
บางคณฑี หรือ บางคนที เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม เดิมชื่อ อำเภอสี่หมื่น
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อในปี พ.ศ. 2457 มาเป็นชื่อ บางคณฑี แต่ปัจจุบันเหมือนเปลี่ยนตัวสะกดเป็น บางคนที อันนี้ไม่ทราบที่มา
วันหยุดที่ผ่านมา เพื่อนผมชวนไปนอนดูหิ่งห้อยกัน ผมก็ เอ่อ...อัมพวามันยังเหลือเหรอว่ะเพื่อน
เพื่อนผมตอบ ป่าว บางคณฑี..เว้ย เคยไปรึปล่าว? ผมนี่เอ๋อไปพักนึง เคยได้ยินนะ แต่ไม่เคยไปพักหรือไปเที่ยว
ผมนี่ตกลงตอบรับไปนะ แต่คำถามมากมายพอสมควร มันมีที่พักด้วยเหรอ ที่เที่ยวละ ที่กินล่ะ
แม่กลอง อัมพวา ดำเนินสะดวกนี่ ผมนึกออกเพราะไปบ้าง แต่บางคณฑีนี่ว่างเปล่าเลยครับ
และแล้ววันเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น จิบกาแฟรอกัน ก่อนมุ่งหน้าสู่บางคณฑี

ผมขอเอาแผนที่จากเว็ปไซต์ของที่พักมานะครับ ผมอธิบายไม่ถูกจริงๆ


แล้วก็มาถึง คือ มันอยู่ในสวนจริงๆ ไม่ได้อยู่ริมถนนใหญ่ที่จะหาง่ายๆแบบที่ผมคิดไว้

เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมคลองอันเงียบสงบ ท่ามกลางสวนผลไม้ของ อ.บางคณฑี จ.สมุทรสงคราม
เน้นแนวคิดเชิงอนุรักษ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รีสอร์ทถูกออกแบบใน สไตล์ โมเดิร์น-โฟล์ก
ทำให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอันร่มรื่นเขียวชะอุ่ม รายล้อมด้วยธรรมชาติจากต้นไม้และผลไม้นานาชนิด
พร้อมสัมผัสวิถิชีวิตเรียบง่ายจากชาวบ้านสองฝั่งคลอง และบริการอันแสนอบอุ่นเป็นกันเองแบบครอบครัว
ซึ่งบรรยากาศเรียบง่ายที่เป็นแนวคิดหลักในการวางธีมของรีสอร์ตแห่งนี้ ทำให้แขกที่มาเข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย
สบายๆกับวันพักผ่อนได้เต็มที่ ไม่วุ่นวาย ตัดขาดจากโลกอันวุ่นวายภายนอก
ถ้าอยากออกไปข้างนอกบ้างก็เพียงหยิบจักรยานที่มีเตรียมให้ไว้ขี่ไปซื้อของ ทานข้าว ชมเมือง ไหว้พระ ได้หมดเลย ซึ่งยอดเยี่ยมมากๆ
ราคาก็สบายๆเช่นกัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในที่พักครบครัน พร้อมห้องอาบน้ำแบบเปิดโล่งด้านบน
พอตกกลางคืนสักสองทุ่มก็รอชมหิ่งห้อยได้เลย ระยิบระยับ เพลินตาดีต่อใจมากมายครับ ไม่ต้องลำบากนั่งเรือ
นี่แค่ยืนบนระเบียงชั้นสองก็อยู่ห่างจากหิ่งห้อยไม่ถึงฟุต
ทางเข้าก็ลึกนิดนึง เป็นร่องสวน ตลอดทาง สวยดีครับ ดูร่มรื่นมากๆ



มาถึงก็สำรวจเล็กน้อย บรรยากาศมันเงียบสงบตัดขาดจากโลกภายนอกสุดๆครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ





