Guesthouse (เราไม่ได้ถ่ายที่พักมาเลย) ซึ่งส่วนมากที่พักเมืองนี้จะเป็นไร่ไวน์แล้วมีที่พัก และร้านอาหารในตัวค่ะ กว่าจะถึงที่พักก็เวลาอาหารเย็นพอดี เราเลยทานตรงที่พัก ร้าน 96 Winery Road Restaurant เดินมาได้เลย (ควรจองมาก่อนนะคะ คนค่อนข้างเยอะ รสชาติอาหารดีค่ะ)



__________________________________________
Day 2 [30 May] :
Gansbaai
ส่วนมากถ้านอน Guesthouse เราจะจองแบบรวม breakfast ค่ะ เพราะค่อนข้างสะดวก หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ขับรถไปยังเมือง
Gansbaai กันเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.

ซึ่งข้อดีของการเช่ารถขับเอง คือ เราสามารถแวะพักตามจุดต่างๆหรือจอดถ่ายรูปวิวสวยๆข้างทางได้ค่ะ

ระหว่างทางก็เจอเจ้าตัวนี้ค่ะ "Baboon" (บาบูนค่อนข้างดุนะคะ เค้าสามารถเข้ามากระชากอาหารในมือเราและทำร้ายเราได้นะคะ ดังนั้นข้างทางจะมีป้ายเตือนให้ระวังบาบูน หรือ ห้ามให้อาหารบาบูนค่ะ)



ถึง
Gansbaai แล้วค่า เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ และค่อนข้างมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการดำน้ำดูฉลามกับวาฬสำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ แต่จริงๆในแอฟริกาใต้ก็ยังมีอีกหลายที่นะคะ ที่สามารถทำกิจกรรมนี้ได้

เราพักที่ White Shark Guesthouse ค่ะ มาถึงบ่ายๆพอดี ตอนแรกเราแพลนจะไปซื้อทัวร์
Shark Tours คือการนั่งเรือดูฉลาม วาฬ แมวน้ำ เพนกวิน และโลมาค่ะ (เรื่องทัวร์เราสามารถติดต่อสอบถามผ่านทางที่พักได้เลยนะคะ) ซึ่งที่พักแนะนำให้ดูพรุ่งนี้เช้าแทนค่ะ เพราะบรรยากาศช่วงเช้าจะดีกว่า (Shark tours มีรอบไม่เยอะต่อวันนะคะ ควรสอบถามข้อมูลก่อน ไม่งั้นอาจจะเสียเวลาได้ค่ะ)

ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วค่า ร้านอาหารที่เราไป ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เราถามจากที่พัก ให้เค้าแนะนำ ซึ่งไม่เคยพลาด อร่อยทุกร้าน วันนี้เราไปร้าน Blue Goose ค่ะ ร้านจะเปิด 6 โมงเย็น




