เรามีโอกาสได้ไปเยือนนิกโก้ (Nikko) มาเมื่อปีที่แล้ว...
ในเรื่องของรายละเอียดนั้นค่อนข้างเลือนราง... แต่ในเรื่องของฟิลลิ่งนั้น เราจดจำได้แม่น
อาจจะเป็นเพราะว่า นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นหิมะ... ตามประสาเด็กที่โตมาในประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตร...
การได้มาสัมผัสหิมะแบบเป็นๆ จึงเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ และเอ็คไซติ้งสุดๆ

มีคนกล่าวไว้ว่า nikko is nippon นิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น
เพราะนิกโก้ เป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ
มีวัดและศาลเจ้ามากมาย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก unesco
นอกจากนี้แล้ว นิกโก้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ หรือว่าน้ำตก...
เนื่องจากเรา เป็นนักท่องเที่ยวสายแลนด์
เป็นพวกเนเจอร์เลิฟเว่อร์ อยู่กับป่าเขาแล้วชอบมโนว่าเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์...
เราจึงไม่เน้นที่จะเข้าวัดเข้าวา แต่เราขอเลือกที่จะมุ่งหน้าเข้าป่าไปสายธรรมชาติแทน
เรานั่งรถบัสขึ้นไปบนยอดเขา จุดมุ่งหมายและสิ่งที่คาดหวังของเราคือ
....อยากไปเห็นทะเลสาบชูเซนจิ (Chuzenji lake) ท่ามกลางหิมะ...
....อยากไปเห็นน้ำตกเคงอน (Kegon Falls) ที่กลายเป็นน้ำแข็ง...
ซึ่งเราก็ได้เห็นทั้งหมดอย่างที่ตั้งใจไว้...
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายสำหรับเราในวันนี้ก็คือ วันนี้ฟ้าเปิด...
ทำให้อะไรที่มันสวยอยู่แล้ว สวยยิ่งขึ้นไปอีก นับว่าเป็นความโชคดีของเรา
เพราะวันก่อน ได้ข่าวว่าพายุหิมะพัดถล่มจนมองแทบไม่เห็นทาง...
แต่ถึงฟ้าจะเปิด แดดจะใส แต่อากาศก็ยังติดลบอยู่นะจ๊ะ
ขอบอกเลยว่า มันหนาวมากกกกก... หนาวจริงหนาวจัง หนาวจนต้องร้องขอชีวิต....
ยิ่งตอนที่เดินอยู่แถวทะเลสาบนะคุณเอ๊ยยยย... หนาวเข้ากระดูก...
ลมพัดมาปะทะที ผู้คนต่างพากันร้องเสียงหลงโดยมิได้นัดหมาย...
แม้วิวตรงหน้าจะสวยขาดใจ... แต่ก็ไม่สามารถนั่งชมวิวชิลๆ ได้อย่างที่ใจคิด...
เพราะขีดจำกัดความต้านทานความหนาวมันมีน้อย...ในฐานะที่โตมาจากประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตร...
ประสบการณ์การสัมผัสความหนาวแค่ 1 สัปดาห์ต่อปี...
เราจึงขอให้คำจำกัดความในการเที่ยวครั้งนี้ว่า "ทรมานบันเทิง" โดยแท้ 555+ �
แต่ถึงกระนั้น นิกโก้ ก็คือเมืองที่เราประทับใจมากที่สุดในทริป
เพราะวิวมันโก้จริงอะไรจริง ถ้ามีโอกาส เราต้องกลับมาซ้ำที่นี่อีกครั้งแน่นอน
วิธีเดินทาง
เริ่มต้นที่สถานี Tokyo นั่งชินคันเซ็นสาย Yamabiko มาลงที่สถานี Utsunomiya
แล้วเปลี่ยนขบวนไปขึ้นสาย JR Nikko line จนถึงสถานี Nikko ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สามารถตรวจสอบขบวนรถไฟ และตารางเวลา ได้จาก www.hyperdia.com
[CR] Nikko นั้นโก้จริงๆ
ในเรื่องของรายละเอียดนั้นค่อนข้างเลือนราง... แต่ในเรื่องของฟิลลิ่งนั้น เราจดจำได้แม่น
อาจจะเป็นเพราะว่า นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นหิมะ... ตามประสาเด็กที่โตมาในประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตร...
