เกริ่นก่อนเลยนะคะ ว่าก่อนเดินทาง ทริป แบกเป้เที่ยวเกาหลี Seoul (โซล) 10 วัน ด้วยตัวเอง ในครั้งนี้ เราเครียดกันมากเพราะได้ข่าวเรื่องตม.สุดโหดของเกาหลี แถมเราจองโปรฯตั๋วเครื่องบินหางแดงล่วงหน้านานเป็นปีแล้ว ได้ราคาดีมาก ไป-กลับ ราคา 8000+ บ. เลยชักชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มและได้สมาชิกร่วมชะตากรรม ไม่สิ...ร่วมเดินทางในครั้งนี้ 3 คน คือ นังเหล็ก คุณนาย และคาวเกริ์ล สาว สาว สาว 3 ชีวิต ก่อนที่ข่าวเรื่องตม.เกาหลีจะมีปัญหาบ่อยๆ ก่อนที่เราจะเดินทาง...เครียดไปเป็นแถบ แต่อีกประเด็นที่สำคัญคือ คุณนายและคาวเกริ์ลนั้น อยู่ได้แค่ 5 วัน ดังนั้น นังเหล็กอย่างดิฉันเลยต้องอยู่ฉายเดี่ยวที่เกาหลีเพียงลำพังจากนั้นอีก 5 วัน ...
ใกล้ถึงวันเดินทางเราก็ได้มอบหมายให้คุณนาย ผู้เคยเดินทางไปเกาหลีมาแล้วดูแลในเรื่องการจัดทริปใน 5 วันแรก จะได้ลงตัวในสถานที่ ที่คุณนายยังไม่เคยไปจัดควบคู่กับที่นังเหล็กและที่คาวเกริ์ลอยากไป โดยตกลงกันก่อนเดินทางว่าทริปนี้มีแต่กุลสตรี สิ่งที่เราคำนึงถึงคือ
1.ความปลอดภัยในการเดินทาง ที่พัก ไม่เดินทางยามวิกาลคือเพลากลางคืน/เที่ยวกลางคืนแบบที่ต้องไปหาที่พักดาบหน้าแลดูไม่ปลอดภัยนี่ขอบายเลย
2.อาหารการกินเน้นเรียบง่าย Street food ,local food เพราะเราอยากทานอาหารต้นตำหรับ
3.แผนปรับเปลี่ยนได้เสมอขึ้นอยู่กับเรา 555+ อันนี้สำคัญมาก เพราะมันต้องไปผจญภัยต่างแดนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน24h ถ้าเราไม่คุยนี่ไปกันลำบากบอกเลย ขนาดสนิทกันบางทียังมีเรื่องให้คิดและตัดสินใจ ต่างคนต่างความคิด ต้องใจกันจริงๆ...ที่สำคัญมีอะไรต้องบอกและพูดคุยกันได้ เพราะบางทีก็มีหลงทางบ้าง ทำไรผิดไป ไม่ถูกใจกันบ้าง ก็เป็นปกติ ต้องเข้าใจและไม่โกรธกันคะ
4.เสื้อผ้า ศึกษาสภาพอากาศ ในช่วงที่นังเหล็กไปคือ เดือน กพ. เป็นฤดูหนาวจ้า อุณหภูมิเลขตัวเดียวและมีติดลบ ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมพวกเสื้อผ้ากลุ่มฮีทเทค ลองจอน เสื้อโค้ชขนเป็ด หมวก ที่ปิดหู ถุงมือ ผ้าพันคอ รองเท้าให้พร้อมเป็นสิ่งจำเป็นมากในการเดินทางไปประเทศที่มีหิมะและอากาศหนาว+ลมแรงมาก
5.ยา สำคัญมากเตรียมไปเลยคะ
- ยาที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ ทั้งพารา ลดไข้ ลดน้ำมูก เช็คดูจากสภาพอากาศและจัดยาที่คนมักจะเป็นในช่วงนั้น เช่น หน้าฝนคนมักจะเป็นหวัด มีน้ำมูก ฯลฯ
- ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาคลายเส้นจะนวดจะเม็ดก็แล้วแต่จัดเตรียมไปคะ เพราะเราต้องเดินทุกวันๆละหลายกี่โล เวลาเดินมากๆเราจะปวดเมื่อย
- ยาแก้ท้องเสีย ยาคอร์บอน กระต่ายบิน เวลาไปต่างบ้านต่างเมือง ทานอาหารพื้นเมืองนั้น เราไม่รู้ว่าจะดีต่อท้องเรารึเปล่าก็ตระเตรียมไว้
- ยาประจำตัว ใครมีโรงประจำตัวก็ต้องเตรียมยาให้เพียงพอในช่วงเวลาที่ไปและเตรียมเผื่อสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ด้วยนะคะ