~ WAKA WAKA....."SOUTH AFRICA" #1 ขับรถตะลุยแอฟริกาใต้ ไม่ยากอย่างที่คิด
จริงๆแล้วต้องบอกก่อนว่าแอฟริกาใต้ไม่ได้อยู่ใน list ประเทศที่เราจะไปเลย
แต่!! ประเทศนี้มีดีกว่าที่เราคิดนะทุกคน เป็นประเทศที่ใครมาแล้ว จะต้องตกหลุมรัก โดยเฉพาะ "Cape Town"
อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะไปแอฟริกาใต้ แต่เพราะราคาตั๋วที่น่ารัก ทั้งๆที่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย แต่ก็แพ้ทาง
ซึ่งหลังจากจองตั๋วไปแล้วเราค่อนข้างหาข้อมูลมากพอสมควรเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย สถานที่ต่างๆว่าเมืองไหนตรงไหนปลอดภัย
ควรไปหรือไม่ควรไป หรือการแต่งกายและการปฎิบัติตัว เราไม่ใส่หรือนำของมีค่าติดตัวไปเลยค่ะ กล้องถ่ายรูปเราใส่กระเป๋าสะพายข้างตลอด จนทำให้บางทีก็ขี้เกียจหยิบออกมาถ่ายรูป ส่วนมากจะหยิบเอามาถ่ายเฉพาะจุดแลนด์มาร์ค เราค่อนข้างเซฟตัวเองพอสมควรค่ะ
ส่วนเวลาจะเดินไปไหนมาไหน เราแนะนำว่าผู้หญิงไม่ควรเดินไปคนเดียวนะคะ ควรมีคนเดินไปเป็นเพื่อน อย่างเวลาจะไปเข้าห้องน้ำ
เราจะให้เพื่อนผู้ชายยืนเฝ้าข้างหน้า ถ้าไม่ใช่จุดแลนด์มาร์คที่คนเยอะๆ เพราะค่อนข้างน่ากลัว
มาแอฟริกาใต้ ได้เปิดมุมมองหลายๆอย่างสำหรับเราค่อนข้างมาก จริงๆแล้วเค้าก็เหมือนๆเราเนี่ยแหละค่ะ ซึ่งทุกประเทศก็จะมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป ดังนั้นเราควรจะเซฟตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ
__________________________________________
พอเริ่มหาข้อมูล ก็มีเรื่องที่ยังคงงงๆว่าสรุปแล้วเราต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองมั้ย? จริงๆไปเที่ยวแอฟริกาใต้ไม่ต้องฉีดค่ะ แต่ถ้าบิน Kenya airway หรือ Ethiopian Airlines ต้องฉีด แต่บางคนก็บอกไม่ต้องฉีด แต่เราไม่อยากมีปัญหาตอนขากลับเข้าประเทศ เลยไปฉีดค่ะ ซึ่งพอขากลับเราถามเจ้าหน้าที่ ที่ตรวจสมุดเล่มเหลือง ก็บอกว่าจริงๆถ้าไปแอฟริกาใต้อย่างเดียวไม่ต้องฉีดค่ะ แต่เพื่อความสบายใจก็แล้วแต่เรา
เราฉีดวัคซีนไข้เหลืองที่สถานเสาวภา ตรงอังรีดูนังต์ค่ะ ต้องฉีดก่อนเดินทางอย่างน้อย 10 วัน นะคะ ถึงจะเห็นผล เข็มละ 1,200 บาท แต่เราฉีดไข้หวัดใหญ่ไปด้วยเลย ฉีดเสร็จก็จะรับสมุดเล่มเหลืองได้เลยค่ะ อยู่ได้ 10 ปี ถ้าไปประเทศที่มีความเสี่ยงก็ไม่ต้องฉีดซ้ำจ้า
__________________________________________
เพราะข้อมูลและรีวิวประเทศนี้ค่อนข้างน้อย ไม่ค่อยอัพเดพเท่าไหร่ เราคิดว่าเรามาเขียนรีวิวข้อมูลต่างๆ เผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจ จะได้แพลนตามหรือดูเป็นแบบได้ค่ะ เราต้องขอบคุณกระทู้นี้นะคะ https://pantip.com/topic/36440625 เจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลดีมากๆค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 28 May - 12 June เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ซึ่งแอฟริกาใต้กำลังย่างเข้าสู่หน้าหนาว อุณหภูมิอยู่ที่ 1-20 องศา ส่วนค่าเงิน เราแลกเรท 2.5 THB = 1 ZAR ทริปนี้เราเช่ารถขับกันค่ะ (ต้องใช้ใบขับขี่สากลนะคะ ทำไม่ยากสะดวกรวดเร็วมากๆ ทำที่ขนส่งได้เลยค่ะ) เราใช้ TomTom(เช่าได้ที่บริษัทรถเช่า)ในการบอกทาง จริงๆ TomTom ค่อนข้างแม่นค่ะ แต่บางทีอาจรวนได้ ดังนั้นบางทีก็ต้องเปิด Google map คอยเช็คเส้นทางด้วย ตอนรับรถน้ำมันจะเต็มถัง ก่อนคืนรถที่สนามบินอย่าลืมเติมเต็มถังคืนให้เค้าด้วยนะคะ
