เพื่อนๆ ในกลุ่มนังเหล็กจะมีสาวสวยคนนึงบ้านอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทุกคนรู้จักป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไหม? ธรรมชาติสวย น้ำใส อากาศบริสุทธิ์ ไม่ไปไม่ได้แล้วแถมขึ้นชื่อเรื่อง พี่ช้าง และน้องลิงที่ชอบออกมาเดินอยู่ข้างทางให้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้ตกอกตกใจอยู่เนืองๆ พวกเราเจอมาหลายคราคะ ครั้งนี้ต้องรอดูว่าจะเจออีกรึเปล่า มาตั้งแต่ตอนเรียนจนทำงานทุกปี เดินทางไปทุกรูปแบบ ทั้งรถไฟ รถทัวร์ ต่อรถสองแถวโบกรถป่าละอู จนปัจจุบันนั่งรถตู้จากขนส่งหมอชิต2 ชานชาลา3 วิน เพชรบุรี-ชะอำ-หัวหิน ลงหัวหินและเพื่อนขับรถมารับขึ้นป่า

ปกติเพื่อนร่วมขบวนการ 2-5 คนแล้วแต่สถานการณ์คือมี สี,ห้อย,นังเหล็ก ตัวหลัก คุณนายและชะนีหรือเพื่อนๆคนอื่นไปบ้างเป็นบางทริป ปฏิบัติสืบทอดมาประดุจงานเทศกาลประจำปีที่จะต้องไปเที่ยวหากัน แล้วทุกคนรู้ไหมว่าไปหาใคร...เดี๋ยวติดตามแล้วก็จะรู้คะ

ปีนี้ไป 2 คนเนื่องคนอื่นไม่สามารถไปได้ทุกคนคงงงว่าไปหาใคร...เฉลย ไปบ้านของคาวเกริ์ลที่สำคัญจะได้รู้ว่าทำไมนังเหล็กถึงเรียกเธอผู้นั้นว่า คาวเกริ์ล ... อยากรู้แล้วใช่ไหม ต่อๆคะ
ทริปนี้เกริ่นนานนิดส์นึงเพราะมีสมาชิกชื่อแปลกมาเพิ่มเติมจากกระทู้แบกเป้เที่ยวเกาหลี(โซล) 10 วันด้วยตัวเอง งบไม่เกิน 20000 บ.ไม่ยากอย่างที่คิด!!!
https://pantip.com/topic/36551047 ติดตามได้ตามลิงก์นี้นะคะ
ครั้งนี้นังเหล็กไปป่าละอู เมื่อวันที่ 30 – 2 กรกฏาคม 2560 นัดกันแบบกะทันหัน คืออีก 2-3 วันจะไปละ นัดล่วงหน้านานๆ มักไม่ค่อยได้ไป กลุ่มใครเคยเป็นบ้าง? รอกันไปรอกันมาสรุปไม่ได้ไป...สะงั้น เลยเอาแบบที่สะดวกดีกว่าคะ พอหาเพื่อนร่วมเดินทางได้ คือนังเหล็กและสีก็นัดแนะกันเวลามาเจอกันที่คิวรถตู้ไปหัวหินคะพอไปถึงหัวหินก็ให้คาวเกริ์ลมารับ (ถ้าไม่มีรถส่วนตัวแนะนำให้เดินทางมาถึงหัวหินตั้งแต่เช้าแล้วมาต่อรถสองแถวจากตลาดไปที่ตีนดอยขึ้นป่าละอูคะแล้วจะมีรถบัสใหญ่ขึ้นป่าละอูอีกทีนึง)