- พาสเตอร์ยา นี่เผื่อบางคนรองเท้ากัดรึมีอะไรบาดซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอคะ...ขนาดกระดาษนังเหล็กยังโดนบาดมาแล้วคะ
- อันนี้แนะนำคะ พวกเข็ม+ด้าย เทปกาวย่น และกรรไกรตัดเล็บ มีแต่คนถามเตรียมไปทำไม...อยากบอกว่าของเหล่านี้สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคะ เคยไหม ลุกนั่งกางเกงขาด...เพราะเราเดินทางเสื้อกางเกงบางตัวยังไม่เคยใส่ ไม่รู้ความยืดหยุ่น ขาดมาจะได้เย็บกันอับอายคะ , เทปกาวนี่ อรรถประโยชน์เยอะกว่าที่คิดนะคะอะไรที่คิดว่าจะหกเลอะเทอะซีนมันคะ โลชั่น ครีม อะไรน้ำๆ จับซีนให้หมดเวลาย้ายที่พักหรือตอนก่อนแพคของกลับไทย, กรรไกรตัดเล็บ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่สุด สุดจริง เพราะนอกจากจะเอาไว้ตัดด้ายแทนกรรไกรได้แล้ว มันยังช่วยสำหรับนักเดินทางยิ่งผู้หญิงเล็บยาวทุกคนจะต้องเคยเจอปัญหาแบบดึงจมูกเล็บที่แห้ง ฉีกจนเลือดออกประมาณนี้มาบ้างแล้ว! แหมมันแย่จริงๆ เวลาเดินทางต่างประเทศ พอตอนต้องการมันมักจะหายากแบบสุดๆ ถ้าคุณเคยไปไหนไกลๆ คนเดียวนานๆ จะรู้ว่ามันมีประโยชน์จริงๆ
***เราไปหาที่เกาหลีจะหายากมาก ไม่ใช่ไม่มีร้านขายนะคะ ปัญหาคือเพราะคนเกาหลีไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ ดังนั้นการสื่อสารจะลำบาก และหากสื่อสารไม่เข้าใจ จ่ายยามาผิดโรคนี่อันตราย เราต้องบริหารความเสี่ยงให้ดีคะ***
6.แลกเงินให้เพียงพอต่อการใช้นะคะ นังเหล็กแลกมา 20000 บ.คะ ไม่รวมค่า Shopping กะที่พักไป High1 Ski Resort ที่มาตัดสินใจไปทีหลัง

------นอกนั้นก็พกความมั่นใจ ลุยไปได้เลย-----

......มาถึงตอนสำคัญมากๆๆๆๆๆๆ คือตอนที่ต้องผ่านตม.เกาหลี.....
เราพูดคุยกันในกลุ่มเราว่าเราจะเดินไปอยู่ในแถวเดียวกัน โดยมีนังเหล็กอย่างดิฉัน เป็นผู้นำทัพ เพราะเพื่อนๆให้ความไว้วางใจ ว่าจะสปีคอิงลิชแบบพอไปวัดไปวาได้กับเจ้าหน้าที่ตม. น่าจะดีสุด ไอ้เราก็ตุ้มๆต่อมๆ แม้จะเดินทางมาหลายประเทศ แต่ก็เคยบินแต่เอเชียนี่เอง
อื้ม... ลืมบอกว่าก่อนหน้าเดินทางก็ให้ทุกคนเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ให้เรียบร้อย พวก
1.นามบัตร หนังสือรับรองการทำงานที่ออกจากที่ทำงานเรา ระบุวันไป-กลับได้ก็จะดีมากคะ...เค้าจะได้รู้ว่าเรามีที่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
2.PassPort - พาสปอร์ตเล่มเก่าที่สามารถโชว์ว่าเราเคยเดินทางมาหลายประเทศ...มาท่องเที่ยวจริงๆ ไปมาหลายที่แล้วอะไรแบบนี้คะ
- สำเนาพาสปอร์ตติดกระเป๋าไว้หรือScanส่งMailเผื่อเหตุจำเป็นรึเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น พาสปอร์ตหายจะได้มีหลักฐานแสดงตัว
3.แผนการท่องเที่ยว ถือกันคนละชุดเลยทุกคนในกลุ่มต้องรู้ว่าเราจะไปที่ไหนบ้างคร่าวๆ... เพื่อตอบตม.(ทำภาคหัวข้อภาษาอังกฤษไปด้วยก็ดีคะเอาไปโชว์ได้ แต่นังเหล็กหาไม่เจอ ไปค้นเจอแต่ภาคภาษาไทย555+)

