Cape Town เป็นเมืองที่เราอยากไปสักครั้งในชีวิต ภาพในตอนแรกที่เราคิด กับการไปเที่ยวจริงๆ ต่างกันลิบลับเลยค่ะ มันดีกว่าที่คิด 300% ไปเลย
(เรามีญาติทำงานอยู่ที่นั่นมา 30 ปี จนกลายเป็นคน Local)
2 สัปดาห์กับการมาอยู่เคปทาวน์ เป็นทริปที่ครบรส คนท้องถิ่นนิยามว่าอากาศแต่ละวันแปรปรวนเหมือนอารมณ์ผู้หญิง ทั้งร้อน หนาว และสนุก แหล่งท่องเที่ยวเยอะ อุดมสมบูรณ์ทั้งทะเล ภูเขา สัตว์และพืชพันธุ์ เต็มไปด้วยความรู้อัดแน่นจนสมองเบลอไปเลย
ที่นี่มีชาวยุโรปมาอยู่และมาเที่ยวเยอะ ไปไหนจะเจอแต่คนขาวหัวทอง บ้านเมืองโซนคนขาวสะอาดเพื่อเอื้อต่อการให้เด็กถอดรองเท้าเดินเพื่อการเรียนรู้
เรื่องโควิดคนที่นี่ไม่กลัว ถอดหน้ากันกากหมดแล้ว สถานที่ส่วนมากจะเป็นที่โปร่งและอากาศไม่ชื้น ไม่แอร์อัด
บ้านเมืองจะเป็นสไตล์ยุโรปเพราะคนยุโรปย้ายถิ่นฐานมาอยู่กันเยอะเป็นเจ้าของธุรกิจและเรื่องของมารยาทก็จะเป็นไปตามคนยุโรป
คนดำที่นี่มีหลากหลาย ทั้งเป็นเจ้าของธุรกิจ นักท่องเที่ยวพนักงานที่นี่เป็นคนดำซะส่วนใหญ่ คนดำจะมีโซนสำหรับที่อยู่ของเขาซึ่งจะมีกฎระเบียบให้คนขาวก็ต้องระวังการเข้าไปในท้องถิ่นของคนดำเช่นกัน
ส่วนความรู้ที่เจาะลึกไปในแต่ละอย่างนั้นมันมีเยอะมากซึ่งเราก็ทั้งจำได้แหละก็จำไม่ได้ ที่นี่เหมาะสมกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ในหลากหลายด้าน
อยากอยู่ต่ออีกสักเดือน เพราะยังไม่ได้เล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ซึ่ง ที่นี่มีครบทุกสายและจริงจังเอาเรื่อง
Cape Town สมกับเป็นเมืองหนึ่งที่นักเที่ยวต้องมาให้ได้จริงๆ
แพลน Cape Town วันที่ 28 ต.ค. - 11 พ.ย. 65 โดยสายการบิน Qatar Airways
จากไทยไปโดฮา 7 ชม. ทรานซิส 3 ชม. เครื่องดีเลย์ 2 ชม. (เนื่องจากบินตรงไป Cape Town เลย ทำให้สายการบินมีน้อย ส่วนมากจะไปลงที่ johannesburg ก่อน) และจาก Doha ไป Cape Town 9 ชม.
การแลกเงินเป็น Rands หรือ ZAR. สัญลักษณ์คือ R นั้นไม่มีสกุลนี้ที่ Super rich ที่ไทย แต่สามารถพกเงินไทยไปแลกที่ Cape Town ได้เลย
หรือถ้าใครกังวลเรื่องอัตตราการแลกเงินให้แลก USD มาก่อนก็ได้ค่ะ
Day0 - เราไปถึง Cape Town เวลาประมานบ่าย 2 เก็บของพักนิดหน่อยบ้านคุณน้า ไปแลกตังค์และช้อปปิ้งที่ Canal walk
หลังบ้านคุณน้าเห็นวิวพระอาทิตย์ตกตรง Table Mountain ชัดเจน

Day1. Table Mountain, V&A Waterfront
ค่าตั๋ว table mountain R396 หรือ 790บาทวันแรกก็พลาดเลย เราเช็คสภาพอากาศท้องถิ่น และเช็คว่า Table Mountain เปิด แต่เนื่องด้วยมันเป็นภูเขาที่สูง พอขึ้นไปดันเจอเมฆปกคลุม เลยต้องเลื่อนไปวันที่เห็นภูเขาไม่มีเมฆสักก้อนจริงๆ
pic1 นี่คือสภาพภูเขาก่อนขึ้น

pic2 เห็นถึงความหมอกหนาแล้วชีวิต
pic3 นี่คือสภาพด้านบน เราเดินไปรอบๆได้ไม่นาน ละอองฝนก็ตกลงมา เลยตัดสินใจว่า ค่อยมาวันอื่น

V&A Waterfront เรียกว่าเป็นแหลงศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว มีทั้งห้าง ร้านอาหาร จุดรวมพลต่างๆ เหมาะแก่การมาพักสำหรับคนที่ไม่ได้เช่ารถ เพราะสะดวกต่อการกิน การเดินทางไปต่อที่อื่น ที่นี่มีทัวร์สำหรับพาเที่ยวหลากหลาย