ถ้าใครไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ ให้ดูสถานที่พักไว้ล่วงหน้าแล้วสอบถามการเดินทางดูอีกทีนะคะ ที่นั่นมีที่พักหลายรูปแบบเลยแต่ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็
เอาเต้นท์มากางที่น้ำตกป่าละอูได้เลยแต่อย่าลืมติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะมีค่าธรรมเนียมในการกางเต้นท์และบริเวณสำหรับกางเต้นท์กำหนดอยู่ ไม่แนะนำให้ขับในเวลากลางคืนด้านบนจะมีด่านโดยจำกัดให้เฉพาะคนในพื้นที่ขึ้นได้เท่านั้น อันตรายเนื่องจากท่านอาจจะเจอและได้สัมผัสพี่ช้างทั้งฝูงคะ เดินอยู่สองข้างทางและบนถนน
นังเหล็กเจอมาแล้วเงียบกริบทั้งคัน อุทยานฯมีข้อควรปฏิบัติเมื่อพบช้าง ต้องศึกษาให้ดีเพราะท่านจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพี่ช้างแบบสนิทแนบแน่นกันถ้าไม่เตรียมความพร้อมให้ดี เราไม่ทราบว่าพี่ช้างคิดอย่างไร อาจตกอยู่ในสภาวะขับขัน อาจเป็นอันตรายได้คะ นังเหล็กเลยเอาภาพบรรยากาศปีที่ไปเจอมาให้ชม...อิอิ

อยากใกล้ชิดไหม...พี่ช้างจัดให้

อาจได้เจอพี่ลิงด้วย
Day 1: การเดินทาง กทม.-หัวหิน , หัวหิน – ป่าละอู
แบกเป้มาจากที่ทำงาน รีบเดินทางไปเจอสีที่คิวรถตู้ ขนส่งหมอชิต2 ชานชาลา3 วินหิวหินกันคะ จากที่ทำงานนังเหล็กใช้เวลาเดินทางราว 1ชม.30 นาทีคือถึงขนส่งราวๆ 19.30 น.วันศุกร์รถติดมากๆ ไปถึงก็ไปหาสีก่อน เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย ซื้อตั๋วพร้อมออกเดินทางคะ วินรถตู้จะหมดราวๆ 20.00 น.ค่ารถตู้ 180 บ.ได้ตั๋วกันมาคนละใบขึ้นรถรอคนเต็ม ล้อหมุนก็ราวๆ 20.30 น.รถตู้จะขึ้นทางด่วนวิ่งมาทางพระราม2ยิงยาวไป ชะอำ-เพชรบุรี และ หัวหิน-ประจวบฯ ระหว่างทางอาจมีผู้โดยสารลงตามทางผ่านประปราย นังเหล็กและสีลงที่หน้าร้านหมูวรรณาหัวหิน เวลาประมาณ 23.30 น.ไม่ได้ลงตรงหอนาฬิกาหน้าวัดตรงหัวหินเพราะที่นั่นไม่ค่อยมีที่จอดรถและด้านในรถจะติด...ถ้ามาเที่ยวเองให้นั่งยาวมาลงตรงหอนาฬิกาคะ มีรถโดยสารยืนรอให้บริการอยู่บริเวณนั้น
ก็เดินทางขึ้นป่าละอูกันคะ

มาถึงแล้ว บ้านเพื่อนเรา...อาบน้ำนอนพักเอาแรงคะ
Day 2: น้ำตกป่าละอู PaLaU Water Fall+ชมสวนผลไม้, Dinner (ทำเอง)
-เช้านี้ที่ป่าละอูอากาศดีมากๆ ทำ BF ทานกันเองดูดีไหม555+

เอิบ คือถามว่า เรา 3 คนใช่เพื่อนกันไหม? นี่จะไปด้วยกันจริงรึเปล่า? เพื่อนในกลุ่มแต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเองชัดเจน

มาถึงแล้วราวๆ 10.30 น.ทางเข้าจะมีด่านชำระค่าธรรมเนียมเข้าน้ำตกป่าละอูคะ

สะพานนี่ เมื่อสัก2-3ปีเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ

น่าเสียดายที่สภาพชำรุดทรุดโทรมไปมาก นังเหล็กอยากเชิญชวนทุกคนมาเที่ยวอาจมีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม แต่จ่ายเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวนั่นเอง ก็เหมือนเราไปตปท.ที่ส่วนใหญ่ก็มีค่าธรรมเนียม สะพานที่ถ่ายรูปออกมาก็สวยไปอีกแบบ แบบธรรมชาติๆ สูดอากาศให้เต็มปอด