4.หน้าจองตั๋วเครื่องบินที่มีชื่อเราทั้งไป-กลับที่ชัดเจน....ไม่หลบหนีอย่างแน่นอน
5.หน้าจองที่พักที่ระบุว่าขณะที่เราอยู่เกาหลีเราจะอยู่ตรงไหน...ให้ตม.มั่นใจว่าติดต่อเราได้ทุกเวลา (แนะนำให้Printภาษาเกาหลีคะ) เผื่อไว้ใช้ถามทางมีประโยชน์จริงๆคะ

6.บัตรเครดิต ถ้ามีก็เตรียมไปเลยคะ นอกจากเงินที่เตรียมไปให้เพียงพอตลอดทริป...เค้าจะได้รู้ว่าเรามีเงินไปใช้จ่ายแน่นอน และไว้ช้อปกระจายเวลาเงินสดหมดก็รูดบัตรไปแต่ต้องศึกาษาค่าธรรมเนียมในการใช้บริการด้วยนะคะ ว่าที่ลดๆ รวมๆ ค่าธรรมเนียม ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่แล้วถูกกว่าซื้อที่ไทยรึเปล่าถ้าราคาเท่าๆกันไปซื้อที่ไทยคะ จะได้ไม่ต้องขนกลับไป555+...แต่อย่าลืมโทรไปแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตนะคะ ว่าเราจะเอาบัตรไปใช้ประเทศไหน ช่วงวันใด จะได้ไม่มีปัญหา เพราะนังเหล็กเคยเอาบัตรเครดิตไปใช้ที่ญี่ปุ่นแล้วลืมแจ้งธนาคาร บัตรโดนระงับคะ วุ่นวายหาทางติดต่อกลับมาที่ไทยว่าทำไมบัตรโดนระงับ...เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากลัวบัตรถูกโจรกรรมแล้วเอาไปใช้ตปท.เพราะเจ้าของถือบัตรในไทยไง แต่มีการทำรายการในตปท.ไม่บอกจะมีปัญหาคะ
พอถึงวันเดินทาง นังเหล็กแอบมีไข้ต่ำๆ เนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดีเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน รู้สึกเหมือนจะเป็นหวัด ตัวรุมๆ จึงรีบอัดยาพารา2เม็ดเพื่อลดไข้ เป็นช่วงที่มีโรคไวรัส MERS ระบาดพอดี เค้าจะซีเรียสมาก มีติดตั้งกล้องวัดอุณหภูมิร่างกาย ถ้ามีไข้คงได้โดนจับไปวัดไข้และอาจโดนกักตัวกันเลย ซึ่งเราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้น
เดินมาต่อคิว อย่างที่แนะนำว่ามาด้วยกันต่อแถวเดียวกันไปเลยและจะได้สะดวกในการชี้บอกว่าเรามากับใครซึ่งน่าจะเป็น 1 ในคำถามของตม. และเชื่อว่าหากคนนึงผ่านที่เหลือก็สบาย
นังเหล็กหน่วยกล้าตายจึงเดินเข้าช่องตรวจ ไปผจัญหน้ากับตม.เกาหลีเป็นคนแรก จำวินาทีนั้นได้อะ ว่าเราเกรงๆ แต่เรามั่นใจว่าต้องผ่านไปได้ ยิ้มให้ตม.และยื่นพาสปอร์ตให้จนท.ตม.เกาหลี
นังเหล็ก : Good Morning กล่าวทักทายสวัสดีตอนเช้าและยิ้มต่อ
จนท.ตม. : How long you will stay in korea? คุณจะมาอยู่เกาหลีนานแค่ไหน
นังเหล็ก : ยื่นเอกสาร เดินทางทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ตารางท่องเที่ยว ให้ตม.และตอบว่า.. 10 day for travel with my close friend 2 person. มาเที่ยว 10 วันกับเพื่อนสนิทอีก 2 คน (ได้โอกาสชี้ไปหาเพื่อนๆอีก 2 คนเลย) คุณนายและคาวเกริ์ลที่ยืนมองดูก็พากันยิ้มให้ตม.คะ
จนท.ตม. : ดูเอกสารแล้วก็อมยิ้มๆ ... แล้วสิ่งที่เฝ้ารอก็เกิดขั้นคะ..แสตมป์ตราประทับให้และยื่นพาสปอร์ตคืน ไม่ได้ถามอะไรมากเลย
นังเหล็ก : รับ Passport กลับมาพร้อมรอยยิ้มและกล่าวขอบคุณ Thank You.