แล้วก็มาสะดุดตากับต้นนี้ครับ ออกผลสวยใหญ่เต็มเลย

พี่โอ๊ตเจ้าของรีสอร์ตก็ถามพวกผมว่าอยากทานมั้ย เพิ่งเก็บมาสดๆเลย ที่นี่ปลูกแบบไม่ใส่ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงนะ
แหม่...ของแบบนี้ตักบาตรอย่าถามพระ พี่โอ๊ตก็จัดการเอาถ้วยดอกเกลือมาวางแล้วก็หั่นกันสดๆเลย ฉ่ำมากๆครับ

ระหว่างรอก็คุยกันไปเรื่อย พื้นที่นี้มันแปลกใหม่สำหรับผมนะ คุยไปคอแห้งมีน้ำไว้ให้แขกมาพัก น้ำดอกดาหลา กับ น้ำตะไคร้
น้ำตระไคร้ข้ามเลยไม่ต้องพูดถึง น้ำดอกดาหลาคือ เอาดอกดาหลาลงต้ม กรองใบ ใส่น้ำตาลกรวดเล็กน้อย ชมพูหวานใสเลย

และแล้วก็ขึ้นไปสำรวจห้องนอนกันครับ
ผมเลือกแบบดีลักซ์ 2 ห้อง ถือว่าออกแบบได้ดี ใช้งานง่าย ถูกอย่างดูเรียบง่าย



ในส่วนห้องน้ำก็ แยกส่วนอาบกับส่วนธุรอื่นนะครับ ส่วนอาบหลังคาสูงและเปิดโล่ง อโลฮ่ามาก


สำรวจกันพอท้วมๆ แล้วก็เก็บของลงมาข้างล่าง ไปหาของกินกันดีกว่า
พี่เจ้าของรีสอร์ตแนะนำว่าไม่ต้องเอารถยนต์ไป แกมีจักรยานให้ยืม อธิบายทางไปชิลยามบ่ายๆ
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ต่อด้วย ตลาดนัดด้านหน้าให้ซื้อกับข้าว กับแกล้ม เอาให้เต็มปริบไปเลย
เพราะผมพกเบียร์มาเกือบลังกับไวน์อีก 2 ขวด จัดไปซิครับ
กริ๊ง ..กริ๊ง...อ้ายคนจนจำต้องทนปั่นรถถีบ จะไปถีบอีน้องคนงาม
แล้วก็ไม่ไกลครับถึง อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด (Nativity of Our Lady Cathedral) ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม
เป็นอาสนวิหารประจำเขตมิสซังราชบุรี ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์
ถือเป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ชนนิกายโรมันคาธอลิกที่อาศัยอยู่โดยรอบ
สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 (พ.ศ. 2433) เก่าแก่ที่สุดของชาวคาธอลิกในประเทศไทย
โดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี
เป็นสถาปัตยกรรมกอทิกที่สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ
ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีชนิด Stain Glass จากฝรั่งเศส



อย่ารอช้าอยู่ในเขตศักดิ์สิทธิ์นานมันร้อน วูบวาบ.... มาตลาดนัดดีกว่า อันนี้ร้อนแดด ร้อนจริง ร้อนจัง เต่าเปียกกันเลยทีเดียว
แต่ของอร่อยรออยู่ข้างหน้า ลุยครับ อย่ารอช้า


ไก่ดูแน่นมากกก แน่นจริงมั้ยเดี๋ยวรู้กัน

ร้านนี้ก็ดี มีกุ้งฝอยทอด ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์มีแบบเน่ากับไม่เน่าให้เลือกด้วย


จ่ายตลาดด้วยความรวดเร็ว กลับมาเตรียมตั้งวงกันดีกว่า เปิดกันเบาๆแต่พรีเมี่ยมไปก่อนเลย