อากาศดีมากมาย

ร่มรื่นมากๆ

มาอีกแล้วรูปกลางถนนวิวมันสวยเนอะ (ทำได้แค่ถนนทางตรงที่มองเห็นรถในระยะไกลเท่านั้นน๊าคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก)

มัวแต่ถ่ายรูป ป่านชะนี้แล้วยังไม่ได้ขึ้นไปน้ำตกป่าละอูเลยหลังจอดรถพร้อมนำสัมภาระที่จำเป็นใส่เป้ไปแล้ว

...ของที่จำเป็นก็ประมาณนี้คะ...
1.รองเท้าที่ใส่กระชับไม่ลื่น อะไรก็ได้แล้วแต่สะดวกเลย แต่นังเหล็กขอใส่แบบหุ้มข้อคะเพราะนังเหล็กเป็นคนที่มีความสามารถในการปีนป่ายต่ำมาก เคยใส่รองเท้าธรรมดาแบบคาวเกริ์ลและสีใส่แล้ว...ลองมาหมดไม่ไหวคะ หิน ขอนไม้ ชนกระจายไม่มีเบรค ช้ำบวมบางครั้งถึงขั้นเลือดตกยางออกมาโดยตลอด ครานี้ไม่มีใครทำไรเราได้นอกจากล้มเท่านั้น หึ หึ เอาสิ(คู่นี้ที่ใส่ไปลุยหิมะที่เกาหลีมาแล้วคะดีจริงๆ)
2.ยาหม่อง ประสบการณ์สอนให้รู้ว่าในป่ามีแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวมช้ำได้ เตรียมไปเลยคะ รับประกันว่าได้ใช้แน่ๆ
3.ชุดเปลี่ยนหลังลงเล่นน้ำคะ ยกเว้นว่าไม่ซีเรียส เปียกขึ้นรถไปอาบที่ที่พักได้ก็หาผ้าเช็ดหน้าเช็ดผมไปสักนิด
4.อาหารการกินถ้าอยู่ที่น้ำตกชั้น1 จนท.อนุญาตให้ทานได้เตรียมมาเลยแต่ถ้าขึ้นไปชั้นบนต้องเอาอาหารฝากไว้...ส่วนน้ำเปล่าพกพาไปได้
*ของทุกอย่างต้องใส่ไว้ในกระเป๋าหรือถุงที่กันฝนได้ ทุกปีที่นังเหล็กไปมักเจอฝนระยะเวลาตกไม่มากก็น้อยเตรียมไว้คะ*

จากเมืองกรุงเข้าป่า...เดินๆๆ จนถึงชั้น 5 น้ำตกมีหลายชั้นแต่จนท.ให้ขึ้นแค่ชั้น 5 เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ย

ต้นไม้สายน้ำ...อากาศดีจริงๆ มาถึงแล้ว น้ำตกป่าละอูชั้น 5 จริงๆมีมากกว่านี้คะ แต่เจ้าหน้าที่ห้ามขึ้นแล้วเลยได้สูงสุดที่ชั้นนี้...

นักท่องเที่ยวเริ่มมากันหลายกลุ่ม ที่สำคัญ...สังเกตุว่ามีชาวต่างชาติแย่งซีนอยู่ที่น้ำตก

ซึมซับบรรยากาศในน้ำตกป่าละอูกันคะ

เดินย้อนลงมาชั้นล่างหน่อย ตอนแรกสีและนังเหล็กกะแค่หย่อนขาให้สัมผัสผืนน้ำให้สบายใจ.. น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาว่ายวนไปมาน่าเอ็นดู(น้ำตกป่าละอูชั้น 4)

กะว่าจะเล่นน้ำนิดๆหน่อยไม่เปียกทั้งตัวแต่ เอิบ นี่ไรอะ...ไม่เอาไม่เปียกหมดเยย วูวววว์(น้ำตกป่าละอูชั้น3)

เพลินๆ...

เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ มาดูนาฬิกาอีกทีก็ 15.30 น.ก็ถึงเพลากลับบ้านคาวเกริ์ลไปทำอาหาร Dinner มื้อใหญ่กันคะ
เดินลงไปก็ถ่ายรูปกันไป นี่ต้นสมพงษ์ ใหญ่มาก...สีชอบแวะมาถ่ายรูปกับพี่ต้นไม้ต้นนี้เสมอ

สภาพแต่ละคน

สะพานไม้ไผ่กับเรา 3 คน555+

จุดแลนมาร์คคือป้ายทางเข้าเราจะถ่ายกันก่อนกลับตลอดคะ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ถ่านตอนสภาพดีๆ ถ่ายรูปตอนยินๆทุกทริปสิหน่า เอิ้กๆ
2.เที่ยวสวนผลไม้เปิดท้ายรถกะบะตระเวนเก็บผัก ผลไม้มาทำอาหารเย็นทานกัน

สวนสัปรด...อยากบอกว่าต้นมีหนาม เดินยากมาก ต้องใส่กางเกงยีนต์หนาๆ เดินเบี่ยงๆ กับใส่บูธเข้าไปถึงจะเก็บได้นะไม่งั้นอด
บรรยากาศติดภูเขาสวยจัง
3.มาถึงอาหารค่ำของเราที่ลงมือกันเอง
-มือตำ มือผักจะมีผู้ดูแลคือห้อยแต่ครานี้ไม่มาเลยเป็นสี(รักษาการณ์แทน)
-มือต้ม มือหมักอาหารก็จะให้คาวเกริ์น
-มือย่าง มือเผาตระเตรียมการผลไม้ก็จะเป็นสี
-มือทอด/ผัดนั้น ก็จะเป็นนังเหล็ก
-ส่วนคุณนายและชะนีถ้ามาก็จะช่วยๆกัน
*จริงๆช่วยกันในทุกขั้นตอนอยู่แล้วคะแต่เอางานที่ถนัดและได้รับความไว้วางใจให้ผู้นั้นรับผิดชอบไปคะว่าอาหารจานนั้นจะรสชาติดี ทุกอย่างที่เพื่อนทำทานได้หมด*

อิ่มหมีพีมันมากๆๆ หอยนางรมย์เอย ปลาเปาเอย แกงเห็ดเอย โอยอิ่มแปร้

อิ่มละนอนได้
Day 3 : กินนมวัวสดจากเต้า+นั่งเล่นชายหาดหัวหิน
มาถึงคำเฉลยคะว่าทำไมนังเหล็กถึงเรียกเพื่อนสาวสวยของเราว่าคาวเกริ์ล เพราะบ้านเพื่อนทำฟาร์มโคนมคะ คุณแม่ของคาวเกริ์ลถ้าทราบว่าเพื่อนๆลูกมาจะบอกให้เราเข้าไปรีดนมหรือไปเอาน้ำนมวัวสดมาทานได้เลย

พอสายๆ เราก็ต้องเตรียมตัวลงจากป่ามาขึ้นรถที่หัวหินคะ...แต่ครั้งนี้พิเศษ คาวแกริ์ลมีประชุมที่ชะอำพอดี เราเลยได้มานั่งทานข้าวเที่ยงริมชายหาดชะอำกัน โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ...ไม่สิ BANANA BOAT ต่างหาก555+