พอนังเหล็กออกมาได้ก็ยืนรอเพื่อนๆ ไม่มีใครโดนคำถามอะไรเลย (อาจเป็นเพราะเพื่อนทุกคนเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาแล้วมีลอยประทับลงตรามาบ้าง พาสปอร์ตไม่ขาวคะ) ออกมากันสบายๆ เราก็เย้...สบายใจ เท่าที่สังเกตุคือ
*ตม.จะมองเราแบบพิจารณาว่าเรามีการแต่งตัวยังไง แต่งหน้าแต่งตามายังไง
*ที่สำคัญน่าจะมาจากการตอบคำถาม ถามบุปตอบบั้ป เป็นคำถามง่ายๆ ซึ่งไม่ต้องสนใจแกรมม่าคะ แค่ตอบให้รู้เรื่องก็ใช้ได้
...เวลาเราจะเดินทางไปไหน ต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมให้ตัวเองเสมอนะคะ แม้ไปกับทัวร์ก็ตาม เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินเราสามารถดูแลตัวเองได้ ยิ่งต่างบ้านต่างเมืองยิ่งต้องระแวดระวังเป็นพิเศษ....
แหม เตรียมทุกอย่างมาขนาดนี้จะต้องไปเที่ยวได้สิเนาะ ขนาดเมื่อก่อนประเทศญี่ปุ่นที่ว่าขอวีซ่ายากๆ เราก็ไปมาแล้ว ไม่ได้ฐานะดีนะคะ ตอนนั้นไม่มีเงินเก็บในบัญชีเลย แต่เรามีหลักฐานรับรองจากสถาบันการศึกษาว่ากำลังศึกษาต่อและมีภาระผ่อนที่พัก ดังนั้นมีหลักฐานแสดงตัวตนชัดเจนและที่สำคัญเคยไปประเทศเพื่อนบ้านมาบ้างแล้ว เลยผ่านได้วีซ่าประเทศญี่ปุ่นมาถึง 2 ครั้ง 2 หน
เมื่อก่อนเคยมองว่าคนไปเที่ยวต่างประเทศได้ ต้องเป็นคนมีฐานะ ร่ำรวย ทุกวันนี้บางคนมองกระทบเราว่าเราก็ไม่ได้ฐานะดีอะไรมากมาย แต่นังเหล็กมองว่า คนแต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของตนเองในการเลือกที่จะใช้ชีวิตนะคะ บางคนอาจมีความสุขกับการซื้อ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา บางคนชอบการเสริมสวยให้ตัวเอง ซื้อคอร์สหน้า ทำผม ทำสปา ฯลฯ
ใครมีความสุขตรงไหนก็ทำไปดีกว่าคะ ขอแค่ไม่ทำอะไรที่เราและทำให้ใครเดือดร้อนแค่นี้คะ นอกนั้นชีวิตเรามีชีวิตเดียวใช้สะ ส่วนตัวของนังเหล็กมองว่าการเดินทางของเราถือเป็นความสุข ความสุขที่หาซื้อไม่ได้ด้วยเงินนะ มันดีต่อใจ มันภูมิใจที่ได้ทำ การท่องเที่ยวคือของขวัญเป็นรางวัลให้ตัวเอง การได้หยุดและอยู่กับตัวเองมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบคือการพักผ่อน จากการทำงานหนัก จากการดูแลทั้งตัวเองและครอบครัวเราอย่างเต็มที่และการเดินทางแต่ละครั้งไปแบบ Backpacker ดังนั้นเราจะมีการกำหนดงบประมาณกันคร่าวๆก่อน ทริปแบกเป้เที่ยวเกาหลี Seoul (โซล) 10 วัน ด้วยตัวเอง นังเหล็กตั้งงบไว้คือ 20000 บ. เราจะได้วางแผนเก็บเงินและเดินทางออกไปเปิดหูเปิดตาสู่โลกภายนอกที่กว้างใหญ่ไพศาล...
...แต่รู้อะไรไหมคะ ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เวลากลับบ้านก้าวกลับมาสู่แผ่นดินไทย มันยิ่งทำให้เรารักประเทศไทยมากขึ้นทุกครั้ง เชื่อจริงๆ ว่าไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราที่ในน้ำมีปลาในนามีข้าว อุดมสมบูรณ์ อาหารการกินแสนจะถูกปาก ราคาก็ไม่แพง ถ้าคุณได้มีโอกาสเดินทางไปในประเทศที่ด้อยกว่าเรา เราจะเห็นถึงความยากลำบากของคนอื่นและจะทำให้ยิ่งเห็นข้อดีของประเทศเรา แต่หากคุณไปในประเทศที่เจริญกว่าเรา เราอยากเอาสิ่งที่ดีๆ กลับมาใช้ มาพัฒนาบ้านเราแต่อีกมุมภายใต้ความเจริญนั้นมีความกดดัน ทั้งค่าครองชีพที่สูง แก่งแย่ง แข่งขันกัน คุณจะรู้สึกว่าประเทศไทย ทำไมดีแบบนี้...รักประเทศไทยจริงๆคะ
เดี๋ยวนังเหล็กขอตัวหาข้าวทานก่อนนะคะแล้วจะมาเล่าเรื่องการเดินทาง 10 วันในเกาหลีให้ฟังคะ
แบกเป้เที่ยวเกาหลี(โซล) 10 วันด้วยตัวเอง (Feb 9-19 , 2017) ด้วยงบไม่เกิน 20,000 บ. ผ่านตม.เกาหลีไม่ยากอย่างที่คิด!!!