แล้วพี่เจ้าของรีสอร์ตก็พาไปชมจุดที่คืนนี้จะยืนดูหิ่งห้อยกัน ในเวลาสองทุ่ม ดูแบบ 4 D ระยะฟุตเดียวบินเฉี่ยวหน้ากันเลย
คือผมเคยดูหิ่งห้อยนะ แต่ใกล้ขนาดระยะฟุตเดียวเนี่ย ไม่เคยครับ
เป็นพื้นที่ชั้นลอยกลางรีสอร์ตเลย แกบอกเอาไวน์มานั่งจิบบนนี้ดูหิ่งห้อยชมดาว รับประกันโคตรสุข



ของพร้อม เพลงพร้อม เตรียม...ลุย คือวันที่ผมไปนี่ ทั้งรีสอร์ตมีแต่พวกผมนี่ละครับ โชคดีมากๆ
พี่เค้าบอกว่าอาทิตย์ก่อนเต็ม อาทิตย์หน้านี้ก็เต็ม มีแต่อาทิตย์ที่ผมไปนี่ละ ว่าง


แกะกับแกล้มทานกันรอเวลาหิ่งห้อยมา พี่เค้าบอก 2 ทุ่มนี่พรึ่บละ


ค่อยๆละเมียดกันไป ถึงเวลาไฮไลท์ละ หิ่งห้อยมา พรึ่บจริงๆครับ แต่...แต่...ผมมีความสามารถถ่ายได้แค่นี้
คือ ผมไม่รู้วิธีถ่ายครับ จริงๆมันมืดสนิทครับ ผมพยายามแล้ว ขาตั้งกล้องก็ไม่มี


และแล้วก็ลงมาจิบไวน์ต่อ พี่เค้าบอกมีแก้วอยู่ 4 ใบ ให้รสกลิ่นแตกต่างกัน 4 คาแรคเตอร์ มาลองชิมกัน