การได้มาสัมผัสหิมะแบบเป็นๆ จึงเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ และเอ็คไซติ้งสุดๆ
มีคนกล่าวไว้ว่า nikko is nippon นิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น
เพราะนิกโก้ เป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ
มีวัดและศาลเจ้ามากมาย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก unesco
นอกจากนี้แล้ว นิกโก้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ หรือว่าน้ำตก...
เนื่องจากเรา เป็นนักท่องเที่ยวสายแลนด์
เป็นพวกเนเจอร์เลิฟเว่อร์ อยู่กับป่าเขาแล้วชอบมโนว่าเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์...
เราจึงไม่เน้นที่จะเข้าวัดเข้าวา แต่เราขอเลือกที่จะมุ่งหน้าเข้าป่าไปสายธรรมชาติแทน
เรานั่งรถบัสขึ้นไปบนยอดเขา จุดมุ่งหมายและสิ่งที่คาดหวังของเราคือ
....อยากไปเห็นทะเลสาบชูเซนจิ (Chuzenji lake) ท่ามกลางหิมะ...
....อยากไปเห็นน้ำตกเคงอน (Kegon Falls) ที่กลายเป็นน้ำแข็ง...
ซึ่งเราก็ได้เห็นทั้งหมดอย่างที่ตั้งใจไว้...
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายสำหรับเราในวันนี้ก็คือ วันนี้ฟ้าเปิด...
ทำให้อะไรที่มันสวยอยู่แล้ว สวยยิ่งขึ้นไปอีก นับว่าเป็นความโชคดีของเรา
เพราะวันก่อน ได้ข่าวว่าพายุหิมะพัดถล่มจนมองแทบไม่เห็นทาง...
แต่ถึงฟ้าจะเปิด แดดจะใส แต่อากาศก็ยังติดลบอยู่นะจ๊ะ
ขอบอกเลยว่า มันหนาวมากกกกก... หนาวจริงหนาวจัง หนาวจนต้องร้องขอชีวิต....
ยิ่งตอนที่เดินอยู่แถวทะเลสาบนะคุณเอ๊ยยยย... หนาวเข้ากระดูก...
ลมพัดมาปะทะที ผู้คนต่างพากันร้องเสียงหลงโดยมิได้นัดหมาย...
แม้วิวตรงหน้าจะสวยขาดใจ... แต่ก็ไม่สามารถนั่งชมวิวชิลๆ ได้อย่างที่ใจคิด...
เพราะขีดจำกัดความต้านทานความหนาวมันมีน้อย...ในฐานะที่โตมาจากประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตร...
ประสบการณ์การสัมผัสความหนาวแค่ 1 สัปดาห์ต่อปี...
เราจึงขอให้คำจำกัดความในการเที่ยวครั้งนี้ว่า "ทรมานบันเทิง" โดยแท้ 555+ �
แต่ถึงกระนั้น นิกโก้ ก็คือเมืองที่เราประทับใจมากที่สุดในทริป
เพราะวิวมันโก้จริงอะไรจริง ถ้ามีโอกาส เราต้องกลับมาซ้ำที่นี่อีกครั้งแน่นอน
วิธีเดินทาง
เริ่มต้นที่สถานี Tokyo นั่งชินคันเซ็นสาย Yamabiko มาลงที่สถานี Utsunomiya
แล้วเปลี่ยนขบวนไปขึ้นสาย JR Nikko line จนถึงสถานี Nikko ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สามารถตรวจสอบขบวนรถไฟ และตารางเวลา ได้จาก www.hyperdia.com