ใกล้ถึงวันเดินทางเราก็ได้มอบหมายให้คุณนาย ผู้เคยเดินทางไปเกาหลีมาแล้วดูแลในเรื่องการจัดทริปใน 5 วันแรก จะได้ลงตัวในสถานที่ ที่คุณนายยังไม่เคยไปจัดควบคู่กับที่นังเหล็กและที่คาวเกริ์ลอยากไป โดยตกลงกันก่อนเดินทางว่าทริปนี้มีแต่กุลสตรี สิ่งที่เราคำนึงถึงคือ
1.ความปลอดภัยในการเดินทาง ที่พัก ไม่เดินทางยามวิกาลคือเพลากลางคืน/เที่ยวกลางคืนแบบที่ต้องไปหาที่พักดาบหน้าแลดูไม่ปลอดภัยนี่ขอบายเลย
2.อาหารการกินเน้นเรียบง่าย Street food ,local food เพราะเราอยากทานอาหารต้นตำหรับ
3.แผนปรับเปลี่ยนได้เสมอขึ้นอยู่กับเรา 555+ อันนี้สำคัญมาก เพราะมันต้องไปผจญภัยต่างแดนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน24h ถ้าเราไม่คุยนี่ไปกันลำบากบอกเลย ขนาดสนิทกันบางทียังมีเรื่องให้คิดและตัดสินใจ ต่างคนต่างความคิด ต้องใจกันจริงๆ...ที่สำคัญมีอะไรต้องบอกและพูดคุยกันได้ เพราะบางทีก็มีหลงทางบ้าง ทำไรผิดไป ไม่ถูกใจกันบ้าง ก็เป็นปกติ ต้องเข้าใจและไม่โกรธกันคะ
4.เสื้อผ้า ศึกษาสภาพอากาศ ในช่วงที่นังเหล็กไปคือ เดือน กพ. เป็นฤดูหนาวจ้า อุณหภูมิเลขตัวเดียวและมีติดลบ ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมพวกเสื้อผ้ากลุ่มฮีทเทค ลองจอน เสื้อโค้ชขนเป็ด หมวก ที่ปิดหู ถุงมือ ผ้าพันคอ รองเท้าให้พร้อมเป็นสิ่งจำเป็นมากในการเดินทางไปประเทศที่มีหิมะและอากาศหนาว+ลมแรงมาก
5.ยา สำคัญมากเตรียมไปเลยคะ
- ยาที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ ทั้งพารา ลดไข้ ลดน้ำมูก เช็คดูจากสภาพอากาศและจัดยาที่คนมักจะเป็นในช่วงนั้น เช่น หน้าฝนคนมักจะเป็นหวัด มีน้ำมูก ฯลฯ
- ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาคลายเส้นจะนวดจะเม็ดก็แล้วแต่จัดเตรียมไปคะ เพราะเราต้องเดินทุกวันๆละหลายกี่โล เวลาเดินมากๆเราจะปวดเมื่อย
- ยาแก้ท้องเสีย ยาคอร์บอน กระต่ายบิน เวลาไปต่างบ้านต่างเมือง ทานอาหารพื้นเมืองนั้น เราไม่รู้ว่าจะดีต่อท้องเรารึเปล่าก็ตระเตรียมไว้
- ยาประจำตัว ใครมีโรงประจำตัวก็ต้องเตรียมยาให้เพียงพอในช่วงเวลาที่ไปและเตรียมเผื่อสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ด้วยนะคะ
- พาสเตอร์ยา นี่เผื่อบางคนรองเท้ากัดรึมีอะไรบาดซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอคะ...ขนาดกระดาษนังเหล็กยังโดนบาดมาแล้วคะ
- อันนี้แนะนำคะ พวกเข็ม+ด้าย เทปกาวย่น และกรรไกรตัดเล็บ มีแต่คนถามเตรียมไปทำไม...อยากบอกว่าของเหล่านี้สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคะ เคยไหม ลุกนั่งกางเกงขาด...เพราะเราเดินทางเสื้อกางเกงบางตัวยังไม่เคยใส่ ไม่รู้ความยืดหยุ่น ขาดมาจะได้เย็บกันอับอายคะ , เทปกาวนี่ อรรถประโยชน์เยอะกว่าที่คิดนะคะอะไรที่คิดว่าจะหกเลอะเทอะซีนมันคะ โลชั่น ครีม อะไรน้ำๆ จับซีนให้หมดเวลาย้ายที่พักหรือตอนก่อนแพคของกลับไทย, กรรไกรตัดเล็บ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่สุด สุดจริง เพราะนอกจากจะเอาไว้ตัดด้ายแทนกรรไกรได้แล้ว มันยังช่วยสำหรับนักเดินทางยิ่งผู้หญิงเล็บยาวทุกคนจะต้องเคยเจอปัญหาแบบดึงจมูกเล็บที่แห้ง ฉีกจนเลือดออกประมาณนี้มาบ้างแล้ว! แหมมันแย่จริงๆ เวลาเดินทางต่างประเทศ พอตอนต้องการมันมักจะหายากแบบสุดๆ ถ้าคุณเคยไปไหนไกลๆ คนเดียวนานๆ จะรู้ว่ามันมีประโยชน์จริงๆ