มานั่งทานข้าวชิวๆกันจนจะ 15.00 น.ได้เวลากลับบางกอกแล้ว บายๆ ชะอำ ไว้เราจะมาเที่ยวใหม่น้า คาวเกริ์ลมาส่งที่วินรถตู้สี่แยกชะอำ ถึงเวลาที่เราร่ำลาเพื่อนแล้วกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติอีกครา ใจหายแต่เดี๋ยวเรามาใหม่ ซื้อตั๋วรถตู้ ค่ารถตู้จากชะอำ-เพชรบุรี มา กทม.ค่าบริการ 160 บ. รถออก 16.15 น.ถึงกทม.ก็ 20.00 น.พักผ่อนแล้วเก็บความทรงจำดีเอาไว้มาใหม่คะ
น้ำตกป่าละอู Pa-La-U WaterFall (Jun30-2,2017) เสาร์-อาทิตย์ก็เที่ยว
ปกติเพื่อนร่วมขบวนการ 2-5 คนแล้วแต่สถานการณ์คือมี สี,ห้อย,นังเหล็ก ตัวหลัก คุณนายและชะนีหรือเพื่อนๆคนอื่นไปบ้างเป็นบางทริป ปฏิบัติสืบทอดมาประดุจงานเทศกาลประจำปีที่จะต้องไปเที่ยวหากัน แล้วทุกคนรู้ไหมว่าไปหาใคร...เดี๋ยวติดตามแล้วก็จะรู้คะ
ปีนี้ไป 2 คนเนื่องคนอื่นไม่สามารถไปได้ทุกคนคงงงว่าไปหาใคร...เฉลย ไปบ้านของคาวเกริ์ลที่สำคัญจะได้รู้ว่าทำไมนังเหล็กถึงเรียกเธอผู้นั้นว่า คาวเกริ์ล ... อยากรู้แล้วใช่ไหม ต่อๆคะ
ทริปนี้เกริ่นนานนิดส์นึงเพราะมีสมาชิกชื่อแปลกมาเพิ่มเติมจากกระทู้แบกเป้เที่ยวเกาหลี(โซล) 10 วันด้วยตัวเอง งบไม่เกิน 20000 บ.ไม่ยากอย่างที่คิด!!! https://pantip.com/topic/36551047 ติดตามได้ตามลิงก์นี้นะคะ
ครั้งนี้นังเหล็กไปป่าละอู เมื่อวันที่ 30 – 2 กรกฏาคม 2560 นัดกันแบบกะทันหัน คืออีก 2-3 วันจะไปละ นัดล่วงหน้านานๆ มักไม่ค่อยได้ไป กลุ่มใครเคยเป็นบ้าง? รอกันไปรอกันมาสรุปไม่ได้ไป...สะงั้น เลยเอาแบบที่สะดวกดีกว่าคะ พอหาเพื่อนร่วมเดินทางได้ คือนังเหล็กและสีก็นัดแนะกันเวลามาเจอกันที่คิวรถตู้ไปหัวหินคะพอไปถึงหัวหินก็ให้คาวเกริ์ลมารับ (ถ้าไม่มีรถส่วนตัวแนะนำให้เดินทางมาถึงหัวหินตั้งแต่เช้าแล้วมาต่อรถสองแถวจากตลาดไปที่ตีนดอยขึ้นป่าละอูคะแล้วจะมีรถบัสใหญ่ขึ้นป่าละอูอีกทีนึง)
ถ้าใครไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ ให้ดูสถานที่พักไว้ล่วงหน้าแล้วสอบถามการเดินทางดูอีกทีนะคะ ที่นั่นมีที่พักหลายรูปแบบเลยแต่ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็
เอาเต้นท์มากางที่น้ำตกป่าละอูได้เลยแต่อย่าลืมติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะมีค่าธรรมเนียมในการกางเต้นท์และบริเวณสำหรับกางเต้นท์กำหนดอยู่ ไม่แนะนำให้ขับในเวลากลางคืนด้านบนจะมีด่านโดยจำกัดให้เฉพาะคนในพื้นที่ขึ้นได้เท่านั้น อันตรายเนื่องจากท่านอาจจะเจอและได้สัมผัสพี่ช้างทั้งฝูงคะ เดินอยู่สองข้างทางและบนถนน