Cape Town South Africa ฉบับคนท้องถิ่นนำเที่ยว
(เรามีญาติทำงานอยู่ที่นั่นมา 30 ปี จนกลายเป็นคน Local)
2 สัปดาห์กับการมาอยู่เคปทาวน์ เป็นทริปที่ครบรส คนท้องถิ่นนิยามว่าอากาศแต่ละวันแปรปรวนเหมือนอารมณ์ผู้หญิง ทั้งร้อน หนาว และสนุก แหล่งท่องเที่ยวเยอะ อุดมสมบูรณ์ทั้งทะเล ภูเขา สัตว์และพืชพันธุ์ เต็มไปด้วยความรู้อัดแน่นจนสมองเบลอไปเลย
ที่นี่มีชาวยุโรปมาอยู่และมาเที่ยวเยอะ ไปไหนจะเจอแต่คนขาวหัวทอง บ้านเมืองโซนคนขาวสะอาดเพื่อเอื้อต่อการให้เด็กถอดรองเท้าเดินเพื่อการเรียนรู้
เรื่องโควิดคนที่นี่ไม่กลัว ถอดหน้ากันกากหมดแล้ว สถานที่ส่วนมากจะเป็นที่โปร่งและอากาศไม่ชื้น ไม่แอร์อัด
บ้านเมืองจะเป็นสไตล์ยุโรปเพราะคนยุโรปย้ายถิ่นฐานมาอยู่กันเยอะเป็นเจ้าของธุรกิจและเรื่องของมารยาทก็จะเป็นไปตามคนยุโรป
คนดำที่นี่มีหลากหลาย ทั้งเป็นเจ้าของธุรกิจ นักท่องเที่ยวพนักงานที่นี่เป็นคนดำซะส่วนใหญ่ คนดำจะมีโซนสำหรับที่อยู่ของเขาซึ่งจะมีกฎระเบียบให้คนขาวก็ต้องระวังการเข้าไปในท้องถิ่นของคนดำเช่นกัน
ส่วนความรู้ที่เจาะลึกไปในแต่ละอย่างนั้นมันมีเยอะมากซึ่งเราก็ทั้งจำได้แหละก็จำไม่ได้ ที่นี่เหมาะสมกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ในหลากหลายด้าน
อยากอยู่ต่ออีกสักเดือน เพราะยังไม่ได้เล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ซึ่ง ที่นี่มีครบทุกสายและจริงจังเอาเรื่อง
Cape Town สมกับเป็นเมืองหนึ่งที่นักเที่ยวต้องมาให้ได้จริงๆ
แพลน Cape Town วันที่ 28 ต.ค. - 11 พ.ย. 65 โดยสายการบิน Qatar Airways
จากไทยไปโดฮา 7 ชม. ทรานซิส 3 ชม. เครื่องดีเลย์ 2 ชม. (เนื่องจากบินตรงไป Cape Town เลย ทำให้สายการบินมีน้อย ส่วนมากจะไปลงที่ johannesburg ก่อน) และจาก Doha ไป Cape Town 9 ชม.
การแลกเงินเป็น Rands หรือ ZAR. สัญลักษณ์คือ R นั้นไม่มีสกุลนี้ที่ Super rich ที่ไทย แต่สามารถพกเงินไทยไปแลกที่ Cape Town ได้เลย
หรือถ้าใครกังวลเรื่องอัตตราการแลกเงินให้แลก USD มาก่อนก็ได้ค่ะ
Day0 - เราไปถึง Cape Town เวลาประมานบ่าย 2 เก็บของพักนิดหน่อยบ้านคุณน้า ไปแลกตังค์และช้อปปิ้งที่ Canal walk
หลังบ้านคุณน้าเห็นวิวพระอาทิตย์ตกตรง Table Mountain ชัดเจน
Day1. Table Mountain, V&A Waterfront
ค่าตั๋ว table mountain R396 หรือ 790บาทวันแรกก็พลาดเลย เราเช็คสภาพอากาศท้องถิ่น และเช็คว่า Table Mountain เปิด แต่เนื่องด้วยมันเป็นภูเขาที่สูง พอขึ้นไปดันเจอเมฆปกคลุม เลยต้องเลื่อนไปวันที่เห็นภูเขาไม่มีเมฆสักก้อนจริงๆ
pic1 นี่คือสภาพภูเขาก่อนขึ้น
pic2 เห็นถึงความหมอกหนาแล้วชีวิต
pic3 นี่คือสภาพด้านบน เราเดินไปรอบๆได้ไม่นาน ละอองฝนก็ตกลงมา เลยตัดสินใจว่า ค่อยมาวันอื่น
V&A Waterfront เรียกว่าเป็นแหลงศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว มีทั้งห้าง ร้านอาหาร จุดรวมพลต่างๆ เหมาะแก่การมาพักสำหรับคนที่ไม่ได้เช่ารถ เพราะสะดวกต่อการกิน การเดินทางไปต่อที่อื่น ที่นี่มีทัวร์สำหรับพาเที่ยวหลากหลาย