***เราไปหาที่เกาหลีจะหายากมาก ไม่ใช่ไม่มีร้านขายนะคะ ปัญหาคือเพราะคนเกาหลีไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ ดังนั้นการสื่อสารจะลำบาก และหากสื่อสารไม่เข้าใจ จ่ายยามาผิดโรคนี่อันตราย เราต้องบริหารความเสี่ยงให้ดีคะ***
6.แลกเงินให้เพียงพอต่อการใช้นะคะ นังเหล็กแลกมา 20000 บ.คะ ไม่รวมค่า Shopping กะที่พักไป High1 Ski Resort ที่มาตัดสินใจไปทีหลัง
------นอกนั้นก็พกความมั่นใจ ลุยไปได้เลย-----
......มาถึงตอนสำคัญมากๆๆๆๆๆๆ คือตอนที่ต้องผ่านตม.เกาหลี.....
เราพูดคุยกันในกลุ่มเราว่าเราจะเดินไปอยู่ในแถวเดียวกัน โดยมีนังเหล็กอย่างดิฉัน เป็นผู้นำทัพ เพราะเพื่อนๆให้ความไว้วางใจ ว่าจะสปีคอิงลิชแบบพอไปวัดไปวาได้กับเจ้าหน้าที่ตม. น่าจะดีสุด ไอ้เราก็ตุ้มๆต่อมๆ แม้จะเดินทางมาหลายประเทศ แต่ก็เคยบินแต่เอเชียนี่เอง
อื้ม... ลืมบอกว่าก่อนหน้าเดินทางก็ให้ทุกคนเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ให้เรียบร้อย พวก
1.นามบัตร หนังสือรับรองการทำงานที่ออกจากที่ทำงานเรา ระบุวันไป-กลับได้ก็จะดีมากคะ...เค้าจะได้รู้ว่าเรามีที่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
2.PassPort - พาสปอร์ตเล่มเก่าที่สามารถโชว์ว่าเราเคยเดินทางมาหลายประเทศ...มาท่องเที่ยวจริงๆ ไปมาหลายที่แล้วอะไรแบบนี้คะ
- สำเนาพาสปอร์ตติดกระเป๋าไว้หรือScanส่งMailเผื่อเหตุจำเป็นรึเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น พาสปอร์ตหายจะได้มีหลักฐานแสดงตัว
3.แผนการท่องเที่ยว ถือกันคนละชุดเลยทุกคนในกลุ่มต้องรู้ว่าเราจะไปที่ไหนบ้างคร่าวๆ... เพื่อตอบตม.(ทำภาคหัวข้อภาษาอังกฤษไปด้วยก็ดีคะเอาไปโชว์ได้ แต่นังเหล็กหาไม่เจอ ไปค้นเจอแต่ภาคภาษาไทย555+)
4.หน้าจองตั๋วเครื่องบินที่มีชื่อเราทั้งไป-กลับที่ชัดเจน....ไม่หลบหนีอย่างแน่นอน
5.หน้าจองที่พักที่ระบุว่าขณะที่เราอยู่เกาหลีเราจะอยู่ตรงไหน...ให้ตม.มั่นใจว่าติดต่อเราได้ทุกเวลา (แนะนำให้Printภาษาเกาหลีคะ) เผื่อไว้ใช้ถามทางมีประโยชน์จริงๆคะ
6.บัตรเครดิต ถ้ามีก็เตรียมไปเลยคะ นอกจากเงินที่เตรียมไปให้เพียงพอตลอดทริป...เค้าจะได้รู้ว่าเรามีเงินไปใช้จ่ายแน่นอน และไว้ช้อปกระจายเวลาเงินสดหมดก็รูดบัตรไปแต่ต้องศึกาษาค่าธรรมเนียมในการใช้บริการด้วยนะคะ ว่าที่ลดๆ รวมๆ ค่าธรรมเนียม ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่แล้วถูกกว่าซื้อที่ไทยรึเปล่าถ้าราคาเท่าๆกันไปซื้อที่ไทยคะ จะได้ไม่ต้องขนกลับไป555+...