นังเหล็กเจอมาแล้วเงียบกริบทั้งคัน อุทยานฯมีข้อควรปฏิบัติเมื่อพบช้าง ต้องศึกษาให้ดีเพราะท่านจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพี่ช้างแบบสนิทแนบแน่นกันถ้าไม่เตรียมความพร้อมให้ดี เราไม่ทราบว่าพี่ช้างคิดอย่างไร อาจตกอยู่ในสภาวะขับขัน อาจเป็นอันตรายได้คะ นังเหล็กเลยเอาภาพบรรยากาศปีที่ไปเจอมาให้ชม...อิอิ
อยากใกล้ชิดไหม...พี่ช้างจัดให้
อาจได้เจอพี่ลิงด้วย
Day 1: การเดินทาง กทม.-หัวหิน , หัวหิน – ป่าละอู
แบกเป้มาจากที่ทำงาน รีบเดินทางไปเจอสีที่คิวรถตู้ ขนส่งหมอชิต2 ชานชาลา3 วินหิวหินกันคะ จากที่ทำงานนังเหล็กใช้เวลาเดินทางราว 1ชม.30 นาทีคือถึงขนส่งราวๆ 19.30 น.วันศุกร์รถติดมากๆ ไปถึงก็ไปหาสีก่อน เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย ซื้อตั๋วพร้อมออกเดินทางคะ วินรถตู้จะหมดราวๆ 20.00 น.ค่ารถตู้ 180 บ.ได้ตั๋วกันมาคนละใบขึ้นรถรอคนเต็ม ล้อหมุนก็ราวๆ 20.30 น.รถตู้จะขึ้นทางด่วนวิ่งมาทางพระราม2ยิงยาวไป ชะอำ-เพชรบุรี และ หัวหิน-ประจวบฯ ระหว่างทางอาจมีผู้โดยสารลงตามทางผ่านประปราย นังเหล็กและสีลงที่หน้าร้านหมูวรรณาหัวหิน เวลาประมาณ 23.30 น.ไม่ได้ลงตรงหอนาฬิกาหน้าวัดตรงหัวหินเพราะที่นั่นไม่ค่อยมีที่จอดรถและด้านในรถจะติด...ถ้ามาเที่ยวเองให้นั่งยาวมาลงตรงหอนาฬิกาคะ มีรถโดยสารยืนรอให้บริการอยู่บริเวณนั้น
ก็เดินทางขึ้นป่าละอูกันคะ
มาถึงแล้ว บ้านเพื่อนเรา...อาบน้ำนอนพักเอาแรงคะ
Day 2: น้ำตกป่าละอู PaLaU Water Fall+ชมสวนผลไม้, Dinner (ทำเอง)
-เช้านี้ที่ป่าละอูอากาศดีมากๆ ทำ BF ทานกันเองดูดีไหม555+
เอิบ คือถามว่า เรา 3 คนใช่เพื่อนกันไหม? นี่จะไปด้วยกันจริงรึเปล่า? เพื่อนในกลุ่มแต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเองชัดเจน
มาถึงแล้วราวๆ 10.30 น.ทางเข้าจะมีด่านชำระค่าธรรมเนียมเข้าน้ำตกป่าละอูคะ
สะพานนี่ เมื่อสัก2-3ปีเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
น่าเสียดายที่สภาพชำรุดทรุดโทรมไปมาก นังเหล็กอยากเชิญชวนทุกคนมาเที่ยวอาจมีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม แต่จ่ายเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวนั่นเอง ก็เหมือนเราไปตปท.ที่ส่วนใหญ่ก็มีค่าธรรมเนียม สะพานที่ถ่ายรูปออกมาก็สวยไปอีกแบบ แบบธรรมชาติๆ สูดอากาศให้เต็มปอด
