ถัดมาวันเสาร์ ผมเป็นคนค่อนข้างตื่นเช้า ออกมาหาอะไรกิน ตอน 6 โมงเช้า แฟนยังไม่ตื่นเลย ผมจึงเดิน ออกไปสำรวจ โรงแรมโดยรอบ เจอ 7-11 ห่างจากโรงแรมเพียง 20 เมตร เท่านั้น จึงเดินไปซื้อกล้วยมาทาน กับ กาแฟมา 1 กระป๋อง แล้วเดินไปที่หาดป่าตอง ได้เห็นวิถีชีวิต ของชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว อากาศยามเช้า ช่างดีมาก
ประกอบกับลมทะเลเย็นๆ แดดอ่อนๆ สังเกตเห็น ฝรั่งหนุ่มสาว นั่งจีบคุยกัน ถัดไปอีกนิด เห็น ฝรั่งนั่งเล่น โยคะ อยู่ข้างๆ ในท่าต่างๆ และก็เห็นนักท่องเที่ยวถ่ายรูป ต่างๆ รอบตัว ผมจึงออกเดิน ไปเรื่อยๆ ในใจก็ว่า จะจ๊อคกิ้ง สักหน่อย แต่ขอเดินอีกนิด ก็เจอนักวิ่ง หลากหลายเชื้อชาติมาก เห็นชาวไทยคิดว่า คงจะมางานวิ่งเหมือนเราแน่เลย ชุดจัดเต็ม
และก็เห็นชาวต่างชาติซ้อมวิ่ง ถอดเสื้อ ผ่านไป และเห็นกลุ่มผู้หญิง แต่คาดว่า ไม่ใช่ชาวไทย นั่งทานเบียร์ช้าง กันอยู่บนหาด สงสัยยังไม่ได้นอนกัน และเห็นคู่รัก ชาวต่างชาติกับผู้หญิงไทย ถ่ายรูป ออกแอ็คชั่นกัน
ผมก็คิดว่า มองมากๆ เดียวเค้าจะหาว่า เป็นโรคจิต ก็เลยออกวิ่งดีกว่า ก็วิ่งจ็อคกิ้ง สักหน่อย วิ่งจนไปสุดหาดของป่าตอง จำได้ มีที่ ที่อยู่บนเขา ข้าง โรงแรม มารีออต เคยเป็นนายหน้า อยู่ปี นึง แต่เราคงความสามารถไม่ถึง เพราะตอนนั้น ราคา 600 ล้านบาท ขาย 10 ไร่ ไร่ละ 60 ล้าน ถ้าขายได้ คงลืมจนกันไปเลย แต่ก็นั่นแหละ ชีวิต ผันให้มาทางนี้แทน ผมวิ่งไปคิดไป ก็วิ่งวนกลับไป ที่โรงแรม ก่อนเข้าก็แวะซื้อ นม กับ ขนมปัง และก็ กล้วยไปฝากแฟนด้วย คาดว่า น่าจะตื่นแล้ว แต่พอไปถึง ยังไม่ตื่น ยังนอนสบายอยู่เลย เค้าบอกอยากนอนตลอด สงสัยคนท้องต้องการพักผ่อนมากๆ 5555
พอใกล้เที่ยงก็ชวนออกมารับ บิบ ดีกว่า ที่โรงแรม เอ้าท์ทริกเกอร์ ก็ขับไปตาม GPS ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึง ต้องกลับไปทาง ถลาง แล้วเข้าซอยไปยังหาดสุรินทร์ ก็เข้าไปรับ Bib number ปกติ ไม่ยักเจอ ดารา กะใครเค้าเลย พี่ตูน งี้ ไม่ได้เจอกับเค้าเลย ก็รับ bib แล้วก็ไปดีกว่า ไปเที่ยวในเมือง ถ่ายรูปตึกชิโนโปตุกีส ดีกว่า ที่ถนนดีบุก ถนนเยาวราช (เอ๊ะไม่พ้นเยาวราช 555 )
ขับเข้าเมืองมา ก็หาที่จอดรถ แต่แฟนผมนี่สิ ง่วงตลอด ไม่ยอมลงมาด้วย ผมจึงเดินคนเดียว ถึงเคยมาแล้วก็ตาม ผมชอบที่จะสำรวจอะไรใหม่ๆ ในที่ใหม่ๆ แปลกๆ ดูว่า มีอะไรใหม่บ้าง ก็เดินไปคนเดียว จากหัวถนนยันท้ายถนนดีบุก และวกเข้าถนนเยาวราช เจอร้านแปลกๆ ใหม่ๆ มากมาย แต่เดินคนเดียว กลัวแฟนจะรอนาน ก็เลยกลับมา และแพลนว่า จะไปทานอาหารเย็น ดูวิว อันดามันบ้าง เพราะเมื่อวาน ดูวิว อ่าวไทย ไปแล้ว
ก็เลยตัดสินใจไป แหลมพรหมเทพ พูดถึงแหลมนี้ เคยมาสมัยเป็นแฟนกัน ไปดูหินตาหินยายด้วยตอนนั้น ตอนนี้ ก็เฉยๆ แล้วไม่ตื่นเต้นใดๆ แค่พาลูกในท้อง (