อย่าลืมทำประกันเดินทางด้วยน้า เราทำมา 700 บาทค่ะ และค่าทิปร้านอาหารที่แอฟริกาใต้ต้องให้ 10% ของราคาอาหารทุกครั้งนะคะ ไม่ให้มีการทวงถามเลยนะแกร ส่วนที่พักเราพัก Guesthouse เป็นส่วนใหญ่ เราจองแบบเป็นห้องใหญ่หรือบ้านเป็นหลังแทนโรงแรมเพราะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 5 คน ผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 ค่ะ (ที่พักเราจองผ่าน booking.com)
ต้องบอกก่อนว่าด้วยระยะเวลาที่เราไป เนื้อหาและรูปภาพอาจจะเยอะ เราเลยจะแบ่งเป็น 2 Part
PART 1 : เราจะไปเมือง Stellenbosch, Gansbaai, Franschhoek, Cape town ค่ะ ซึ่งอยู่ทาง Western cape ของแอฟริกาใต้
PART 2 : เราจะไปเมือง Hoedspruit, Glodern Green, Ledig, Pretoria ค่ะ ซึ่งอยู่ทาง North ของแอฟริกาใต้
__________________________________________
PART 1
Day 1 [29 May] : Stellenbosch
Day 2 - Day 4 [30 May - 1 June] : Gansbaai
Day 4 [1 June] : Franschhoek
Day 5 - Day 7 [2 June - 4 June] : Cape Town
__________________________________________
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึงค่า ตื่นเต้นสุดๆ เตรียมของจัดกระเป๋าเรียบร้อย แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทางสายการบินได้เมลล์มาตอนเช้าว่าเครื่องมีปัญหา ทำการบินไม่ได้ ให้เราเปลี่ยนสายการบิน ข้อเสนอมี 2 สายคือ Qatar airways กับ Emirate airlines เราเลือก Qatar ไปค่ะ แต่เวลาก็เปลี่ยนด้วยนะนายจ๋า จากบิน 00:30 น. ก็เปลี่ยนเป็น 21:15 น. ดังนั้นคือเราต้องอยู่สนามบินตั้งแต่ 5 โมง!!
อือฮื้อ!! รีบตาแตกเลยค่า เพราะเราติดธุระที่ทองหล่อ (เลื่อนไม่ได้) กว่าจะเสร็จก็บ่าย 3 แล้ว พอเสร็จก็รีบบึ่งมาบางบ่อเลยค่ะ
__________________________________________
28 May : Bangkok - Doha - Johannesburg
เราบิน 21:15 น. จากสุวรรณภูมิค่ะ ถึงโดฮา 00:15 น. แวะพักเครื่อง จริงๆไฟท์เราต้องบินต่อ 02:20 น. แต่เกิดการ Delay ได้บินอีกที ตี 3 กว่าๆ สนามบินฮาหมัดกว้างใหญ่น่าเดินสุดๆค่ะ แต่ด้วยความเหนื่อยและความง่วง ก็หาที่นั่งแล้วงีบหลับค่ะ 5555 5 แต่สลับกันหลับนะคะ กลัวของหาย และเผื่อเค้าเรียกขึ้นเครื่องหรือเปลี่ยน Gate จะได้รู้ค่ะ
__________________________________________
ใช้เวลาเดินทางจาก Doha มาถึง Johannesburg 8 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ตม.ไม่ถามอะไรเลย มองแต่หน้าแค่นั้น
เดินมา Check in ต่อเพื่อไป Cape Town ค่ะ เราบินต่อจาก Johanesburg ไป Cape Town ด้วยสายการบิน Mango Airlines ระยะเวลาเกือบ 3 ชม. (ราคา 4,500 บาท ไป - กลับนะคะ) เรื่องซิม internet เราใช้ Vodacom ซื้อที่สนามบินได้เลยค่ะ
Day 1 [29 MAY] : Stellenbosch
ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 24 ชม.พอดี จาก Bangkok ถึง Cape town T-T พอถึงสนามบิน ก็เดินตรงมาที่รถเช่าเลยค่ะ เราจอง Hertz จากเว็บไซด์มาก่อน ระยะเวลา 1 อาทิตย์ 15,000 บาท ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารสนามบิน ต้องเดินรอดอุโมงค์มา มีหลายบริษัทให้เลือกสรรเลยค่ะ
ได้รถเรียบร้อยก็ขับไปเมือง Stellenbosch กันค่า
Day 2 [30 May] : Gansbaai
ส่วนมากถ้านอน Guesthouse เราจะจองแบบรวม breakfast ค่ะ เพราะค่อนข้างสะดวก หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ขับรถไปยังเมือง Gansbaai กันเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.