อากาศดีมากมาย
ร่มรื่นมากๆ
มาอีกแล้วรูปกลางถนนวิวมันสวยเนอะ (ทำได้แค่ถนนทางตรงที่มองเห็นรถในระยะไกลเท่านั้นน๊าคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก)
มัวแต่ถ่ายรูป ป่านชะนี้แล้วยังไม่ได้ขึ้นไปน้ำตกป่าละอูเลยหลังจอดรถพร้อมนำสัมภาระที่จำเป็นใส่เป้ไปแล้ว
...ของที่จำเป็นก็ประมาณนี้คะ...
1.รองเท้าที่ใส่กระชับไม่ลื่น อะไรก็ได้แล้วแต่สะดวกเลย แต่นังเหล็กขอใส่แบบหุ้มข้อคะเพราะนังเหล็กเป็นคนที่มีความสามารถในการปีนป่ายต่ำมาก เคยใส่รองเท้าธรรมดาแบบคาวเกริ์ลและสีใส่แล้ว...ลองมาหมดไม่ไหวคะ หิน ขอนไม้ ชนกระจายไม่มีเบรค ช้ำบวมบางครั้งถึงขั้นเลือดตกยางออกมาโดยตลอด ครานี้ไม่มีใครทำไรเราได้นอกจากล้มเท่านั้น หึ หึ เอาสิ(คู่นี้ที่ใส่ไปลุยหิมะที่เกาหลีมาแล้วคะดีจริงๆ)
2.ยาหม่อง ประสบการณ์สอนให้รู้ว่าในป่ามีแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวมช้ำได้ เตรียมไปเลยคะ รับประกันว่าได้ใช้แน่ๆ
3.ชุดเปลี่ยนหลังลงเล่นน้ำคะ ยกเว้นว่าไม่ซีเรียส เปียกขึ้นรถไปอาบที่ที่พักได้ก็หาผ้าเช็ดหน้าเช็ดผมไปสักนิด
4.อาหารการกินถ้าอยู่ที่น้ำตกชั้น1 จนท.อนุญาตให้ทานได้เตรียมมาเลยแต่ถ้าขึ้นไปชั้นบนต้องเอาอาหารฝากไว้...ส่วนน้ำเปล่าพกพาไปได้
*ของทุกอย่างต้องใส่ไว้ในกระเป๋าหรือถุงที่กันฝนได้ ทุกปีที่นังเหล็กไปมักเจอฝนระยะเวลาตกไม่มากก็น้อยเตรียมไว้คะ*
จากเมืองกรุงเข้าป่า...เดินๆๆ จนถึงชั้น 5 น้ำตกมีหลายชั้นแต่จนท.ให้ขึ้นแค่ชั้น 5 เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ย
ต้นไม้สายน้ำ...อากาศดีจริงๆ มาถึงแล้ว น้ำตกป่าละอูชั้น 5 จริงๆมีมากกว่านี้คะ แต่เจ้าหน้าที่ห้ามขึ้นแล้วเลยได้สูงสุดที่ชั้นนี้...
นักท่องเที่ยวเริ่มมากันหลายกลุ่ม ที่สำคัญ...สังเกตุว่ามีชาวต่างชาติแย่งซีนอยู่ที่น้ำตก
ซึมซับบรรยากาศในน้ำตกป่าละอูกันคะ
เดินย้อนลงมาชั้นล่างหน่อย ตอนแรกสีและนังเหล็กกะแค่หย่อนขาให้สัมผัสผืนน้ำให้สบายใจ.. น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาว่ายวนไปมาน่าเอ็นดู(น้ำตกป่าละอูชั้น 4)
กะว่าจะเล่นน้ำนิดๆหน่อยไม่เปียกทั้งตัวแต่ เอิบ นี่ไรอะ...ไม่เอาไม่เปียกหมดเยย วูวววว์(น้ำตกป่าละอูชั้น3)