แต่อย่าลืมโทรไปแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตนะคะ ว่าเราจะเอาบัตรไปใช้ประเทศไหน ช่วงวันใด จะได้ไม่มีปัญหา เพราะนังเหล็กเคยเอาบัตรเครดิตไปใช้ที่ญี่ปุ่นแล้วลืมแจ้งธนาคาร บัตรโดนระงับคะ วุ่นวายหาทางติดต่อกลับมาที่ไทยว่าทำไมบัตรโดนระงับ...เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากลัวบัตรถูกโจรกรรมแล้วเอาไปใช้ตปท.เพราะเจ้าของถือบัตรในไทยไง แต่มีการทำรายการในตปท.ไม่บอกจะมีปัญหาคะ
พอถึงวันเดินทาง นังเหล็กแอบมีไข้ต่ำๆ เนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดีเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน รู้สึกเหมือนจะเป็นหวัด ตัวรุมๆ จึงรีบอัดยาพารา2เม็ดเพื่อลดไข้ เป็นช่วงที่มีโรคไวรัส MERS ระบาดพอดี เค้าจะซีเรียสมาก มีติดตั้งกล้องวัดอุณหภูมิร่างกาย ถ้ามีไข้คงได้โดนจับไปวัดไข้และอาจโดนกักตัวกันเลย ซึ่งเราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้น
เดินมาต่อคิว อย่างที่แนะนำว่ามาด้วยกันต่อแถวเดียวกันไปเลยและจะได้สะดวกในการชี้บอกว่าเรามากับใครซึ่งน่าจะเป็น 1 ในคำถามของตม. และเชื่อว่าหากคนนึงผ่านที่เหลือก็สบาย
นังเหล็กหน่วยกล้าตายจึงเดินเข้าช่องตรวจ ไปผจัญหน้ากับตม.เกาหลีเป็นคนแรก จำวินาทีนั้นได้อะ ว่าเราเกรงๆ แต่เรามั่นใจว่าต้องผ่านไปได้ ยิ้มให้ตม.และยื่นพาสปอร์ตให้จนท.ตม.เกาหลี
นังเหล็ก : Good Morning กล่าวทักทายสวัสดีตอนเช้าและยิ้มต่อ
จนท.ตม. : How long you will stay in korea? คุณจะมาอยู่เกาหลีนานแค่ไหน
นังเหล็ก : ยื่นเอกสาร เดินทางทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ตารางท่องเที่ยว ให้ตม.และตอบว่า.. 10 day for travel with my close friend 2 person. มาเที่ยว 10 วันกับเพื่อนสนิทอีก 2 คน (ได้โอกาสชี้ไปหาเพื่อนๆอีก 2 คนเลย) คุณนายและคาวเกริ์ลที่ยืนมองดูก็พากันยิ้มให้ตม.คะ
จนท.ตม. : ดูเอกสารแล้วก็อมยิ้มๆ ... แล้วสิ่งที่เฝ้ารอก็เกิดขั้นคะ..แสตมป์ตราประทับให้และยื่นพาสปอร์ตคืน ไม่ได้ถามอะไรมากเลย
นังเหล็ก : รับ Passport กลับมาพร้อมรอยยิ้มและกล่าวขอบคุณ Thank You.
พอนังเหล็กออกมาได้ก็ยืนรอเพื่อนๆ ไม่มีใครโดนคำถามอะไรเลย (อาจเป็นเพราะเพื่อนทุกคนเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาแล้วมีลอยประทับลงตรามาบ้าง พาสปอร์ตไม่ขาวคะ) ออกมากันสบายๆ เราก็เย้...สบายใจ เท่าที่สังเกตุคือ
*ตม.จะมองเราแบบพิจารณาว่าเรามีการแต่งตัวยังไง แต่งหน้าแต่งตามายังไง
*ที่สำคัญน่าจะมาจากการตอบคำถาม ถามบุปตอบบั้ป เป็นคำถามง่ายๆ ซึ่งไม่ต้องสนใจแกรมม่าคะ แค่ตอบให้รู้เรื่องก็ใช้ได้
...เวลาเราจะเดินทางไปไหน ต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมให้ตัวเองเสมอนะคะ แม้ไปกับทัวร์ก็ตาม เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินเราสามารถดูแลตัวเองได้ ยิ่งต่างบ้านต่างเมืองยิ่งต้องระแวดระวังเป็นพิเศษ....