แล้วก็หมดคืนแรกไปแบบมีความสุขสุดๆครับ อิ่มเอมมาก
[CR] ณ บางคณฑี พื้นที่ถูกลืม ทริป 2 วัน 1 คืน กิน นอน เที่ยว ชิม ชมหิ่งห้อย By แก๊ซซ่า
บางคณฑี หรือ บางคนที เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม เดิมชื่อ อำเภอสี่หมื่น
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อในปี พ.ศ. 2457 มาเป็นชื่อ บางคณฑี แต่ปัจจุบันเหมือนเปลี่ยนตัวสะกดเป็น บางคนที อันนี้ไม่ทราบที่มา
วันหยุดที่ผ่านมา เพื่อนผมชวนไปนอนดูหิ่งห้อยกัน ผมก็ เอ่อ...อัมพวามันยังเหลือเหรอว่ะเพื่อน
เพื่อนผมตอบ ป่าว บางคณฑี..เว้ย เคยไปรึปล่าว? ผมนี่เอ๋อไปพักนึง เคยได้ยินนะ แต่ไม่เคยไปพักหรือไปเที่ยว
ผมนี่ตกลงตอบรับไปนะ แต่คำถามมากมายพอสมควร มันมีที่พักด้วยเหรอ ที่เที่ยวละ ที่กินล่ะ
แม่กลอง อัมพวา ดำเนินสะดวกนี่ ผมนึกออกเพราะไปบ้าง แต่บางคณฑีนี่ว่างเปล่าเลยครับ
และแล้ววันเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น จิบกาแฟรอกัน ก่อนมุ่งหน้าสู่บางคณฑี
ผมขอเอาแผนที่จากเว็ปไซต์ของที่พักมานะครับ ผมอธิบายไม่ถูกจริงๆ
แล้วก็มาถึง คือ มันอยู่ในสวนจริงๆ ไม่ได้อยู่ริมถนนใหญ่ที่จะหาง่ายๆแบบที่ผมคิดไว้
เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมคลองอันเงียบสงบ ท่ามกลางสวนผลไม้ของ อ.บางคณฑี จ.สมุทรสงคราม
เน้นแนวคิดเชิงอนุรักษ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รีสอร์ทถูกออกแบบใน สไตล์ โมเดิร์น-โฟล์ก
ทำให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอันร่มรื่นเขียวชะอุ่ม รายล้อมด้วยธรรมชาติจากต้นไม้และผลไม้นานาชนิด
พร้อมสัมผัสวิถิชีวิตเรียบง่ายจากชาวบ้านสองฝั่งคลอง และบริการอันแสนอบอุ่นเป็นกันเองแบบครอบครัว
ซึ่งบรรยากาศเรียบง่ายที่เป็นแนวคิดหลักในการวางธีมของรีสอร์ตแห่งนี้ ทำให้แขกที่มาเข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย
สบายๆกับวันพักผ่อนได้เต็มที่ ไม่วุ่นวาย ตัดขาดจากโลกอันวุ่นวายภายนอก
ถ้าอยากออกไปข้างนอกบ้างก็เพียงหยิบจักรยานที่มีเตรียมให้ไว้ขี่ไปซื้อของ ทานข้าว ชมเมือง ไหว้พระ ได้หมดเลย ซึ่งยอดเยี่ยมมากๆ
ราคาก็สบายๆเช่นกัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในที่พักครบครัน พร้อมห้องอาบน้ำแบบเปิดโล่งด้านบน
พอตกกลางคืนสักสองทุ่มก็รอชมหิ่งห้อยได้เลย ระยิบระยับ เพลินตาดีต่อใจมากมายครับ ไม่ต้องลำบากนั่งเรือ
นี่แค่ยืนบนระเบียงชั้นสองก็อยู่ห่างจากหิ่งห้อยไม่ถึงฟุต
ทางเข้าก็ลึกนิดนึง เป็นร่องสวน ตลอดทาง สวยดีครับ ดูร่มรื่นมากๆ
มาถึงก็สำรวจเล็กน้อย บรรยากาศมันเงียบสงบตัดขาดจากโลกภายนอกสุดๆครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ
แล้วก็มาสะดุดตากับต้นนี้ครับ ออกผลสวยใหญ่เต็มเลย
พี่โอ๊ตเจ้าของรีสอร์ตก็ถามพวกผมว่าอยากทานมั้ย เพิ่งเก็บมาสดๆเลย ที่นี่ปลูกแบบไม่ใส่ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงนะ
แหม่...ของแบบนี้ตักบาตรอย่าถามพระ พี่โอ๊ตก็จัดการเอาถ้วยดอกเกลือมาวางแล้วก็หั่นกันสดๆเลย ฉ่ำมากๆครับ
ระหว่างรอก็คุยกันไปเรื่อย พื้นที่นี้มันแปลกใหม่สำหรับผมนะ คุยไปคอแห้งมีน้ำไว้ให้แขกมาพัก น้ำดอกดาหลา กับ น้ำตะไคร้