เพลินๆ...
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ มาดูนาฬิกาอีกทีก็ 15.30 น.ก็ถึงเพลากลับบ้านคาวเกริ์ลไปทำอาหาร Dinner มื้อใหญ่กันคะ
เดินลงไปก็ถ่ายรูปกันไป นี่ต้นสมพงษ์ ใหญ่มาก...สีชอบแวะมาถ่ายรูปกับพี่ต้นไม้ต้นนี้เสมอ
สภาพแต่ละคน
สะพานไม้ไผ่กับเรา 3 คน555+
จุดแลนมาร์คคือป้ายทางเข้าเราจะถ่ายกันก่อนกลับตลอดคะ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ถ่านตอนสภาพดีๆ ถ่ายรูปตอนยินๆทุกทริปสิหน่า เอิ้กๆ
2.เที่ยวสวนผลไม้เปิดท้ายรถกะบะตระเวนเก็บผัก ผลไม้มาทำอาหารเย็นทานกัน
สวนสัปรด...อยากบอกว่าต้นมีหนาม เดินยากมาก ต้องใส่กางเกงยีนต์หนาๆ เดินเบี่ยงๆ กับใส่บูธเข้าไปถึงจะเก็บได้นะไม่งั้นอด
บรรยากาศติดภูเขาสวยจัง
3.มาถึงอาหารค่ำของเราที่ลงมือกันเอง
-มือตำ มือผักจะมีผู้ดูแลคือห้อยแต่ครานี้ไม่มาเลยเป็นสี(รักษาการณ์แทน)
-มือต้ม มือหมักอาหารก็จะให้คาวเกริ์น
-มือย่าง มือเผาตระเตรียมการผลไม้ก็จะเป็นสี
-มือทอด/ผัดนั้น ก็จะเป็นนังเหล็ก
-ส่วนคุณนายและชะนีถ้ามาก็จะช่วยๆกัน
*จริงๆช่วยกันในทุกขั้นตอนอยู่แล้วคะแต่เอางานที่ถนัดและได้รับความไว้วางใจให้ผู้นั้นรับผิดชอบไปคะว่าอาหารจานนั้นจะรสชาติดี ทุกอย่างที่เพื่อนทำทานได้หมด*
Day 3 : กินนมวัวสดจากเต้า+นั่งเล่นชายหาดหัวหิน
มาถึงคำเฉลยคะว่าทำไมนังเหล็กถึงเรียกเพื่อนสาวสวยของเราว่าคาวเกริ์ล เพราะบ้านเพื่อนทำฟาร์มโคนมคะ คุณแม่ของคาวเกริ์ลถ้าทราบว่าเพื่อนๆลูกมาจะบอกให้เราเข้าไปรีดนมหรือไปเอาน้ำนมวัวสดมาทานได้เลย
พอสายๆ เราก็ต้องเตรียมตัวลงจากป่ามาขึ้นรถที่หัวหินคะ...แต่ครั้งนี้พิเศษ คาวแกริ์ลมีประชุมที่ชะอำพอดี เราเลยได้มานั่งทานข้าวเที่ยงริมชายหาดชะอำกัน โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ...ไม่สิ BANANA BOAT ต่างหาก555+
มานั่งทานข้าวชิวๆกันจนจะ 15.00 น.ได้เวลากลับบางกอกแล้ว บายๆ ชะอำ ไว้เราจะมาเที่ยวใหม่น้า คาวเกริ์ลมาส่งที่วินรถตู้สี่แยกชะอำ ถึงเวลาที่เราร่ำลาเพื่อนแล้วกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติอีกครา ใจหายแต่เดี๋ยวเรามาใหม่ ซื้อตั๋วรถตู้ ค่ารถตู้จากชะอำ-เพชรบุรี มา กทม.ค่าบริการ 160 บ. รถออก 16.15 น.ถึงกทม.ก็ 20.00 น.พักผ่อนแล้วเก็บความทรงจำดีเอาไว้มาใหม่คะ