แหม เตรียมทุกอย่างมาขนาดนี้จะต้องไปเที่ยวได้สิเนาะ ขนาดเมื่อก่อนประเทศญี่ปุ่นที่ว่าขอวีซ่ายากๆ เราก็ไปมาแล้ว ไม่ได้ฐานะดีนะคะ ตอนนั้นไม่มีเงินเก็บในบัญชีเลย แต่เรามีหลักฐานรับรองจากสถาบันการศึกษาว่ากำลังศึกษาต่อและมีภาระผ่อนที่พัก ดังนั้นมีหลักฐานแสดงตัวตนชัดเจนและที่สำคัญเคยไปประเทศเพื่อนบ้านมาบ้างแล้ว เลยผ่านได้วีซ่าประเทศญี่ปุ่นมาถึง 2 ครั้ง 2 หน
เมื่อก่อนเคยมองว่าคนไปเที่ยวต่างประเทศได้ ต้องเป็นคนมีฐานะ ร่ำรวย ทุกวันนี้บางคนมองกระทบเราว่าเราก็ไม่ได้ฐานะดีอะไรมากมาย แต่นังเหล็กมองว่า คนแต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของตนเองในการเลือกที่จะใช้ชีวิตนะคะ บางคนอาจมีความสุขกับการซื้อ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา บางคนชอบการเสริมสวยให้ตัวเอง ซื้อคอร์สหน้า ทำผม ทำสปา ฯลฯ
ใครมีความสุขตรงไหนก็ทำไปดีกว่าคะ ขอแค่ไม่ทำอะไรที่เราและทำให้ใครเดือดร้อนแค่นี้คะ นอกนั้นชีวิตเรามีชีวิตเดียวใช้สะ ส่วนตัวของนังเหล็กมองว่าการเดินทางของเราถือเป็นความสุข ความสุขที่หาซื้อไม่ได้ด้วยเงินนะ มันดีต่อใจ มันภูมิใจที่ได้ทำ การท่องเที่ยวคือของขวัญเป็นรางวัลให้ตัวเอง การได้หยุดและอยู่กับตัวเองมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบคือการพักผ่อน จากการทำงานหนัก จากการดูแลทั้งตัวเองและครอบครัวเราอย่างเต็มที่และการเดินทางแต่ละครั้งไปแบบ Backpacker ดังนั้นเราจะมีการกำหนดงบประมาณกันคร่าวๆก่อน ทริปแบกเป้เที่ยวเกาหลี Seoul (โซล) 10 วัน ด้วยตัวเอง นังเหล็กตั้งงบไว้คือ 20000 บ. เราจะได้วางแผนเก็บเงินและเดินทางออกไปเปิดหูเปิดตาสู่โลกภายนอกที่กว้างใหญ่ไพศาล...
...แต่รู้อะไรไหมคะ ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เวลากลับบ้านก้าวกลับมาสู่แผ่นดินไทย มันยิ่งทำให้เรารักประเทศไทยมากขึ้นทุกครั้ง เชื่อจริงๆ ว่าไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราที่ในน้ำมีปลาในนามีข้าว อุดมสมบูรณ์ อาหารการกินแสนจะถูกปาก ราคาก็ไม่แพง ถ้าคุณได้มีโอกาสเดินทางไปในประเทศที่ด้อยกว่าเรา เราจะเห็นถึงความยากลำบากของคนอื่นและจะทำให้ยิ่งเห็นข้อดีของประเทศเรา แต่หากคุณไปในประเทศที่เจริญกว่าเรา เราอยากเอาสิ่งที่ดีๆ กลับมาใช้ มาพัฒนาบ้านเราแต่อีกมุมภายใต้ความเจริญนั้นมีความกดดัน ทั้งค่าครองชีพที่สูง แก่งแย่ง แข่งขันกัน คุณจะรู้สึกว่าประเทศไทย ทำไมดีแบบนี้...รักประเทศไทยจริงๆคะ
เดี๋ยวนังเหล็กขอตัวหาข้าวทานก่อนนะคะแล้วจะมาเล่าเรื่องการเดินทาง 10 วันในเกาหลีให้ฟังคะ