น้ำตระไคร้ข้ามเลยไม่ต้องพูดถึง น้ำดอกดาหลาคือ เอาดอกดาหลาลงต้ม กรองใบ ใส่น้ำตาลกรวดเล็กน้อย ชมพูหวานใสเลย
และแล้วก็ขึ้นไปสำรวจห้องนอนกันครับ
ผมเลือกแบบดีลักซ์ 2 ห้อง ถือว่าออกแบบได้ดี ใช้งานง่าย ถูกอย่างดูเรียบง่าย
ในส่วนห้องน้ำก็ แยกส่วนอาบกับส่วนธุรอื่นนะครับ ส่วนอาบหลังคาสูงและเปิดโล่ง อโลฮ่ามาก
สำรวจกันพอท้วมๆ แล้วก็เก็บของลงมาข้างล่าง ไปหาของกินกันดีกว่า
พี่เจ้าของรีสอร์ตแนะนำว่าไม่ต้องเอารถยนต์ไป แกมีจักรยานให้ยืม อธิบายทางไปชิลยามบ่ายๆ
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ต่อด้วย ตลาดนัดด้านหน้าให้ซื้อกับข้าว กับแกล้ม เอาให้เต็มปริบไปเลย
เพราะผมพกเบียร์มาเกือบลังกับไวน์อีก 2 ขวด จัดไปซิครับ
กริ๊ง ..กริ๊ง...อ้ายคนจนจำต้องทนปั่นรถถีบ จะไปถีบอีน้องคนงาม
แล้วก็ไม่ไกลครับถึง อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด (Nativity of Our Lady Cathedral) ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม
เป็นอาสนวิหารประจำเขตมิสซังราชบุรี ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์
ถือเป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ชนนิกายโรมันคาธอลิกที่อาศัยอยู่โดยรอบ
สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 (พ.ศ. 2433) เก่าแก่ที่สุดของชาวคาธอลิกในประเทศไทย
โดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี
เป็นสถาปัตยกรรมกอทิกที่สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ
ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีชนิด Stain Glass จากฝรั่งเศส
อย่ารอช้าอยู่ในเขตศักดิ์สิทธิ์นานมันร้อน วูบวาบ.... มาตลาดนัดดีกว่า อันนี้ร้อนแดด ร้อนจริง ร้อนจัง เต่าเปียกกันเลยทีเดียว
แต่ของอร่อยรออยู่ข้างหน้า ลุยครับ อย่ารอช้า
ไก่ดูแน่นมากกก แน่นจริงมั้ยเดี๋ยวรู้กัน
ร้านนี้ก็ดี มีกุ้งฝอยทอด ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์มีแบบเน่ากับไม่เน่าให้เลือกด้วย
จ่ายตลาดด้วยความรวดเร็ว กลับมาเตรียมตั้งวงกันดีกว่า เปิดกันเบาๆแต่พรีเมี่ยมไปก่อนเลย
แล้วพี่เจ้าของรีสอร์ตก็พาไปชมจุดที่คืนนี้จะยืนดูหิ่งห้อยกัน ในเวลาสองทุ่ม ดูแบบ 4 D ระยะฟุตเดียวบินเฉี่ยวหน้ากันเลย
คือผมเคยดูหิ่งห้อยนะ แต่ใกล้ขนาดระยะฟุตเดียวเนี่ย ไม่เคยครับ
เป็นพื้นที่ชั้นลอยกลางรีสอร์ตเลย แกบอกเอาไวน์มานั่งจิบบนนี้ดูหิ่งห้อยชมดาว รับประกันโคตรสุข
ของพร้อม เพลงพร้อม เตรียม...ลุย คือวันที่ผมไปนี่ ทั้งรีสอร์ตมีแต่พวกผมนี่ละครับ โชคดีมากๆ
พี่เค้าบอกว่าอาทิตย์ก่อนเต็ม อาทิตย์หน้านี้ก็เต็ม มีแต่อาทิตย์ที่ผมไปนี่ละ ว่าง
แกะกับแกล้มทานกันรอเวลาหิ่งห้อยมา พี่เค้าบอก 2 ทุ่มนี่พรึ่บละ
ค่อยๆละเมียดกันไป ถึงเวลาไฮไลท์ละ หิ่งห้อยมา พรึ่บจริงๆครับ แต่...แต่...ผมมีความสามารถถ่ายได้แค่นี้
คือ ผมไม่รู้วิธีถ่ายครับ จริงๆมันมืดสนิทครับ ผมพยายามแล้ว ขาตั้งกล้องก็ไม่มี
และแล้วก็ลงมาจิบไวน์ต่อ พี่เค้าบอกมีแก้วอยู่ 4 ใบ ให้รสกลิ่นแตกต่างกัน 4 คาแรคเตอร์ มาลองชิมกัน
แล้วก็หมดคืนแรกไปแบบมีความสุขสุดๆครับ อิ่มเอมมาก