) มาดูบรรายากาศเท่านั้น จึงเลือกร้านอาหารข้างๆ แหลมพรหมเทพเลย นั่งชิล ถ่ายรูป ทานอาหารเย็น เคล้าบรรยากาศ ยามเย็น อยากหยุดเวลาเสียนี่จริงๆ เราสองคนนั่งจนพระอาทิตย์ตกดิน ก็กลับ เพราะผมต้องรีบนอนแล้ว พรุ่งนี้ ต้องตื่นไปวิ่ง ตอนตี 4 แต่ต้องตื่นตี 2.30 เพราะขับรถไปอีก ครึ่งชม. และก็คิดแล้วว่า พวกเพื่อนๆ ที่มากับผม ต้องติดรถผมไปแน่นอน (ซื้อหวยไม่ถูกแฮะ) เพราะเค้าวิ่งกัน ฮาฟ เราวิ่งฟลู ช่วงนี้ อ่อนซ้อมด้วย กลัวว่า จะปวดขา ขับกลับไม่ไหว แต่คิดไปคิดมาแล้ว พวกเค้ามือใหม่กว่า เรา ขาคงเดี้ยงมากว่า เราแน่ๆ เลย คิดดังนั้น กุขับเอง ดีกว่า 555
รีบเข้านอนเตรียมชุดพร้อม ..... นอนหลับไป ตื่นมาอีกที ตี 2 เป๊ะ ผมเป็นคนที่ตื่นเองได้ โดยไม่มีนาฬิกาปลุก (พลังพิเศษ) 555 เดินไปซื้อกล้วย ซัดก่อนเลยกะกาแฟกระป๋องอีกหนึ่ง เพื่อเพิ่มแรง แล้วก็ไปกัน ไปถึงก่อนก่อนเวลาออกตัว 15 นาที เราแชะภาพกัน แล้วเข้าห้องน้ำ แยกย้าย เพราะว่า ผมวิ่งก่อน ออกตัวตี 4 ไม่เจอเพื่อนหรือใครเลย พอออกตัว ไม่น่าเชื่อ คน เกือบ 7 พัน คน มีน้องสมัยที่ทำงานแบงค์ด้วยกันมาวิ่ง ฮาฟ ตะโกนมาให้กำลังใจว่า สู้ๆ แค่นี้ก็ฮึดแล้ว ดีใจจริงๆ สังคมนักวิ่ง
ผมวิ่งไปบอกกับตัวเองว่า อ่อนซ้อมๆ ค่อยๆ ไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งตาม เพชตัวเอง สมัยก่อน 10 กิโลแรก น้อยกว่า 1 ชม. 20 โล 2 ชั่วโมงนิดๆ เอาแล้วงัย เราวิ่งเร็วเกินไปแล้ว กลัวตระคริว จริงๆ แต่ผม ก็มาแผ่วปลาย วิ่งช้าๆ ลง ถึงช้ามาก 5555 ไม่ได้ซ้อมเลย จะว่าแก้ตัว หรืองัยก็ว่า กันไป เจอพี่ตูน สวนตอน กม. 20 คิดว่า โห เราน่าจะเข้าช้ากว่า ปีที่แล้วแน่ (บอกก่อนครับ ผมเคยมาวิ่งครั้งนึงแล้ว ปีที่แล้ว มากับเพื่อนอีกแก๊ง สมัยเรียนนอก แต่ปีนี้มาคนเดียว กะเพื่อนที่ทำงาน โรงแรม) ปีที่แล้วเข้า 4.40 ชม. ปีนี้ เข้า 6.15 ชม. ครับ แสดงว่า เราขาดซ้อมอย่างยิ่ง แต่ที่ลงคราวนี้ ก็เพื่อให้กำลังใจนักวิ่งหน้าใหม่ สองคนนี้ ครับ
(ต่อ)
[CR] หลับดี โฮเทล ภูเก็ต ป่าตอง (2)
ประกอบกับลมทะเลเย็นๆ แดดอ่อนๆ สังเกตเห็น ฝรั่งหนุ่มสาว นั่งจีบคุยกัน ถัดไปอีกนิด เห็น ฝรั่งนั่งเล่น โยคะ อยู่ข้างๆ ในท่าต่างๆ และก็เห็นนักท่องเที่ยวถ่ายรูป ต่างๆ รอบตัว ผมจึงออกเดิน ไปเรื่อยๆ ในใจก็ว่า จะจ๊อคกิ้ง สักหน่อย แต่ขอเดินอีกนิด ก็เจอนักวิ่ง หลากหลายเชื้อชาติมาก เห็นชาวไทยคิดว่า คงจะมางานวิ่งเหมือนเราแน่เลย ชุดจัดเต็ม
และก็เห็นชาวต่างชาติซ้อมวิ่ง ถอดเสื้อ ผ่านไป และเห็นกลุ่มผู้หญิง แต่คาดว่า ไม่ใช่ชาวไทย นั่งทานเบียร์ช้าง กันอยู่บนหาด สงสัยยังไม่ได้นอนกัน และเห็นคู่รัก ชาวต่างชาติกับผู้หญิงไทย ถ่ายรูป ออกแอ็คชั่นกัน
พอใกล้เที่ยงก็ชวนออกมารับ บิบ ดีกว่า ที่โรงแรม เอ้าท์ทริกเกอร์ ก็ขับไปตาม GPS ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึง ต้องกลับไปทาง ถลาง แล้วเข้าซอยไปยังหาดสุรินทร์ ก็เข้าไปรับ Bib number ปกติ ไม่ยักเจอ ดารา กะใครเค้าเลย พี่ตูน งี้ ไม่ได้เจอกับเค้าเลย ก็รับ bib แล้วก็ไปดีกว่า ไปเที่ยวในเมือง ถ่ายรูปตึกชิโนโปตุกีส ดีกว่า ที่ถนนดีบุก ถนนเยาวราช (เอ๊ะไม่พ้นเยาวราช 555 )
(ต่อ)